บทที่ 1 สาเหตุการตายในชาติที่แล้ว
ประตูโรงงานร้างถูกเปิดออก ตามมาด้วยเสียงดัง ‘แอ๊ด’ ชวนระคายแก้วหู
ลู่จิ่วอันมองไปตามแสงไฟก็เห็นชายสองคนเดินเข้ามา เมื่อเห็นดังนั้นเธอจึงพยายามขยับร่างกายที่แข็งทื่อของตน
เธอและลูกชายถูกลักพาตัวมาที่นี่เมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อน
อีกฝ่ายบอกว่าจะใช้พวกเธอกับลูกเป็นตัวประกันเพื่อบีบบังคับให้เซี่ยอวิ้นหนิง สามีของเธอส่งมอบข้อมูลลับสุดยอดระดับชาติ หรืออีกชื่อหนึ่งเรียกว่าข้อมูลสำคัญของโครงการหลงอิ่น
แต่ว่าเซี่ยอวิ้นหนิงตายไปตั้งนานแล้ว
หากว่าเขายังมีชีวิตอยู่ละก็… ทำไมตอนที่เธอถูกพวกสารเลวจากตระกูลลู่บังคับให้ทำแท้งแล้วแต่งงานกับชายชรา ทำไมเขาถึงไม่ปรากฏตัวออกมาล่ะ?
ตอนที่เธอคลอดลูกท่ามกลางสายฝนด้วยความสิ้นหวัง เขาหายหัวไปไหน?
ตอนที่เธอแบกลูกชายที่ไข้ขึ้นสูงไปโรงพยาบาลกลางดึกท่ามกลางพายุฝน ทำไมเขาถึงไม่โผล่หัวออกมา…
เธอต้องกัดฟันเลี้ยงดูลูกชายอย่างยากลำบากมาตลอดสิบห้าปี
หากว่าเซี่ยอวิ้นหนิงมีความรับผิดชอบหรือมโนธรรมสักนิด เขาก็คงปรากฏตัวออกมาให้เธอเห็นแล้ว!
ลู่จิ่งอันพูดเสียงแหบแห้ง “พี่ชาย คุณจับมาผิดคนแล้วล่ะ สามีของฉันตายไปตั้งนานแล้ว ขอแค่ยอมปล่อยฉันกับลูกไป ฉันจะยกสมบัติที่ฉันมีให้หมดเลย…”
เซี่ยหมิงจิ่นยิ้มพร้อมกับปรบมืออย่างเย้ยหยัน “เชิญเก็บสมบัติพวกนั้นไว้ใช้ในนรกเถอะ” เขาเว้นช่วงไปครู่หนึ่ง ก่อนหันไปพูดกับคนข้าง ๆ “เจียฉี เธอกลัวว่าหล่อนจะกลับมาตระกูลเมิ่งแล้วแย่งทุกสิ่งไปจากเธอไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้เธอมีโอกาสแล้ว นับแต่นี้ไป เธอก็จะไม่ต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอีก…” เขาพูดพลางส่งมีดคัตเตอร์ไปให้เมิ่งเจียฉี
ลู่จิ่วอันมองตามสายตาของเซี่ยหมิงจิ่น และเห็นใบหน้าที่ละม้ายคล้ายแม่ของเธอผ่านแสงเทียนอ่อน ๆ
เธอเป็นใครกัน?
เมิ่งเจียฉีเองก็อาศัยแสงเทียนอ่อน ๆ ทำให้มองเห็นใบหน้าที่ทำให้เธอหวาดกลัวสุดขั้วหัวใจได้อย่างชัดเจน มือที่ถือมีดคัตเตอร์สั่นเทาเล็กน้อย แต่เมื่อคิดได้ว่าหากเรื่องราวของตัวเองถูกเปิดเผย จากลูกสาวตระกูลเศรษฐีก็อาจกลายเป็นเพียงหญิงสาวที่มาจากบ้านนอก
ต้องลงมือเดี๋ยวนี้ เธอเดินเข้าไปหาลู่จิ่วอันพร้อมกับมีดคัตเตอร์ในมือ
“เธอ…เธอจะทำอะไร?”
ลู่จิ่วอันถูกมัดไว้กับเก้าอี้ ใบหน้าหวาดหวั่นเบี่ยงตัวหลบโดยสัญชาตญาณ
เมิ่งเจียฉีกระชากเส้นผมของลู่จิ่วอัน จากนั้นก็เล็งปลายมีดแหลมคมไปที่ใบหน้าของเธอ
หล่อนกรีดไปที่ใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างโหดเหี้ยม ใบหน้าขาวผ่องมีเลือดสีแดงสดไหลรินเป็นสาย
หญิงสาวกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
“อย่าทำอะไรแม่ฉันนะ!” ดวงตาของเซี่ยซิงเหอแดงก่ำ พยายามดิ้นรนสุดชีวิตเพื่อที่จะหยุดเธอ
แต่เขาก็ถูกคนข้าง ๆ จับตัวเอาไว้
เด็กชายคำรามด้วยความโกรธแค้นราวกับเป็นสัตว์ร้ายตัวน้อยที่กำลังโมโห
เมิ่งเจียฉีสุขใจเป็นอย่างยิ่ง พร้อมกับเอ่ยเสียงเหี้ยม “ลู่จิ่วอัน เธอจะมาโทษฉันไม่ได้หรอกนะ ถ้าจะโทษก็ต้องโทษคนที่สับเปลี่ยนตัวพวกเราในตอนนั้น เธอใช้ชีวิตอยู่บ้านนอกมาได้ตั้งหลายปี ทำไมถึงไม่อยู่ต่อไปเงียบ ๆ ล่ะ? จะดั้นด้นเข้ามาในเมืองให้คนเห็นหน้าตาของเธอทำไม! เธอคิดจะทำลายทุกอย่างของฉัน ฉันก็ต้องสู้กลับ!”
ใบมีดกรีดลงไปซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างโหดร้าย ทำลายใบหน้าที่ละม้ายคล้ายกับสมาชิกตระกูลเมิ่งของลู่จิ่วอันจนไม่เหลือเค้าเดิม
“ลู่จิ่วอัน จำเอาไว้ว่าความตายของลูกและตัวแก เป็นความผิดของตัวแกเอง!!”
เซี่ยหมิงจิ่นเข้ามากุมมือที่โชกไปด้วยเลือดของเมิ่งเจียฉีอย่างแผ่วเบา จากนั้นก็ปลอบเสียงอ่อนโยน “พอแล้วล่ะ ไม่มีใครจำหน้าหล่อนได้แล้ว เจียฉี ต่อไปนี้ก็จะไม่มีใครสงสัยตัวตนของเธออีกแล้ว”
มือของเมิ่งเจียฉีสั่นไหว พร้อมกับหยาดน้ำตาที่ไหลอาบใบหน้าขณะมองสามีด้วยความรัก “หมิงจิ่น ฉันกลัว”
“ไม่ต้องกลัวนะ คืนนี้ฉันจะจัดการพวกมันสามคนซะ จะไม่มีใครมารบกวนชีวิตพวกเราได้อีก”
อย่าหวังว่าลู่จิ่วอันจะแย่งตัวตนของเจียฉีไปได้!
แล้วก็ไม่มีวันที่เซี่ยอวิ้นหนิงจะใช้โครงการหลงอิ่นมาแทนที่ฉันในตระกูลเซี่ย!
เมื่อเซี่ยหมิงจิ่นปลอบใจภรรยาของตนแล้ว ก็หันไปสั่งงานลูกน้องด้วยใบหน้าเย็นชา
“เซิ่ยอวิ้นหนิงมาเมื่อไหร่ พวกแกก็จุดไฟเผาได้เลย ฉันอยากให้
เซี่ยอวิ้นหนิงดูเมียของมันตายไปต่อหน้าต่อตา”
พูดจบ เขาก็พาเมิ่งเจียฉีไปที่หน้าต่างชั้นสองของโรงงาน
รถเก๋งคันหนึ่งกำลังใกล้เข้ามาภายใต้ท้องฟ้าที่มืดสนิท
เมื่อลู่จิ่วอันที่สติเลือนรางเพราะความเจ็บปวดมองเห็นเทียนในมือของชายที่มีรอยแผลเป็นบนใบหน้า ก็คว้าลูกชายมากอดแน่นโดยสัญชาตญาณ
เมื่อรถหยุดลง เซี่ยอวิ้นหนิงในชุดกันลมก็เดินเข้ามาในโรงงานเพียงลำพัง
“หยุดนะ!”
ชายแผลเป็นตะโกนเสียงเข้ม
หลังจากผ่านมาสิบห้าปี ในที่สุดเซี่ยอวิ้นหนิงก็ได้พบหน้าภรรยาและลูกชายของตน แต่ไม่คิดเลยว่าจะต้องมาพบกันในสถานการณ์เช่นนี้
ลู่จิ่วอันมองอดีตสามีที่ยืนอยู่ตรงหน้า และในชั่วพริบตานั้น ดวงตาก็เบิกโพลง
ชีวิตของเธอราวกับเป็นเรื่องตลก
ตอนคนที่ลักพาตัวเธอมาบอกว่าเซี่ยอวิ้นหนิงยังไม่ตาย เธอไม่เชื่อเลยด้วยซ้ำ
จนกระทั่งได้เห็นชายหนุ่มปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า
แต่แล้วลู่จิ่วอันก็ตระหนักได้ว่าแท้จริงแล้วเซี่ยอวิ้นหนิงไม่เคยเห็นตนเป็นภรรยาและไม่เคยเชื่อมั่นในตัวเธอ
“ระหว่างโครงการหลงอิ่นกับเมียและลูกชาย แกจะเลือกอะไร?”
ก่อนที่เซี่ยอวิ้นหนิงจะมาที่นี่ ผู้กองฝ่ายสืบสวนอาชญากรได้กำชับให้เขายื้อเวลาจนกว่าตำรวจจะช่วยภรรยาและลูกชายของเขาออกมาได้
“ปล่อยพวกเขาไป แล้วฉันจะมอบโครงการหลงอิ่นให้พวกนาย”
ชายแผลเป็นแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย “ศาสตราจารย์เซี่ย แกไม่มีสิทธิ์ต่อรอง ฉันจะนับถึงสาม ถ้าแกไม่ส่งโครงการหลงอิ่นมา ฉันจะ…”
เซี่ยอวิ้นหนิงขัดจังหวะคำพูดของเขาและอธิบายด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “โครงการหลงอิ่นเป็นความลับสุดยอด ฉันเอาออกมาจากสถาบันวิจัยไม่ได้ แต่ถ้าพวกนายอยากได้ ฉันจะเขียนขึ้นให้ใหม่ หรือจะแลกตัวฉันกับพวกเขาก็ได้…”
สิบห้าปีก่อน เขาแกล้งตายก็เพื่อ ‘โครงการหลงอิ่น’
สิบห้าปีที่ทุ่มเททำงานอย่างหนัก
สิบห้าปีที่ปิดบังชื่อแซ่และตัวตน
ในที่สุดโครงการหลงอิ่นก็ประสบความสำเร็จ เซี่ยอวิ้นหนิงดื่มด่ำกับความสุขที่จะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับภรรยาและลูกชายอีกครั้ง โดยที่ไม่รู้เลยว่าสิ่งที่กำลังรอเขาอยู่คือการลาจากชั่วนิรันดร์
ขณะที่ชายใบหน้าแผลเป็นลังเลอยู่นั้น คบเพลิงที่กำลังลุกไหม้ก็ถูกโยนลงมาจากชั้นสอง
เมื่อเซี่ยอวิ้นหนิงมองเห็นคบเพลิงที่กำลังลุกโชน ก็รีบพุ่งเข้าไปหาภรรยากับลูกชายตนทันที
ชายหน้าแผลเป็นหยิบปืนพกออกมาแล้วยิงไปที่ขาของเซี่ยอวิ้นหนิง
เขาเดินเข้าไปหาเซ่ยอวิ้นหนิงที่ล้มลง จากนั้นก็กระชากผมและชี้ปลายกระบอกปืนไปที่หน้าผากของอีกฝ่าย
“ฉันจะถามแกอีกครั้ง โครงการหลงอิ่นกับลูกเมีย แกจะเลือกอะไร?”
เซี่ยอวิ้นหนิงมีศรัทธาในใจของตน
โครงการหลงอิ่นไม่ใช่แรงกายแรงใจของเขาเพียงผู้เดียว แต่เป็นชีวิตของผู้คนมากมายนับไม่ถ้วน
เขาไม่มีทางยอมให้โครงการหลงอิ่นตกไปอยู่ในมือของศัตรูเด็ดขาด!
“โครง การ หลง อิ่น”
เซี่ยอวิ้นหนิงมองใบหน้าของลู่จิ่วอันและเซี่ยซิงเหอโดยไม่สนสิ่งใด ได้แต่ภาวนาในใจให้ตำรวจรีบมาที่นี่
“จิ่วอัน ขอโทษนะ”
“พ่อขอโทษนะ ซิงเหอ”
ลู่จิ่วอันและเซี่ยซิงเหม่อมองดวงตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดของเซี่ยอวิ้นหนิง สองแม่ลูกรู้สึกสับสนในใจยากจะอธิบาย
หญิงสาวเข้าใจผู้เป็นสามีดี แต่ว่าซิงเหอ… จะให้ลูกชายตัวน้อยของเธอมาตายอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน?
“ฉันชอบคนหัวแข็งแบบแกที่สุด…”
ชายหน้าแผลเป็นกระแทกศีรษะของเซี่ยอวิ้นหนิงลงกับพื้นอย่างแรง
ทันใดนั้นเสียงไซเรนดังแสบแก้วหูก็ลอยมาแต่ไกล
ขณะเดียวกันนั้นเสียงปืนก็ดังขึ้น!
“โถ่เว้ย!”
ชายใบหน้าแผลเป็นถ่มน้ำลาย แล้วลากเซี่ยอวิ้นหนิงออกไปด้านนอกโรงงาน
ตราบใดที่ชายหนุ่มยังอยู่ในกำมือพวกเขา โครงการหลงอิ่นก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
เซี่ยหมิงจิ่นและเมิ่งเจียฉี คู่หญิงโฉดชายชั่วที่อยู่บนชั้นสองรีบวิ่งลงไปที่ชั้นล่างเมื่อได้ยินเสียงไซเรน เมิ่งเจียฉีหยิบไฟแช็กออกมา จากนั้นก็จุดไฟแล้วโยนไปทางลู่จิ่วอันกับลูกชาย
เปลวไฟของไฟแช็กเจอกับน้ำมันเบนซินและลุกไหม้อย่างรวดเร็ว
เซี่ยอวิ้นหนิงกัดเข้าไปที่ใบหน้าของชายคนนั้นราวกับเป็นหมาป่าที่หิวโหย
เขาอาศัยจังหวะที่ชายคนนั้นปล่อยมือเพราะความเจ็บปวดรีบวิ่งอย่างบ้าคลั่งไปทางโรงงานที่ไฟกำลังลุกโหมกระหน่ำ…
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว