“ช่วยหน่อยสิ” เขายื่นมือให้เธอดึงขึ้นไปจากท้องร่อง
“พูดแบบนี้ไม่ช่วยหรอก ขอร้องฉันก่อนสิ ขอร้องเสียงหวานๆ เพราะๆ เหมือนเวลาที่นายคุยกับผู้หญิงคนอื่นน่ะ”
“เรื่องมากชะมัด” เขาบ่นอุบ
“บ่นอะไรได้ยินนะโว้ย!”
เธอกอดอกอย่างเป็นต่อ หูดีอีกเสียด้วย
“คุณมะยมคนสวยคร๊าบ ช่วยดึงกระผมขึ้นไปหน่อยสิคร๊าบ”
“แบบนี้ค่อยระรื่นหูหน่อย แต่มันยังไม่โอเคเลย ขออีกนิดนึง อ้อนหน่อยๆ ทำเสียงหวานๆ เรียกฉันว่าคุณด้วย”
“มันจะมากไปแล้วนะ”
“อ๋อ... มากไปเหรอ งั้นก็ตามใจ”
มะพร้าวตะเกียกตะกายขึ้นจากร่องน้ำเอง แต่เขาก็ไหลลงไปเปื้อนโคลนอีกครั้ง คนที่อยู่ด้านบนหัวเราะคิกๆ อย่างมีความสุข
“คุณมะยมครับ ช่วยกรุณาดึงผมขึ้นไปหน่อยครับ”
“โอเค พูดแบบนี้ค่อยน่าฟังหน่อย มันระรื่นหูมากๆ เลยล่ะ”
เธอยิ้มอย่างเป็นต่อ ก่อนจะหาไม้มาถือเอาไว้ ยื่นไปให้เขาจับเพื่อจะดึงเขาขึ้นมาจากร่องน้ำที่ขุดเอาไว้ สำหรับรดพืชผักในสวนในไร่
“ดึงแรงๆ หน่อย” เขาบอกเธอ
“ตัวหนักเหมือนช้าง โอ๊ย! เหนื่อยแล้วนะ วะ ว้าย! ไอ้บ้า ตูม!”
เธอถลาลงไปในร่องน้ำเพราะเขากระตุกแรงจนเธอเสียหลักแบบไม่ทันตั้งตัว
“ไอ้มะพร้าว ฉันสกปรกหมดแล้วไม่เห็นหรือไง”
“เห็น...”
เขาตอบอย่างยียวน ก่อนจะปีนขึ้นไปจากท้องร่อง หัวเราะสะใจที่ได้เอาคืนคนปากดี
“นี่นาย!”
เธออ้าปากค้าง ในขณะที่เนื้อตัวเปียกปอนเต็มไปด้วยโคลนตม เขาปีนขึ้นไปได้ แต่มาขอให้เธอช่วย
เมื่อกี้เขาแกล้งปีนไม่ได้!!!
บ้าที่สุด!!!
“สมน้ำหน้ากะลาหัวจอก อยากโง่เองนี่นา”
“นายดึงฉันขึ้นไปเลยนะ”
“มีความสามารถก็ขึ้นมาเองสิ” เขาพูดอย่างเป็นต่อ
“ไอ้บ้า! ฉันตกลงมาเพราะนายเลยนะ นายต้องช่วยฉัน”
“เรื่อง?” เขายักไหล่ท่าทียียวน
“ไอ้ๆๆๆ”
“พูดเพราะๆ ก่อน พูดแบบนี้ระคายหูมากๆ เลย”
“ไอ้!!!”
“อ่ะๆๆ พูดไอ้อีกคำ ทิ้งไว้ในร่องน้ำนี่แหละ”
คนที่ถือไพ่เหนือกว่าเริ่มเอาคืนบ้างแล้ว
“ช่วยหน่อย”
“ยังไม่โอเค ต้องพูดว่า พี่มะพร้าวขา... ช่วยมะยมขึ้นจากร่องน้ำหน่อยค่ะ”
“โอ๊ย! ฟังแล้วขนลุก” เธอทำท่าขนลุกตามพูด
“งั้นอยากนอนในท้องร่องก็เอาสิ”
“ก็ได้ๆๆ” เธอเม้มปากเก็บความคั่งแค้นเอาไว้ในใจ
“พี่มะพร้าวขา... ช่วยมะยมขึ้นไปหน่อยค่ะ”
“ไม่เอาดีกว่า เพิ่มเติมเข้าไปอีกนิดว่า พี่มะพร้าวขา กรุณาช่วยน้องมะยมขึ้นจากร่องน้ำหน่อยค่ะ”
“นี่นาย!” เธอขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน มองเขาอย่างโกรธจัด
“ไม่ช่วยนะ” เขาพูดอย่างเป็นต่อ
“พี่มะพร้าวขา กรุณาช่วยน้องมะยมขึ้นจากร่องน้ำหน่อยค่ะ”
เธอพูดเสียงหวานหยด ปรับสีหน้าให้ดีขึ้น ท่องเอาไว้นังมะยม น้ำขุ่นไว้ใน น้ำใสไว้นอก เขายิ้มยิงฟันใส่เธอ ยื่นมือมาดึงเธอขึ้นไป
“อุ๊ย!”
เธออุทานเมื่อปะทะกับอกกว้างของเขา มองสบตากันอย่างอึ้งๆ
“นายเอียงหูมาหน่อยสิมีอะไรจะบอก”
เธอทำท่าทีขวยเขิน
“หือ... อะไร” เขาครางก่อนเอ่ยถาม
“ยื่นหูมาสิ”
เขายื่นหูไปหาเธอ
“ขอบใจนะที่ช่วยฉันขึ้นมา”
คำพูดที่ตอบแบบซาบซึ้งใจ ทำมะพร้าวยิ้มกว้าง ก่อนจะร้องเสียงหลง
“โอ๊ย!!! ขาดแล้ว อย่ากัด ยัยตัวแสบ”
มะยมกัดหูอีกฝ่ายก่อนจะวิ่งหนี มะพร้าวกุมหูร้องโอดโอย ไม่น่าหลวมตัวหลงกลเจ้าหล่อนเลย
“ฝากไว้ก่อนเถอะ”
“ไม่รับฝากย่ะไอ้มะพร้าวหน้าหม้อ”
เธอแลบลิ้นปลิ้นตาใส่เขา ก่อนจะวิ่งหนีกลับบ้านไป ทิ้งให้คนด้านหลังยืนหน้าเขียวหน้าเหลืองอยู่แบบนั้น
มีคนบอกว่าเวลามักผ่านไปเร็วเหลือเกิน ฤกษ์แต่งงานที่หลวงตาที่วัดให้มา มาถึงแล้ว พ่อแม่ฝ่ายเจ้าบ่าวเจ้าสาวเชิญแขกเหรื่อและญาติสนิทมิตรสหายมาร่วมงานอย่างมากมาย
เจ้าสาวนั่งหน้าบึ้งอยู่หน้ากระจก ต้องไปเข้าพิธีแต่งงานกับคนที่เกลียดเข้าไส้ อยากจะป่วนงานให้ล่มแต่เกรงใจบิดามารดานัก ถึงเธอจะดื้อมากมายแค่ไหน แต่รักพวกท่านเหลือเกิน ไม่อยากทำให้พวกท่านต้องเสียใจหรืออับอายขายหน้า
“ได้เวลาแล้วมะยม ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อยสิ”
เพื่อนสาวอย่างชบาบีบบ่าของเธอเบาๆ ยิ้มให้ในกระจก ก่อนจะหลุดขำ
“ขำอะไร” คนหน้างอหันมาถาม
“เจ้าสาวสวยขนาดนี้ เจ้าบ่าวต้องตกตะลึงแน่ๆ เลย”
“เหอะ! ไอ้มะพร้าวนะเหรอจะตกตะลึง มันเกลียดฉันจะตายไป”
“เคยได้ยินไหม เขาว่าเกลียดอะไรมักได้อย่างนั้น”
“ไม่เกลียดมันก็ได้ แค่ไม่ชอบเฉยๆ”
“ไม่ทันแล้วล่ะ เกลียดเขาเข้าไส้ ระวังนะ พอเข้าหอจะโดนเขาปล้ำเข้าให้ โดนกินตับ กินหัวกินหาง กินกลางตลอดตัว”
“ทะลึ่งลามกนะชบา” คนว่าหน้าแดง
“ไปได้แล้ว เดี๋ยวเลยฤกษ์”
“ไปก็ได้ ทำไมฉันถึงซวยต้องแต่งงานกับอีตาบ้านั่นด้วยนะ”
“ถือว่าฟาดเคราะห์แล้วกัน จะได้แต่งงานรอบเดียวไม่ขึ้นคาน”
“อะไรของเธอชบา”
มะยมทำหน้างงในคำพูดของเพื่อน ชบาหัวเราะร่วน
“นี่เธอหมายความว่าฉันต้องเป็นเมียไอ้มะพร้าวจนตายเหรอ”
“ไปเถอะ ถ้าเธอมีลูกคนแรกนะมะยม ฉันจะตั้งชื่อว่ามะเฟือง”
“ฉันเกลียดชื่อที่มีคำนำหน้าว่ามะที่สุด”
พ่อเมาเลยตั้งชื่อเธอได้ทุเรศทุกรังสุดๆ คิดดูแล้วกัน ไปโรงเรียน คุณครูเรียกไปหน้าชั้น เด็กหญิงมะยม ร่วมขวิด ชื่อน่าเกลียดแบบนี้ไม่มีอีกแล้วในโลก
เด็กสาวคนอื่นชื่อไพเราะเพราะพริ้ง ส่วนเธอนะเหรอชื่อสิ้นคิดที่สุด!
ชบาหัวเราะร่วน พาเพื่อนออกไปจากห้อง วันนี้มีเพื่อนๆ ร่วมรุ่นมาร่วมงานมากมามาย
เจ้าบ่าวที่รออยู่หน้าตูม แต่พอเงยหน้าขึ้นมาเท่านั้นแหละ มะพร้าวถึงกับตกตะลึงอ้าปากค้าง จนเพื่อนเจ้าบ่าวข้างๆ ตบบ่าให้มีสตินั่นแหละ เขาถึงหุบปากฉับ ตีสีหน้าขรึมดังเดิม ก็ใครจะคิดว่าเจ้าสาวของเขาจะสวยขนาดนี้กันเล่า แต่คนอย่างเขาเหรอจะเอ่ยชมออกมาให้หล่อนได้ใจ
ไม่มีทางเสียหรอก!!!
“สวมแหวนให้น้องสิมะพร้าว”
เขาดึงนิ้วเธอมาสวม เธอขืนไว้ เขาไม่ยอมปล่อยดึงมือเธอมายัดแหวนใส่นิ้วนางข้างซ้าย เธอถลึงตาใส่ แต่เขาหรือจะสน การเอาชนะเธอคือความสุขเล็กๆ ในชีวิต
“สวมแหวนให้พี่เขาสิลูก”
มารดาของเธอทำมาเป็นเรียกไอ้มะพร้าวว่าพี่เชื้อ จริงๆ หมอนี่อายุเท่ากับเธอถ้านับปี แต่แก่เดือนเท่านั้น แค่คิดว่าต้องเรียกอีตานี่ว่าพี่เธอก็ขนลุกขนพองสยองเกล้า
เธอจัดการยัดแหวนเข้าที่นิ้วของเขา มะพร้าวสะดุ้งคาดโทษเอาไว้ และเป็นจังหวะที่เพื่อนร่วมรุ่นเชียร์ให้เขาหอมแก้มเธอ
เขาเห็นยัยมะยมตัวแสบทำหน้าตกอกตกใจ ไม่ทันได้ตั้งตัวก็ถูกปากร้อนๆ หอมแก้มฟอดใหญ่ เขาบดปากจนเธอเจ็บแก้ม
ม๊วฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ!
หอมซ้ำๆ เหมือนมันเขี้ยว เธออยากจะกรีดร้องที่เขาหอมแรงๆ แกล้งเธออย่างสะใจ
“มะยมก็หอมแก้มกลับสิ หอมเลยๆๆๆ”
เสียงเชียร์ยังกับเชียร์มวย มีหรือมะยมจะไม่คึก
“โอ๊ย!!!!!!!!!!!!!”
เสียงมะพร้าวร้องลั่นงานเมื่อเธอหอมแก้มเขา ก่อนคว้าหมับเข้าให้ กัดหูอีกฝ่ายแทบขาด
“มะพร้าวเป็นอะไรลูก”
ลำไยเอ่ยถามว่าที่ลูกเขย ในขณะที่มะยมทำเป็นหน้าระรื่น
“หมา เอ๊ย! มดกัดครับ พวกมดอันธพาลน่ะ”
มะยมขึงตาเข้าใส่ หนอย... หลอกด่าว่าเธอเป็นหมาอย่างนั้นเหรอ
“สงสัยจะหวานจนมดอิจฉา”
ลำไยหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจ มะยมนึกหมั่นไส้มารดาชะมัด
เสร็จพิธีสวมแหวนหมั้นก็เป็นพิธีรดน้ำสังข์ มะยมขอตัวไปห้องน้ำปล่อยให้เจ้าบ่าวของเธอคุยกับเพื่อนฝูง
“อุ๊ย!”
เดินออกมาจากห้องน้ำก็สะดุดเข้ากับเจ้าบ่าว วันนี้หมอนี่หล่ออยู่หรอก แต่คนอย่างเธอหรือจะชมเขาให้ได้ใจ ไม่มีทางเสียหรอก
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว