อิงธารเสียงอ่อนระโหย อย่าว่าแต่เสียงเลย แม้แต่ร่างกายของหล่อนก็ยังอ่อนยวบเมื่อเขาเบียดตัวแนบชิด
วิคเตอร์ก้มหน้าลงมาหา เขาถือสิทธิ์เคลียเคล้าปลายจมูกบนโหนกแก้มนวลเนียนไล่ไปถึงปลายคางมน อิงธารขนลุกซู่ก่อนค่อย ๆ เอียงหน้ากลับมาและยินยอมรับปลายลิ้นสากหนาจากปากของชายหนุ่มที่แทรกเข้าไปในปากของหล่อนอีกครั้ง และครั้งนี้มันดูดดื่มมากกว่าครั้งแรกเสียอีก
มันเป็นเรื่องบ้าชัด ๆ ทั้งที่หล่อนไม่เคยรู้จักคุ้นเคยกับเขามาก่อนแถมเจอกันครั้งแรกวิคเตอร์ยังทำหน้ายักษ์แสดงความระรานใส่แต่สุดท้ายหล่อนกลับต้องมาอยู่กับเขา ในฐานะ เมีย! คงไม่มีเรื่องอะไรบ้ามากไปกว่านี้แล้ว ทั้งที่ต่อต้านเขาตอนแรกแต่หล่อนกลับต้องมานอนเบียดเนื้อตัวกับเขา จะเรียกความรู้สึกนั้นว่าอะไรดี เกลียดแต่ก็มีความโหยหาลึกๆ หล่อนอยากร้องไห้ ทำไมต้องตกอยู่ในสถานการณ์เหมือนกำลังจมน้ำ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เมื่อไหร่พี่สาวของหล่อนจะกลับมาสะสางเรื่องบ้าบอพวกนี้เสียที
เช้าวันต่อมาอิงธารต้องรีบตื่นตามเวลาปกติ แต่ครูสาวมีงานเพิ่มขึ้นอีกอย่างนั่นคือต้องเตรียมอาหารเช้าไว้ให้ผู้ชายแปลกหน้าที่กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของหล่อนโดยไม่ตั้งใจ เมื่อจัดวางสำรับบนโต๊ะที่ระเบียงหน้าบ้านอิงธารก็นั่งลงแต่อดชะเง้อมองเข้าไปในบ้านไม่ได้เมื่อไม่เห็นเงาของคนตัวใหญ่ซึ่งเมื่อคืนเขาไม่ยอมให้หล่อนหลับเลยทั้งคืน นึกอีกทีก็โกรธ แต่พอนึกอีกทีหญิงสาวกลับหน้าแดงซ่านขึ้นมาเฉย ๆ ทั้งที่ไม่มีประสบการณ์เรื่องบนเตียงมาเลยตลอดชีวิตความเป็นสาวหากพอถึงคราวต้องเจอจริง ๆ หล่อนกลับเรียนรู้มันอย่างรวดเร็วแถมเร่าร้อนมากเสียด้วย
“อิง...อาหารเสร็จแล้วเหรอลูก?”
เสียงของเอื้อมรักษ์ทำให้ความคิดฟุ้งซ่านของหญิงสาวสะดุดลงในทันใดขณะหญิงสูงวัยนั่งลงบนเก้าอี้แต่กลับเหลียวซ้ายแลขวาเหมือนว่ากำลังระแวดระวัง หล่อนหันกลับมาทางบุตรสาวที่ยกแก้วกาแฟขึ้นจิบแล้วถามว่า
“วิคเตอร์ยังไม่ออกมาอีกเหรอ?”
“ยังค่ะแม่ อาจจะนอนตื่นสายกระมังคะ นี่ถ้าเขาช้ามากกว่านี้หนูก็จะรีบไปโรงเรียนแล้วล่ะค่ะ”
“เขาเป็นไงบ้าง?”
“คะ?” หญิงสาวเลิกคิ้วขณะวางแก้วกาแฟ เอื้อมรักษ์จึงเอ่ยเสียงต่ำๆ
“ก็วิคเตอร์ไง ท่าทางเขาเป็นไงบ้าง”
“เขาก็ปกตินี่คะแม่”
“เขาไม่สงสัยอะไรเราใช่ไหม เขา...เอ้อ...ไม่แสดงท่าทางหวาดระแวงลูกใช่ไหม”
“เปล่าค่ะ เขาดูปกติทุกอย่าง แต่ก็ยังถามถึงพี่อร”
“อย่าให้เขารู้เลยทีเดียวเชียวว่าอรติดต่อกลับมาหาแม่แล้ว”
“ทำไมพี่อรไม่เผชิญหน้ากับวิคเตอร์ตรง ๆ ล่ะคะ ถ้าพี่อรไม่ผิดเราสามารถที่จะเอาเรื่องเขาได้นะคะ ข้อหาสร้างเรื่องทำให้คนอื่นเสื่อมเสีย”
“ถ้าคุยกันได้ง่าย ๆ ก็ดีสิ แต่นี่อรบอกว่าวิคเตอร์น่ะโหดร้ายมาก เขาเป็นมาเฟียอันดับต้นของยุโรปเลยนะ มีธุรกิจเยอะแยะมากมายก็เพื่อใช้บังหน้าความชั่วร้ายของตัวเอง ถ้าดีจริงไม่อย่างนั้นแล้วเขาจะโกงพี่สาวเราแล้วตามมาอย่างนี้หรอกเหรอ แม่ว่าเขากะจะเอาเรื่องอรให้ถึงที่สุด บอกตามตรงนะว่าแม่กลัวมาก”
“อย่าคิดอะไรที่มันแย่ ๆ ตอนนี้เลยนะคะแม่ ยิ่งถ้าแม่แสดงความไม่สบายใจออกมาก็จะเป็นพิรุธทำให้วิคสงสัยได้”
“อิงเลยต้องมาพลอยลำบาก ต้องยอมทำดีกับคนร้ายกาจแบบนั้น”
“คุยอะไรกันอยู่เหรอครับ?”
เสียงห้าวกังวานที่ดังขึ้นทำให้การสนทนาของสองแม่ลูกต้องยุติลงในฉับพลัน อิงธารเหลือบมองร่างสูงใหญ่ในชุดลำลองก้าวเข้ามาแล้วหย่อนตัวลงนั่งข้าง ๆ หญิงสาวเริ่มแปลกใจตัวเองมากทุกทีเพราะพอได้เห็นหน้าเขาหัวใจของหล่อนมันเต้นผิดจังหวะ ไม่ใช่เพราะกลัวแต่ใบหน้าหล่อเหลาและเสน่ห์ร้ายกาจนั้นกำลังครอบงำความคิดของหญิงสาวมากขึ้นทุกขณะ เอื้อมรักษ์ยิ้มหวานและตอบว่า
“พวกเรากำลังรอคุณอยู่นี่ไงคะ วิค...เอ้อ...อิงบอกว่าถ้าคุณตื่นสายเราก็จะไม่กวนและอิงก็จะรีบไปทำงาน”
“ผมไม่เคยตื่นสายครับคุณแม่ ทำงานดึกแค่ไหนก็ตื่นเช้าทุกวัน”
“แล้วปกติพวกนักธุรกิจต้องสังสรรค์บ่อยไม่ใช่เหรอคะ ฉันก็แค่สงสัยว่ามันอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณตื่นสายก็เป็นได้”
“ไม่เสมอไปหรอกครับและที่สำคัญผมไม่มีปาร์ตี้นานแล้ว เพราะเวลาไม่ทำงานผมจะอยู่ในที่พักส่วนตัว ไม่ชอบให้ใครมารบกวนเวลาที่ผมอยากผ่อนคลาย”
“แหม...ถ้าอย่างนั้นลูกสาวของฉันก็โชคดีมากเลยนะคะที่ได้คู่ชีวิตอย่างคุณ เอ้อ...แล้ววันนี้คุณจะออกไปข้างนอกพร้อมอิงหรือเปล่าคะ”
“คงไม่ครับ...รู้สึกไม่ค่อยสบายนิดหน่อย”
พอเขาพูดแบบนั้นอิงธารก็รีบหันไปมองหน้าคมคร้ามด้วยความประหลาดใจและเอื้อมรักษ์ก็เช่นเดียวกัน
“อ้าว...นี่คุณไม่สบายเหรอคะ เป็นไข้ตัวร้อนหรือเปล่าคะ”
“ผมรู้สึกมึนหัวหน่อย ๆ ครับ อยากนอนพักผ่อน”
“สงสัยจะแพ้อากาศแน่เลย เมืองไทยอากาศไม่เหมือนบ้านคุณนี่คะ”
“ครับ...ผมคิดว่าอย่างนั้น”
เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บของคุณดียิ่งขึ้น และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณอย่างได้อย่างส่วนตัว ท่านสามารถอ่านนโยบายคุกกี้เพิ่มเติมได้ที่นี่
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว