หนึ่งธิดาคิดว่า เธอจะได้เรียนสูง ๆ มีงานดี ๆ ทำ ได้ดูแลมารดาให้ดีในบั้นปลายชีวิต เธออยากตอบแทนบุญคุณมารดา และตอบแทนบุญคุณธารด้วย
แม้คิดว่าคลอดแล้วจะต้องห่างจากลูก แต่ธารเป็นคนที่ดีมากๆ ท่านจะต้องรักและดูแลลูกของเธออย่างดี เธอมั่นใจเช่นนี้
“เธอคงไม่ว่าฉันเห็นแก่ตัวใช่ไหม พอคลอดลูกแล้วฉันเอาลูกเธอมา แถมจะยังไม่บอกว่าเธอคือแม่อีก แต่ฉันจะอนุญาตให้เธอช่วยเลี้ยงลูกได้นะ” ธารเป็นคนดีอย่างที่สองแม่ลูกเชื่อมั่นจริง ๆ เพราะไม่ได้กีดกัน เป็นข้อเสนอที่หนึ่งธิดาคิดว่าเธอมีแต่ได้กับได้ แถมยังได้ตอบแทนบุญคุณด้วย เธอจึงตอบตกลง
“แต่คุณทิวเขาจะยอมเหรอคะ” ประโยคของเด็กสาวทำให้ธารถอนใจเฮือกใหญ่
“ฉันก็ไม่แน่ใจนะ แต่จะลองคุยกับเขาดู เผื่อเขาจะเห็นใจคนแก่อย่างฉัน มีทายาทให้ฉันได้อุ้มสักคนก่อนตาย”
“นี่เป็นผลการเรียนของหนูค่ะ หนูเรียนจบแล้วนะคะ ไม่นานก็จะรับประกาศนียบัตรค่ะ” เธอเลือกที่จะเรียนไปทีละขั้นคือจบ ปวช. ก็ต่อปวส. ค่อยต่อปริญญาตรี เพราะว่าการเรียนสายอาชีพมันทำให้เรามีความรู้สามารถประกอบอาชีพได้เลย ไม่เหมือนเรียนจบมัธยมศึกษา แล้วไปต่อปริญญาตรีที่ต้องเรียนยาวไปเลย เธออยากให้มารดาได้ตั้งหลักบ้าง อีกทั้งยังเกรงใจธาร ถ้าเธอได้ทำงานไปเรียนไปก็น่าจะช่วยแบ่งเบาภาระได้มากกว่า
“เรียนเก่งจริง ๆ เด็กคนนี้ มะลิเธอต้องภูมิใจในตัวลูกของเธอนะ ดูสิ เรียนได้เอทุกวิชา ฉันเองก็ภูมิใจ ไม่เสียแรงที่ส่งเสียให้เล่าเรียน” คนพูดยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ มีความสุขที่เด็กสาวที่อุปการะเรื่องทุนการศึกษาเอาไว้เป็นคนเก่งและคนดีเช่นนี้
“เอาละ กลับไปพักผ่อนได้แล้ว วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว เรื่องที่ฉันจะคุยกับทิวเขา ฉันจะบอกมะลิกับหนึ่งว่าเขาจะตอบตกลงไหม” คนพูดดูมีความหวังในเมื่อเด็กสาวที่เอ็นดูตอบตกลง ทิวเขาเองก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แม้นางจะไม่ใช่บิดามารดาบังเกิดเกล้า แต่ก็เลี้ยงทิวเขามาด้วยความรัก ทิวเขาเองก็รักนางมาก ขอแค่นี้คงไม่มีปัญหาอะไร
จริง ๆ แล้วธารมีอะไรมากกว่านั้น แต่นางก็ไม่ได้พูดออกมา
“เราดื่มเหล้าทุกวันแบบนี้ เดี๋ยวจะป่วยเอาได้นะ” ประโยคของผู้เป็นป้าทำให้ทิวเขาหันไปมอง เขาปลีกตัวมาอยู่ที่กระท่อมตรงลำธารเพราะไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับใคร
“คุณป้ามีอะไรหรือเปล่าครับ”
“ป้าจะมีอะไรล่ะ นอกจากเป็นห่วงเรา ดื่มเหล้าขนาดนี้เดี๋ยวก็เป็นตับแข็งตายหรอก”
“ไม่หรอกครับ ดื่มนิด ๆ หน่อย ๆ เอง”
“ไม่นิดหน่อยกระมัง ป้ารู้ว่าเราดื่มหนักทุกคืน ตอนกลางวันก็ยังไปทำงานหนักในไร่อีก ข้าวปลากินบ้างไหมนี่ เราซูบผอมไปมากนะ หนวดเคราก็รกรุงรังไปหมด”
“กินสิครับคุณป้า” เสียงของทิวเขาอ่อนลง กับผู้เป็นป้าเขาไม่เคยเสียมารยาทหรือพูดอะไรให้ต้องเสียใจ เพราะท่านชุบเลี้ยงเขามา รักเขาเหมือนลูกในไส้ บิดามารดาของเขาเสียชีวิตตั้งแต่เขายังเป็นแค่เด็กน้อยไร้เดียงสา
“ผู้หญิงคนเดียวเราจะไปให้ความสำคัญหรือเสียใจกับเขาขนาดนี้ทำไม ยิ่งเขาไม่รักเรา เราก็ยิ่งต้องดูแลตัวเองให้ดีไม่ใช่เหรอ ไม่ใช่ปล่อยเนื้อปล่อยตัวแบบนี้ ถ้าแม่เพียงฟ้ามาเห็นเราตอนนี้ คงจะเที่ยวพูดกับใคร ๆ ว่าคิดถูกแล้วที่ทิ้งเราไป เพราะขนาดตัวเราเอง ก็ยังไม่รักตัวเราเองเลย”
“ก็ช่างเขาปะไรครับ อยากจะพูดอะไรก็พูดไป”
“ป้าอยากอุ้มหลาน” ประโยคของผู้เป็นป้าทำให้ทิวเขาสำลัก เขามองท่านด้วยใบหน้าแดงก่ำ
“คุณป้าพูดว่าอะไรนะครับ”
“ป้าพูดว่าป้าอยากอุ้มหลาน”
“อุ้มหลานที่ไหนครับ”
“ลูกเราไง”
“ผมยังไม่มีเมียจะมีลูกได้ยังไงครับ”
“ก็มีสิ ป้าหาให้แล้ว”
“ผมไม่เอาหรอกครับ”
“เราเป็นหลานคนเดียว ป้าอยากมีทายาทสืบสกุลอีก เราเอาแต่ดื่มเหล้า ไม่มีลูกมีเมีย ป้าตายไปแล้วเราไม่มีทายาท จะยกทรัพย์สมบัติให้ใครกันล่ะ”
“ยกให้การกุศลไปก็ได้ครับ”
“ป้าขอแค่หลานสักคนให้ป้าได้ไหม”
“ทำไมผมต้องทำแบบนั้นด้วยครับ”
“ป้าอยู่ได้อีกไม่นาน ทำเพื่อป้าสักครั้งได้ไหมทิวเขา ป้าเองก็แก่มากแล้ว” ประโยคของผู้เป็นป้าทำให้ทิวเขานิ่งอึ้งไป
“ใครกันครับผู้หญิงที่คุณป้าจะให้มาเป็นเมียผม”
“หนูหนึ่งธิดาไง เขานิสัยดี เรียบร้อย น่ารัก เรียนก็เก่ง มีลูกกับเรา ป้าก็คิดว่าลูกจะเป็นคนดีเหมือนเขา ดีเอ็นเอที่ดีของพ่อแม่มีผลกับลูกที่จะคลอดออกมาด้วยนะ”
“เด็กนั่นยอมเหรอครับ” เขารู้จักหนึ่งธิดาเพราะมารดานำสองแม่ลูกมาชุบเลี้ยงเอาไว้หลังจากช่วยจากการโดนข่มขืนนานหลายปีแล้ว เขาเองก็ช่วยสองแม่ลูกด้วย
“ยอม เขาเป็นคนกตัญญู อยากตอบแทนบุญคุณของป้าเลยรับปาก ทิวเขาทำเพื่อป้าสักครั้งนะ”
“คุณป้ากลัวผมกินเหล้าจนตายเหรอครับ ถึงจะให้ผมมีลูกให้ได้”
“อย่าพูดแบบนี้อีกนะ เราเป็นหลานคนเดียวของป้า ถ้าเราตายไปป้าจะทำใจได้เหรอ” เสียงของธารสั่นระริก ทำเอาทิวเขารู้สึกผิดขึ้นมาในทันที
“ผมขอโทษนะครับคุณป้า ขอผมคิดดูก่อนได้ไหมครับ”
“คนไหนไม่รักเราก็ปล่อยเขาไป ป้ารักเราที่สุด เราเองก็ต้องรักตัวเราเองด้วยนะ” ธารบอกหลานชาย
“เราควรกินข้าวกินปลาบ้างนะ ป้าให้หนึ่งธิดาทำอาหารอร่อย ๆ มาให้เราด้วย เลิกดื่มเหล้าและกินข้าวกินปลาเถอะนะ ป้าจะกินเป็นเพื่อน พูดไปพูดมาเราสองคนไม่ได้กินข้าวกันมานานแล้วนะ”
หลานชายของนางเป็นคนรักใครรักจริง ทุ่มเทให้ทุกอย่าง ทั้งเงินทองข้าวของ ทั้งเวลา เทคแคร์ดูแลเอาใจใส่สารพัด แม้จะทำงานในไร่ในสวนก็ยังขับรถไปหาในเมือง ไกลแค่ไหนก็ไป แต่ท่านดูออกว่าเพียงฟ้าไม่ได้จริงใจกับหลานชายของท่าน ตอนนั้นกำลังรักกำลังหลง เตือนอะไรไม่ได้ ท่านเลยไม่ได้เตือนอะไรมาก
เพียงฟ้าคอยแต่ยุแยงตะแคงรั่ว พอบอกพอเตือนก็ยุแฟนตัวเองให้เกลียดป้าของตัวเอง แต่ดีหน่อยที่ทิวเขาไม่ได้หน้ามืดถึงขนาดนั้น
ในสายตาของธาร เพียงฟ้าคือผู้หญิงที่ท่านคิดว่าไม่มีคุณสมบัติอันใดที่จะเป็นเมีย เป็นแม่ของลูก แค่สวยอย่างเดียวมันไม่ได้ทำให้ครอบครัวมีความสุขหรือประคับประคองชีวิตคู่กันไปตลอดรอดฝั่งได้
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว