บทที่ 15 วาฬน้อยฝึกเล่นน้ำ
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ประตูห้องอาบน้ำยังคงปิดอยู่
เยี่ยนลี่เฉิงรู้สึกเป็นห่วงจึงเอ่ย "อิงอิงน้อย?"
เขาลองตะโกนเรียกไปสองสามครั้งแต่ก็ยังไม่มีเสียงตอบกลับมา
ทำให้เยี่ยนลี่เฉิงที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาด้านนอก ลุกขึ้นมาและใช้แรงที่ไม่เบานักเคาะประตู
"อิงอิงน้อย?"
ฉินอิงอิงที่กำลังเล่นอยู่ในห้องน้ำอย่างสนุกสนานไม่ได้ยินแม้แต่เสียงเคาะประตู นี่เป็นครั้งแรกหลังจากที่กลายเป็นลูกมนุษย์และได้เล่นน้ำอย่างสบายอกสบายใจ
น่าเสียดายที่มีอย่างหนึ่งไม่ดี!
ลูกมนุษย์กลั้นหายใจไม่ได้ เธอเพิ่งจะดำน้ำลงไปในอ่างแต่ไม่ถึงครึ่งวินาทีก็รู้สึกเหมือนหายใจไม่ออกแล้ว
แต่เด็กน้อยก็ยังไม่ยอมแพ้
เพราะเธอคือวาฬอ้วน!
ถึงแม้จะเป็นลูกมนุษย์แต่เธอต้องอยู่ในน้ำได้นานกว่านี้สิ
ลองอีก!
ไม่สำเร็จ!
เอาใหม่!
เยี่ยนลี่เฉิงที่กำลังรออยู่ตัดสินใจพุ่งเข้าไปในห้องน้ำด้วยใบหน้าซีดเซียวและเห็นภาพอิงอิงน้อยกำลังนอนนิ่งอยู่ในอ่างเข้าพอดี ร่างของเขาราวกับถูกแช่แข็ง
ภาพในหัวที่แม่ของเขานอนนิ่งอยู่บนเตียงและไร้ลมหายใจแวบขึ้นมา เยี่ยนลี่เฉิงรีบกลับมามีสติอีกครั้ง
"อิงอิงน้อย!"
เขาพุ่งตรงไปที่อ่างอาบน้ำและรีบอุ้มอิงอิงน้อยขึ้นมาอยู่ในอ้อมแขนอย่างรวดเร็ว
ฉินอิงอิงกำลังพยายามปรับตัว เมื่อถูกเยี่ยนลี่เฉิงวิ่งเข้ามาเอาเธอขึ้นจึงทำให้น้ำในอ่างพุ่งเข้าจมูกและสำลักทันที
“แค่ก ๆ ๆ!”
“แค่ก ๆ!”
“อิงอิงน้อย!”
ฉินอิงอิงสำลักน้ำจึงรู้สึกเจ็บปวด
เยี่ยนลี่เฉิงตกใจอกสั่นขวัญหาย เขาหยิบผ้าเช็ดตัวข้าง ๆ มาห่มเด็กน้อยไว้และรีบวิ่งลงไปชั้นล่าง
แต่จู่ ๆ ก็พบว่าอุ้มเธอไปต่อไม่ได้
เมื่อกวาดสายตามองไปก็เห็นแขนเล็ก ๆ ที่ขาวราวกับดอกบัวกำลังจับชั้นวางของอยู่ วาฬน้อยที่สำลักน้ำกำลังมองเขาด้วยสีหน้าสับสน
“พะ…พี่ยี่เฉิง พี่จะอาบน้ำด้วยกันกับอิงอิงใช่ไหม? แค่ก ๆ”
เยี่ยนลี่เฉิงที่กำลังตกใจจนอกสั่นขวัญแขวน รีบเอามือน้องสาวที่เกาะชั้นวางของออกอย่างอ่อนโยน
“เด็กดีอิงอิง พี่ชายลี่เฉิงจะพาเธอไปตรวจที่โรงพยาบาล เธอจะไม่เป็นอะไร”
ฉินอิงอิงสับสน “...”
“พี่ยี่เฉิง ทำไมจะต้องไปแต่โรงพยาบาล?”
วาฬน้อยไม่อยากไปโรงพยาบาล
สถานที่ฉีดยามันเจ็บมาก ๆ
เมื่อเห็นเจ้าตัวน้อยต่อต้านการไปโรงพยาบาล เยี่ยนลี่เฉิงจึงปลอบใจเธออย่างอ่อนโยนทั้ง ๆ ที่หัวใจยังเต้นรัว ๆ
“อิงอิงไม่ต้องกลัว แค่ไปตรวจไม่เจ็บหรอก”
วาฬน้อยกอดคอของพี่ชายไว้และเอาศีรษะเล็ก ๆ ที่เปียกโชกเข้าไปในอ้อมแขนของเขา ก่อนจะเริ่มออดอ้อนเหมือนเด็ก
“พี่ยี่เฉิง ไม่ไป~”
เยี่ยนหลี่เฉิงโดนความน่ารักจู่โจมอีกแล้ว “...”
ในเสียงเล็ก ๆ นั้นมีความไม่สบายใจอยู่ เยี่ยนลี่เฉิงจึงใจอ่อนลง แต่แล้วเด็กน้อยก็เริ่มไออีกครั้ง
เพราะเธอไอแรงมาก ฉินอิงอิงจึงรู้สึกไม่ค่อยสบายและดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขนของพี่ชาย
เยี่ยนลี่เฉิงคิดไม่ถึงว่าอิงอิงน้อยจะมีแรงเยอะและเคลื่อนไหวได้เร็วขนาดนี้
เขารอให้เธอมีสติ พลางสังเกตุผิวที่ขาวจนแสบตาของอิงอิงน้อย
เยี่ยนลี่เฉิงเงียบงัน “...”
ใบหน้าของเด็กน้อยเปลี่ยนเป็นสีแดงราวกับถูกไฟไหม้ทันที เมื่อเยี่ยนลี่เฉิงเห็นดังนั้นก็ใช้ผ้าเช็ดตัวในมือห่มเธอไว้อย่างรวดเร็ว ผ้าเช็ดตัวคลุมอิงอิงน้อยมิดไม่เว้นแม้แต่ศรีษะ เด็กชายรีบอุ้มเธอลงไปชั้นล่าง
ขณะที่วาฬน้อยนิ่งไป “...”
…
ณ ตระกูลฉินที่ห้องประชุมชั้นบนสุด
ฉินอี้หานกำลังเปิดการประชุมระดับสูง อาจเพราะมีเด็กน้อยน่ารักมาอยู่ข้างกาย ผู้บริหารระดับสูงทั้งหลายจึงพากันแปลกใจในรัศมีที่แปลกไปของประธานฉิน
ถ้าจะถามว่าไม่เหมือนเดิมตรงไหน คำตอบก็คือ
ดูเหมือนจะมีน้ำใจมากขึ้นแต่มีความโหดร้ายเย็นชาน้อยลง
เขายังคงยิ้มนาง แต่อย่างไรคนอื่นก็ไม่กล้าที่จะเงยขึ้นไปจ้องหน้าเขาชัด ๆ
มันแปลกเกินไปแล้ว!
ผู้บริหารแต่ละคนไม่ค่อยมีสมาธิฟังการอภิปรายในการประชุมมากนัก
จู่ ๆ โทรศัพท์ของฉินอี้หานก็ดังขึ้น แต่เขาไม่สนใจ
แต่ก็ฉุกคิดได้ว่า อาจเป็นลี่เฉิงที่โทรมาเรื่องอิงอิงน้อย เมื่อมองดูก็เป็นลี่เฉิงตามที่คาดไว้ ชายหนุ่มจึงรีบรับสายทันที
“ลี่เฉิง”
เสียงของเยี่ยนลี่เฉิงดูหวาดกลัวอยู่ไม่น้อย
“อาฉินครับ อิงอิงน้อยจมน้ำ ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาลกลาง”
ม่านตาของฉินอี้หานปิดลงอย่างรวดเร็ว เส้นเลือดบริเวณหลังมือที่กำลังถือโทรศัพท์นูนเด่นขึ้นมา
“ได้ ฉันจะรีบไป!”
หลังจากวางสาย ฉินอี้หานก็ลุกขึ้นยืนและรีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
เจียงฮุยที่ติดตามเขามาโดยตลอดก็แทบจะตัวแข็งทื่อไปกับรังสีอำมหิตที่แผ่ซ่านออกมา
ผู้บริหารระดับสูงต่างหันไปมองหน้าเจียงฮุยพร้อมกัน
เจียงฮุยจึงรีบพูดทันที “การประชุมจบลงเท่านี้ ปิดประชุม!”
เมื่อพูดจบจึงรีบตามออกไป
ผู้บริหารระดับสูงต่างพากันซุบซิบ
“ผู้บริหารฉินเป็นอะไร? เป็นครั้งแรกที่เห็นผู้บริหารฉินมีสีหน้าแบบนั้น”
“ไม่รู้สิ! ผู้ช่วยเจียงก็ไม่ได้บอกอะไรไว้”
“เหมือนว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น!”
“ฉันได้ยินทนายท่านนั้นพูด ประธานฉินให้ทนายส่งจดหมายไปให้พี่สาวแท้ ๆ ของภรรยารองตระกูลเยี่ยนเมื่อวานนี้!”
“อ้าว? ทำไมล่ะ? หลังจากที่ภรรยาเอกของตระกูลเยี่ยนเสียชีวิตจากการรอบวางเพลิงเมื่อสองปีก่อน เยี่ยนลี่เฉิง หลานคนโตก็ถูกขับไล่ออกจากตระกูลเยี่ยน ประธานฉินจึงรับเขามาเลี้ยงไว้ หลังจากนั้นตระกูลฉินและตระกูลเยี่ยนก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก พี่สาวแท้ ๆ ของภรรยารองตระกูลเยี่ยนเป็นใครกัน? เหตุใดประธานฉินถึงต้องสนใจเธอ อีกทั้งยังให้ทนายส่งจดหมายไปหาด้วย?”
“ผมก็พอทราบข่าวมาบ้าง แต่ผมรู้สึกว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้จึงไม่อยากพูด”
“รีบพูดมาเร็ว!”
“เอ่อ! อะแฮ่ม! ดูเหมือนประธานฉินจะรับลูกสาวบุญธรรมวัยสามขวบครึ่งมาเลี้ยง ที่พี่สาวแท้ ๆ ของภรรยารองตระกูลเยี่ยนได้รับจดหมายจากทนายเป็นเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้างสรรพสินค้าเซิ่งหลินแต่ด้วยเหตุผลใดนั้นยังไม่ชัดเจน”
ทุกคน “...”
ประธานฉินรับบุตรสาวบุญธรรมมาเลี้ยง?
นี่มันเรื่องล้อเล่นอะไรกัน?
เท่าที่พวกเขารู้ ดูเหมือนประธานฉินจะไม่สนใจเด็กและไม่อยากแต่งงาน
อ้อ!
ยังมีข่าวลืออีกว่าประธานของพวกเขาไม่ชอบผู้หญิง!
ผู้หญิงที่แสนอ่อนโยนไม่ชอบ แต่กลับไปรับเลี้ยงเด็กน้อยวัยสามขวบครึ่งที่ทำได้เพียงส่งเสียงร้องไห้เนี่ยนะ
นี่ต้องเป็นเรื่องล้อเล่นแน่ ๆ!
ถึงแม้จะรับบุตรบุญธรรมมาเลี้ยงเพื่อรับมรดกตระกูลฉินจริง ๆ แต่ก็ควรจะรับบุตรชายบุญธรรมมาเลี้ยงไม่ใช่หรือ?
“ข่าวของคุณมันน่าเหลือเชื่อเกินไป!”
“ใช่!”
…
ที่โรงพยาบาลกลาง ฉินอิงอิงสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยโดยมีเยี่ยนลี่เฉิงอุ้มไว้ในห้องทำงานของซ่งซือหลินอย่างกระสับกระส่าย
เยี่ยนลี่เฉิงรู้สึกกลัวและทำตัวไม่ถูก
“อาซ่ง อิงอิงน้อยไม่เป็นอะไรจริง ๆ เหรอ?”
ในตอนที่ซ่งซือหลินได้รับโทรศัพท์เขาก็ตกใจเหงื่อท่วมตัวเช่นกัน เขาได้เห็นแล้วว่าฉินอี้หานให้ความสำคัญกับบุตรสาวบุญธรรมที่เพิ่งรับมาขนาดไหน เกรงว่าตอนที่รู้เรื่องอีกฝ่ายคงโกรธจนกินคนเข้าไปได้
ยังดีที่ลี่เฉิงแค่ตื่นตูมไปก่อน
“ไม่ได้ร้ายแรงแบบที่นายคิดหรอก เธอแค่สำลักน้ำเล็กน้อย น่าจะเล่นน้ำโดยไม่ระวังจึงสำลักน้ำซ้ำ ๆ”
เมื่อเธอรู้ว่าพี่ชายรีบร้อนพามาโรงพยาบาลเพราะตนเองสำลักน้ำ ฉินอิงอิงก็กอดแขนของเขาไว้อีกทั้งยังเอาแก้มของตัวเองถูกับแก้มของอีกฝ่ายเบา ๆ เธอสังเกตว่าหน้าของพี่ชายซีดเผือด อาจเป็นเพราะเธอทำให้เขาตกใจ
“พี่ยี่เฉิง… ใช่… อิงน้อย… ไม่...”
พี่ชายฉันขอโทษที่ทำให้พี่ตกใจ
เยี่ยนลี่เฉิงกอดอิงอิงน้อยไว้ในอ้อมแขนแน่น เหงื่อเย็น ๆ ค่อย ๆ ไหลลงตามแผ่นหลังจนเสื้อเชิ้ตสีขาวเปียกโชก
มือ เท้า และแก้มก็เย็นตามไปด้วย
เมื่อเห็นอิงอิงน้อยสวมชุดเจ้าหญิงสีชมพู เยี่ยนลี่เฉิงถึงกล้าหันไปมองเต็ม ๆ ตา
เขาเพิ่งจะเห็นปัญหาหนึ่งอย่างคืออิงอิงน้อยเพิ่งอายุแค่สามขวบครึ่ง เธอจึงยังไม่เข้าใจว่าผู้หญิงและผู้ชายมีความแตกต่างกัน
เมื่อผ่านมาถึงตอนนี้จึงมีเพียงเขาคนเดียวที่รู้สึกอึดอัดเพราะก่อนหน้านี้เห็นเจ้าตัวเล็กโป๊
เฮ้อ!
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว