ใจภักดิ์รักแค่เธอ

ไหมธิสา

อารดาบิดตัวไปมาเพื่อคลายความปวดเมื่อยเนื่องจากการนั่งพิมพ์งานเป็นเวลานาน ๆ เพราะเจ้านายหนุ่มไม่อยู่เธอจึงจัดการเคลียร์เอกสารบนโต๊ะของตัวเองและของชมนาดจนหมด หลังจากที่ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงคิดที่จะลุกเดินออกไปยืดเส้นยืดสายบ้าง

แต่ขณะที่หญิงสาวกำลังจะลุกยืนขึ้นก็พบว่ามีคนเดินเข้ามาหยุดที่หน้าโต๊ะเธอเข้าพอดี เมื่อดวงตากลมโตมองขึ้นไปก็พบว่าเป็นไหมธิสา นักธุรกิจสาวสวยผู้มีความมั่นใจในตัวเองสูงนั่นเอง เธอตามเทียวไล้เทียวขื่อเจ้านายหนุ่มของอารดามาเป็นปี แต่ก็ดูเหมือนว่าตะวันจะไม่ได้คิดอะไรกับอีกฝ่าย จึงปล่อยให้เวลาล่วงเลยมานานขนาดนี้โดยไม่ทำอะไรเลย

“สวัสดีค่ะคุณไหม” อารดายกมือสวัสดีทักทายคนตรงหน้าตามมารยาทที่พึงมี แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายนั้นจะไม่สนใจเอาเสียเลย

“ฉันมาหาซันตอนนี้เขาอยู่ไหม” ไหมธิสาเชิดหน้ามองเลขาของชายหนุ่มที่ตนเองหมายปองด้วยท่าทีเหยียด ๆ เธอไม่เคยชอบผู้หญิงคนนี้เลย ยิ่งเห็นสายตาของตะวันมองมาที่อีกฝ่ายก็ยิ่งทำให้เธอนั้นรู้สึกไม่ชอบใจทุกครั้ง

“ไม่อยู่ค่ะ คุณซันออกไปข้างนอกกับคุณชมนาดค่ะ”

“แล้วเขาไปไหนเธอรู้ไหม”

“ดิฉันไม่ทราบค่ะ พอดีว่าคุณซันไม่ได้แจ้งเอาไว้ แค่บอกว่าเป็นงานของคุณแม่เท่านั้นค่ะ” เธอตอบด้วยน้ำเสียงฉะฉาน แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่คำตอบที่อีกฝ่ายพอใจเท่าไหร่นัก เพราะใบหน้าที่ถูกแต่งเติมมาเสียจนงดงามบิดเบี้ยวขึ้นมาทันที

“เป็นเลขาประสาอะไร เจ้านายไปไหนก็ยังไม่รู้” ไหมธิสาจับจ้องคนตรงหน้าด้วยความไม่สบอารมณ์ เธออุตส่าห์รีบมาหาเขาหลังจากที่กลับมาจากต่างประเทศ แต่ชายหนุ่มกลับไม่อยู่เสียได้ แล้วแบบนี้จะไม่ทำให้เธอหงุดหงิดได้อย่างไรกัน ส่วนนังเลขาหน้าจืดนี่ถามอะไรก็ไม่รู้เรื่องสักอย่าง คิดแล้วก็อดหงุดหงิดไม่ได้จริง ๆ

“เอ่อ...ขอโทษค่ะ พอดีอายไม่ใช่คนรู้มาก ถ้าเจ้านายไม่บอกก็แสดงว่าคงไม่อยากให้รู้ ในเมื่อคุณไหมอยากรู้ทำไมไม่โทรหาคุณซันดูล่ะคะ” อารดาไม่ได้อยากจะยอกย้อนอีกฝ่ายแต่อย่างใด แต่เมื่อได้เห็นท่าทีของไหมธิสาแล้วก็อดที่จะประชดออกมาไม่ได้จริง ๆ

“ฉันโทรแน่ยัยคนไร้ประโยชน์” นักธุรกิจสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงกราดเกรี้ยว ในเมื่อชายหนุ่มไม่อยู่แล้วเธออยู่ที่นี่ก็คงจะไม่มีประโยชน์อีกต่อไป ดังนั้นจึงสะบัดหน้าเดินจากไปอย่างไม่ไยดี

อารดาส่ายหัวให้กับความเอาแต่ใจของอีกฝ่าย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอนั้นโดนแบบนี้ แต่แทบจะทุกครั้งที่ไหมธิสามาที่นี่เลยก็ว่าได้ เธอไม่อยากจะถือสาอะไรจึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลยไปเท่านั้น แต่ถ้าหากวันใดที่ไหมธิสาเริ่มคุกคามเธออย่างจริงจัง เธอเองก็จะไม่ยอมให้อีกฝ่ายเข้ามาทำอะไรโดยง่าย ๆ เช่นกัน


วันจันทร์

“สิ้นเดือนนี้พี่ต้องกลับไปทำงานกับคุณแม่ของคุณซันอย่างเต็มตัวแล้วนะจ้ะ หลังจากนี้งานที่บริษัทอายก็คงต้องฉายเดี่ยวแล้ว” ชมนาดที่เพิ่งออกมาจากห้องทำงานของเจ้านายหนุ่มเดินกลับไปหยิบเอกสารบางส่วนที่ยังไม่ได้เซ็นขึ้นมาถือเอาไว้ จากนั้นจึงได้หันไปบอกเรื่องราวที่ได้คุยกับเจ้านายหนุ่มให้หญิงสาวได้ฟัง

“แล้วทำไมคุณท่านถึงเรียกพี่ชมกลับล่ะคะ” อารดาวางมือจากการพิมพ์เอกสารแล้วหันไปถามชมนาดอย่างสงสัย

“ท่านเปิดธุรกิจใหม่น่ะ แต่ยังหาคนที่ไว้ใจไม่ได้ก็เลยต้องให้พี่กลับไปช่วยงานก่อน” ชมนาดอธิบาย

“แล้วคุณซันว่ายังไงบ้างเหรอคะ” เธอหันไปหยิบเอกสารที่ปริ้นออกมาใส่แฟ้มแล้วหันไปถามอีกฝ่าย

“อายเคยเห็นคุณซันกล้าหือกับคุณแม่ด้วยเหรอ” เลขาสาวเคาะห้องเจ้านายหนุ่มแล้วหันไปถามด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดี

“นั่นสิคะ” หญิงสาวถือแฟ้มเอกสารตามอีกฝ่ายเข้าไปเมื่อได้ยินเสียงอนุญาต

“นินทาอะไรผมอยู่ครับ” ชายหนุ่มที่ได้ยินชื่อของตัวเองแว่ว ๆ เงยหน้าถามเลขาสาวทั้งคู่ที่เดินเข้ามาพร้อมแฟ้มเอกสาร

“ก็เรื่องที่พี่ต้องกลับไปทำงานกับคุณแม่ของคุณซันยังไงล่ะคะ”

“อ๋อ ทำไมเหรอครับ หรือว่าอายกลัวว่าผมจะใช้งานคุณหนักเกินไปเหรอครับ” เขาพยักหน้าเข้าใจแล้วหันไปหยอกล้ออารดา

“ไม่ใช่นะคะ อายก็แค่สงสัยเท่านั้นเอง อีกอย่างอายทำงานกับพี่ชมมานานพอ ๆ กับคุณซัน พอบอกว่าพี่ชมจะไปทำงานที่อื่นก็เลยรู้สึกใจหายนิดหน่อยน่ะค่ะ” หญิงสาวปฏิเสธเป็นพัลวัน เพราะกลัวว่าเจ้านายหนุ่มนั้นจะเข้าใจเธอผิดไป

“โอ๋ ๆ เด็กน้อย พี่ไม่ได้หายไปไหนสักหน่อย” ชมนาดลูบศีรษะเล็กอย่างเอ็นดูเมื่อรู้ว่ารุ่นน้องเข้าใจผิดมหันต์

“คุณชมเขาต้องเทียวไปเทียวมาระหว่างที่บริษัทของเรา และบริษัทของแม่ผมอยู่เรื่อย ๆ ครับ ยังไงพวกคุณก็ต้องได้เจอกันแทบทุกอาทิตย์อยู่แล้ว” เขาอธิบายให้หญิงสาวฟังด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

“จริงเหรอคะ” เลขาสาวแสดงท่าทีดีใจเหมือนเด็กจนชายหนุ่มต้องอมยิ้มให้อย่างเอ็นดู ไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็ดูเหมือนว่าจะมีเสน่ห์ในตัวเองเสียเหลือเกิน แล้วแบบนี้จะไม่ให้รักไม่ให้หลงได้ยังไงกันล่ะ

“ใช่จ้ะ” ชมนาดพยักหน้ายืนยัน

“แบบนี้ค่อยโล่งใจหน่อยค่ะ” หญิงสาวถอนหายใจออกมาอย่างสบายใจ แม้จะไม่ได้นั่งทำงานด้วยกันเหมือนเช่นทุกวัน แต่ก็ยังได้เจอหน้าและพูดคุยเพียงเท่านี้ก็ดีแล้ว

“นี่ทำอะไรกันอยู่เหรอคะเนี่ยอยู่กันครบเชียว” ไหมธิสาที่เดินเข้ามาโดยไม่ได้เคาะประตูเอ่ยทักทายทั้งสามคนอย่างเป็นกันเอง ภายในมือของเธอถือถุงของฝากแบรนด์ดังเอาไว้ ทำให้ชมนาดและอารดาจึงได้แต่มองหน้ากันไปมา เนื่องจากไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวอย่างไรกับสถานการณ์เช่นนี้ จะเดินออกไปเจ้านายก็ยังไม่อนุญาต จะอยู่ต่อก็กลัวจะเป็นการเสียมารยาท

“พอดีผมกำลังคุยเรื่องงานกันอยู่ครับ คุณไหมมาหาผมถึงที่นี่มีธุระอะไรรึเปล่า” ตะวันมองผู้เข้ามาใหม่แล้วตอบอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“ถ้าไหมไม่มีธุระก็มาหาไม่ได้เหรอคะ” ไหมธิสาเดินเข้ามายืนข้างชายหนุ่มแล้วถามด้วยน้ำเสียงน้อยอกน้อยใจ แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีผลต่อชายหนุ่มเท่าไหร่นัก เนื่องจากเขายังคงทำหน้านิ่งเสมอต้นเสมอปลายแตกต่างจากก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง

“เอ่อ..ชมกับน้องอายขอตัวก่อนนะคะ” ชมนาดเอ่ยขัดจังหวะของทั้งคู่ เพราะตนเองนั้นมีงานที่จะต้องทำต่อ และเธอก็ไม่อยากจะนั่งอยู่ในห้องทำงานของเจ้านายอีกต่อไป เนื่องจากไม่ชอบนิสัยของหญิงสาวผู้มาใหม่เอาเสียเลย

“ใช่ค่ะ พอดีว่ามีงานค้างอยู่ขอตัวนะคะ” อารดากล่าวเสริม

“ครับ” ตะวันพยักหน้าอนุญาตหลังจากที่ได้เห็นท่าทีอึดอัดของเลขาสาวทั้งคู่ แม้จะไม่อยากให้ไหมธิสามาหาเขาแต่ชายหนุ่มก็ไม่อาจจะห้ามอีกฝ่ายได้ เนื่องจากยังมีเรื่องธุรกิจที่ต้องคุยกันอยู่ ดังนั้นจึงได้แค่เพียงปล่อยเลยตามเลยไปก่อนเท่านั้น


เมื่อได้รับการอนุญาตทั้งคู่ก็รีบเดินออกมาจากห้องทันที ชมนาดมีท่าทีไม่พอที่จู่ ๆ อีกฝ่ายก็เดินพรวดพราดเข้าไปเช่นนั้น เป็นถึงนักธุรกิจแต่กลับไร้มารยาทขั้นพื้นฐาน แล้วแบบนี้จะไม่ทำให้เธอหงุดหงิดได้อย่างไรกัน

“ผู้หญิงอะไรมารยาทไม่มี ประตูก็ไม่เคาะ เดินดุ่ม ๆ เข้ามาได้ ดีนะที่ไม่ได้คุยเรื่องสำคัญไม่อย่างนั้นล่ะเป็นเรื่องแน่” เลขาสาวรุ่นพี่ส่ายหัวพร้อมกับเอ่ยตำหนิไหมธิสาทันทีที่ปิดประตูลง

“ทำไมเหรอคะ” อารดาที่เดินตามออกมาถามอย่างสงสัยในคำพูดของอีกฝ่าย

“ก็คุณท่านไม่ค่อยชอบคุณไหมเท่าไหร่ แล้วถ้ายิ่งรู้ว่าไม่มีมารยาทแบบนี้คงสั่งให้คุณซันเลิกคบไปนานแล้วล่ะ” ชมนาดไม่ได้ปิดบังเรื่องราวที่รับรู้มา เพราะคุณหญิงจันทรานั้นไม่ชอบคนที่ไม่มีกาลเทศะและไม่รู้มารยาทเป็นที่สุด ยิ่งผู้หญิงที่ตามติดผู้ชายต้อย ๆ เช่นนี้ก็ยิ่งไปกันใหญ่ ดังนั้นอย่าหวังเลยว่าอีกฝ่ายจะได้เข้ามาเป็นสะใภ้ได้ง่าย ๆ คะแนนติดลบขนาดนี้ไม่มีทางผ่านด่านมารดาของชายหนุ่มได้อย่างแน่นอน

“ท่านใจร้ายขนาดนั้นเลยเหรอคะ” หญิงสาวที่ไม่ค่อยได้ใกล้ชิดกับมารดาของเจ้านายหนุ่มหันไปกระซิบกับรุ่นพี่สาว เพราะกลัวใครจะมาได้ยินเข้า

“ใจร้ายที่ไหนกันท่านใจดีมากเลยล่ะ แต่ท่านไม่ชอบผู้หญิงที่ตามเทียวไล้เทียวขื่อผู้ชายแบบนี้มันดูไม่เรียบร้อยจ้ะ คุณไหมก็เลยไม่ถูกใจท่านเท่าไหร่ อีกอย่างอายก็เห็นว่าคุณไหมเขาตามคุณซันมาตั้งเป็นปีแล้ว แต่คุณซันก็ไม่มีทีท่าว่าจะเล่นด้วยเธอก็ไม่ยอมถอดใจสักที ไม่รู้ว่าไปเอาความมั่นใจนี้มาจากไหน”

“เธอคงชอบคุณซันมากนะคะเลยทำแบบนี้”

“เฮ้อ~ ทำงานกันดีกว่า เดี๋ยวเขาออกมาได้ยินเดี๋ยวเป็นเรื่องอีก” ชมนาดถอนหายใจอย่างไม่ออกความเห็น การตัดสินใจทุกอย่างอยู่ที่เจ้านายของเธอเท่านั้น หากตะวันรักชอบอีกฝ่ายเธอก็คงจะทำอะไรไม่ได้อยู่ดี ดังนั้นจึงต้องปล่อยแล้วแต่จะเป็นไปเป็นการดีที่สุดแล้ว

“ค่ะ”

รีวิวจากผู้อ่าน
ยังไม่มีรีวิวสำหรับเรื่องนี้

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว