ตอนที่ 35 ลุงอ่ำกลับบ้าน (ภาคสอง)
สองวันผ่านไป วันอาทิตย์ เวลา 9.13 น. ที่คฤหาสน์
“คุณเพียงครับ ผมขอลากลับบ้านได้ไหมครับ…..พอดีว่าพ่อผมเสียแล้วน่ะครับ” ลุงอ่ำยืนพูดกับเพียงตาที่นั่งอยู่กับพัฒน์และไอรีนในห้องรับแขก
“หา! ได้....ได้ซิค่ะ เสียตั้งแต่เมื่อไหร่คะ” เพียงตายืนขึ้นก่อนหันไปพูดกับลุงอ่ำ
“เมื่อคืนน่ะครับ” อยู่ดีๆเมื่อคืนแม่ของลุงอ่ำก็โทรมาบอกว่าพ่อของเค้าเสียชีวิตแล้วที่โรงพยาบาลเมื่อวานตอนเย็น
“เพียงเสียใจด้วยนะคะ.....ลุงอ่ำคอยแป๊บนึงนะคะ” เพียงตาพูดก่อนเดินออกจากห้องรับแขกตรงขึ้นไปที่ชั้นบนของบ้าน
“ลุงอ่ำ ผมเสียใจด้วยนะครับ” พัฒน์พูดขึ้นมาบ้าง
“ไอรีน ก็ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ” ไอรีนพูดพร้อมทำหน้าเศร้าเสียใจ
“ขอบคุณนะครับ แต่ว่าจริงๆแล้วแกก็เจ็บออดๆแอดๆมาตั้งนานแล้วน่ะครับผมเลยทำใจมาซักระยะนึงแล้ว” ลุงอ่ำตอบ
“ลุงอ่ำคะ นี่ค่ะเงินช่วยค่างานศพ” เพียงตาเดินกลับลงมาจากชั้นบนก่อนยื่นซองเงินปึกใหญ่ให้แก่ลุงอ่ำ
“ขอบคุณครับ คุณเพียง” ลุงอ่ำพูดขอบคุณก่อนรับซองเงินนั่นมา
“ลุงอ่ำครับ ถ้าจะกลับบ้านลุงอ่ำก็เอารถซักคันในโรงจอดรถ ขับกลับบ้านไปเลยก็ได้นะครับ” พัฒน์พูดขึ้นเพราะลุงอ่ำไม่มีรถยนต์ส่วนตัวถ้าจะกลับบ้านก็คงจะต้องไปขึ้นรถทัวร์เอา
“มันจะดีหรอครับ คุณพัฒน์” ลุงอ่ำถามอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ
“ดีซิครับ รถบ้านเรามีตั้งหลายคัน ส่วนพรุ่งนี้พี่เพียง เอ๊ย คุณแม่ก็ไปรถผมก็แล้วกันนะครับ ยังไงผมก็ต้องไปดูแลบริษัทอยู่แล้วด้วย” พัฒน์พูดย้ำกับลุงอ่ำก่อนหันไปพูดกับเพียงตา
“ถ้าอย่างนั้นผมลาเลยนะครับ” ลุงอ่ำพูดก่อนก้มโค้งให้แก่คนทั้งสามก่อนเดินออกไปจากบ้านไปล่ำลากับลุงฉิมหลังจากนั้นไม่นานลุงอ่ำก็ขับรถคันที่ดูเก่าที่สุดที่จอดอยู่ในโรงจอดรถออกไปจากคฤหาสน์
เวลา 11.20 น. ที่ร้านอาหารหรูแห่งหนึ่งใจกลางเมือง
“น้องแพรวาคะ วันพรุ่งนี้มีธุระจะไปไหนหรือปล่าวคะ” วิทย์ที่เพิ่งจะขอแพรวาเป็นแฟนเมื่อวานพูดกับแพรวาที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่ตรงข้ามกับตัวเอง
“ไม่...ไม่มีนะคะ พี่วิทย์มีอะไรหรือปล่าวคะ” แพรวาตอบก่อนถามบ้าง
“คือ.....พี่ไม่รู้ว่าจะเร็วไปหรือปล่าว เพราะเราก็เพิ่งจะคบกันได้แค่วันสองวันเท่านั้นเอง แต่ว่าวันพรุ่งนี้พี่จะต้องไปดูรีสอร์ทที่เพิ่งสร้างใหม่ของคุณพ่อที่เขาใหญ่น่ะครับ......พี่ก็เลยอยากจะชวนแพรวาไปกับพี่ด้วย ถ้าแพรวาอยากไปนะคะ” วิทย์พูด
“ได้ซิค่ะ แพรวาอยากไปค่ะ” แพรวาตอบพร้อมรอยยิ้ม……….
วันรุ่งขึ้น เวลา 8.10 น. ที่คฤหาสน์
“คุณแม่คะ พี่พัฒน์ แพรวาไปก่อนนะคะ” แพรวาหันมาพูดกับแม่เลี้ยงกับพี่ชายก่อนที่จะเดินขึ้นรถเบนซ์ที่วิทย์เปิดประตูรอไว้อยู่ก่อนแล้ว
“เดินทางปลอดภัยนะคะ คุณวิทย์ เพียงฝากแพรวาด้วยนะคะ” เพียงตาหันไปพูดกับเอกวิทย์
“จะดูแลเป็นอย่างดีเลยครับ คุณแม่” วิทย์ตกปากรับคำ
“ไอ้วิทย์ มันดูแลแพรวาได้อยู่แล้วน่ะครับ ไม่ต้องห่วงไปหรอกครับ ใช่ไหม เพื่อน” พัฒน์ที่ยืนอยู่ข้างๆพูดกับเพียงตาก่อนหันไปพูดกับวิทย์ ซึ่งวิทย์ก็พยักหน้าเล็กน้อยก่อนขึ้นรถจากนั้นก็ขับออกไปจากตัวบ้าน ในขณะที่รถขับผ่านสวนแพรวาก็หันไปเห็นลุงฉิมที่ยืนอยู่พอดีแต่ทั้งสองก็ไม่ได้ทักทายกันเพราะรถเบนซ์ถูกขับออกไปจากคฤหาสน์ด้วยความเร็ว
“ว่าแต่พี่เพียง เอ๊ย คุณแม่ครับ เราไปทำงานกันเลยดีกว่าไหมครับ” พัฒน์หันมาพูดกับเพียงตาที่ยังคงยืนมองตามหลังรถเบนซ์ของวิทย์
“อ๊ะ! ไป....ไปค่ะ” เพียงตาตอบ หลังจากนั้นพัฒน์ก็เดินไปเอารถสปอร์ตของตัวเองที่โรงจอดรถ หลังจากนั้นพัฒน์ก็ขับรถพาแม่เลี้ยงสาวตรงไปที่บริษัท
“พี่เพียง เอ๊ย คุณแม่ นั่งลำบากหน่อยนะครับ” หลังจากรถถูกขับออกมาจากคฤหาสน์ได้ซักระยะนึงพัฒน์ก็หันไปพูดกับเพียงตาเพราะดูเหมือนว่าเพียงตาจะไม่คุ้นชินกับการนั่งเบาะรถสปอร์ตซักเท่าไหร่นัก
“พอนั่งได้อยู่ค่ะ ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ......แล้วก็อีกเรื่อง คุณพัฒน์คะ เรียกเพียงแบบที่เคยเรียกก็ได้ค่ะ เพียงไม่ถือหรอกนะคะ” เพียงตาพูดขึ้นเพราะว่าก่อนแต่งงานกับพงษ์เทพตอนที่เพียงตายังเป็นแค่เลขาของพงษ์เทพก็ได้มีโอกาสเจอกับพัฒน์บ่อยครั้งซึ่งพัฒน์ก็จะเรียกเพียงตาว่าพี่มาโดยตลอด
“จะให้ผมเรียกแบบเมื่อก่อนได้ยังไงหล่ะครับ ตอนนี้พี่เพียงเป็นเมียคุณพ่อแล้วนะครับ คุณแม่” พัฒน์พูด
“ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจค่ะ” เพียงตาตอบก่อนหยิบมือถือขึ้นมาดู
พอรถจอดติดไฟแดงพีระพัฒน์ก็หันหน้ามาทางแม่เลี้ยงสาวก่อนสำรวจเครื่องแต่งกายที่ดูแตกต่างไปจากเดิม ถ้าเป็นเมื่อก่อนเพียงตาก็คงจะใส่แต่กระโปรงที่ยาวเลยเข่า แต่ในตอนนี้เพียงตากลับใส่กระโปรงที่สั้นเลยเข่าขึ้นมาผิดวิสัยที่เคยเป็น พัฒน์ใช้เวลาจ้องมองสำรวจขาอ่อนของแม่เลี้ยงสาวอยู่นาน
เพียงตาดูหน้าจอมือถือได้ซักพักก็เงยหน้าขึ้นมาเพื่อจะถามอะไรซักอย่างกับพัฒน์ แต่ก็พบว่าตอนนี้สายตาของพัฒน์ได้จ้องมองมาที่ขาอ่อนที่โผล่พ้นกระโปรงทำงานฟิตสั้นของเธออยู่ก่อนแล้ว
“คุณพัฒน์คะ” เสียงเรียกของเพียงตาได้ปลุกพัฒน์ให้ตื่นจากห้วงขาอ่อนขาวเนียนของแม่เลี้ยงสาวแสนสวยในทันทีก่อนเงยหน้าขึ้นมามองเพียงตา
“ครับ” พัฒน์เงยหน้าขึ้นมาตอบ
“พรุ่งนี้ตอนกลางคืนมีงานเลี้ยงรับรองลูกค้าน่ะค่ะ คุณพัฒน์จะไปด้วยกันไหมคะ” เพียงตาพูด
“อ๊ะ....ต้องไปอยู่แล้วซิครับ ยังไงผมก็ต้องเป็นสารถีให้คุณแม่อยู่แล้วนี่ครับ แล้วก็คุณแม่ครับ เลิกเรียกผมว่าคุณซักทีเถอะครับ เรียกพัฒน์เฉยๆก็พอนะครับ คุณแม่” พัฒน์พูดก่อนออกรถเมื่อไฟจราจรเป็นสีเขียว ส่วนเพียงตาที่นั่งอยู่ข้างๆก็ได้แต่พยายามเอากระเป๋าถือมาปิดบังขาอ่อนของตัวเองเพียงเท่านั้น
เวลา 10.56 น. ที่คฤหาสน์
“ลุงฉิมคะ ตอนนี้พอจะมีเวลาว่างไหมคะ” ไอรีนเรียกลุงฉิมที่กำลังนั่งจัดต้นไม้อยู่ในสวนจากทางด้านหลัง
“คุณไอรีน มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ” ลุงฉิมหันไปตามเสียงก็เห็นคู่หมั่นสาวของพีระพัฒน์ยืนอยู่ข้างหลังในชุดเสื้อยืดสีดำคอกว้างกับกระโปรงยีนส์สุดแสนจะสั้นที่เผยให้เห็นขาอ่อนขาวเนียน
“ไอรีนเบื่อๆน่ะค่ะ ลุงฉิมพอจะรู้จักที่เดินเที่ยวแถวๆนี้บ้างไหมคะ” ไอรีนก้มหน้าลงมาก่อนถามขึ้น
“เอ่อ ก็พอรู้จักอยู่บ้างครับ...คุณไอรีนอยากไปเที่ยวที่แบบไหนหล่ะครับ” จังหวะที่ไอรีนก้มตัวลงมาทำให้ลุงฉิมมองผ่านเข้าไปในคอเสื้อก็เห็นเข้ากับอกอวบขาวเปล่าเปลือยถึงจะไม่ชัดเจนมากลุงฉิมก็รู้ได้ในทันทีว่าตอนนี้ไอรีนกำลังโนบรา
“ไอรีนอยากไปห้างน่ะค่ะ อุ๊ย....” ไอรีนรู้ตัวว่าตอนนี้คอเสื้อมันเปิดออกกว้างเพราะสายตาที่ลุงฉิมมองมาจึงร้องตกใจก่อนจะรีบเอามือมาปิดคอเสื้อ
“พอดีที่นี่อากาศมันร้อนน่ะค่ะ ไอรีนเลยไม่อยากใส่บรา” ไอรีนพูดขึ้นโดยไม่มีท่าทีเขินอายหรือแม้แต่จะต่อว่าอะไรลุงฉิมที่ลอบมองหน้าอกของเธอเลยแม้แต่น้อย
“เมื่อกี๊ ผมไม่เห็นอะไรเลยนะครับ” ลุงฉิมรีบแก้ตัว
“เรื่องนั้น ช่างมันเถอะค่ะ ไอรีนไม่ระวังตัวเองเอง.....ลุงฉิมไปอาบน้ำให้เรียบร้อย แล้วเดี๋ยวอีกสิบนาทีเราจะไปข้างนอกกัน” ไอรีนพูดก่อนเดินกลับเข้าไปที่ตัวบ้าน ลุงฉิมก็มองตามก้นอวบที่บิดส่ายไปมาในระหว่างที่เดินของไอรีนไปด้วย..........
เวลา 11.40 น. ที่ห้างแห่งหนึ่ง
“ลุงฉิม เดินเร็วๆหน่อยซิคะ” ไอรีนหันไปเรียกลุงฉิมที่เดินตามหลังอย่างเชื่องช้าในขณะที่ทั้งสองกำลังเดินเล่นอยู่ในห้าง
“เร็วๆซิคะ มา...” หลังจากพูดไปแล้วลุงฉิมก็ยังคงเดินช้าอยู่เหมือนเดิม ไอรีนจึงเดินเอาแขนมาคล้องแขนของลุงฉิมก่อนเร่งให้ลุงฉิมเดินเร็วขึ้น
“คะ...คุณไอรีนครับ อย่าคล้องแขนผมอย่างนี้เลยครับ เดี๋ยวคนอื่นเห็นเข้าเค้าจะดูไม่ดีเอา” ลุงฉิมพูดออกไป ทั้งๆที่ในใจก็ดีใจไม่น้อยเมื่อหน้าอกอวบของไอรีนเบียดแนบกับแขนของตัวเอง
“ไอรีนไม่สนใจคนอื่นหรอกค่ะ รีบไปกันเถอะ” ไอรีนยังคงกอดกระชับแขนของคนสวนเฒ่าแน่นโดยที่ไม่ได้สนใจสายตาของคนรอบข้าง เต้าอวบเปลือยเปล่าที่อยู่ในเสื้อยืดสีดำคอกว้างก็เสียดสีท่อนแขนแกร่งของคนสวนเฒ่าทำเอาลุงฉิมรู้สึกซู่ซ่าไม่น้อย
“ไอรีน ไม่ใช่ลูกมหาเศรษฐีเหมือนพัฒน์หรือพี่ถิงถิง เรื่องสายตาของคนรอบข้างไอรีนไม่ใส่ใจหรอกนะคะ” ไอรีนพูด
“เอ๊ะ…..งั้นคุณพ่อของคุณไอรีนทำธุรกิจอะไรหล่ะครับ” ลุงฉิมถามบ้างหลังจากเงียบมานาน
“คุณพ่อทำธุรกิจอสังหาน่ะค่ะ รายได้ก็ตกปีละไม่กี่สิบล้านเอง ถึงจะพอมีฐานะอยู่บ้างแต่ก็ยังไม่ถึงขั้นร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีหรอกนะค่ะ.....อ๊ะ! ไปกินข้าวเที่ยงกันที่นั่นดีไหมคะ ไอรีนเลี้ยงเอง” ไอรีนพูดแล้วชี้ไปที่ร้านอาหารร้านหนึ่งก่อนกอดแขนลุงฉิมแน่นแล้วลากเข้าไปในร้านแห่งนั้น ท่ามกลางสายตาอิจฉาริษยาจากผู้ชายแถวๆนั้นที่ได้พบเห็นชายแก่อายุคราวลุงควงแขนมากับสาวลูกครึ่งผมบลอนด์แสนสวยสุดเซ็กซี่
เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บของคุณดียิ่งขึ้น และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณอย่างได้อย่างส่วนตัว ท่านสามารถอ่านนโยบายคุกกี้เพิ่มเติมได้ที่นี่
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว