“เสียงคนร้องอะ น้าษา” ‘โบตั๋น’ สาวไทยร่างเล็กหันมาบอกผู้เป็นน้า
อุษาเบ้หน้าเมื่อเห็นหลังไวๆ ของคนแผดเสียงร้อง ดูท่าสองหนุ่มคงเจอดีเข้าแล้ว ตอนแรกเธอเห็นคนพี่เดินออกมาก็คิดว่าไม่มีอะไร แต่ที่ไหนได้…
“เออ คงเป็นเจ้าของที่นี่แหละ” โบตั๋นกอดเข่าแน่นขึ้น เมื่อวานเธอเพิ่งโดนผีบ้านโน้นหลอกมาหมาดๆ คนกลัวผีขึ้นสมองอยากร้องไห้ เมื่อคิดถึงบรรยากาศเมื่อคืน ถ้าเธอไม่ทำกระเป๋าสตางค์หาย ก็คงไม่เจอผีหลอก โบตั๋นเพิ่งเดินทางมาถึงพีโอนีฯ เมื่อวานนี้ มาโดยไม่รู้ว่าที่นี่เป็นอย่างไร ตอนมาเธอเดินมาจากฝั่งซ้ายของพีโอนีฯ ซึ่งก็ไม่เจอสิ่งผิดปกติใดๆนอกจากสะดุดล้มหน้าบ้านหลังนั้นครั้งเดียว เนื่องจากหญ้าขึ้นรก จนไม่เห็นก้อนหินขนาดกลางและเป็นเหตุให้กระเป๋าสตางค์เธอหล่น มารู้ตัวว่าหายก็ค่ำมืดเสียแล้ว จึงต้องเสี่ยงไปเก็บในยามค่ำคืน
โบตั๋นมองอุษาที่ไม่ใช่น้าแท้ๆ ก่อนจะพรั่งพรูลมหายใจ ทันทีที่สอบเสร็จ เธอก็รีบจองตั๋วเครื่องบินมาที่นี่ทันที มาเพื่อพิสูจน์ความจริงบางอย่าง ใบหน้าเรียวสลดลง
“ว่าแต่เราเถอะ จะมาอยู่กับน้านานแค่ไหน” อุษาถามอย่างเป็นกังวล ตอนนี้เธอเป็นคนเดียวที่รู้ความลับของโบตั๋น คนสูงวัยกว่าลูบผมหลานสาว โบตั๋นกำพร้าตั้งแต่เกิด หญิงสาวใช้ชีวิตอยู่กับยายซึ่งก็คือแม่ของอุษา แม่เธอเสียชีวิตเมื่อสองปีก่อน ทำให้โบตั๋นต้องใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศไทยคนเดียว ชีวิตของแม่สาวดอกไม้ช่างน่าสงสารเหลือเกิน หน้าผู้ให้กำเนิดก็ไม่เคยได้เห็น!
“ก็สักพักจ้ะ เดี๋ยวหนูจะกลับไปหางานทำที่เมืองไทย” คนที่ไม่เคยเห็นหน้าผู้ให้กำเนิด แต่รู้ว่าพ่อแม่เป็นใครบอกเสียงอ่อย เรียกความสงสารจากอีกคนได้เป็นอย่างดี อุษากอดหญิงสาวที่รักเหมือนลูก
“อะไรที่มันทำให้เราลำบากใจก็ปัดๆ มันทิ้งไปบ้างก็ได้นะ” คนเป็นน้าตักเตือนหลานสาวอยู่ในที
โบตั๋นยิ้มน้อยๆ “ไม่ลำบากอะไรเลย รู้ๆ ให้มันจบ จะได้ไม่คาใจไงจ๊ะ น้าษาอย่าห่วงหนูเลย”
คนสูงวัยกว่าซ่อนแววตาห่วงใย ถึงอย่างไรเธอก็จะยืนเคียงข้างหลานสาวคนนี้เสมอ
“แล้วจะทำอะไรในนี้” คนที่มีอำนาจพอจะจับหลานสาวยัดใส่ตำแหน่งไหนก็ได้ยกเว้นเจ้าของกิจการ ถามอย่างใคร่รู้
“ถ้าเป็นหมอนวด น้าไม่ยอมเด็ดขาดนะ” อุษาขู่ไว้ก่อน ด้วยเกรงว่าโบตั๋นจะคิดพิเรนทร์
สาวน้อยวัยยี่สิบเอ็ดปีส่ายหน้าดิก “หมอนวดที่นี่มีแต่สวยๆ หนูคงสู้เขาไม่ได้หรอก หนูจะเป็นแม่บ้าน น้าษาว่าไง”
อุษาพยักหน้าเห็นด้วย แต่ใจกลับคิดว่าหลานสาวของเธอสู้สาวๆ ในพีโอนีฯ ได้อย่างสบายๆ แม้ว่ารูปร่างจะเล็กและบางกว่าหลายเท่า ถึงกระนั้นก็เถอะ ภายใต้เสื้อตัวใหญ่นี้ก็มีอะไรดีๆ ซ่อนอยู่
“งั้นเย็นนี้ก็ไปฝากตัวกับป้าป้อม” อุษาเอ่ยถึงคนบ้านเดียวกัน คนไทยเกือบสิบคนที่ทำงานอยู่ที่นี่ส่วนใหญ่เป็นคนบ้านเดียวกับเธอทั้งนั้น ทั้งหมดตามเธอกับเพื่อนอีกคนมาทำงานที่นี่ พีโอนีฯ มีสวัสดิการดี ค่าตอบแทนค่อนข้างสูง ทำให้หลายคนปักหลักทำงานที่นี่ จนคิดว่าที่นี่เป็นบ้าน คนไทยที่มาอยู่รวมกันก็กลายเป็นครอบครัวของกันและกัน
“แต่น้ามีข้อแม้อยู่อย่าง ห้ามเข้าไปด้านในหลังสี่โมงเย็น” อุษาขู่เช่นนี้เพราะช่วงเวลาหลังจากนั้น จะมีแขกเหรื่อเข้ามาใช้บริการอย่างแน่นขนัด พีโอนีฯ บริการดีกว่าที่อื่น มิหนำซ้ำสาวงามทั้งหลายยังสะอาดสะอ้าน เพราะมีกฏให้แขกทุกคนใช้ถุงยางอนามัย ซึ่งลดความเสี่ยงที่จะติดโรคร้ายแรง
โบตั๋นพยักหน้ารับอย่างแข็งขัน เธอรู้ว่าน้าสาวมีสิทธิ์มีเสียงในพีโอนีฯ อยู่พอสมควรเนื่องจากเป็นคนสนิทของเสี่ยเกียว แต่ถ้าหลุดเข้าไปด้านในนั้น ก็จะมีผู้จัดการตัวใหญ่ที่เป็นคนต่างชาติคอยคุมอีกที โลกด้านหน้าพีโอนีฯ กับโลกด้านหลังซึ่งคือบ้านพักคนงานช่างแตกต่างกันลิบลับ!
ดึกแล้ว…เสียงเอะอะภายในบ้านหลังใหญ่ที่ปลูกสร้างอยู่ริมทะเลยังคงดังต่อเนื่อง สาเหตุมาจากสองหนุ่มที่นอนคุดคู้บนเตียงกว้าง
“โดนผีหลอกมาก็ไปนอนบ้านนายซี้!” เจ้าของบ้านและเตียงตะโกนเสียงดัง มองนลินกับลูกตาปรือด้วยความง่วง เขาไล่พวกนี้ตั้งแต่หัวค่ำ แต่สองหนุ่มก็ยืนกรานจะอยู่ที่นี่ นอนที่นี่ เซ็ง!
มหาโชคเดินไปมา ยกมือกุมศีรษะ บ้านหลังนี้มีหลายห้องก็จริง เขาจะไปนอนที่อื่นก็ได้ถ้าไม่ติดว่าของใช้ของลูกชายส่วนใหญ่อยู่ที่นี่ ครั้นจะย้ายก็เกรงจะเหนื่อยเปล่า เพราะเฟียซต้องโยเยแน่ๆ ลูกชายเขาชอบนอนเตียงนี้ เตียงที่อาทั้งสองกำลังยึดครองอยู่ คนเป็นพ่อ เป็นพี่ และเป็นสามีคิดอย่างกลัดกลุ้ม นี่ก็ลูก นั่นก็น้อง โน่น…ก็ภรรยา!
“น้องเฟียซไม่ยอมนอนห้องอื่นนะ ลาภ เหน่” มหาโชคพยายามทำใจให้เย็นๆ เพราะเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้วเขาขึ้นไปกระทืบมหาลาภกับมหาเสน่ห์ แต่ทั้งสองคนก็ยังไม่ยอมลุกจากเตียง
“คุณโชคขา…” เสียงหวานของภรรยาทำให้ขมับชายหนุ่มเต้นตุบๆ เขายกมือขึ้นเพื่อขอเวลาสักครู่ แต่ผ่านไปครู่แล้วครู่เล่า สองหนุ่มก็ยังไม่ลุกจากเตียง มหาโชคส่ายหน้าระอายกมือยอมแพ้ เดินไปอุ้มลูกชายที่อยู่ในอ้อมกอดของนลิน
“บัวไปนอนรอที่ห้องโน้นเลยจ้ะ เดี๋ยวผมจัดการกล่อมลูกนอนเอง” นลินส่ายหน้าน้ำตาคลอ ก็สองหนุ่มนั่นบอกว่าโดนผีหลอก เรื่องอะไรเธอจะไปนอนคนเดียว
มหาโชคยิ้มเอ็นดูคนกลัวผี “ผมจะไปนอนด้วย เอางี้ บัวยืนรอแป๊บนะจ๊ะ เดี๋ยวผมเอาลูกนอนกับเหน่กับลาภมัน”
สองหนุ่มที่อยู่ใต้ผ้าห่มหูผึ่ง ‘นอนกับหลาน จะได้นอนกับน้องเฟียซ!’ มหาลาภโผล่หน้าออกจากผ้าห่มตอนที่พี่ชายกำลังอุ้มหลานเดินมาถึงปลายเตียงพอดี ชายหนุ่มจึงลุกขึ้นรับร่างกลมป้อมของหนูน้อย
“นมอยู่ในตู้ อุ่นให้พอดี แล้วค่อยให้หลานกิน เข้าใจไหม”
“ครับผม!” มหาเสน่ห์รับคำหนักแน่น คุณพ่อคุณแม่มือใหม่สบตากันก่อนจะมองลูกชายเฟียซกำลังหัวเราะเอิ๊กอ๊ากกับอาหนุ่มทั้งสอง ผมชี้โด่ชี้เด่ของน้องชายทำให้คนเป็นพี่แค่นยิ้มคงโดนผีหลอกหนัก สารรูปจึงสุดบรรยาย ตอนแรกที่น้องชายวิ่งเข้าบ้านมา เขาตกใจแทบตายนลินก็ร้องไห้กระซิกๆ ด้วยความกลัว หลังจากสองหนุ่มเล่าเรื่องโดนผีชุดแดงหลอก
พ้นร่างพี่ชายกับพี่สะใภ้แล้ว มหาลาภจึงลุกขึ้นปัดที่นอน โดยมหาเสน่ห์อุ้มหลานรักไปอีกทาง อาการขวัญเสียจากการโดนผีหลอกหายเป็นปลิดทิ้ง เฟียซเหมือนยันต์กันผี เอ๊ย เครื่องปลอบขวัญ
“เอาหลานมานอนได้แล้ว เหน่” มหาลาภตบที่นอน หลังจากปูเบาะจัดหมอนให้หลานรักเรียบร้อย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขามานอนกับเฟียซ แต่เป็นครั้งแรกที่ได้อยู่กันสามคน ที่ผ่านมาพวกเขาจะเป็นฝ่ายนอนข้างเตียงเสียมากกว่า
สามอาหลานนอนหยอกล้อกันพักใหญ่ “ผีวันนี้ไม่น่ารักเหมือนน้องเฟียซของอาเหน่เล้ย…” มหาเสน่ห์ชวนหลานคุย หนูน้อยทำตาแป๋วส่งเสียงอ้อแอ้ ยกขาขึ้นถีบลม
“ง่วงยัง วันนี้พี่ดาร่าของหนูหนีไปนอนกับป้าเยี่ยมแล้ว” มหาลาภแค่นยิ้ม พ่อของดาร่าหนีมานอนที่นี่น่าจะถูกกว่า เขาลุกไปหรี่ไฟในห้องให้เหลือแสงสลัวๆ
“เดี๋ยวอาเหน่เล่านิทานให้ฟังดีกว่าเนอะ” เสียงทุ้มของคนเป็นอายังคงดัง
‘ปู้ด’ เฟียซผายลมรับอย่างดีใจ
“อูย…เตียงสะเทือน ไส้ไม่หลุดออกมาด้วยเหรอนั่น” มหาเสน่ห์จับหลานพลิก แง้มผ้าอ้อมสำเร็จตรวจหาสะเก็ดระเบิด เมื่อไม่พบจึงทำหน้าโล่งใจ กระสุนด้าน! มาแต่ลม
นิทานของมหาเสน่ห์ทำให้คนเป็นพี่ปวดกบาล เรื่องผีที่มหาเสน่ห์ยินดีนำเสนอทำเอาคนไม่อยากฟังแต่ได้ยินปวดตับ เพราะเล่าเหมือนตัวเองเป็นซูเปอร์เซยากำลังไปปราบผี โดยมีหมอผีคนสนิทเป็นผู้ช่วย เนื้อเรื่องเหมือนเอาเชอร์ล็อกโฮมส์มาผสมกับการ์ตูนดราก้อนบอลแซด อ้อ…ใส่หนังไทยเรื่องบ้านผีปอบไปด้วย เพราะมหาเสน่ห์ทำมือแบบปอบจิ้มเบาๆ ที่ท้องกลมป่องเหมือนลูกแตงโมโตเต็มผลของหลานชาย
เสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากของสองอาหลานทำให้ลาภเหนื่อยใจ ชายหนุ่มคิดถึงเรื่องเมื่อตอนเย็นอย่างเป็นกังวล ผู้หญิงคนนั้น เอ๊ย ผีไม่สาวตนนั้นมีแววตาเศร้าจนเขาต้องเก็บมาคิด อะไรทำให้ดวงตาของคนเราหรือผีเจือแววโศกได้ขนาดนั้น ถ้าไม่ใช่…ความรัก ชายหนุ่มรีบสลัดความคิดเลื่อนเปื้อนออกจากหัว หลับตาลงอย่างอ่อนเพลีย ปล่อยให้มหาเสน่ห์กล่อมหลานนอนเพราะพอตีสองครึ่ง เขาก็ต้องรับช่วงต่อจากน้องชาย
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว