ยุทธการเลื่อยขาแท่นบรรทมฝ่าบาท(ซีรีย์นางหน้าพระพักตร์)

ขอฮาวทู จัดการกงนู่ง่ายๆหน่อย

บทที่ 29 วาฬน้อยชอบกินเนื้อ


ชายชราแห่งตระกูลอย่างคุณปู่ฉินก็ได้ยินข่าวที่ลูกชายคนเล็กรับเลี้ยงเด็กโง่พูดไม่ได้กับเขาเหมือนกัน ใบหน้าของเขามืดมนและน่ากลัว


แต่คุณนายตระกูลฉินกลับหัวเราะอย่างดีอกดีใจ


“เด็กผู้หญิงจริงเหรอ?”


ถ้าใช่จริง ๆ งั้น… ในที่สุดเธอก็มีหลานสาวแล้วสิ


คุณปู่ฉินโกรธหน้าดำหน้าแดง “น่าจะใช่ ทุกคนพูดแบบนั้นกันหมด”


คุณย่าฉินดีอกดีใจจนเริ่มหลงประเด็น


“ฉันจะโทรไปหาอี้หาน ให้เขาพาหลานสาวตัวน้อยมาที่นี่!”


“โอ๊ยย! หลานสาวตัวน้อยที่น่ารักของฉัน!”


“เบบี๋ที่น่ารัก!”


คุณปู่ฉินมองภรรยานิ่ง “...”


นั่นใช่ประเด็นสำคัญเหรอ?


ประเด็นสำคัญคือ…


ชายชราแห่งตระกูลฉินสูดหายใจเต็มปอด นั่งลงและใช้โทรศัพท์ที่ห้องหนังสือโทรไปหาลูกชายคนโตกับลูกชายคนรอง


“วันนี้พาเด็ก ๆ กลับมากินข้าวด้วยกันสิ!”


เมื่อนายใหญ่แห่งตระกูลฉินพูดจบก็วางสายไปโดยไม่ปล่อยเวลาให้ปลายสายปฏิเสธ



ณ คฤหาสน์เยว่หัว ฉินอิงอิงกำลังพลิกดูหนังสือภาพอย่างเพลิดเพลิน


มันคือสิ่งที่หาไม่ได้ในทะเล ภาพวาดดูมีชีวิตชีวาและน่าสนใจไม่น้อย เมื่อได้ลองจินตนาการและยิ่งอ่านเธอก็ยิ่งชอบ


เยี่ยนลี่เฉิงอ่านหนังสืออยู่ที่โซฟาตัวข้าง ๆ บังเอิญเงยหน้ามาเห็นอิงอิงตัวน้อยที่กำลังเอนกายอย่างเกียจคร้านบนโซฟาเหมือนกับนางสนมสมัยก่อน รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความรักและเอ็นดูปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา


ผ่านไปได้ไม่นาน ป้าหวงก็มาเคาะประตู จากนั้นก็ผลักเข้ามา


“คุณชายลี่เฉิง คุณหนู ป้าซื้อผลไม้มาเยอะมาก เลยล้างแล้วเอามาเสิร์ฟ มาลองชิมกันสิคะ”


ฉินอิงอิงพูดด้วยเสียงน่ารัก “ขอบคุณค่ะป้าหวง!”


ป้าหวงดีใจจนฉีกยิ้มกว้าง “คุณหนูไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ นี่เป็นสิ่งที่ป้าต้องทำ รีบมาชิมสิคะ”


เมื่อเห็นท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูของเด็กหญิง ป้าหวงก็ส่งผลไม้เข้าปากของเธออย่างอดไม่ได้


มะม่วงชิ้นเล็ก ชุ่มฉ่ำ สีเหลืองอมส้ม ดูสะดุดตามาก


แต่ฉินอิงอิงเห็นแล้วไม่รู้สึกชอบใจสักเท่าไหร่


“พี่ลี่เฉิงกินเถอะ”


ป้าหวงยิ้ม “ยังมีอีกเยอะค่ะ ส่วนของคุณชายลี่เฉิงก็มีเหมือนกัน”


เพราะฉะนั้นไม่ต้องถ่อมตัวกันหรอก


ป้าหวงไม่ได้รู้เลยว่า ที่จริงแล้วฉินอิงอิงไม่ได้ชอบกินอะไรแบบนี้


เยี่ยนลี่เฉิงมองน้องสาวออก “ป้าหวง เอาเนื้อแดดเดียว หมูแดดเดียวหรือของขบเคี้ยวที่ทำจากเนื้อมาเถอะครับ อิงอิงตัวน้อยไม่ชอบกินผลไม้”


ป้าหวงนิ่งไปและรีบร้อนพยักหน้า


“เฮ้อ ก็ได้ค่ะ ป้าจะไปเดี๋ยวนี้เลย”


แต่เธอจำได้ว่าทุกครั้งที่กินข้าวเสร็จ คุณหนูจะกินผลไม้ด้วยนี่นา


ป้าหวงไม่ได้รู้เลยว่า ฉินอิงอิงกิน ๆ ไปเพื่อให้พ่อผู้ให้อาหารวางใจเท่านั้น


ถ้าเขารู้สึกว่าเธอเลือกกินและเลี้ยงยาก แล้วส่งกลับไปสถานเลี้ยงเด็กขึ้นมา ลูกวาฬน้อยจะทำยังไงเล่า?


เธอกินเก่งขนาดนี้ คนส่วนใหญ่เลี้ยงเธอไม่ไหวหรอกนะ!


เยี่ยนลี่เฉิงใช้ส้อมอันเล็กจิ้มมะม่วงหนึ่งชิ้นเข้าปากและเคี้ยว


การเคลื่อนไหวของเขาดูสง่างามมาก ออร่าความสง่างามแผ่ออกมาจากตัวเด็กชาย สะกดให้ฉินอิงอิงมองอยู่ตลอด


“พี่ลี่เฉิง พี่กินผลไม้ได้ดูดีมากเลย”


เยี่ยนลี่เฉิงยิ้ม “เวลาพี่ลี่เฉิงป้อนอิงอิงน้อยก็ดูดีเหมือนกันนะ อิงอิงอยากลองดูหน่อยมั้ย?”


ฉินอิงอิงลังเลเล็กน้อย


ผลไม้น่ะ รสชาติดีมากก็จริง แต่เธอคงกินสักคำไม่ลงหรอก


เยี่ยนลี่เฉิงยิ้มอย่างอ่อนโยนและจิ้มแตงโมชิ้นหนึ่งขึ้นมากินช้า ๆ


“หวานมาก หอมอร่อยมากเลยด้วย”


ฉินอิงอิงกลืนน้ำลายอย่างอดใจไว้ไม่อยู่


รสชาติของผลไม้ไม่มีอะไรมากไปกว่าเปรี้ยว หวาน กึ่งเปรี้ยว ไม่หวาน ไม่มีรสชาติอะไรเลย หรือไม่ก็เป็นแบบทุเรียน… คือมีกลิ่นแรงมาก คนที่ชอบจะชอบมาก คนที่ไม่ชอบก็จะถอยห่างจากกลิ่นนี้หลายพันลี้ทันที


เยี่ยนลี่เฉิงกินแคนตาลูปชิ้นเล็ก ๆ อีกชิ้น การเคลื่อนไหวของเขายังคงสง่างามและดูเอร็ดอร่อย


ฉินอิงอิงรู้สึกว่าตนเองถูกดึงดูดจากสีหน้าท่าทางของพี่ชาย


เธอเม้มปากและอ้าออกจนเกิดเสียง


“พี่ลี่เฉิง งั้นฉันขอกินมะม่วงชิ้นเล็ก ๆ สักชิ้นได้มั้ยคะ?”


เยี่ยนลี่เฉิงยิ้มและพยักหน้า “อิงอิงน้อยอยากกินอะไรก็ได้ทั้งนั้น พี่ลี่เฉิงจะป้อนเธอเอง”


เมื่อมะม่วงส่งถึงปาก ฉินอิงอิงก็กินเข้าไปหนึ่งคำ


เมื่อเห็นเธอพร้อมที่จะกลืนมันทั้งชิ้น เยี่ยนลี่เฉิงก็ทั้งกังวลทั้งขำ


“อิงอิงน้อย ค่อย ๆ เคี้ยวสิ เคี้ยวให้ละเอียดแล้วค่อยกลืน แบบนั้นถึงจะเข้าใจรสชาติของผลไม้ชนิดต่าง ๆ อย่างลึกซึ้ง”


ฉินอิงอิงแอบคิดว่าเพราะเธอเป็นวาฬเพชฌฆาตตัวอ้วน เธอเลยเป็นสัตว์กินเนื้อ


กินผลไม้น่ะ นานๆ ทีพอได้ แต่จะให้ศึกษารสชาติอย่างจริงจัง… จิ๊ ๆ ๆ เธอไปศึกษาเรื่องทำยังไงถึงจะกินพวกแมวน้ำทีละเยอะ ๆ ได้ดีกว่า


แมวน้ำ : นี่ฉันตกเป็นเหยื่ออีกแล้วเรอะ! “...”


กลายเป็นลูกมนุษย์แล้ว ยังไม่ปล่อยเราไปอีก!


สำหรับมนุษย์ ตอนนี้พวกเราเป็นสัตว์คุ้มครองนะ!


กินพวกเราเท่ากับผิดกฎหมาย ยังไงก็ทำไม่ได้หรอก!


เยี่ยนลี่เฉิงมีความอดทนสูงมาก เห็นฉินอิงอิงกินไปคำเดียวแล้วไม่อยากกินอีก เขาก็ไม่ฝืนใจ


แต่สักพักอิงอิงตัวน้อยก็ทนไม่ได้กับท่าทางกินยั่วของพี่ชาย


“พี่ลี่เฉิง ฉันลองอีกสักชิ้นดีกว่า”


“ได้ มาให้พี่ป้อนมา”


“พี่ลี่เฉิง ฉันอยากกินแตงโมอีกหนึ่งชิ้น”


“มา อ้ามม อิงอิงน้อยอ้าปากสิ”



ตอนที่ป้าหวงกลับมาจากการเตรียมของทานเล่นที่ทำจากเนื้อหลากหลายชนิด เธอก็เห็นว่าคุณชายลี่เฉิงกำลังป้อนผลไม้ให้คุณหนูกินอย่างอ่อนโยน


คุณชายผู้หล่อเหลาดูอ่อนโยนและทะนงตัว


มีเด็กน้อยนุ่มนิ่มนั่งขดตัวกลมอยู่ในอ้อมกอด คุณหนูหลับตาพริ้ม เพลิดเพลินไปกับการถูกป้อนอาหาร


คุณหนูเพลิดเพลินกับมันมากจริง ๆ


คุณชายลี่เฉิงเองก็รักและเอ็นดูเธอมาก


เห็นชัด ๆ อยู่ว่าทั้งคู่รู้จักกันไม่ถึงเดือน แต่โชคชะตาของคนเราก็แปลกประหลาดแบบนี้นี่แหละ


เธอเคยเห็นคุณชายลี่เฉิงเข้ากับเด็กได้ แต่ไม่มีเด็กคนไหนที่เขาจะดูแลด้วยความอบอุ่นและความรักได้ถึงขนาดนี้


ตั้งแต่ที่คุณหนูเข้ามา คฤหาสน์แห่งนี้ก็มีแต่เสียงหัวเราะและมีชีวิตชีวา


ดีจังเลย!


ป้าหวงเอาขนมขบเคี้ยวที่ทำจากเนื้อวางไว้บนโต๊ะข้างคุณชายลี่เฉิง เพียงแค่ยื่นมือออกมาก็หยิบถึงแล้ว


เธอกำลังจะพูด เยี่ยนลี่เฉิงก็ชูนิ้วขึ้นและทำท่าทางให้เงียบเสียงอย่างกะทันหัน


ป้าหวงมองดูอีกที ที่แท้คุณหนูในอ้อมกอดของคุณชายลี่เฉิงก็หลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้


คุณชายลี่เฉิงรอให้คุณหนูหลับสนิทแล้ว ถึงได้เอ่ยถามเสียงเบา


“มีอะไรครับ?”


ป้าหวงลดเสียงพูดให้เบาลง ด้วยกลัวเสียงจะดังจนทำให้คุณหนูตื่น


“คุณชายลี่เฉิง เมื่อกี้คุณท่านฉินโทรมาบอกว่าเย็นนี้ให้พาคุณกับคุณหนูกลับไปทานข้าวที่บ้านเก่าด้วยกันค่ะ”


เยี่ยนลี่เฉิงพยักหน้า “อื้ม เข้าใจแล้วครับ”


กลัวก็แต่เรื่องข่าวลือเกี่ยวกับอิงอิงตัวน้อยจะไปถึงหูของปู่ฉินกับย่าฉิน ทั้งสองคนคงอยากให้อาฉินพาเขากับอิงอิงไปพิสูจน์ความจริง


เมื่อคิดได้ว่า ตอนนี้น้องสาวตัวน้อยพูดได้คล่องเป็นพิเศษ อีกทั้งความคิดความอ่านก็มากเกินกว่าเด็กวัยเดียวกัน เยี่ยนลี่เฉิงก็ยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้


พวกที่อยากเห็นตระกูลฉินกลายเป็นตัวตลกจะต้องผิดหวังมากแน่


แต่จากการที่ข่าวแพร่ไปไวขนาดนี้ เขาไม่เชื่อหรอกว่าจะไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง


เยี่ยนลี่เฉิงหรี่ตา เด็กชายหยิบผ้าห่มผืนบางข้างตัวขึ้นมาคลุมฉินอิงอิงที่อยู่ในอ้อมแขน


เขาลูบมือเล็กเนื้อเยอะของเธอ จนมั่นใจว่าอุณหภูมิไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไปถึงได้หยิบมือถือออกมาอ่านข่าว


มีข้อความหนึ่งถูกส่งเข้ามา


‘เยี่ยนผิงกำลังสืบเรื่องตัวตนที่แท้จริงของคุณหนูตระกูลฉิน’


เยี่ยนลี่เฉิงอ่านแล้วรู้สึกขำมาก ตอนที่อาฉินรับอิงอิงตัวน้อยมาเลี้ยงดู แน่นอนว่าตัวตนกับภูมิหลังของเธอจะต้องถูกตรวจสอบมาแล้วไม่ต่ำกว่าสิบครั้ง


ตระกูลเยี่ยนไปสืบ?


สืบอะไร?


คงไม่มีอะไรมากไปกว่าอยากจะเอาเรื่องตัวตนของอิงอิงน้อยมาเขียนบทความและดึงฉินกรุ๊ปลงมา


เหอะ!


ปู่กับพ่อของเขาต่างก็เป็นคนที่ซื่อสัตย์และซื่อตรงทั้งคู่ ไม่คิดเลยว่าคนเป็นลุงจะลงมือได้อย่างไร้ศีลธรรมเช่นนี้


เด็กชายพิมพ์ตอบกลับอย่างเชื่องช้า ‘ไม่ต้องไปสนใจหรอก’


กล้ายื่นมือมายุ่งกับตระกูลฉิน ถึงเวลาก็อย่ากลัวโดนตัดมือละกัน


รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว