สองวันต่อมาลุงผู้ใหญ่ก็ได้นำหลักฐานการครอบครองที่ดินสิบเอ็ดหมู่มาให้ลู่หลินที่บ้านซึ่งลู่หลินเองก็ออกมารับด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ ไม่บอกก็ต้องรู้ว่าเธอดีใจมากแค่ไหน
“ลุงต้องขอโทษด้วยที่เอามาให้ช้าพอดีลุงต้องไปช่วยบ้านลั่วที่ถูกไฟไหม้บ้าน สร้างบ้านหลังใหม่น่ะ” ใช่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมาบ้านตาเฒ่าลั่วถูกไฟไหม้ ลู่หลินเองก็ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน
“โถ่ลุงก็ฉันจะว่าอะไรลุงได้ที่ลุงทำนั้นล้วนแต่เพื่อช่วยชาวบ้านทั้งนั้นเป็นฉันซะเองที่ต้องขอบคุณลุงผู้ใหญ่ที่ช่วยเร่งให้ได้เอกสารสิทธิ์เร็วขนาดนี้” หลังจากขอบคุณกันไปมาทั้งสองก็ต่างแยกย้าย แม้ว่าลู่หลินจะชวนลุงผู้ใหญ่ให้ทานข้าวด้วยกันก่อนก็ตาม ก่อนไปลุงผู้ใหญ่ก็ต้องสอนเรื่องความเหมาะสมให้เธออีกหลายคำถึงความเหมาะสมของชายหญิง
ลู่หลินโยนใบซื้อขายที่ดินเข้าไปเก็บในมิติเพราะที่นั้นคือสถานที่ ที่ปลอดภัยที่สุดแล้ว ก่อนที่จะสะพายตะกร้าขึ้นหลังพร้อมกับมีดด้ามยาวเดินขึ้นเขาไปสำราจที่ดินที่พึ่งได้มาไว้ในครอบครอง
“โอ้ๆสวยบรรยากาศดีเริด ถ้าวางบ้านน็อคดาวน์ไว้ตรงนี้ก็เท่ากับว่าบ้านหลังนี้จะอยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ล้อมรอบเลยนะสิ” ลู่หลินเดินวนไปเวียนมาตรงจุดสูงสุดของเขาลูกเล็กที่เธอตั้งใจให้เป็นที่ตั้งของบ้านหลังน้อย แต่ในจุดที่ตั้งใจกลับมีต้นไม้ใหญ่ล้อมไว้แน่นหนาตรงส่วนกลางเป็นดงหญ้าคาและต้นเล็บเยี่ยวที่มีแต่หนาม เนื้อที่ตรงนี้น่าจะประมาณสามร้อยตารางวา เธอคงต้องหาคนมาถากถางให้เตียนก่อน เนื้อที่เกือบไร่กว้างไปด้วยซ้ำแต่ก็ไม่เป็นไรเก็บไว้ปลูกผักผลไม้ได้ นั้นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ลู่หลินมายืนเรียกหาคนที่พึ่งแยกจากกันไม่ครึ่งวัน
“ลุงผู้ใหญ่อยู่ไหมคะฉันลู่หลินเองคะ” ยืนรอไม่นานเจียวอี้จินภรรยาของผู้ใหญ่บ้าน ที่เป็นคนเดินออกมาเปิดประตูให้เธอ
“อ้าวลู่หลินเข้ามาในบ้านก่อน มีอะไรหรือเปล่าลุงเขาไม่อยู่ด้วยสิ ไปช่วยเฒ่าลั่วทำบ้านน่ะจ๊ะ” พอนั่งลงที่แคร่หน้าบ้านป้าเจียวก็เล่าให้ฟังถึงเหตุที่ลุงผู้ใหญ่ยังไม่กลับมาตั้งแต่เช้าที่บอกว่าจะไปบ้านเธอก่อนถึงจะไปช่วยกันทำบ้านเฒ่าลั่วต่อ
“คือว่าฉันจะวานลุงผู้ใหญ่หาคนไปถางป่าบนเขาให้หน่อยนะคะ ฉันให้ค่าแรงวันละ สี่สิบเฟิน แต่ต้องหาข้าวมากินเองนะคะฉันไม่สะดวกหาให้นะคะ ถ้ายังไงบอกให้ลุงผู้ใหญ่หาคนงานให้ได้หลายคนหน่อย ฉันต้องการให้เสร็จเร็วๆนะคะ” ป้าเจียวได้ยินเรื่องค่าแรงถึงกับห่อปาก สี่สิบเฟินก็ไม่ใช่ว่าสี่เหมาหรอกหรือ
“เอ่อ.ลู่หลินจ้ะป้าว่าค่าแรงมันจะมากไปหรือเปล่าปกติสามสิบเฟินนี้ก็มากแล้วนะป้าว่า”
“คือว่าที่ดิน ที่ฉันจะให้ไปถางมันอยู่บนเขาและมีต้นหนามเยอะมากนะคะ ถึงเขาลูกนั้นจะไม้สูงมากก็เถอะ อีกอย่างฉันยังมีอะไรให้ทำเพิ่มนอกเหนือจากถางหญ้าด้วยจ๊ะป้า” ลู่หลินจะให้คนงานฝังท่อน้ำเพื่อดึงน้ำมาใช้ในบ้านโดยที่เธอไม่ต้องไปหาบให้เหนื่อย และยังต้องยกแปลงปลูกผักผลไม้ดอกไม้นานาของเธออีก ส่วนเจียวอี้จินก็เข้าใจได้เมื่อฟังเหตุผลของผู้ว่าจ้าง เธอจะบอกให้ลูกๆของเธอไปทำงานนี้ด้วยแน่นอน
เมื่อพูดคุยกันเข้าใจลู่หลินก็กลับขึ้นไปบนเขาอีกครั้ง ครั้งนี้เธอเดินปักธงตามจุดต่างๆไว้เพื่อเป็นเครื่องหมายให้คนงานถางออก ส่วนต้นไม้ที่จะเก็บไว้เธอจะบอกลุงผู้ใหญ่อีกทีเพื่อความมั่นใจ ตอนแรกเธอคิดจะเอาสีสเปย์ออกมาพ่นแต่คิดอีกทีเธอไม่อยากให้ต้นไม้อันสวยงามมีสีติดตามต้นให้ขัดตาเวลามอง ตกตอนเย็นลุงผู้ใหญ่ก็เอารายชื่อของคนงานมาให้ทั้งหมดสิบคน
“ได้สิบคนหรอคะ ไม่เป็นไรถ้าใครอยากทำอีกลุงผุ้ใหญ่ก็ให้มาทำเพิ่มได้เอาให้เสร็จเร็วยิ่งดี”
“ลุงขอไปดูก่อนว่าจะให้ทำอะไรบ้าง ลุงกลัวพวกอู้งานนะสิ พอคนเยอะไปก็จะยืนมองกัน”
“เอาแบบนี้ถ้าตอนเช้าลุงผู้ใหญ่ขึ้นไปก่อนฉัน ก็ให้ถางในจุดที่ฉันปักธงไว้ และอย่าให้ใครตัดต้นไม้ใหญ่นะคะ ฉันจะขึ้นไปชี้จุดอีกที จะมีงานขุดทางน้ำฝังท่อด้วยนะคะลุงผู้ใหญ่อย่าลืมเตรียมเครื่องมือไปให้พร้อมฉันจะให้ขุดตั้งแต่คลองด้านล่างข้นมาบนยอดเขาเลยค่ะ เป็นไปได้ฉันอยากให้ขุดบ่อให้ด้วย”
“ลู่หลินหนูได้เดินสำรวจที่ครบทุกจุดหรือยัง ลุงเห็นว่าหนูจะฝังท่อน้ำตั้งแต่คลองด้านล่าง ลุงว่ามันไกลอยู่นะ ลุงกลัวน้ำมันจะไม่ไหลขึ้นไปนะสิ”
“จริงด้วยฉันก็ลืมคิดถึงจุดนี้ ที่ลุงผู้ใหญ่ถามเรื่องสำรวจฉันยังเดินไม่ทั่วเลยคะมัวแต่ตื่นเต้นเรื่องบ้านใหม่ เลยรีบไปหาลุงผู้ใหญ่ทีบ้านเลย”
“คืออย่างนี้นะ ลุงเคยขึ้นไปสำรวจกับเจ้าหน้าที่มา เมื่อครั้งทหารเข้ามาตรวจประชากรและพื้นที่ทำกิน ลุงเห็นว่ามีตาน้ำอยู่ไม่ไกลจากจุดที่หนูจะสร้างบ้านนะ เหมือนจะมีน้ำซับไหลทั้งปี”
“จริงหรือคะลุงผู้ใหญ่ดีจัง”
“เอาแบบนี้สิหนูก็ขุดบ่อเก็บน้ำตรงนั้นแล้วก็ทำทางน้ำมาที่บ้านถ้าทำแบบนั้นจะประหยัดหลายอย่างทั้งค่าแรงและค่าอุปกรณ์” ลู่หลินได้แต่ขอบคุณโจวต้าฝูที่ให้คำแนะนำที่ดี เพราะเธอก็ใช่ว่าจะฉลาดรู้ทุกเรื่อง
“ขอบคุณ คุณลุงผู้ใหญ่มากค่ะ อย่างนั้นก็ทำแบบที่ลุงผู้ใหญ่ว่ามาเลยค่ะ พรุ่งนี้เจอกันค่ะลุง”
เช้าวันต่อมาโจวต้าฝูและลูกชายทั้งสองรวมลูกบ้านอีกแปดคนรวมเขาด้วยก็สิเอ็ดคนพอดี ต่างแบกจอบแบกเสียมเครื่องไม้เครื่องมือเดินขึ้นเขาตั้งแต่ยามหม่า ทุกคนต่างร่วมแรงร่วมใจกันทำงานอย่างตั้งใจ เพราะกลัวผู้ว่าจ้างจะไม่ให้ทำงานด้วยเนื่องจากจะหาคนที่จ่ายค่าแรงหนักๆมีน้อยมากแทบจะหาไม่เจอ อีกทั้งไม่ต้องเข้าไปหางานในตัวเมืองให้ลำบากอีกด้วย เพราะเหตุนี้เมื่อลู่หลินขึ้นไปงานตรงยอดเขาก็เสร็จไปแล้วเกินครึ่งด้วยคนงานเพียงหกคน อีกห้าคนที่เหลือกำลังขุดบ่อเก็บน้ำให้เธออยู่อีกด้าน
“เร็วถึงเพียงนี้” ลู่หลินได้แต่พึมพำ ก่อนที่จะไปชี้จุดให้ลุงผู้ใหญ่ว่าจุดไหนควรเก็บจุดไหนควรตัด
“ได้ๆลุงจำไว้แล้วทุกอย่างไม่เกินสามวันก็แล้วเสร็จ” ลู่หลินกำลังคิดว่าจะทำรั้วดีไหม คิดไปคิดมาถ้าทำรั้วไม้ไผ่เก๋ๆก็คล้ายบ้านในหนังจีนที่นางเองหนีมาหลบพระเอกเหมือนกันนะ
“ลุงผู้ใหญ่เห็นแนวธงที่หนูปักไหมคะ หนูจะให้ทำรั้วไม้ไผ่ล้อมรอบ ประตูจะอยู่ฝั่งนี้นะคะ”
“ได้สิว่าแต่หนูไม่รอสร้างบ้านให้เสร็จก่อนหรอค่อยทำรั้วจะได้ไม่ขวางเวลาทำงาน”
“ไม่เป็นไรคะ สถานที่มันกว้างอยู่แล้วไม่น่าจะกีดขวางอะไร ช่างทำบ้านหนูก็คุยไว้แล้ว หนูไม่ได้ทำหลังใหญ่โตอะไร ส่วนบ้านหลังเก่าคงต้องรบกวนลุงผู้ใหญ่พอเสร็จงานข้างบนแล้ว ให้ลุงช่วยไปซ่อมแซมให้มันกันฟ้ากันฝนให้หนูที ค่าแรงหนูก็จ่ายเท่าเดิมส่วนคนงานลุงก็เอาตามเหมาะสมได้เลย”
“ได้สิชาวบ้านกลุ่มนั้นคงจะดีใจที่มีงานทำต่ออีกหลายวัน” ลู่หลินได้แต่ยิ้มรับเพราะในใจของเธอตอนนี้คงต้องหาเงินมาเพิ่ม ยิ่งในหัวในตอนนี้โครงการมันช่างงอกเงยบานเป็นดอกเห็ดต่างจากเงินในกระเป๋าเหลือกิน เช้าวันต่อมาเธอจึงตัดสินใจเอาเห็ดหลินจือไปขายอีกเป็นครั้งที่สอง เพราะการซ่อมแซมบ้านหลังเดิมเธอต้องการที่จะหาซื้ออุปกรณ์ในยุคนี้มาทำ เพื่อไม่ให้แตกต่างจากคนอื่นจนเป็นที่น่าสงสัยมากนัก โดยเฉพาะคนงานที่มาช่วยทำงานในครั้งนี้หนึ่งในนั้นมีลูกชายของคุณป้ามหาภัยถังจวนอยู่ด้วย
ถังซือเซิน เป็นชายหนุ่มอายุประมาณยี่สิบห้าปีถือว่าหน้าตาไม่ขี้เร่ เป็นคนทำงานก้ามเป็นมัดๆ ต่างจากผู้เป็นมารดาที่เก่งแต่พูดเรื่องชาวบ้านจนไม่มีบ้านไหนกล้าให้ลูกสาวแต่งเข้าบ้านถัง แต่คนตั้งใจทำงานก็ใช่ว่าจะน่าไว้ใจได้ในทุกเรื่องเสียที่ไหนล่ะ กันไว้ก่อนดีกว่ามาตามแก้ทีหลัง ดูจากสายตาที่ถังซือเซินมองมาทางเธอสิ จะไม่ให้เธอคิดมากได้ที่ไหน เธอยิ่งสวยรวดเร็วอยู่ด้วยพักนี้ ไม่น่าอาบน้ำสามเวลาหลังอาหารเลย อยากสวยจนเป็นเหตุจริงๆฉัน สู้อุตส่าห์หน้าดำมาได้ตั้งหลายวัน
****
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว