“ฮื่อๆๆไอ้เลว ไอ้ชั่ว ไอ้ผู้ชายชาติหมา ไอ้สารเลวฮึ่กๆ”
เสียงกรีดร้องโวยวายด่าทอผู้ชายที่ไหนสักคนดังขึ้นปนเสียงสะอื้นครางสั่นไหวอยู่ที่บนเค้าเตอร์บาร์ในคลับแห่งหนึ่ง
“ทำอย่างงี้กับฉันได้ยังไง ทำได้ยังไงฮะฮึ่กๆทำไมใจร้ายอย่างงี้”
เสียงพร่ำรำพันยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะที่มือยังคงยกแก้วเครื่องดื่มสีอำพันกระดกเข้าปากอย่างไม่ยั้งราวกับว่านั่นคือน้ำเปล่า
“มองอะไรไม่เคยเห็นคนอกหักรึไง...ฮือๆเดี๋ยวแม่ก็จับทำผัวซะนี่!”
บรรดาบาร์เทนเดอร์ที่ยืนมองเมื่อครู่ต่างพากันหลบสายตากันเป็นแถวไม่ได้กลัวถูกจับมาทำผัวหรอกนะ แต่ไม่อยากเอาชีวิตไปเสี่ยงกับคนเมาแบบนี้ต่างหากล่ะ มันไม่คุ้ม! ถึงผู้หญิงคนนี้จะสวยพอดูก็เถอะแต่...
ตอนนี้มันก็ไม่ได้น่าดูเลยสักนิด ใบหน้าขาวเนียนที่ตอนนี้ต่างเลอะเปลอะเปลื้อนเป็นรอยกระดำกระด่างเพราะมาสคาร่าที่ปัดเอาไว้อย่างสวยถูกหยาดน้ำตาสีไสไหลทับ ริมฝีปากสีแดงที่ตกแต่งไปด้วยลิปสติกก็เปลอะกระจายรอบริมฝีปากเป็นรอยกว้างจากการยกแก้วเหล้ากระดกเข้าปากแล้วปาดมันซ้ำไปซ้ำมาจนริมฝีปากแดงเถือกไปแทบทั้งหน้า
มือบางกระแทกแก้วเหล้าวางอย่างแรงหลังจากยกขึ้นดื่มจนหมดแก้วแล้วเรียกบาร์เทนเดอร์ให้เอามาเสริฟให้อีกชุดนึง ระหว่างที่รอเธอก็หยิบมือถือขึ้นมาจากในกระเป๋าสะพายแล้วกดจิ้มๆอยู่สองสามทีจึงกดขึ้นโทรออกไปยังปลายสายที่ต้องการ
“ฮาาโหล ครายอ่าา”
ในห้องนอนสุดหรูร่างสูงใหญ่กำลังนอนพิงพนักหัวเตียง ใบหน้าคมคายกำลังเชิดหน้าสูดปากสีหน้าเหยเก ส่งเสียงร้องครวญครางเสียงดังลั่นห้องซึ่งโชคดีตรงที่ว่าในห้องเขามันเก็บเสียงไง ไม่อย่างงั้นใครต่อใครคงได้ตกใจกันบ้างล่ะ
ตรงกลางหว่างขาแข็งแรงมีศีรษะใครบางคนกำลังก้มๆเงยๆอยู่ ท่อนลำอวบใหญ่ถูกอ้าอมไว้เกือบมิดลำอยู่ในเรียวปากอิ่มที่กำลังดูดเลียมันอย่างคนหิวกระหาย
“อ่าาห์ เร็วอีก ซี๊ดดด ใกล้แล้วอ่าาาส์”
ชายหนุ่มกระแทกกระทั้นสะโพกสอบเข้าหาเรียวปากเล็กอย่างเร่าร้อน มือหนาจับศีรษะเล็กไว้มั่นส่งแรงกระแทกแก่นกายที่แข็งและร้อนเข้าไปเสียดสีกับริมฝีปากอย่างเมามันส์ ความเสียดเสียวแล่นพล่านไปกระจุกอยู่ที่ปลายหัวหยักเตรียมกระจายความสุขสมผ่านเข้าไปในเรียวปากอิ่ม
‘อ่าาาส์’
ใกล้แล้ว...
“ซี๊ดดด อ๊าาาาส์”
อีกนิดสินะ...
ตือ ตื่อ ดือ (เอาเป็นว่าเสียงโทรศัพท์ดังอ่ะเนอะ) ดังขึ้นตรงหัวเตียงเสียงดังลั่น
พับผ่าสิวะ! ใครแม่งเสือกโทรมาตอนนี้วะ!
จำใจดึงท่อนเอ็นแข็งขืนดิ้นหงึกๆออกจากปากเล็กนั้นก่อน สีหน้าสุดแสนเสียดายของสาวเจ้าทำให้เขาขยับปากเบาๆปลอบใจ
‘เดี๋ยวมาให้ดูดต่อรอแป๊บ’
แม้อยากจะกลั้นใจกระแทกให้มันเสร็จๆไป แต่ทว่าด้วยโทรศัพท์ที่ดังกังวาลอยู่ทำให้ชายหนุ่มต้องจำใจต้องรับมันก่อนแล้วค่อยมากระแทกต่อก็ได้วะ
ตี๊ด เสียงกดรับ
“ฮาาโหล ครายอ่าา”
เสียงอีขี้เมาที่ไหนวะ เมื่อกี้ตอนกดรับไม่ทันได้ดูเบอร์ มือหนายกหูลงมาจิ้มดูที่เบอร์ว่าเป็นสายของใครก่อนจะเบิกตา กว้างอย่างตกใจ
“อีมิ้ว อะไรของมึงเนี่ย นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วรู้จักเวล่ำเวลาบ้างไหมมึงเนี่ย แล้วนี่อะไรมึงเมาหรือไงเนี่ย”
เสียงบ่นและสบถดังเล็ดลอดไปตามสายในขณะที่ที่ปลายสายนิ่งเงียบและเอาแต่ร้องไห้ออกมา
“อีมิ้ว มึงฟังกูไหมเนี่ยแล้วเป็นเหี้ยอะไรของมึงอีก ตอนนี้อยู่ที่ไหนบอกมาเดี๋ยวกูไปรับ”
ไม่ต้องส่งไม่ต้องเสร็จมันแล้วไอ้เหี้ยแม่งให้มันค้างแข็งโด่ยังงี้แหละ
ปลายสายส่งเสียงบอกสถานที่เรียบร้อยมือหนากดวางแล้วรีบแต่งตัว หลังจากนั้นก็คว้ากระเป๋าเงินควักแบงค์พันออกมาปึกใหญ่ส่งให้หญิงสาวที่นั่งหน้าเง้าหน้างออยู่ตรงปลายเตียง
“พี่ขอโทษครับ...วันนี้รีบจริงไว้วันหลังเราค่อยมาต่อกันใหม่เนอะตอนนี้พี่ต้องรีบไปแล้ว”
“ก็ได้ค่ะ”
ก่อนไปก็เจ้าหล่อนก็มากดจูบที่ริมฝีปากหยักครู่ใหญ่ ให้ตายเถอะเจ้าลูกชายแข็งโด่จนจะทะลุกางเกงอยู่แล้วแม่คุณเอ้ย!
เพราะยัยเพื่อนตัวดีแท้ๆดันเป็นห่าอะไรไม่รู้วันนี้
ขับรถไม่ถึงสิบห้านาทีก็มาถึงคลับที่เพื่อนโทรบอกเพราะที่นี่อยู่ไม่ไกลจากบ้านของเขามากนัก หลังจอดรถไว้แล้วก็เดินหาร่างบางที่คุ้นเคยสักพักก็เจอ ร่างบางอยู่ในชุดกระโปรงที่เจ้าตัวจงใจแต่งมาเป็นพิเศษในวันนี้
“อีมิ้ว ทำไมมานั่งกินเหล้าเมาอย่างนี้ล่ะ ไหนคืนนี้มึงว่าจะไปฉลองวันครบรอบกับผัวมึงไม่ใช่หรอไง”
ที่ถามก็เพราะว่าเมื่อหัวค่ำที่คุยกันมันยังบอกว่าจะแต่งตัวสวยไปเซอร์ไพรส์วันครบรอบสามปีกับผัวมันอยู่นี่นา
“ไอ้มัตถ์เพื่อนร๊ากกกมาแล้วหรอ ฮือๆๆๆก็เออออดิ...อีเหี้ยยยยแม่งเฮงซวยยยชิบหาย วันครบรอบส้นตีนนนอารายยยวะ”
เสียงยืดยานคางตอบมาด้วยอารมณ์โมโห มือบางทุบเปรี๊ยงอีกทีที่โต๊ะทิ้งท้าย
“เป็นไรไหนเล่าดิ๊” ถามพลางสำรวจเนื้อตัวเพื่อนอีกครั้ง หน้าตาดูไม่ได้จริงๆว่ะ มาสคาร่าเปื้อนขอบตาดำปื้อ ลิปสติกสีแดงก็เลอะกระจายไปตามขอบปาก ดวงตานี่ฉ่ำเยิ้มไปหมด
นี่มันเมรีขี้เมาชัดๆ!
อะไรทำให้เพื่อนผู้แสนดีของเขาเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้วะน่ะ
“ฮะ..ฮึ่กๆ มึงงงงไอ้เหี้ยพี่เตอ่าาามันนอกจายกู มึงได้ยินกูหม๊าย ฮือๆวันครบรอบทั้งทีกูเสือกไปเจอมันกำลังเอากับอีเหี้ยยยที่หนายยยก็ไม่รู้ เซอร์ไพรส์ชิบหายไหมล่ะมึงเอื้อก...กูเจ็บบบอ่าา”
มันพูดไปก็สะอื้นไปเรอเอื้อกไปพลางท่าทางจะไม่ไหวแล้วล่ะ
“เอางี้เช็คบิลก่อนแล้วเรากลับไปคุยที่บ้านกูดีกว่าดีไหม”
“ม่ายอาวววกูจะกินที่เน่”
“ที่บ้านกูก็มีให้กินมีเยอะกว่าที่นี่ด้วยไปเถอะ”
“จริงหรอออมึงอย่าหลอกกูน้าา”
“มึงก็รู้กูเคยหลอกมึงหรอ”
“เออๆก็ด้ายยย”
หลังจากเช็คบิลเสร็จมัตถ์ก็พยุงแม่เมรีขี้เมาให้ไปที่รถ จัดท่าจัดทางให้นอนบนเบาะรถจนได้ที่พอดีเขาก็สตาร์ทรถขับออกตรงไปยังที่บ้านที่เพิ่งจากมา
“อีมิ้วถึงแล้ว ตื่นๆ” หลังจากขับรถมาถึงหน้าบ้านเขาก็เขย่าร่างเล็กที่นอนหลับไหลไม่ได้สติอยู่ให้ตื่น แต่พอคิดไปคิดมาให้มันหลับแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะมันจะได้ไม่ตื่นมาโวยวายให้เขาปวดหัวอีก
เมื่อคิดได้อย่างนั้นเขาก็เลยเดินอ้อมไปเปิดประตูด้านข้างฝั่งคนขับแล้วช้อนร่างบอบบางขึ้นมาอุ้มไว้ในอ้อมแขนอย่างเบามือ
ไม่ใช่อะไรกลัวมันตื่นแล้วมาอาละวาดนี่แหละ!
อุ้มพามันไปนอนไว้บนโซฟาตัวโปรดของเขาก่อนแล้วเดินกลับไปปิดประตูบ้านอีกครั้ง
ระหว่างเราสองคนครบเป็นเพื่อนกันมานานหลายสิบปีแล้วตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมลามมายันเข้ามหาวิทยาลัยก็ยังได้มาเรียนด้วยกันจนจบและมาทำงานมันก็เข้ามาทำงานที่บริษัทของเขาอีก
เราสนิทกันถึงขั้นกินนอนด้วยกันมาแล้วแต่ว่าไม่มีอะไรเกินเลยนะ แบบว่าเราตั้งสถานะไว้ว่าเพื่อนจะไม่กินเพื่อนด้วยกัน แล้วเราสองคนก็รักกันมากไม่ว่ามีอะไรหรือว่าอีกฝ่ายได้รับความเดือดเนื้อร้อนใจอะไร อีกฝ่ายก็จะไม่นิ่งนอนใจต้องรีบมาหากันเหมือนอย่างที่เขาทำอยู่ในตอนนี้
แต่สนิทกันมากแค่ไหนพวกเราก็ไม่เคยล้ำเส้นคำว่าเพื่อนกันเลยสักครั้ง...
...จนกระทั่ง
ได้มาเห็นท่านอนของมันนี่แหละ สงสัยเขายังไม่ได้ปลดปล่อยจากเมื่อกี้ พอได้เห็นอะไรวับๆแวมๆเข้าหน่อยก็กระดกหัวชูคอขึ้นมาทันทีเชียวนะ
ไม่ได้ๆนี่เพื่อนไง!
พยายามข่มใจไม่ไหวหันไปมองขาอ่อนขาวๆที่โผล่พ้นชายกระโปรงที่เลิกขึ้นสูงจนเกือบเห็นบั้นท้ายงามงอน เขาเลยตัดสินใจจะอุ้มมันไปนอนในห้องประจำของมันที่บางเวลาเบื่อๆมันก็มาขอนอนด้วยที่นี่
“อื้อ...”
ทันทีที่เขาอุ้มขึ้นมิ้วก็ส่งเสียงครางบิดขี้เกียจพร้อมขยับตัวยุกยิกไปมาจนหน้าอกของมันบดเบียดเสียดสีไปกับหน้าอกของเขา
‘พุธโธ ธรรมโม สังโฆ’ สวดมนต์ในใจเป็นพัลวัน
“อะอุ๊บ...เอืื๊อก”
สุดท้ายมันหันมาอ๊วกใส่เขาซะงั้น ให้ตายเถอะ! เขาจะทำยังไงกับมันดีวะเนี่ย ในบ้านก็มีแค่เขาอยู่คนเดียวเพราะที่บ้านใหญ่มีคนอยู่กันเยอะและเขาไม่ค่อยชอบอยู่กับกฎระเบียบอะไรก็เลยขอแยกมาซื้อบ้านอยู่ต่างหากเอาคนเดียวสบายๆ
ทีนี้ล่ะปัญหาหนักเลยเขา นกเขาก็ดันขันในขณะที่เพื่อนตัวแสบก็เมาและเขาก็ไม่มีใครช่วยปลดปล่อยให้แล้วนอกจากมัน...
“เห้อ!!” ถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วอุ้มมันเข้าไปในห้องน้ำ
วางมันลงในอ่างแล้วตัดสินใจเปิดน้ำเย็นๆฉีดใส่ไปที่ตัวมัน
“อ๊ายยย...เปียกๆอ่าาาฉีดน้ำใส่กูทำไม?” มันนิ่งไปสักพักก่อนจะกรีดร้องโวยวายออกมา
“ก็มึงอ๊วกใส่กูดูดิเปื้อนหมดแล้วเนี่ย”
“แหะๆอ้าวหรอ กูขอโทษ”
ดูท่าว่าโดนน้ำเย็นเข้าไปน่าจะทำให้มันรู้สึกตัวขึ้นมาหน่อย แต่ทว่าสติสตังก็ยังไม่คงที่ดีนัก
“อาบน้ำไปเลยมึงอ่ะ อาบไหวไหม”
ถามมันทำไมวะแล้วถ้าเกิดมันบอกว่าไม่ไหวล่ะ...
“แล้วถ้าไม่ไหวมึงจะอาบให้กูหรือไง?”
นั่นไง!ซื้อหวยทำไมไม่ถูกวะ
“มึงก็นอนมันในห้องน้ำเนี่ยแหละ”
“โห่ ใจร้ายว่ะอาบให้เพื่อนหน่อยก็ไม่ได้ เพื่อนกันกูไม่ถือหรอก นะ...อาบให้กูหน่อย”
แม้จะรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไปแต่มันบังคับตัวเองไม่ได้ไง คุณเคยเป็นไหมเวลาเมาที่สมองคิดอะไรคำพูดก็โพล่งออกไปแบบนั้นแม้มันจะไม่ถูกต้องก็ตาม
“มิ้ว...”
“นะ...”
“มึงนี่นะ...เดี๋ยวตบะกูแตกซะก่อนมึงจะเดือดร้อนขึ้นมา”
“ไม่กลัว....”
“งั้นก็ช่วยไม่ได้....”
.
.
.
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว