1
เสียงปี่พาทย์มอญวงมโหรีงานศพดังแทรกเข้ามาในรถผ่านช่องกระจกที่เปิดอ้าออกเพียงครึ่ง ตฤนส่งสายตามองผู้เป็นนายที่นั่งนิ่งอยู่บนเบาะหลังรถด้วยสีหน้าครุ่นคิดแกมหนักใจเป็นอันมาก
อธิปกรณ์กำลังลังเลว่าเขาควรจะเริ่มต้นยังไงดี เดินดุ่มเข้าไปในงานศพและรับเอาตัวเธอมา หรือว่าให้เงินเธอและทิ้งเธอไว้ที่เดิมอย่างเก่าตามยถากรรม
“คุณปกครับ” เสียงของคนขับรถเรียกขอคำตอบ
“กลับบ้านเถอะ”
“คุณปกต้องการแบบนั้นหรือครับ” อธิปกรณ์พยักหน้าลง
“อืม พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่”
รถยังไม่ทันได้ออกตัว ประตูฝั่งคนนั่งด้านหลังก็เปิดอ้าออก เด็กสาวผมสั้นสวมชุดมัธยมต้นสอดตัวเข้ามานั่งข้างอธิปกรณ์ คนทั้งสองในรถมองหน้าเธอ อธิปกรณ์เรียบเฉย แต่ตฤนกับแสดงอาการมีนัย
“คุณรวยหรือเปล่าคะ” เธอถามเสียงเรียบ
“คุณเป็นคนรวยใช่ไหมคะ รถคุณแพงมาก และคุณก็ดูดีแบบคนรวย คุณเป็นคนรวยหรือเปล่าคะ” ตฤนมองหน้าเจ้านายคล้ายขออำนาจพูดแทน
“ใช่ ฉันรวย” เสียงอธิปกรณ์เรียบนิ่งเป็นเส้นตรง กิริยาเขาสงบแฝงลึกด้วยความน่าเกรงขาม
“หนูชื่อขิม อายุสิบสี่ปี ถ้าคุณรวยหนูขายไตให้คุณหนึ่งข้างเอาไหมคะ” ตฤนเผลอหลุดขำแรงจนเขาต้องตบอกกระแอม เพราะจู่ๆ คุณปกของเขากำลังถูกอ้อนวอนให้ซื้อไตเด็กมัธยม ตฤนที่กำลังพยายามกลั้นยิ้มมองหน้าคนเป็นนายที่บัดนี้คิ้วเข้มเลิกสูงขึ้น
“ทำไมฉันต้องถึงอยากได้ไตเธอ”
“เพราะหนูมีหัวใจอันเดียว หนูคงขายให้คุณไม่ได้” อธิปกรณ์ไม่ได้นึกขำในน้ำเสียงของเด็กวัยมัธยม เพราะมันเจือด้วยความสิ้นหวัง และอดสูกับชะตาชีวิตของตัวเอง
“ถ้าฉันไม่ซื้อเธอจะไปขายคนอื่นหรือเปล่า” เสียงหัวเราะแสนเศร้าหลุดออกมาจากริมฝีปากอิ่มสีซีดของเด็กสาว
“ป้าของหนูกำลังเจรจาขายหนูให้ไปเป็นเมียพ่อค้าขายหมูในตลาด หนูแค่ชิงขายตัวเองก่อน” อธิปกรณ์มองแววตาใสซื่อคู่สวย ครั้งหนึ่งเขาเคยเห็นมันเมื่อเจ้าของแววตายังเด็กกว่านี้ ครั้นยังสดใสเปล่งประกายหาใช่หวาดหวั่นท้อแท้
“หนูเห็นคุณมาจอดรถที่นี่ทุกวันตั้งแต่งานศพพ่อเริ่มสวด พรุ่งนี้ก็เผาแล้ว หนูเดาเอาเองว่าคุณคงเป็นคนรู้จักของพ่อ” เด็กคนนี้พูดถูก และพ่อของเธอคงไม่ได้บอกอะไรไว้มากนัก เพราะสิ่งที่เด็กเรียกร้องคือขอให้เขาซื้อไตเธอ ไม่ใช่เรื่องอื่นที่ตัวเขาเคยตกลงไว้กับพ่อของเธอ
ตฤนมองหน้าเจ้านายด้วยความสงสัยว่าอธิปกรณ์จะจัดการยังไงในเมื่อเด็กชื่อขิม เองก็คือปัญหาที่อธิปกรณ์หนักใจตั้งแต่ทราบข่าวว่าคุณสรงเสียชีวิตด้วยโรคตับแข็ง
“คุณช่วยซื้อไตหนูหน่อยนะคะ” เสียงเล็กเว้าวอน
“เธอจะเอาเงินไปทำอะไรได้ในเมื่อเหลือไตแค่ข้างเดียว”
“จะเอาไปซื้อบัตรคอนเสิร์ตแพลทินัม เพื่อจับมือกับศิลปินที่หนูชอบ” ผู้ใหญ่สองคนในรถมองตากันโดยไม่ได้นัดหมาย
“ในเมื่อไม่มีพ่ออยู่ด้วย โลกใบนี้ก็ไม่น่าอยู่อีกต่อไปแล้วค่ะ มันอาจฟังดูไร้สาระที่หนูขายไตแลกบัตรคอน แต่เชื่อเถอะค่ะชีวิตหนูมีเหลืออยู่แค่นี้”
เธอหดหู่
สิ้นหวัง
หวาดกลัวและท้อแท้ เด็กอายุสิบสี่ปีจำเป็นต้องแบกโลกทั้งใบเอาไว้ด้วยตัวเอง อธิปกรณ์มองดูแววตาคู่สนทนา เขาคงทิ้งเงินให้เธอไว้ไม่ได้หรอก เพราะเธอกำลังหลงทาง และต้องการใครสักคนเป็นหลักยึด
“ฉันจะให้เงินเธอไปซื้อบัตรคอนเสิร์ต”
“ไตหนูล่ะคะ คุณจะเอาไปเลยไหม”
“ช่วยเก็บมันไว้ก่อน” อธิปกรณ์ส่งสายตาออกไปนอกตัวรถเพื่อมองหาคนเป็นป้าของเด็ก
“ฉันตกลงจะซื้อไตเธอ แต่ทุกอย่างต้องมีขั้นตอน เธออยากลงไปคุยกับป้าของตัวเองกับฉันไหม”
“ไม่ค่ะ”
“นั่งรออยู่บนรถแล้วกัน เดี๋ยวฉันกลับมา”
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว