ออม เกลียดเวลาที่สามีใช้ให้มาหยิบยืมเงินจากพ่อแม่ของเขาเสียจริง
“คุณแม่อยู่ไหนเหรอคะ” ถามพลางสอดส่ายสายตามองหา
ฐากูร เปิดประตูให้ลูกสะใภ้เดินเข้ามาพลางตอบ “แม่เขาไม่อยู่หรอกหนูออม”
แย่ล่ะ งั้นเธอก็ต้องขอกับเขาแทนน่ะสิ จะโดนเหม็นขี้หน้ากว่าเดิมรึเปล่าเนี่ย ออมทั้งกลัวทั้งเกรงใจแต่ก็ยังต้องออกปากขอเพราะสถานการณ์ในบ้านของเธอไม่ค่อยดีเท่าไหร่
“หนูกับ พี่เชน เอ่อ... อยากจะ เอ่อ รบกวนขอเงินจากคุณพ่อสักสามหมื่นได้มั้ยคะ”
“พ่อก็คิดเอาไว้อยู่แล้ว ไม่งั้นหนูออมจะมาที่นี่ทำไมล่ะใช่มั้ย”
ออมรู้สึกเหมือนหน้าของเธอร้อนจนแทบจะระเบิดด้วยความอับอาย “คุณพ่อหมายความว่ายังไงคะ”
“ก็เวลาเดียวที่ลูกสะใภ้กับไอ้ลูกเลี้ยงตัวดีของพ่อจะโทรมาหรือมาหาก็ต้องเป็นเพราะต้องการอะไรสักอย่างอยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ”
“พูดอย่างนั้นก็ไม่ยุติธรรมซะทีเดียวนะคะ”
“ยุติธรรม? พ่อจะพูดอะไรให้ฟังสักอย่างนะ พ่อกับแม่เจ้าเชนซื้อบ้านสองหลัง หลังนึงพวกแกเข้าไปอยู่โดยไม่ต้องจ่ายเงินสักบาท ค่าไฟค่าน้ำค่าแก๊ส... ฟรี แต่สุดท้ายก็พากันมาขอเงินไม่หยุดไม่หย่อนเพื่อเอาไปซื้อของตอบสนองความต้องการของตัวเองเนี่ยนะ...”
“... ดังนั้นไหนหนูลองพูดว่าไม่ยุติธรรมออกมาอีกสักทีสิ หนูออม”
มันก็ไม่ใช่ว่าเธออยากจะมาขอเองสักหน่อย แต่จะพูดยังไงได้... “หนูค่อยมาอีกทีตอนคุณแม่อยู่ดีกว่าค่ะ”
“ก็ดี แต่ตอนหนูออกปากขอเงินจากเมียพ่ออีกรอบ ช่วยกรุณามองใต้ตาคล้ำ ๆ บวม ๆ นั่นซะให้เต็มตาด้วยนะ” ฐากูรบอกแล้วลุกขึ้นเดินจากไปทันทีโดยไม่รอส่งแขกด้วยซ้ำ
ขากลับออมพยายามขับรถให้ช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้แม้จะรู้ว่ามันไม่มีประโยชน์ เธอเกลียดเวลาที่ต้องบอกคนเป็นสามีว่าเราไม่ได้เงินมาพอ ๆ กับตอนที่ไปขอเงินพ่อแม่เขานั่นแหละ
แต่ในฐานะคนกลางเธอจะทำอะไรได้
ตอนที่เธอกลับมาถึงก็พบว่าเขากำลังนั่งเล่นเกมอยู่เหมือนตอนที่เธอออกไปไม่มีผิด เรียกได้ว่าขาไปอยู่ในท่าไหนพอกลับมาก็ยังอยู่ในท่านั้นเลย
“ออมไม่ได้เงินมาหรอกนะคะ”
เชนหันมามองแล้วหัวเราะ “ไปเจอพ่อแทนที่จะเจอแม่ล่ะสิ พ่อเลี้ยงผมคนนี้ดีทุกอย่างยกเว้นเรื่องเงินนี่แหละ ขี้เหนียวชะมัด”
ออมฟังเสียงหัวเราะน่าเกลียด ๆ ของเขาแล้วก็กลอกตาเพราะคนพูดไม่ได้ดูตัวเองเลยว่ามีสิทธิ์พูดแบบนี้รึเปล่า
“ทำไมเราไม่จัดการเรื่องนี้กันเองล่ะคะ” หลังจากฟังคำพ่อสามีออมก็อดรู้สึกผิดขึ้นมาไม่ได้
“อย่าหาว่าอย่างโง้นอย่างงี้เลยออม ลำพังงานที่คุณทำอยู่น่ะ... เงินเดือนก็ไม่ได้สูงอะไรอยู่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงผมเลย... ผมไม่มีงานทำด้วยซ้ำ เราจะจัดการกันเองได้ยังไง”
พอโดนว่าเงินเดือนไม่สูง ออมก็ขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจทันที... ก็จริงที่หมื่นห้ามันอาจไม่ได้มากมายอะไร แต่ถ้าเขาช่วยทำงานด้วยอีกคน... แต่ละเดือนก็คงผ่านไปแบบไม่ยากลำบากแบบตอนนี้หรอก
“หรือเชนลองหางานดูคะ” พูดจบออมก็ห่อไหล่เข้าหากันทันทีเพราะรู้ดีว่าคนเป็นสามีไม่ชอบให้เธอแนะนำหรือพูดราวกับกำลังสอน
“...” ซึ่งก็จริง เชนกำลังรู้สึกไม่พอใจอยู่นิด ๆ จริง ๆ แต่ก็ไม่อยากทำให้เป็นเรื่องใหญ่ “เอาเถอะ เดี๋ยวผมจะไปขอจากแม่เองก็แล้วกัน”
ฟังถึงตรงนี้ออมก็ยอมรับเลยว่าพ่อสามีพูดถูก เชนยอมทำทุกอย่างจริง ๆ เพื่อเงินแต่จะไม่ยอมทำงาน เขาเรียนต่อมหาลัยเพราะเงินที่คนเป็นแม่กู้ยืมมาให้... แต่สุดท้ายก็เรียนไม่จบแถมผลาญเงินไปมากกว่าค่าเทอมซะอีก
“เชนต้องโทรไปจัดการเรื่องเงินกู้ตอนเรียนด้วยนะคะ” ออมพูดขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่เดินไปหยิบจดหมายที่กองสุมอยู่มาเปิดอ่าน
“โทรไป? แล้วบอกพวกเขาว่าอะไร เราไม่มีเงินเลยนะ”
ออมถอนหายใจแล้วมองผ่านโต๊ะไปที่กระจก... มองสภาพตัวเองและแทบจะจะไม่ได้ด้วยซ้ำว่าใครกันที่กำลังมองกลับมาที่เธอ หญิงสาวละสายตาจากกระจกแล้วลุกขึ้นเดินไปยังห้องนอน เธอมีเรื่องต้องคิด แต่หลังจากล้มตัวลงนอนบนเตียงได้เพียงไม่กี่นาทีสามีเจ้าปัญหาของเธอก็โผล่หัวผ่านประตูเข้ามา
“เอากันมั้ย”
ออมไม่ได้ตอบแต่เฝ้าดูเขาถอดกางเกงออกจนกระทั่งปีนขึ้นมาอยู่เหนือตัวเธอในที่สุด สมองของเธอหยุดทำงาน ร่างกายก็ชาไปหมด เธอไม่เปลี่ยนสีหน้าด้วยซ้ำตอนที่โดนถอดกางเกงและชั้นในออก
สามีของเธอไม่เคยพูดคำรัก ไม่เคยแสดงความรู้สึกอ่อนหวานหรืออารมณ์ใด ๆ ออกมานานมากแล้ว เขาไม่เคยสังเกตเห็นน้ำตาของเธอที่ไหลอาบแก้มลงมาด้วยซ้ำ ร่างเล็กโดนกระแทกอยู่อย่างนั้นพักใหญ่โดยไม่มีความรู้สึกร่วมใด ๆ เลย จนกระทั่งน้ำหนักที่ทับอยู่บนตัวหายไปเธอถึงรู้ว่าเขาเสร็จ
เธอมองสามีเดินออกจากห้องเพื่อกลับไปเล่นเกมของเขาต่ออีกครั้งโดยไม่ได้จูบลาหรือพูดอะไร ออมละสายตาจากประตูแล้วพลิกตัวไปอีกฝั่ง... น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลลงมาราวกับเขื่อนแตก ร่างเล็กสะอื้นจนตัวโยนอยู่บนเตียงโดยไม่มีใครรู้หรือใส่ใจ
“ฮึก ฮือ...”
หลังจากที่รู้สึกว่าร้องไห้พอแล้วเธอก็ลุกจากเตียงไปทำความสะอาดตัวเองในห้องน้ำจากนั้นก็ออกจากบ้านทันที... เธอทนอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ไหวแล้ว
ต้องออกไป... แม้ว่าจะไม่รู้ว่าไปที่ไหนก็ตาม
“จะเข้ามารึเปล่า” เฮือก ออมสะดุ้งโหยงพลางหันไปมองแหล่งกำเนิดเสียงทันทีด้วยความตกใจ แต่พอเงยหน้าขึ้นมาเธอก็รู้ทันทีว่าได้ขับรถออกมาถึงบ้านพ่อแม่สามีแล้ว... ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ตอนแรกเธอไม่มีที่จะไปด้วยซ้ำแต่สุดท้ายก็ขับรถมาถึงที่นี่จนได้
สมองเล็ก ๆ คิดทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ และยอมก้าวเท้าลงมาจากรถอย่างว่าง่าย
สองร่างยืนเคียงกันอยู่นอกรถอย่างนั้นด้วยท่าทางกระอักกระอ่วน ฐากูรเพิ่งจะโมโหใส่ลูกสะใภ้ไปหยก ๆ ทั้งที่รู้ว่าอีกฝ่ายจำใจต้องมาขอเงินเขาตามคำสั่งของไอ้ลูกชายตัวดี ชายวัยกลางคนเดินนำอีกฝ่ายเข้ามาในบ้านเงียบ ๆ
กระทั่งมาถึงห้องนั่งเล่นเขาก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นมา “หนูออม พ่อขอโทษนะที่พูดแบบนั้น... พ่อไม่ได้ตั้งใจ”
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าเล็กของออมทันทีเมื่อได้ยินคำพูดแรกที่แสนจะอ่อนโยนหลังจากที่ต้องเจอกับเรื่องแย่ ๆ มาทั้งวัน
“ไม่เป็นไรค่ะ” ออมรับคำขอโทษของเขาเอาไว้โดยไม่พูดมาก “... ออมได้กลิ่นกาแฟ”
“พ่อเพิ่งชงไปเมื่อกี้เอง... สักแก้วมั้ย”
ออมลุกขึ้นทันที “เดี๋ยวออมไปเอามาเองค่ะ” เธอเคยช่วยเตรียมอาหารตอนมาฝากท้องที่นี่จึงรู้ทางไปครัวของพวกเขาเป็นอย่างดี ขากลับหญิงสาวถือแก้วกาแฟมาสองแก้วแล้ววางมันลงตรงหน้าพ่อสามีแก้วหนึ่ง... เสี้ยววินาทีนั้นเธอเห็นเขามองมาที่เสื้อของเธอแล้วรีบหันหน้าหนี
หญิงสาวอมยิ้มและไม่เปิดโปงเขา แต่เมื่อเธอนั่งลงก็เห็นสีหน้าเคร่งเครียดอย่างปิดไม่มิดของเขาก็นึกสงสัยว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นรึเปล่า
ฐากูรพยายามไม่มองไปที่ลูกสะใภ้ แต่เมื่อเธอนั่งลงเขาก็พูดขึ้น “พ่ออาจจะเอาให้ได้สักหมื่นนึงนะ”
“แต่ออมคิดว่าคุณพ่อไม่มีเงิน”
“ก็ไม่มีนั่นแหละ แต่ก็พอจะหาได้”
ออมพยายามสบตาพ่อสามี “แต่นั่นมันสำหรับที่คุณพ่อกับคุณแม่จะใช้ระหว่างเดือนนี้ไม่ใช่เหรอคะ”
ฐากูรกลืนน้ำลายแล้วบอก “ไม่เป็นไรหรอก”
ออมละอายใจแทบตาย เธอมัวแต่ยุ่งอยู่กับปัญหาของตัวเองจนไม่ทันได้สังเกตความผิดปกติของคนตรงหน้าอย่างน่าละอายที่สุด “เกิดอะไรขึ้นรึเปล่าคะ หรือว่าคุณแม่ไม่สบาย” เธอเห็นความเจ็บปวดบนสีหน้าของเขาทันทีที่ได้ยินคำถามและนั่นแสดงว่าเธอมาถูกทางแล้ว
“พ่อก็ไม่รู้... หึ แม่เขาน่ะหัวแข็งเกินกว่าจะยอมไปหาหมอ บอกแต่ว่าพอไปถึงหมอก็บ่นแต่เรื่องน้ำหนักตัวของเขาไม่หยุด เขาเบื่อเลยไม่อยากจะได้ยินมันอีกต่อไปแล้ว”
ออมวางมือลงบนมือของเขา หนุ่มใหญ่เงยหน้าขึ้นสบตาที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงของหญิงสาว...
จากนั้นร่างหนาของคนเป็นพ่อสามีก็รั้งร่างของเธอไปโอบกอดเอาไว้อย่างแนบแน่น ฐากูรสับสนไปหมด เขารักภรรยาของเขา... แต่พอได้อยู่ใกล้ ๆ ลูกสะใภ้ที่ทั้งสวยแล้วก็ หอม แบบนี้เขาก็อดใจไม่ได้จริง ๆ
“คุณพ่อคะ” น้ำเสียงของออมไร้แววตื่นตระหนก แต่การที่หน้าอกของเธอแนบไปกับอกเขาแบบนี้มันก็น่ากระอักกระอ่วนมากจริง ๆ
เสียงของลูกสะใภ้เรียกสติฐากูรกลับมาอย่างรวดเร็ว เขาผลักร่างของลูกสะใภ้ออกห่างทันที “พ่อขอโทษ... พ่อไม่ควรทำแบบนี้”
“นานแค่ไหนแล้วคะ?” อาการงุ่นง่านจนเผลอใจของเขาแบบนี้มีเพียงแค่สาเหตุเดียวเท่านั้น
ฐากูรรู้ดีว่ากำลังโดนถามเรื่องอะไร ใบหน้าหล่อเหลาที่มีริ้วรอยแห่งวัยแดงเรื่อทันทีด้วยความเขินอาย “แม่เขาไม่สบายมาพักใหญ่แล้ว พ่อก็ไม่อยากบังคับเขาน่ะ” ด้วยวัยเพียงแค่ห้าสิบปลาย ๆ เขายังคงทำเรื่องแบบนั้นได้สบาย ๆ คืนละหลายครั้งด้วยซ้ำ
“ยอมอยู่เฉย ๆ ดีกว่า...” เขาพูดเสริม
ความรักและความเคารพที่พ่อสามีมีต่อภรรยาของเขาทำให้หัวใจของออมอบอุ่นขึ้นจนน้ำตาคลอ หลังจากเหตุการณ์บนเตียงอันแสนเลวร้ายกับสามีของเธอผ่านไปหญิงสาวก็อ่อนไหวกับเรื่องแบบนี้พอสมควร
เธอคงได้แต่หวังว่าสักวันหนึ่งเขาจะรักและห่วงใยเธอแบบนี้บ้าง
ออมภาวนาอยู่ในใจแล้วเป็นฝ่ายอ้าแขนไปโอบกอดพ่อสามีเอาไว้เพื่อแบ่งปันความเจ็บปวดและน้ำตาของเราไปด้วยกัน
ฐากูรตะลึงไปครู่หนึ่งแล้วกดร่างเข้าหาเธออย่างคนที่โหยหาความอ่อนโยนจากใครสักคน “ตอนแม่เขาถามว่าพ่อต้องการอะไรเป็นของขวัญวันเกิดหรือตอนปีใหม่... คำตอบของพ่อก็ไม่ต่างกันคือไม่ต้องการอะไรนอกจากเขา”
“หนูไม่รู้หรอกว่าสำหรับพ่อ การที่ต้องขอร้องใครเพื่อเซ็กซ์มันยากแค่ไหน... แต่ผลสุดท้ายพ่อกลับได้แค่ของขวัญที่ใช้เงินซื้อหามาแทน ไหนจะตอนนี้แม่เขาก็ดันมานอนป่วยอยู่บนเตียงอีก ตัวช่วยของพ่อมีแค่มือข้างหนึ่งกับหนังโป๊ดี ๆ สักเรื่องเท่านั้น พ่อ... พ่อหมดหนทางแล้ว”
เขากำลังแบ่งปันเรื่องราวส่วนตัวให้เธอฟังแบบหมดเปลือกเพราะเธอดันมาอยู่ตรงหน้าในตอนที่เขากำลังอ่อนแอที่สุด... ออมไม่เคยคิดเลยว่าพ่อสามีที่เข้มแข็งและแข็งกร้าวแบบเขาจะมีช่วงเวลาแบบนี้ด้วยเหมือนกัน
ราวกับได้พบคนหัวอกเดียวกัน หลังจากฟังเขาจบออมก็เริ่มระบายความทุกข์ของตัวเองต่อ
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว