หลังจากทานอาหารเสร็จเธอก็ให้ก่อบุญพามาดูที่พัก พี่น้องจึงได้พูดคุยกันตามลำพังเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วาดตะวันมาถึง
หญิงสาวมองบ้านไม้หลังเล็กในสวนสวยอย่างชอบใจ ถ้าอยู่ในตึกใหญ่ก่อบุญคงอึดอัดน่าดู การที่ได้แยกมาอยู่ตามลำพัง มองเห็นสีเขียวร่มรื่นตลอดวันย่อมเป็นอะไรที่ดีกว่ามาก
วาดตะวันสังเกตว่ามีกล้องวงจรปิดเกือบทุกที่รอบบริเวณบ้านก็ยิ่งวางใจ
“ก่ออยู่ที่นี่โอเคหรือเปล่า?”
“ยิ่งกว่าโอเคอีกพี่วาด ก่อชอบมากเลย” น้องชายของเธอพูดตาเป็นประกาย เปิดประตูแล้วให้พี่สาวเดินเข้าไปสำรวจด้านใน
“อยากให้พ่อได้อยู่บ้านแบบนี้จัง พ่อน่าจะชอบ สักวันก่อจะมีบ้านแบบนี้ให้ได้เลย”
วาดตะวันยิ้มอ่อนโยนให้กับความฝันของน้องชาย “ก่อทำได้แน่นอน พี่เชื่อ”
จากนั้นวาดตะวันก็เล่าอาการของบิดาที่เธอแวะไปเยี่ยมมาเมื่อช่วงสาย อาการของมีชัยไม่แย่ลงแต่ก็ไม่ดีขึ้นมากนัก มีบางครั้งที่รู้สึกตัวและถามหาลูกชายแต่ส่วนมากจะหลับด้วยฤทธิ์ยาเสียมากกว่า
“พี่รู้ว่าก่ออยากไปเยี่ยมพ่อ แต่อดทนอีกนิดเถอะ รออีกสักพักพี่จะขอผู้กองให้ก่อไปเยี่ยมพ่อตอนกลางคืน น่าจะไม่มีปัญหา แต่ตอนนี้พวกนั้นคอยจับตาดูอยู่ พี่ไม่อยากให้ก่อออกไปเสี่ยง”
วาดตะวันปลอบน้องชาย ก่อบุญรักบิดามาก เธอเข้าใจดีว่าเขารู้สึกอย่างไรที่ไม่ได้ไปเฝ้า ไม่ได้ดูแลยามบิดาป่วยหนัก นอกจากนั้นยังต้องหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้าน ไม่สามารถออกไปไหนได้ตามใจ
โทรศัพท์ส่วนตัวก็ถูกจำกัดให้ใช้เฉพาะตอน video call หาบิดาและโทรคุยกับเธอเท่านั้น
แต่สถานการณ์ตอนนี้ไม่น่าไว้วางใจจริง ๆ เพราะอีกฝ่ายมีเส้นสายและอำนาจไม่ธรรมดา หากก่อบุญออกไปข้างนอกหรือติดต่อกับใครพร่ำเพรื่อ อาจจะถูกตามเจอได้ไม่ยาก
น้องชายของเธอเป็นพยานคนสำคัญของคดีนี้ แน่นอนว่าพวกมันไม่มีทางปล่อยก่อบุญไว้แน่ ๆ
วาดตะวันเอื้อมมือไปโอบไหล่ผอมกว้างของเขาไว้
“พี่รู้ว่าก่ออึดอัด แต่ขอให้คิดไว้ว่ายอมอดทนคราวนี้ พอจับยอดธงกับนายของมันได้ ก่อก็จะเป็นอิสระ จะได้เรียน ได้ดูแลพ่อ ได้ใช้ชีวิตอย่างที่ฝันไว้ อนาคตที่ดีรอก่ออยู่ แค่ต้องผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้”
ก่อบุญสบตาพี่สาวแล้วพยักหน้า “ครับ ก่อจะอดทน”
วาดตะวันจึงยิ้มสดใส เขย่าไหล่เขาเบา ๆ แล้วฉุดให้ลุกขึ้น
“ดีมาก! ไหน ๆ ก็มีเวลาว่าง พี่ดาวน์โหลดโปรแกรมภาษาอังกฤษมาให้เยอะเลย ต่อไปก่อต้องได้ใช้แน่นอน แบ่งเวลาจากการเล่นเกมมาเรียนไว้ด้วยนะ นี่! อย่ามาทำหลับใส่พี่นะ เดี๋ยวเถอะ!!”
“พี่ดลขา”
“ว่าไงจ๊ะ?”
“พอ.. พอก่อนเถอะค่ะ”
“อยากให้พี่หยุดจริง ๆ เหรอ?”
วาดตะวันครางสะอื้นเมื่อนิ้วเรียวแข็งของเขาบดคลึงหนักหน่วงตรงซอกขานุ่มชื้นของเธอ ในขณะที่ปากลิ้นช่ำชองเฝ้าจูบย้ำ ไล้เลียทั่วสองเต้าอวบงามที่เปิดเปลือยด้วยฝีมือเขาเมื่อหลายนาทีที่ผ่านมา
หลังจากเธอกล่าวลาสมาชิกในครอบครัวของศิวดลรวมทั้งน้องชายของเธอแล้วก้าวขึ้นรถตู้คันหรู ทันทีที่รถเคลื่อนออกจากตัวบ้าน ศิวดลที่นั่งมาด้วยก็กดเลื่อนกระจกฝ้าที่กั้นระหว่างคนขับและฝั่งที่นั่งผู้โดยสารขึ้น
จากนั้นวาดตะวันรู้สึกว่าเบาะใหญ่นุ่มที่เธอนั่งถูกปรับเอนลง ยังไม่ทันที่จะร้องด้วยความตกใจร่างหนาของศิวดลก็เคลื่อนมาทาบทับเธอเอาไว้
วาดตะวันสบตาคมที่ทอประกายปรารถนาเข้มข้นของเขาแล้วหน้าแดง แต่ก็เผยอเรียวปากรับเมื่อชายหนุ่มแนบริมฝีปากอุ่นลงมา ลิ้นเรียวเล็กเกี่ยวกระหวัดลิ้นหนาของเขาอย่างคุ้นเคย
ถ่ายทอดความคิดถึงและโหยหากันและกันอย่างร้อนแรง
เสื้อคลุมนุ่มนิ่มถูกถอดออก ตามด้วยซิปด้านหลังชุดเดรสตัวสวยถูกรูดลงจนสุด เช่นเดียวกับตะขอเสื้อชั้นในลูกไม้สีหวาน ไม่นานนักใบหน้าคมของศิวดลก็ซุกซบคลุกเคล้าทรวงอกเปลือยงามสล้างของวาดตะวันอย่างกระหายหิว
เขาขบเม้ม..เธอแอ่นเบียดเข้าหา เขาปาดไล้เชยชิม..เธอขยับแนบกระชับชิด
ศิวดลผลักเธอลงสู่กระแสธารแห่งความปรารถนาอันเร่าร้อนหวามไหวจนลืมกายลืมใจ ลืมว่าตอนนี้ทั้งคู่อยู่บนรถยนต์คันใหญ่ที่กำลังแล่นพาเธอไปส่งที่บ้าน
“คนดีของพี่” ศิวดลกระซิบพร่าคล้ายละเมอกับใบหูบางใส จูบหนัก ๆ ก่อนจะขบเม้มติ่งหูนุ่มอย่างมันเขี้ยว รับรู้ว่าคนในอ้อมแขนสั่นสะท้านทันที
เขาจะอดใจไปได้อีกนานแค่ไหนกัน ในเมื่อวาดตะวันทั้งสวย หวานและน่าปรารถนาจนกลางกายของเขาแข็งขึงจวนเจียนจะระเบิด
ร่างกายงดงามนี้เสมือนดินแดนวิเศษที่ศิวดลอยากทำความรู้จักทุกซอกหลืบ
ทุกความหอมหวาน นุ่มแน่น ชุ่มชื้นและบริสุทธิ์สะอาดของเธอ
ทุกอย่างที่ประกอบขึ้นมาเป็นวาดตะวัน ศิวดลปรารถนาจะครอบครองไว้ทั้งหมด
แต่ไม่ใช่ตรงนี้ ไม่ใช่เวลานี้
รอยจูบที่อ่อนหวาน อ้อยอิ่งขึ้น เรียกสติที่กระเจิดกระเจิงของหญิงสาวให้กลับมาทีละน้อย
แต่ปลายนิ้วของเขาที่ลูบไว้วนเวียนอยู่ตรงกลีบกุหลาบใต้แพนตี้ตัวบางยังคงส่งกระแสวูบวาบซ่านสะท้านจนเธอต้องครางแผ่ว
“หยุดก่อนนะคะ เดี๋ยวถึงบ้านแล้ว” อันที่จริงตอนนี้เธออยู่ตรงไหนวาดตะวันก็ไม่รู้ แต่ถ้าไม่รีบหยุด
เธออาจจะไม่ใจแข็งพอจะห้ามปรามเขาไว้ได้อีก
ในเมื่อยกหัวใจให้เขาไปทั้งดวง ร่างกายก็เริงร่าตอบสนองสัมผัสของเขาเสียทุกครั้งอย่างน่าอาย
แต่เธอไม่อยากให้ครั้งแรกในชีวิตเกิดขึ้นบนรถ!
ดูเหมือนศิวดลก็คิดแบบเดียวกัน
เขาซุกซบดอมดมเต้าทรวงอวบอิ่มสักพักก็ขยับตัวขึ้นเพื่อจูบกลีบปากของเธอหนัก ๆ
“แต่น้องวาดยังไม่เสร็จ ให้พี่ช่วยนะ” ปลายนิ้วของเขาสอดผ่านแพนตี้ที่ชื้นนิด ๆ เข้าไปทักทายติ่งเนื้อบวมเป่งชุ่มฉ่ำของเธอแผ่วเบา
วาดตะวันสั่นสะท้านกับสัมผัสหยอกเย้าที่เริ่มกดย้ำเคล้าคลึงหนักหน่วงขึ้น
เธอกดริมฝีปากกับบ่าของศิวดลเพื่อสกัดกั้นเสียงครวญครางเมื่อเขาเพิ่มน้ำหนักของปลายนิ้วขึ้นเรื่อย ๆ เรียวขาขยับเปิดทางให้เขาเข้าถึงได้แนบชิดยิ่งขึ้น สะโพกสวยส่ายน้อย ๆ รับสัมผัสรัญจวนอย่างเร่าร้อน
“ชอบไหมซันไชน์ เสียวใช่ไหม หืม?” ศิวดลเอียงหน้ากระซิบกับใบหูบอบบางของแฟนสาว
เธอไม่ตอบ แต่เรียวแขนที่โอบเขาไว้แน่นและเสียงครางสั่นสะท้านนั้นบอกได้ว่าวาดตะวันใกล้จะถึงจุดหมายปลายทางในไม่ช้า
“ปล่อยออกมาเลยที่รัก พี่อยากเห็นน้องวาดเสร็จแรง ๆ” ศิวดลกดย้ำลึกล้ำ รัวเร็วยิ่งขึ้นจนร่างบางสั่นสะท้าน ปลายเล็บของเธอจิกลงบนแผ่นหลังกว้างแข็งแรงของเขาด้วยแรงอารมณ์พุ่งทะยาน
ก่อนจะแตกกระจายสะท้านสะเทือนจนเกร็งกระตุกไปทั้งร่างอยู่ในอ้อมแขนของเขา
“พี่ดล อื้อออ!!” เสียงกรีดร้องสุขสมของเธอถูกปิดกั้นไว้ด้วยริมฝีปากของศิวดล วาดตะวันดื่มด่ำทั้งรสจุมพิตหวานล้ำและความซ่านเสียวรุนแรงไปพร้อม ๆ กันอย่างมึนเมา
มันดีเสียจนเธอหูอื้อตาลายไปหมดแล้ว ศิวดลทำให้เธอรู้สึกเหมือนไม่เคยรู้จักตัวเองมาก่อน
เหมือนศิวดลปลุกผีเด็กสาวใจแตกที่สิงอยู่ในตัวเธอให้ออกมาเริงร่า
ครอบงำวาดตะวันที่แสนจะเรียบง่าย นิ่งสงบคนเดิมอย่างง่ายดาย
จริงอยู่ที่ว่าความสัมพันธ์ทางกายนั้นเป็นเรื่องธรรมดาของคู่รัก
แต่กับศิวดล เขาทำให้เธอปล่อยกายปล่อยใจ ลืมสถานที่ ลืมเวลา ลืมคิดถึงความเหมาะสมใด ๆ
สำหรับคนที่ประพฤติตัวในกรอบและคุมสติตัวเองได้ดีอยู่เสมอเช่นวาดตะวัน
ความรู้สึกแบบนี้ช่างน่าตกใจจริง ๆ
วาดตะวันดันตัวเองออกจากอ้อมกอดอุ่น จัดการเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทางในขณะที่ศิวดลหยิบกระดาษทิชชูมาซับทำความสะอาดกลางกายสาวให้อย่างอ่อนโยนโดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายขัดเขินหนักและพยายามขอทำเอง
สุดท้ายก็ได้แต่นั่งหน้าแดงให้เขาดูแลจนสะอาดเรียบร้อย
จากนั้นจึงถูกดึงไปนั่งบนตักกว้าง ดวงหน้านวลถูกเขาประคองไว้อย่างอ่อนหวาน นุ่มนวล
“คิดอะไรอยู่” เขาเห็นเธอนิ่งไป ทำท่าเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง บางอย่างที่ไม่น่าจะเข้าท่านัก
สังเกตได้จากหัวคิ้วเรียวที่ขมวดนิด ๆ นั่นไง
“อย่าบอกว่าไม่ได้คิดนะ พี่ไม่เชื่อ” ปากบางที่กำลังจะปฏิเสธเลยต้องหุบฉับ
ศิวลดขำคนที่ถูกรู้ทันแล้วได้แต่ทำปากยื่น
“เร็ว! บอกพี่ มีอะไรก็พูดกันตรง ๆ จะได้ไม่มีดราม่าทีหลัง”
วาดตะวันมองหน้าเขานิ่งก่อนจะตัดสินใจถามตรง ๆ
“วาดกำลังคิดว่า วาดใจง่ายไปหรือเปล่า?”
หือ?? ศิวดลกะพริบตางุนงง
“ก็วาดยอมพี่ดลตลอดเลย แล้ว.. แล้ววาดก็.. ก็รู้สึกว่ามันดีมากทุกครั้ง”
ศิวดลมองหน้าแดง ๆ ของคนถามแล้วอยากหัวเราะ
ถ้าวาดตะวันง่าย เขาจะต้องมานั่งเจริญสติข่มอารมณ์อยู่อย่างนี้หรือ
ถ้าวาดตะวันง่าย เขาคงจับเธอกดแล้วงัดเอาแก่นกายที่แข็งจวนระเบิดกระแทกใส่ตัวเธอแล้วขยับโยกแรง ๆ จนรถสะเทือนไปแล้ว
................................................
หนู .... ถ้าอย่างหนูวาดใจง่าย แล้วเจ๊นี่เรียกว่าอะไรดี
ถ้าเป็นเจ๊ เจ๊ลากพี่ดลเข้าบ้านตั้งแต่วันแรกแล้วนะจะบอกให้ 5555+
เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บของคุณดียิ่งขึ้น และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณอย่างได้อย่างส่วนตัว ท่านสามารถอ่านนโยบายคุกกี้เพิ่มเติมได้ที่นี่
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว