120. โคแก่กับหญ้าอ่อนวัยใส-2

โดย  เบนจี้/B.J./BENJE

120. โคแก่กับหญ้าอ่อนวัยใส

2

“คุณพิชญ์เป็นอะไรคะนี่ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ยิ้มอยู่นั่นแหละ ตั้งแต่กลับมาแล้ว มีอะไรดีๆ ไหนเล่ามาสิคะ” พิมพ์พิศาเอ่ยถามด้วยความสงสัย เท้าคางมองหน้าบิดาอย่างสนอกสนใจไม่น้อย

“เปล่าครับ” พิชญ์ตอบบุตรสาวด้วยรอยยิ้ม ดึงอีกฝ่ายมาหา โยกศีรษะไปมาอย่างเอ็นดู

“หรือว่าคุณพิชญ์มีความรัก” พิมพ์พิศาเอ่ยถามอย่างตื่นเต้น

“ทำไมถึงได้ทำหน้าตื่นเต้นแบบนั้นล่ะ” พิชญ์เอ่ยถามบุตรสาวที่อมยิ้มมองหน้าเขาอย่างจับผิด

“ถ้าคุณพิชญ์จะมีแฟน พิมพ์ก็ไม่ว่านะคะ”

พิมพ์พิศาพูดดักคอ เธออ้อนให้ท่านหาแม่ให้ตั้งแต่เด็ก แต่ท่านก็ใจแข็งไม่ยอมมีภรรยาใหม่ โดยให้เหตุผลว่ากลัวจะมีปัญหาแม่เลี้ยงกับลูกเลี้ยง แต่แท้ที่จริงเธอรู้ตอนโตว่าบิดานั้นมีอีกเหตุผลอีกข้อ คือยังไม่ถูกใจสาวคนไหนนั่นเอง

พิมพ์พิศาจำได้ว่าตอนเด็กๆ เธอยังเคยเป็นแม่สื่อให้บิดาจีบครูประจำชั้นของตัวเอง แต่ก็ต้องกินแห้วเพราะบิดาไม่เล่นด้วย

“ไม่มีหรอกครับ แก่แล้วไม่มีใครเอาแล้วล่ะ”

“คุณพิชญ์ไม่เห็นแก่เสียหน่อย ชอบหาว่าตัวเองแก่อยู่เรื่อยเลย แบบคุณพิชญ์นี่แหละ สาว ๆ ชอบ พิมพ์ยังชอบเลย คอยดูนะคะถ้าไปเรียนมหาวิทยาลัย มีเพื่อนสาวหน้าตาน่ารักจะเชียร์ให้จีบคุณพิชญ์”

“พูดไปเรื่อย” เขาโยกศีรษะของบุตรสาวอย่างเอ็นดู พิมพ์พิศวาสเห็นบิดายิ้มแบบนี้ เธอก็นึกอยากรู้ว่าท่านไปปิ๊งสาวคนไหนมา มันต้องมีสักคน เพราะรอยยิ้มพึงพอใจแบบนี้ไม่เคยปรากฏบนใบหน้าของบิดามาก่อน

พิมพ์พิศาได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ ในขณะที่พิชญ์ทนคิดถึงสาวน้อยหน้าหวานไม่ไหว เขากลับไปยังร้านอาหารร้านเดิมและคิดว่าเผื่อจะเจอเข้ากับเธออีก แต่ปรากฏว่าเขาต้องผิดหวัง

พิชญ์รับประทานอาหารเสร็จก็เรียกบริกรมาเก็บเงิน เขาเดินออกจากร้านเรื่อยๆ ทอดอารมณ์คิดถึงใบหน้าหวานๆ ของใครบางคนที่อยากเจอ

ชายหนุ่มยังมีความหวังว่าหากเขามาที่นี่บ่อยๆ อาจจะเจอเธออีกก็เป็นได้ ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จย่อมอยู่ที่นั่น คิดได้แบบนั้นพิชญ์ก็เดินไปที่รถอย่างตัดใจ วันนี้ไม่เจอ วันหน้ายังไงก็ต้องเจอ

“ว้าย! ช่วยด้วย” เสียงร้องของหญิงสาวคนหนึ่งทำให้พิชญ์ชะงัก เขาหันไปเห็นสาวน้อยที่แสนคิดถึงคนนั้นกำลังโดนโจรกระชากกระเป๋าอยู่ พิชญ์ไม่รอช้าเขารีบเข้าไปช่วยเหลือเธอเอาไว้ในทันที

“นี่หยุดนะ!” ร่างสูงวิ่งเข้าหา โจรจึงดึงมีดออกมา ในขณะที่พิชญ์เข้าต่อสู้ มันจ้วงแทงเข้ามา เขาหลบแต่อีกคนก็จ้วงมีดเข้ามาอีก เป็นจังหวะให้เขาหลบไม่ทัน นั่นทำให้พิชญ์โดนมีดของมันเข้าให้

“คุณ!” ต้นฝนร้องขึ้น ยามรักษาความปลอดภัยที่ไปเข้าห้องน้ำรีบตะโกนลั่นในทันที

“เฮ้ย! นั่นทำอะไรน่ะ”

“เฮ้ย หนีก่อน” พวกมันรีบวิ่งไปขี่มอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่อีกด้านและควบหนีไปในทันที รปภ. รีบแจ้งเหตุด่วนให้สกัดจับคนร้ายเอาไว้ ในขณะที่ต้นฝนเข้าไปประคองร่างของพิชญ์เอาไว้

“คุณเป็นยังไงบ้างคะ”

“ไม่เป็นอะไรครับ เป็นแผลเล็กน้อยเท่านั้น” เขาโดนมีดของพวกมันเฉียดๆ เข้าที่แขนเล็กน้อยเท่านั้น พอเจ็บๆ แสบๆ ไม่ได้เป็นอะไรมาก

“เลือดคุณไหลค่ะ ไปทำแผลก่อนนะคะ” เธอรีบพาเขาไปทำแผลที่คลินิกใกล้ๆ ซึ่งเป็นแค่แผลถากๆ จากมีดและไม่ได้เป็นอะไรมาก ทำให้เธอโล่งใจไม่น้อย

“ขอบคุณคุณมากนะคะ” เธอยกมือไหว้เขา พิชญ์ส่ายหน้าไปมาว่าไม่เป็นอะไรแล้ว เธอไม่ต้องกังวลให้มาก

“คุณไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม”

“ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ”

“มีกล้องวงจรปิดอยู่ ตำรวจคงได้ตัวคนร้ายเร็วๆ นี้ มันอุกอาดมานะ แต่คนเดี๋ยวนี้ลำบากกันมาก เศรษฐกิจก็ไม่ดี เลยหากินกันแบบนี้ ต้องระวังเนื้อระวังตัวให้ดีนะ”

“ค่ะ” เธอรับคำ ยังไม่ทันที่เขาจะได้ถามหรือพูดอะไร โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นเสียก่อน

“ค่ะ ค่ะ ทราบแล้วค่ะ” เธอวางสายโทรศัพท์ก่อนจะกล่าวขอบคุณเขาอีกครั้ง

“ฉันต้องขอตัวก่อนนะคะ มีคนมารับแล้วค่ะ เจอกันรอบหน้าหนูจะตอบแทนอะไรคุณได้บ้างคะ” เธอเอ่ยถามอย่างมีความหวัง อยากตอบแทนบุญคุณที่เขาช่วยเหลือเธอเอาไว้ในครั้งนี้ และลึกๆ ก็คาดหวังว่าจะได้เจอเขาอีก

“ไม่ต้องหรอกครับ ถ้าเป็นใครเห็นคุณโดนทำร้ายแบบนั้นก็คงจะช่วยเหมือนผมแหละครับ” พิชญ์อยากจะถามชื่อแส้ของเธอ แต่เธอก็รีบไปขึ้นรถที่บีบแตรรออยู่หน้าคลินิก เขาจึงต้องพับเก็บความอยากรู้นั้นไปเสีย คิดว่าหากบังเอิญได้เจอกันอีก เขาคงรู้ชื่อของเธอในสักวัน

เขาเห็นว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งขับรถกระบะมารับเธอ ทำให้พิชญ์คิดไปว่าเธออาจจะมีคนรักอยู่แล้ว

พิชญ์ไม่ได้เป็นอะไรมากเขาจึงเดินไปที่รถของตัวเอง ขับเรื่อยๆ ออกมา แต่ไม่รู้ทำไมเขาอยากขับตามไปดูว่าเธอบ้านช่องอยู่ที่ไหน บางทีผู้ชายคนคนนั้นอาจจะเป็นพี่ชายของเธอก็ได้ เขาอาจจะมีหวังที่จะได้สานสัมพันธ์กับเธออีก

ชายหนุ่มขับรถตามสาวน้อยมาเรื่อยๆ และมันทำให้เขาต้องขมวดคิ้วเข้าหากันเมื่อเห็นว่ารถกระบะคันนั้นเลี้ยวเข้าโรงแรมม่านรูด

พิชญ์จอดรถและนั่งอึ้งอยู่กับพวงมาลัยรถ เขายอมรับว่ารู้สึกผิดหวังเป็นอันมากที่เห็นเด็กสาวที่คิดว่าขยันและเป็นคนดีเข้าโรงแรมม่านรูดไปกับผู้ชาย เธอคงทำงานหลายประเภท พริตตี้ รวมถึงไซด์ไลน์ด้วยกระมัง

พิชญ์ถอยรถกลับ เขาขับรถกลับบ้านอย่างเลื่อนลอยในขณะที่เลิศเกียรติจอดรถแล้วรีบดึงประตูรถข้างคนขับออกอย่างรวดเร็ว

“พี่เลิศพาฝนมาที่นี่ทำไมคะ” ต้นฝนเอ่ยถามอย่างตกใจ เธอพยายามดึงข้อมือออกจากพี่เขย

เลิศเกียรติมีศักดิ์ของพี่เขยเธอเพราะเขาเป็นสามีของพี่สาวลูกพี่ลูกน้องของเธอ เธอเป็นหลานสาวของชัยวุฒิ บิดาของกนกจันทร์ ซึ่งชัยวุฒิเป็นลุงแท้ๆ ของเธอ มีภรรยาชื่อพิมพ์จันทร์ นั่นก็คือป้าสะใภ้ผู้แสนใจร้ายของเธอนั่นเอง

บิดามารดาของเธอเสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเล็ก ทิ้งมรดกเอาไว้จำนวนหนึ่ง ผู้เป็นลุงกับป้าสะใภ้จึงนำเธอไปชุบเลี้ยง พอลุงของเธอเสียชีวิต ป้าสะใภ้ก็ผลาญสมบัติของบิดามารดาเธอจนหมด และใช้แรงงานเธอเหมือนทาสในบ้าน แถมเธอยังโดนพี่สาวลูกพี่ลูกน้องผู้แสนใจร้ายกลั่นแกล้งสารพัด

“ทำงานได้เท่าไหร่เอามานี่” เลิศเกียรติผลักร่างของต้นฝนเข้าไปในห้อง ร่างของเธอเข้าไปปะทะกับพี่สาวลูกพี่ลูกน้องที่คอยท่าอยู่ก่อนแล้ว

“พี่นก!” เธออุทาน

“แกทำงานได้เงินเท่าไหร่”

“เงินนี่เป็นค่าเทอมของฝนนะคะ”

“ค่าอะไรของแกก็ช่าง แต่ถ้าแกไม่เอามา ฉันจะโทร. เรียกลูกค้าที่อยากซื้อแกมาเดี๋ยวนี้เลย”

“ว้าย! ปล่อยนะ” ต้นฝนวิ่งหนีก็โดนเลิศเกียรติล็อกตัวเอาไว้ ผลักไปนอนแอ้งแม้งอยู่กับเตียง

“พี่จะทำอะไร”

“ฉันจะให้แกขายตัวยังไงล่ะ บอกแล้วไงว่าถ้าแกไม่ยอมขายตัว แกก็ต้องเอาเงินมาให้ฉันกับแม่ แต่ถ้าแกขายตัวแกก็มีเงินให้ฉันกับแม่ แล้วก็มีเงินเรียนด้วยนะ แกยอมตกลงตอนนี้เลยไหม ฉันจะได้จัดลูกค้าคนแรกให้แก” กนกจันทร์ลอยหน้าลอยตากอดอกเอ่ยถาม

“ฝนไม่ขายตัวนะพี่นก”

“ไม่ขายตัวก็เอาเงินมา พี่เลิศ ค้นตัวมันสิ เพิ่งทำงานเสร็จแบบนี้ มันยังไม่เอาเงินไปไหนหรอก” สองผัวเมียเข้าค้นตัวของต้นฝนแล้วก็ได้เงินมาจริงๆ

“อย่าเอาไปนะจ๊ะพี่นก นั่นค่าเทอมของฝนนะ” ต้นฝนพยายามแย่งเงินมาจากพี่สาว แต่อีกฝ่ายจิ้มหน้าผากจนหน้าหงาย ก่อนจะผลักให้ล้มลงไปบนเตียงอีกรอบ

“แกจะโวยวายทำไม หรืออยากขายตัว ที่ฉันกับแม่ให้แกมีที่ซุกหัวนอนก็ปรานีแกมากแค่ไหนแล้วห้ะ”

“ไม่จ้ะ ฝนไม่ขายตัว” ต้นฝนพูดเสียงอ่อย

“ไม่อยากขายตัวก็ต้องเอาเงินมาให้ฉันกับแม่”

กนกจันทร์เหยียดปาก เก็บเงินใส่กระเป๋าอย่างมีความสุข ต้นฝนมองเงินที่เธออุตส่าห์ทำงานทั้งเดือนด้วยความหดหู่ใจ นั่นมันค่าเทอมของเธอที่จะจ่ายในภาคเรียนนี้

“พี่ไปกันเถอะ ส่วนแกหาทางกลับเองแล้วกัน นังหน้าโง่เอ๊ย” กนกจันทร์จิ้มหน้าผากน้องสาวลูกพี่ลูกน้องอย่างสะใจ ก่อนจะพากันไปชอปปิงอย่างสบายใจ

“เงินนังฝนนี่เอามาใช้มันมือจริงๆ เลยเนอะพี่เนอะ” กนกจันทร์พูดกับเลิศเกียรติอย่างมีความสุข เมื่อเธอกับเขามารับประทานอาหารอร่อยๆ ด้วยกัน แถมยังได้มาดูหนังฟังเพลงกันอย่างสบายๆ ไม่ต้องหาเงินเอง

ในขณะที่ต้นฝนออกมาจากโรงแรมม่านรูดด้วยสภาพกระเซอะกระเซิง

อีกไม่นาน... อดทนอีกไม่นาน ต้นฝนบอกตัวเองในใจ

เธอสอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้แล้ว ถ้ามีงานพิเศษทำประจำ เธอจะขยับขยายออกมาจากบ้านของป้าสะใภ้ใจร้าย ที่เธอทนเพราะยังเด็กอยู่ ยังไม่มีที่ไป แต่ต่อจากนี้ไปเธอจะไม่ทนอีกต่อไปแล้ว


รีวิวจากผู้อ่าน
ยังไม่มีรีวิวสำหรับเรื่องนี้

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว