81. อันว่าความรัก-1

โดย  เบนจี้/B.J./BENJE

81. อันว่าความรัก

1

กายกินบัว

00



(กาย ถึงไหนแล้ว)

เสียงเล็กๆ ที่คุ้นหูดังออกมาจากปลายสายมันทำให้ผมกลอกตามองบนด้วยความเบื่อหน่าย มันเป็นเพราะว่าคนที่กำลังพูดกับผมอยู่นั้นกำลังอยู่ในอารมณ์ที่ไม่คงที่

“ใกล้ถึงแล้ว อย่าเร่งได้ปะวะ”

ผมตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงห้วนๆ พร้อมกับมองทางข้างหน้าไปด้วยเพราะตอนนี้ผมกำลังขับรถอยู่ยังไงล่ะ และตอนนี้ผมก็กำลังเดินทางไปรับยัยโม เพื่อนสนิทของผมตั้งแต่สมัยมัธยม เพราะวันนี้แฟนของเธอ ไอ้ขุนพล มันไม่ว่างผมเลยต้องได้มารับแฟนของมันแทนทั้งๆ ที่ผมก็อยู่คนละมหาลัยกับมัน มันเห็นว่าผมว่างมากหรือไงถึงได้ใช้แรงงานผมแบบนี้ แต่ทำไมผมต้องมาดูแลแฟนคนอื่นแบบนี้ด้วยวะ แฟนผมก็ไม่ใช่หรือเพราะที่ทำให้จะเป็นเพราะว่ายัยโมเป็นเพื่อนของผมกันนะ

(อืม เร็วๆ ด้วยนะ ร้อน)

เธอเอ่ยเพียงแค่นั้นก่อนที่จะตัดสายผมไปทันที ผมเลยวางโทรศัพท์ลงก่อนที่จะเลี้ยวรถคันหรูของผมเข้าไปในเขตของมหาวิทยาลัยที่โมเรียนอยู่ ผมมาที่นี่บ่อยครั้งแต่มาทีไรมันก็ไม่คุ้นสักที ก็มันไม่ใช่ถิ่นของผมไง ทำไมต้องคุ้น อ่อ ผมลืมบอกไปผมชื่อกาย เรียนอยู่คณะบริหารของมหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ห่างจากมหาลัยนี่สักเท่าไหร่ ตอนนี้ผมกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่สามแล้วล่ะ แต่เรื่องส่วนตัวของผมช่างมันไปก่อนเอาเป็นว่ามาสนใจปัจจุบันของผมก่อนก็แล้วกัน

ผมเลยตั้งใจขับรถจนไปถึงหน้าตึกคณะที่โมเรียนอยู่ ก็ปรากฏร่างของผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังทำหน้าตาหงุดหงิดมองมาที่รถของผม เออ นั่นแหละยัยโม เพื่อนผมเอง ตอนนี้เธอกำลังก้าวเข้ามาใกล้รถของผมด้วยท่าทางเอาเรื่อง

“ทำไมนายไม่มาชาติหน้าซะเลยล่ะ”

อืม มีใครเคยบอกยัยนี่หรือเปล่านะว่าตั้งแต่ได้ไอ้ขุนพลเป็นผัวนี่ปากกล้าขึ้นเยอะเลย

“งั้นกลับเองก็แล้วกัน”

ผมเอ่ยเสียงเรียบพร้อมกับเตรียมพร้อมที่จะขับรถออกไปได้ทุกเมื่อ

“กาย!”

“เออ จะไปก็รีบขึ้นมา”

ผมหันไปเอ่ยกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ดูหงุดหงิดไม่แพ้กัน นี่เห็นว่าเป็นเพื่อนนะไม่งั้นพ่อจะโบกเข้าให้ และหลังจากที่ผมเอ่ยแบบนั้นไปโมก็รีบขึ้นรถของผมมาทันทีพร้อมกับชักสีหน้ามองผมด้วยสายตาหงุดหงิด

“ช่วงนี้เธอหงุดหงิดบ่อยนะ เมนไม่มาหรือไง”

คนอื่นอาจจะมองว่าผมปากร้ายที่กล้าพูดเรื่องแบบนี้ไปกับผู้หญิงตรงๆ แต่ยัยนี่ถือว่าเป็นกรณียกเว้นเพราะด้วยเหตุที่รู้จักกันมานาน ไม่เห็นต้องมีความเกรงใจกันแล้วล่ะ

“นายรู้ได้ยังไง อาการฉันชัดขนาดนั้นเลยเหรอ”

โมเอ่ยขึ้นพร้อมกับมองหน้าผมมาด้วยสายตาที่ดูตื่นตกใจ แต่ทำไมต้องตกใจแบบนั้น อย่าบอกนะว่าที่ผมพูดเล่นๆ เมื่อกี้มันเป็นเรื่องจริง

“นี่เธอ ท้องเหรอ”

ผมหันไปมองหน้าเพื่อนของตัวเองทันที ดีที่ตอนนี้เรายังไม่ได้ขับรถออกไปไหนผมเลยหันไปมองหน้าเธอตรงๆ แบบนี้ได้

“อืม ก็อาจจะเป็นอย่างนั้น ประจำเดือนฉันมันไม่มาเป็นเดือนแล้วน่ะ”

เฮ้ย ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้วะ นี่เธอก็ยังเรียนอยู่นะ และอีกอย่างมาท้องในช่วงกำลังเรียนแบบนี้มันจะดีเหรอ ถึงสมัยนี้เขาจะไม่สนใจเรื่องแบบนี้แล้วก็เถอะ

“แล้วไอ้ขุนพลมันรู้หรือยัง”

ผมเอ่ยถาม

“รู้แล้ว เขาเลยให้นายมารับฉันอย่างที่เห็นนี่ไง เขาไม่ปล่อยให้ฉันกลับคนเดียว”

ให้มันได้อย่างนี้สิ สองคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่กันถึงได้อยากมีลูกในช่วงวัยเรียนกันแบบนี้

“อืม งั้นก็แล้วไป ที่มันทำมันยังรับผิดชอบอยู่”

“ขุนไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย”

อืม ปกป้องผัวเข้าไป ผมมันแค่เพื่อนนี่พูดอะไรก็ผิด

“เออๆ”

ผมเอ่ยเพียงแค่นั้นก่อนที่จะเริ่มขับรถออกมาจากหน้าคณะของโมหลังจากที่เราคุยกันรู้เรื่องแล้ว แต่ระหว่างที่ผมกำลังติดไฟแดงหน้ามหาลัยสายตาของผมก็ไปปะทะกับร่างเล็กๆ ของคนคนหนึ่งเข้าอย่างจัง ตอนนี้เธอกำลังเดินข้ามทางม้าลายที่อยู่ต่อหน้าผมอยู่ด้วยท่าทางเร่งรีบ แต่เพียงแค่เสี้ยววินาที ผมก็สามารถจำเธอได้ขึ้นใจ ผู้หญิงคนนี้มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน

“นายมองอะไรของนาย”

โมถามขึ้นเมื่อผมเอาแต่จ้องไปที่ร่างเล็กๆ นั่นที่ค่อยๆ หายไปจากสายตา

“นายรู้จักบัวด้วยเหรอ”

แต่หลังจากที่โมเอ่ยประโยคนั้นออกมาผมก็หันไปมองหน้าเธอทันที โมรู้จักผู้หญิงคนนั้นอย่างนั้นเหรอ

“ผู้หญิงคนนั้นชื่ออะไรนะ”

ผมเอ่ยถาม หวังว่าคนเป็นคนชื่อบัวที่ผมรู้จักนะ

“บัวบูชาน่ะ รุ่นน้องที่คณะฉันเอง”

คำตอบของโมทำเอาผมนิ่งไปทันทีที่ได้ยิน เพราะคนที่เธอพูดถึงเป็นคนคนเดียวกันกับคนที่ผมรู้จัก แต่ยัยนั่นจะเป็นรุ่นน้องของโมได้ยังไงก็ยัยนั่นอายุเท่าพวกเรา ผมว่ามันต้องมีอะไรแปลกไปแน่ๆ

“นายรู้จักเธอเหรอ”

“เปล่าหรอก แค่รู้สึกคุ้นหน้าน่ะ”

ผมเอ่ยเสียงเรียบก่อนที่จะทำตัวให้เป็นปกติที่สุด แล้วค่อยขับรถไปอย่างตั้งใจเหมือนเดิม เรื่องนี้ผมยังบอกกับโมไม่ได้ ถึงเธอจะเป็นเพื่อนสนิทของผมก็เถอะ แต่ผมมีความลับที่ไม่สามารถบอกให้เธอได้รู้ได้อยู่ ถ้าหากเธอรู้เรื่องนี้เข้า ผมคงคิดว่าโมต้องเกลียดผมเข้าแน่ๆ

หลังจากนั้นผมก็ไปส่งโมที่ห้องของไอ้ขุนพลแล้วผมก็รีบบึ่งรถไปที่ห้องเพื่อนของผมทันที แต่ทันทีที่ผมเดินทางมาถึงห้องของเพื่อนผม ผมก็รีบเดินเข้าห้องมันทันทีด้วยความเร่งรีบ จนไอ้คนเจ้าของห้องมองมาที่ผมด้วยสายตาตื่นตกใจ

“มึงเป็นเหี้ยอะไรไอ้กาย ทำหน้าซะเครียดเชียว”

ไอ้ทอย เอ่ยขึ้นพร้อมกับมองมาที่ผมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยสงสัย เพราะมันเองก็คงตกใจไม่น้อยที่จู่ๆ คนที่ไม่ค่อยรู้สึกอะไรอย่างผมก็ทำหน้าเครียดขึ้นมาแบบนี้

“มึงจำผู้หญิงคนนั้นเมื่อสามปีก่อนได้ไหม”

ผมพูดออกมาก่อนที่จะจ้องหน้ามันนิ่งๆ ไอ้ทอยทำหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรสักอย่างก่อนที่มันจะทำสีหน้าตื่นตกใจขึ้นมาอีกครั้ง

“เหี้ย อย่าบอกนะมึง”

“เออ กูเจอเธอแล้ว”

“แล้วมึงจะเอายังไงต่อวะ”

ใช่ ไอ้ทอยมันรู้เรื่องความลับของผมเป็นอย่างดีมันเป็นเพื่อนสนิทอีกกลุ่มของผมนอกเหนือจากโม และมันก็เรียนที่มหาลัยเดียวกันกับผมด้วย และเพราะเหตุการณ์ครั้งนั้นก็เพราะไอ้ทอยนั่นแหละเป็นคนต้นคิด ไม่งั้นผมคงไม่รู้สึกผิดมาจนถึงทุกวันนี้หรอก

“กูไม่รู้ว่ะ กูทำอะไรไม่ถูกแล้ววะตอนนี้”

ผมเอ่ยออกมาด้วยความหนักใจพร้อมกับภาพในอดีตค่อยๆ ย้อนกลับเข้ามาในหัวของผมเป็นฉากๆ





นิยายเรื่องนี้ไรต์แต่งไว้นานแล้ว ยังไงก็ลองอ่านเฮียกายมันหน่อยเน้อ

นางแอบมีปมเบาๆ

ยังไงก็ฝากเรื่องนี้ไว้อีกเรื่องด้วยนะคะ

พลีสสสสส

รีวิวจากผู้อ่าน
ยังไม่มีรีวิวสำหรับเรื่องนี้

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว