18
นภัสมองบ้านที่ปิดไฟเงียบด้วยความแปลกใจ เพราะปกติแล้วเวลานี้บ้านจะต้องมีแสงไฟเปิดอยู่เสมอ เมื่อก้าวเข้ามาด้านใน ความเงียบที่สัมผัสทำให้รับรู้ได้ถึงความผิดปกติ ในใจแอบกลัวว่าทั้งสามคนจะทำอะไรบางอย่าง เธอเดินเข้าไปที่ห้องครัว สักพักดวงตาคู่หวานก็มาหยุดลงที่กระดาษขนาดเอสี่ที่ถูกติดไว้ตรงตู้เย็น มือบางเอื้อมไปหยิบมันมาอ่านอย่างรวดเร็ว
ฉันและครอบครัวย้ายออกไปจากบ้านของแกแล้วในวันนี้ ตอนนี้ฉันซื้อบ้านใหม่และต้องการที่จะอยู่กันเฉพาะครอบครัวของเราเท่านั้น ส่วนบ้านหลังนี้มันเป็นของแก แต่จะว่าไปมันก็ไม่ใช่ของแกแล้ว เพราะฉันไปเอาโฉนดมาจากคุณหญิงและขายมันต่อให้กับผู้ชายคนหนึ่ง เขาคงจะติดต่อแกในอีกไม่นาน
ลาก่อน
ช่อชบา ปกรณ์ กวินนิตา
กระดาษร่วงลงจากมือเมื่ออ่านจบ หญิงสาวทรุดตัวลงกับพื้นหมดแรงน้ำตาไหลออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ คนพวกนั้นทำกับเธอเจ็บแสบเหลือเกิน ไม่คิดเลยว่าเรื่องมันจะเป็นแบบนี้ ไม่คิดเลยว่าจะถูกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นญาติทรยศหักหลัง คนพวกนั้นกำลังฆ่าเธอทางอ้อม หญิงสาวปล่อยโฮเสียงดัง
หมดแล้ว หมดทุกสิ่งทุกอย่าง แค่คิดว่าบ้านหลังนี้เป็นของคนอื่นซึ่งเป็นใครก็ไม่รู้ และแค่คิดว่าตัวเองไม่สามารถรักษาสมบัติชิ้นสุดท้ายของพ่อกับแม่ได้ มันยิ่งปวดใจเป็นที่สุด
อนิรุทธ์เดินเข้ามาในบ้านด้วยท่าทางสงบ เขามาที่นี่เพราะโทรศัพท์ไปหาปกรณ์จึงได้รับรู้ว่าครอบครัวของปกรณ์ย้ายออกไปจากบ้านแล้ว และภาพที่เห็นคือนภัสกำลังนั่งร้องไห้ด้วยสภาพที่ดูน่าสงสาร เธอคงเจ็บปวดมาก
ชายหนุ่มเดินเข้าไปหาเธอช้าๆ ก่อนที่จะทรุดตัวลงนั่งข้างๆ นภัสมองสบตาคมทั้งน้ำตา แล้วโผเข้ากอดเขาอย่างไร้ที่พึ่ง อนิรุทธ์กอดตอบใช้มือลูบหลังอย่างอ่อนโยน
“คนพวกนั้นทำร้ายฉันอย่างร้ายกาจ พวกเขาทำร้ายคนไม่มีทางสู้อย่างฉัน ที่ผ่านมาฉันทำให้พวกเขามาตลอด ตั้งแต่ทำงานมาเงินเดือนแทบทุกบาททุกสตางค์ก็ให้ป้ากับลุง อะไรไม่ดีก็ว่ากล่าวตักเตือนสิ จะตีจะตบก็ได้ แต่ทำไมต้องทำแบบนี้” นภัสสะอื้น
“โฉมงาม” อนิรุทธ์ลูบผมคนที่อยู่ในอ้อมกอดช้าๆ
“ฉันทำทุกอย่างเพื่อรักษาบ้านหลังนี้ไว้ ฉันยอมทุกอย่างเพื่อที่จะเก็บสมบัติชิ้นสุดท้ายที่พ่อกับแม่ของฉันเหลือไว้ให้ บ้านหลังนี้เป็นสถานที่เดียวที่ทำให้ฉันรู้สึกว่าพ่อกับแม่ไม่ได้จากไปไหน ท่านทั้งสองยังอยู่กับฉันเสมอ รู้ไหมว่าฉันยอม ยอมแม้กระทั่งตัวเองต้องกลายเป็นโจรเรียกค่าไถ่” นภัสพูดออกมาด้วยความอัดอั้นตันใจ
“ผมรู้”
“ฉันอยากรู้ว่าหัวใจของพวกเขาทำด้วยอะไร บ้านและที่ดินตรงนี้ไม่ใช่ของพวกเขาเลย มันเป็นของพ่อกับแม่ของฉันนะ” นภัสตัดพ้อเสียงสั่นปนสะอื้น น้ำหูน้ำตาไหลออกมาเพราะกลั้นไม่อยู่ อนิรุทธ์รู้สึกสงสารจับใจ รู้สึกผิดเหมือนกันที่ตัวเองมีส่วนกับเรื่องนี้ด้วย
“เรามีเรื่องต้องคุยกันนะโฉมงาม หยุดร้องไห้สักพัก แล้วคุณจะรู้ว่าในโชคร้ายยังมีโชคดีอยู่เสมอ” ชายหนุ่มพูดออกมาเรียบๆ แต่คำพูดของเขาทำให้เธอแปลกใจ
นภัสมองหน้าอนิรุทธ์ด้วยแววตาไม่พอใจหลังจากที่ฟังเรื่องราวจบ นอกจากเธอจะโดนครอบครัวของป้าหักหลังแล้วผู้ชายคนนี้ยังทำเรื่องที่เลวร้ายมากเกินกว่าจะให้อภัย
“คุณเป็นคนซื้อที่นี่เหรอ” หญิงสาวถามคำแรก
“ใช่” ชายหนุ่มพยักหน้า
“คุณทำแบบนี้ทำไม ฉันไปทำอะไรให้ คุณถึงทำแบบนี้กับฉัน” นภัสต่อว่าพร้อมทั้งทำท่าจะเข้าไปทำร้าย แต่อนิรุทธ์ใช้ความเร็วคว้าตัวเธอมากอดไว้ก่อน
“คุยกันดีๆ สิ ทำไมต้องใช้กำลังกันด้วย”
“คุณมันเจ้าเล่ห์ร้ายกาจที่สุด ไอ้คนฉวยโอกาส”
“ผมรู้ว่าคุณกำลังโกรธ แต่คุณควรจะฟังที่ผมพูดก่อน ไม่ใช่หาเรื่องพุ่งเข้ามาทำร้ายผมแบบนี้”
“ไม่ ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับคุณ ฉันต้องการบ้านและที่ดินตรงนี้คืน” นภัสเสียงดังหนักแน่น
“ถ้าคุณอยากได้บ้านหลังนี้คืน คุณต้องฟังผมให้ดี”
“ฉันต้องการของของฉันคืน คุณจ่ายเงินให้คนพวกนั้นเท่าไหร่บอกมา ฉันจะคืนเงินให้คุณ”
“คุณหาเงินจำนวนนั้นมาคืนตามกำหนดเวลาที่ผมต้องการไม่ได้หรอก” อนิรุทธ์สบตาหญิงสาว
“คุณให้คนพวกนั้นไปเท่าไหร่”
“เกินสิบล้าน”
คำตอบของอนิรุทธ์ทำให้คนฟังแทบทรุดลงไปกองบนพื้น ดีที่ว่าอยู่ในอ้อมกอดของเขาเลยไม่เป็นแบบนั้น
“คุณมันร้ายกาจที่สุด คุณทำแบบนี้ทำไม” หญิงสาวต่อว่าพร้อมทั้งดันตัวออกมาจากอ้อมกอดของคนตัวใหญ่
“ผมก็ต้องมีเป้าหมายอยู่แล้ว ข้อแรกผมต้องการเอาคืนคุณ คิดว่าจับผมไปไว้ในป่า ทำให้ผมหลงรักแล้วจะมาจากไปง่ายๆ แบบนี้เหรอ”
“คุณ” นภัสอึ้งไม่คิดว่าเขาจะรู้เรื่องทั้งหมด
“ใช่ ผมรู้ทั้งหมด คิดว่าจะทำให้ผมหลงรักกวินนิตาหรืออย่างไร จะบอกให้นะ ผมไม่สนญาติของคุณเลยสักนิด ผมสนคุณต่างหาก” เขาสารภาพออกมาตรงๆ
“จะบ้าหรือไง”
“คุณนั่นแหละบ้า คุณไม่สนผมเลยสักนิด พูดแล้วมันน่าเจ็บใจที่สุด” ชายหนุ่มบ่น
“ตอนนี้ฉันเกลียดคุณที่สุด” เธอสวนทันที
“ฟังนะ ถ้าอยากได้บ้านหลังนี้และที่ดินคืน คุณต้องทำตามข้อเสนอของผม” คราวนี้อนิรุทธ์เป็นต่อ
“ไม่ ข้อเสนอของคุณมันก็คงทุเรศเหมือนการกระทำนั่นแหละ” เธอต่อว่าอย่างไม่เกรงใจ
“ถ้าไม่รับข้อเสนอของผม ก็จ่ายเงินคืนผมมาภายในสามวัน”
“จะบ้าหรือไง ใครจะหาเงินมากขนาดนั้นมาคืนคุณได้ภายในสามวัน” นภัสแทบล้มทั้งยืนอีกครั้ง
“ถ้าทำไม่ได้ก็รับข้อเสนอของผมซะ” ชายหนุ่มวกกลับมาเรื่องเดิมอีก
“ข้อเสนออะไร” นภัสเริ่มสงบลงดูจะมีสติมากขึ้น
“ข้อแรก คุณต้องมาเป็นผู้หญิงของผม”
“คนบ้า ข้อเสนอบ้าๆ” หญิงสาวพูดออกมาอย่างอารมณ์เสีย ก่อนที่จะตบไปที่แก้มข้างซ้ายของเขา อนิรุทธ์ซู้ดปากพร้อมทั้งหันมามองคนตัวเล็กพยายามระงับอารมณ์
“ผู้หญิงบ้า เอะอะก็ตบ เห็นแก้มผมเป็นอะไร” เขาลูบแก้มของตัวเองไปมา
“ข้อเสนอของคุณมันน่าตบที่สุด ฉันไม่มีทางทำแบบนั้นเด็ดขาด”
“ฟังให้มันจบก่อนได้ไหม ไม่ใช่โวยวายและบ้าพลังแบบนี้ ให้ตายสิ ถ้าพูดไม่รู้เรื่องผมจะปล้ำคุณมันตรงนี้เลย บางทีมันอาจจะทำให้คุณสงบลงได้บ้าง”
“ไอ้ผู้ชายบ้า”
“ถ้าไม่อยากให้ผมบ้าก็ช่วยตั้งสติและฟังผมให้ดี” เขาพูดออกมาด้วยท่าทางที่จริงจังมากขึ้น
“ว่ามา”
“ตอนนี้ผมต้องการน้ำสักแก้ว บริการหน่อยสิ เป็นเจ้าของบ้านภาษาอะไร ไม่ดูแลแขกที่มา” ชายหนุ่มเริ่มตำหนิโดยหวังว่าจะทำให้เธอสบายใจมากขึ้น
“ตอนนี้ฉันไม่ใช่เจ้าของบ้านแล้วนี่ คุณดูแลตัวเองแล้วกัน” หญิงสาวปฏิเสธ
“ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นผู้อาศัยอย่างคุณคงต้องมีเรื่องที่จะต้องตกลงกับเจ้าของบ้านอย่างผมแล้ว”
“ก็พูดมาสิ”
“รู้ไหมตอนแรกผมอยากได้ที่ดินตรงนี้มาทำคอนโดมิเนียมนะ” คำพูดของเขาทำให้คนฟังกำมือแน่น
“ฉันจะไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น” แววตาของนภัสกร้าวขึ้นเล็กน้อย
“ฟังให้จบก่อนค่อยพูดได้ไหม ผมเห็นว่าที่ดินตรงนี้คุณรักมากเลยจะไม่ทำแบบนั้น แต่มันต้องมีข้อแลกเปลี่ยน”
“อะไร”
“ผมต้องการให้คุณช่วยอะไรผมหลายอย่าง ดูจากประวัติการทำงานคุณเป็นผู้หญิงที่เก่ง ทำงานได้ดีมาก ผมต้องการให้คุณมาเป็นเลขาส่วนตัวของผม ติดตามผมไปทุกที่ที่ผมไป ต้องการให้คุณมาเป็นผู้หญิงของผม และต้องการให้คุณกันผู้หญิงที่จะมายุ่งกับผมออกไปให้หมด กันทุกทาง”
“ทำไมต้องเป็นฉัน”
“ข้อแรก ผมถูกใจคุณ ข้อสอง ผมชอบคุณ ข้อสาม ผมต้องการคุณ” อนิรุทธ์พูดออกมาหน้าตาเฉยในขณะที่คนฟังแทบจะบ้า
“ถ้าฉันไม่ตกลง”
“คุณก็เอาเงินพร้อมดอกเบี้ยร้อยละยี่สิบมาคืนผมภายในสามวัน”
คำพูดของเขาทำให้นภัสแทบจะบ้า เพราะรู้ดีว่าไม่มีทางทำได้อย่างแน่นอน อีกทั้งตอนนี้เธอก็ไม่รู้ว่าครอบครัวที่ก่อเรื่องย้ายไปอยู่ไหนด้วย
“มันบีบกันเกินไป”
“ไม่หรอก ผมว่ามันก็หยวนกันทั้งสองฝ่าย”
“ถ้าฉันฟ้องร้อง” หญิงสาวคิดหาตัวช่วย
“มันไม่ฉลาดเลยถ้าคุณจะทำแบบนั้น คุณคิดว่าจะชนะคดีง่ายๆ เหรอ และถ้าชนะคดีคุณก็ต้องคืนเงินให้ผมอยู่ดี” ชายหนุ่มพูดออกมาอย่างเหนือกว่า
“คุณมันร้ายกาจที่สุด บางทีฉันอาจจะทิ้งบ้านหลังนี้ไว้ ไม่สนใจมันอีก คุณอยากจะทำอะไรกับมันก็ทำ” แต่เธอจะทำอย่างที่พูดได้หรือ
“คุณไม่ทำอย่างนั้นแน่นอน คุณไม่มีทางทิ้งที่นี่ เพราะมันเป็นสมบัติชิ้นเดียวของพ่อกับแม่คุณ ถ้าคุณจะทำคงทำไปนานแล้ว คุณรักที่นี่มากเกินกว่าที่คุณจะทิ้งมันไปหรือยกมันให้ใคร บ้านหลังนี้เป็นตัวแทนความอบอุ่นของพ่อและแม่ของคุณผมรู้ดี คุณหนีผมไม่ได้หรอก” เขาพูดออกมาอย่างมั่นใจ
“คุณอยากจะเอาคืนฉันใช่ไหม เลยทำแบบนี้”
“มันก็มีส่วน การที่คุณจับผมไปมันก็เป็นเรื่องที่ดีนะสำหรับผม อย่างแรกผมได้พักผ่อนจริงๆ อย่างที่สองผมได้เจอคุณ ซึ่งเป็นคนที่ผมถูกใจ รู้ไหมว่าผมสืบไปถึงที่บ้านป้าของคุณ” อนิรุทธ์พูดเหมือนมันไม่สำคัญในขณะที่คนฟังแทบนั่งไม่ติด
“ตอนที่พวกลุงๆ โจรสามคนพูดถึงคุณนายผกา ผมจำชื่อได้เลยให้นักสืบไปตามสืบดูว่าที่ประจวบฯ คนชื่อคุณนายผกาดังๆ มีใครบ้าง ในที่สุดผมก็เจอเพราะมีคนทำทีว่าจะไปซื้อของที่สวนผลไม้ของป้าคุณและผมจำบรรยากาศท้ายสวนได้” เขาอมยิ้มท้าทายอีกฝ่ายที่เริ่มหน้าซีดขึ้นเรื่อยๆ
“คุณ”
“ญาติผู้น้องของคุณคิดผิดมากเลยนะที่ให้คุณรับบทเป็นโจรเรียกค่าไถ่ และต่อให้คุณเป็นโจรจริงๆ ผมก็จะพยายามหาตัวคุณจนพบ และพาตัวมาเป็นผู้หญิงของผมให้ได้เหมือนกัน” เขาพูดออกมาอย่างมั่นใจ
“คุณมันบ้า”
“นี่แหละผม เอาเป็นว่าผมให้เวลาคุณคิดสามวันก็แล้วกัน ในสามวันนี้ถ้าคุณหาเงินมาคืนผมได้ ผมก็จะยอมคืนทุกอย่างให้คุณ แต่ถ้าไม่ได้คุณก็ต้องทำตามในสิ่งที่ผมต้องการ” เขาตัดบทสั้นๆ
“ไม่คิดว่าให้เวลาน้อยไปหน่อยเหรอ”
“เวลาที่ให้สำหรับผมมันนานมาก สามวันเชียวนะ และผมเป็นนักธุรกิจ อะไรที่มันจะสร้างกำไรให้ผม ผมก็ต้องรวบรัดตัดบท”
“คุณมันใจดำที่สุด”
“มาอยู่กับผมสิ แล้วจะรู้ว่าผมใจดีที่สุด ไม่ใช่ใจดำอย่างที่คุณคิด” อนิรุทธ์ยิ้มยียวน
“คุณกำลังเอาเปรียบผู้หญิง ไม่อายหรือไง”
“ไม่อาย จะอายทำไม อายก็อดน่ะสิ คนอย่างผมถือคติด้านได้อายอด”
“คุณไม่ใช่สุภาพบุรุษ” เธอยังคงต่อว่าเขา
“ก็ไม่เคยบอกว่าเป็น แต่ผมชอบสุภาพสตรีอย่างคุณ นี่ถ้าไม่ปากพล่อยบอกไปว่าให้เวลาคุณสามวันแล้วละก็ สามวินาทีเท่านั้นแหละที่ผมจะรอ” อนิรุทธ์พูดจริงไม่ได้พูดเล่น
“คนบ้า คุณนี่มันบ้าที่สุด”
“บ้าคุณไง คุณมันน่าบ้าด้วย ผู้หญิงอะไรเสียงก็หวานหน้าก็สวย ถึงจะมือหนักไปบ้างก็เถอะ”
“คุณนี่มัน ฉันไม่รู้จะด่าคุณว่าอย่างไรแล้วนะ” นภัสเริ่มพูดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะขำหรือโกรธคนตรงหน้าดี เขาทำให้เธอโกรธอย่างที่สุด และทำให้เธออยากจะหัวเราะได้มากที่สุดในเวลาไม่นาน
“ก็ไม่ต้องด่าสิ ด่ามากๆ ไม่ดีหรอกเดี๋ยวเสียงแหบ”
“คุณ” หญิงสาวพูดได้เท่านั้น เพราะรู้ว่าพูดต่อเขาก็ไม่สนใจที่จะฟังอยู่ดี
“เอาละ วันนี้หมดเวลาของผมแล้ว ผมคงจะต้องกลับเสียที ตอนนี้ผมให้โอกาสคุณอยู่ที่บ้านของผมไปก่อน และพรุ่งนี้ไปทำงานด้วยล่ะ” เขาออกคำสั่งก่อนที่จะเดินออกไปเงียบๆ ทิ้งให้คนตัวเล็กนั่งนิ่งอยู่คนเดียว
อนิรุทธ์รู้ดีว่นภัสมีเรื่องต้องคิดมากมาย และการอยู่คนเดียวเป็นสิ่งที่ผู้หญิงคนนี้น่าจะต้องการมากในตอนนี้
------------------------------------------
'นางโจรปล้นรัก' โดยกุหลาบแก้ว
อีบุ๊คพร้อมโหลดฝากลิงค์ค่า
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว