สาลี่และพวกเองก็รู้ พอจะโดนไล่ออกจริงๆ ก็นึกเสียดาย เพราะทำงานที่นี่มีเงินส่งกลับบ้านทีละมากๆ แถมยังมีเงินเก็บเอาไว้ตั้งตัวได้ในอนาคต
“ก็ทุกอย่างล่ะ พวกแกก็รู้ว่าคุณท่านใจกว้างยิ่งกว่าแม่น้ำ” สมจิตรทำท่าฝันหวาน
“เดือน รอบนี้แกไม่คิดจะฟินเจอร์ริ่งกับใครบ้างเหรอ คุณจอมสิ มองแกตาเป็นมัน ถ้าแกตอบตกลงรับรองว่าได้ฟินทั้งคืนแน่”
“วกกลับมาเรื่องนี้อีกแล้ว ถ้าอยากฟินทำไมไม่ฟินเองล่ะ” เดือนเพ็ญว่าให้ หน้าแดงลามไปถึงใบหู
“อยากฟินหรอกนะ แต่คุณจอมไม่ชายตาแล มากินเลี้ยงกับคุณท่านทีไรก็ไม่เห็นสนใจผู้หญิงที่ไหน”
“เป็นเกย์หรือเปล่าแก”
“บ้าสิ หล่อลากขนาดนั้น ถึงจะสู้คุณท่านไม่ได้ก็เถอะ” ยุพินทำท่าปาดน้ำลาย
“จะไปรู้เหรอะ เห็นผู้ชายเดี๋ยวนี้หล่อๆ เป็นเก้งเป็นกวางกันหมด กินกันเองเสียด้วยซ้ำ ผู้ชายยิ่งน้อยๆ อยู่ด้วย ฉันล่ะเซ็งเป็ด เซ็งห่านเสียจริง”
“ฉันว่าเธอควรคิดพิจารณานะเดือน คุณจอมออกจะหล่อ มีกะตังค์ สักครั้งในชีวิตได้จิ้นกับผู้ชายสักคน พอตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้ แห้งเหี่ยวไปตามกาลเวลา สังขารมันไม่เที่ยงนะเดือน พอถึงตอนนั้นจะมานั่งคิดเสียใจก็ย้อนเวลากลับไปไม่ได้แล้ว อีกอย่างนึงนะ เราอยากเสียวบ้าง ก่อนตายอะ ใครจะทำไม ชีวิตใครชีวิตมันนะโว้ย อยากทำอะไรทำเลย พอตายก็ทำไม่ได้แล้วนะ” ยุพินพูดยิ้มๆ เมื่อเห็นอาการของเดือนเพ็ญ
“สาธุ” ทุกคนยกมือท่วมหัวบอกสาธุดังๆ แปลว่าดีแล้ว แต่ล้อเลียนยุพิน
“อ้าว... ฉันพูดเรื่องจริง ถึงจะไม่มีลูก ถึงจะไม่มีผัวเป็นตัวเป็นตน แต่ชีวิตมันเป็นของเรา ความสุขของเรา ไม่รู้แหละ ก่อนตายฉันอยากทำอะไรก็ทำ ตายไปทำไม่ได้”
“พอแล้ว พูดแต่เรื่องใต้สะดือ หมกมุ่นเหลือเกิน” เดือนเพ็ญเดินหนี สาวๆ พากันหัวเราะคิกๆ ก่อนจะช่วยกันทำงานต่อ
“ทำไมเป็นแบบนี้ นี่ก็หลายวันแล้วแต่คุณพันศึกยังไม่เบื่อมัน เป็นไปได้ยังไง” ชบาเดินไปเดินมาเหมือนหนูติดจั่นอยู่ในห้องพักของตัวเอง
“เห็นว่าทั้งรักทั้งหลงนะคะคุณชบา ตามใจทุกอย่าง เครื่องเพชรเครื่องทอง เสื้อผ้าสวยๆ ดีๆ ประเคนให้ไม่ขาดมือ” พาใจพูดตามที่ได้ยินสาวใช้ด้วยกันเม้าท์กันในครัว
“นังพา!” ชบาจิ้มหน้าผากของพาใจแรงๆ ด้วยความโมโห
“อ้าว... พาพูดผิดตรงไหนคะ” พาใจทำหน้าเหลอหลา
“ผิดที่แกพูดเรื่องจริงทิ่มแทงใจฉันไง ฉันรู้แล้ว แกไม่ต้องย้ำก็ได้” พาใจใบหน้าเหยเกเมื่อเห็นดวงตาวาวๆ ของนายสาว ชบาเป็นคนโมโหร้าย แต่ต่อหน้าพันศึกจะทำตัวเหมือนผ้ายับที่พับเอาไว้ ซึ่งทุกคนรู้ดี ไม่ใช่เธอคนเดียวที่ต้องคอยรองรับมือเท้าของชบาเวลาโกรธหรือโมโหใครก็เหวี่ยงไม่เลือก แถมชอบวางอำนาจบาตรใหญ่อีกด้วย
“แกช่วยฉันคิดสิว่าจะทำยังไง”
“พาคิดไม่ออกหรอกค่ะ แผนการชั่วๆ แบบนี้ต้องให้คุณชบาคิด”
“นังพา นี่แกหาว่าฉันชั่วเหรอ” ชบาตวาดลั่น พาใจตัวสั่นแทบปิดหูไม่ทัน
“เอ่อ... ปะ เปล่านะคะ” พาใจส่ายหน้าดิก เผลอพูดไปได้ยังไง เกือบโดนปาดคอแล้วไหมนั่น
“แกต้องคิดๆๆ คิดเข้าสิ มันสมองของแกไม่มีหรือไง หรือมีแต่ขี้เลื่อย”
“ก็คุณท่านเล่นไม่ห่างจากคุณไพรหอมเลยนะคะ จะให้เราไปแทรกตรงไหน” พาใจพูดเสียงอ่อยๆ
“แกเรียกใครว่าคุณนังพา” เสียงของชบาแสบแก้วหูจนเธออยากจะมุดพื้นหนี
“อะ... เอ่อ”
“เรียกมันว่าคุณทำไม เรียกมันว่านังไพรหอม จำใส่กะโหลกกลวงๆ ของแกเอาไว้” ชบาจิ้มหน้าผากของพาใจแรงๆ ให้สำนึก
“ค่ะคุณชบา”
“แกไปคิดแผนการช่วยฉันด้วย ถ้าคิดไม่ได้ก็ไปตายซะ นังบ้า” พาใจโดนผลักจนกระเด็น ได้แต่เจ็บใจที่โดนกระทำรุนแรงเหมือนหมูเหมือนหมาแบบนี้
“ค่ะคุณชบา” พาใจรับคำเสียงอ่อย
“แกไปให้พ้นๆ หน้าฉันเลยไป จะนั่งปั้นจิ้มปั้นเจ่ออยู่ทำไมอีก เห็นหน้าแกแล้วหงุดหงิด” ชบาไล่ส่งเมื่อเห็นพาใจนั่งขวางหูขวางตานัก
“ค่ะ” พาใจรีบรับคำแล้วเดินออกมา ก่อนจะขมุบขมิบด่าไปตลอดทางเพราะเบื่อหน่ายชบาเต็มกำลัง ถ้าไม่เพราะชบาช่วยเหลือครอบครัวเอาไว้ เธอไม่มีวันโดนจิกหัวแบบนี้แน่
“อ๊า.... หอมสะ... เสียวค่ะ” ไพรหอมจับหัวเตียงเอาไว้แน่นในขณะที่เรือนกายโดนกระแทกกระทั้นมาจากเบื้องหลัง พันศึกครางเสียงห้าวแหบลึก
“มากไหม” พันศึกเอ่ยถามริมหู แนบกายมากับแผ่นหลังชื้นเหงื่อ มือหนากุมอกสวยเอาไว้แล้วฟอนเฟ้นหนักๆ
“มะ... มากค่ะ” เธอตอบเสียงหอบ รู้สึกได้ถึงความเสียวซ่านที่ซอกทางรักถี่กระชั้น
ไพรหอมโต้กลับไปเสียงสั่นๆ ร่างของเธอสะท้านอยู่ใต้ร่างหนา เท้าเล็กๆ ยังสวมรองเท้าส้นสูงที่เขาบังคับให้เธอสวมใส่ ร่างท่อนล่างยังมีจีสตริงคาเอาไว้ไม่ได้ถอด เขาแค่แหวกเส้นเล็กๆ ของจีสตริงไปด้านข้าง แล้วฝังกายเข้ามา อกอวบอิ่มสั่นสะท้านไหวโยกไปตามแรงกระชั้นถี่ เธอเผยอริมฝีปากร้องครางจนแทบจะขาดใจ
พันศึกขยับสะโพกสอบเข้าหาร่างน้อยถี่ยิบ เขาคำรามลั่นก่อนจะเกร็งกระตุกร่างกอดรัดร่างน้อยแนบแน่น ไพรหอมหวีดร้องด้วยความสุขเสียว เธอจิกหัวเตียงแน่น หอบหายใจจนร่างสั่นระริก
ร่างสูงพลิกกายนอนหงาย หอบหายใจรุนแรงก่อนจะกลับคืนเข้าสู่ภาวะปกติ ไพรหอมขยับร่างนั่งพับเพียบ เธอหน้าแดงซ่าน ยอมรับว่าติดใจในรสชาติของเซ็กซ์ที่พันศึกปรนเปรอให้ เธอรู้สึกอายที่คิดอะไรไม่ดีแบบนี้ แต่ยิ่งแนบชิดกันและกัน ก็ยิ่งเสพติด เธอไม่รู้ว่าพันศึกจะเบื่อเธอหรือไม่ แต่เธอบอกตัวเองได้เลยว่าไม่มีวันเบื่อเซ็กซ์ชวนตื่นเต้นของเขา
“หิวหรือยัง” วันๆ หนึ่งพันศึกมักจะวนเวียนเสพติดอยู่กับร่างของเด็กสาว เขาแทบลืมวันลืมคืน เตียงนอนและห้องกว้างคือสถานที่อันอภิรมย์ ไพรหอมเองก็ดูเหมือนจะยอมรับชะตากรรม เพราะอย่างไรเธอก็หนีพันศึกไปไหนไม่พ้น เขาเปี่ยมไปด้วยอำนาจ
ไพรหอมพยักหน้าเบาๆ พันศึกรวบผมของสาวน้อยเอาไว้ เขาแตะส่วนปลายของความแข็งแกร่งกับปากอิ่ม มือเคล้นคลึงทรวงสาวหนักๆ ปากนิ่มจึงตอบรับการรุกรานของแก่นกายชาย พันศึกครางเสียงหนัก เขากระแทกสะโพกเข้าในปากอุ่นร้อน เด็กสาวคุกเข่าจับสะโพกของเขาเอาไว้มั่น แตะลิ้นกลืนกินเขาตามบัญชา
“แม่เด็กน้อย ทำไมน่ารักแบบนี้” พันศึกร้องคราง ดึงตัวเองออกมาจากปากอุ่นร้อน เธอทำให้เขาคึกคักอีกครั้ง มือหนาสาละวนอยู่กับเนินสาว ริมฝีปากจูบเม้มไปทั่วเรือนร่างผุดผ่อง เขาดึงให้เธอไปยืนอยู่หน้าเตียง มองเธอยืนบนส้นสูงด้วยสายตาร้อนแรง
“มาหาฉันสิ” พันศึกนอนขวางไปกับเตียง เขาทิ้งศีรษะลงข้างขอบเตียงเป็นท่าห้อยหัว ก่อนจะเรียกเด็กสาวเข้ามาหา
ไพรหอมรู้สึกปั่นป่วนไปถึงหน้าท้อง เธอค่อยๆ เดินไปหาเขา ก่อนจะคร่อมหว่างขาไปบนใบหน้าหล่อเหลาดิบเถื่อนด้วยความกระหายของชายหนุ่ม
“อื้อ...” ร้องครางด้วยความเสียวซ่านจับจิตจับใจเมื่อเขาลามเลียลิ้นสากร้อนกับเนินสวาทของเธอ ไพรหอมวางมือกับอกแกร่งของเขา เธอโก่งสะโพกหนีก็หลายครั้ง แต่มือหนายึดเอาไว้ ริมฝีปากอิ่มเผยอครวญครางจนแทบขาดใจ เสียดสีเรือนกายกับปากร้อนๆ ของเขาด้วยความกระสันซ่าน เสียงลิ้นของเขาที่โบกสะบัดกับเนินสาวฉ่ำแฉะบ่งบอกถึงความเปียกชื้นจากหยาดน้ำหวานที่ไหลซึมออกมาให้เขากลืนกินอย่างไม่เกี่ยงงอน
ไพรหอมหัวหมุนสมองขาวโพลน เธอสะบัดหน้าส่ายไปมา เบียดกายโยกสะโพกให้เนินสาวเบียดชิดกับปากร้อนๆ ของเขาอย่างถนัดถนี่ พันศึกดันร่างเธอออกห่าง เขาเปลี่ยนมานั่งบนขอบเตียง
เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บของคุณดียิ่งขึ้น และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณอย่างได้อย่างส่วนตัว ท่านสามารถอ่านนโยบายคุกกี้เพิ่มเติมได้ที่นี่
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว