​บนสนามประลองเกิดเสียงดังดุจสายฟ้าฟาดขึ้น พลังปราณของหลี่หวู่ซวงทรงพลังยิ่งนัก โล่สีทองที่สร้างจากพลังอันมหาศาล ราวกับภูเขากดทับเจียงเฉิน

หลี่หวู่ซวงได้ฝึกฝนทักษะบ่มเพาะ 'ป้าเถียน' ซึ่งเป็นทักษะฝึกฝนร่างกาย มันได้เสริมสร้างร่างกายให้มีพละกำลังมหาศาล ถ้าเทียบด้านความแข็งแกร่งและความทนทานของกล้ามเนื้อเพียงอย่างเดียว แทบจะไม่มีผู้ใดในระดับเดียวกันสามารถต่อกรกับเขาได้

ทักษะ'ป้าเถียน'นั้นได้รับสืบทอดมาจากผู้เชี่ยวชาญจิตวิญญาณยุทธ มันเป็นทักษะขั้นปฐพีระดับสูง ด้วยทักษะนี้ทำให้หลี่หวู่ซวงได้เปรียบเป็นอย่างมาก

แต่น่าเสียดาย ความได้เปรียบของทักษะนี้มันไร้ความหมายเมื่ออยู่ต่อหน้าทักษะร่างแปลงมังกร เมื่อเทียบกับทักษะลึกลับระดับสุดยอดอย่างร่างแปลงมังกร ทักษะป้าเถียนนั้นดูอ่อนด้อยเกินไป ดังนั้นหลี่หวู่ซวงจึงตัดสินใจใช้ความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อนั้นโจมตีเจียงเฉิน และนั่นทำให้ตัวเขาต้องพบกับความพ่ายแพ้

เจียงเฉินได้บ่มเพาะทักษะร่างแปลงมังกร เขาได้ดูดซับสายเลือดของเหยี่ยวปีกโลหิต รวมทั้งโลหิตกิเลนของหวงต้า ร่างกายของเขามีความทนทานเป็นพิเศษ แม้กระทั่งสัตว์อสูรบรรพกาลยังไม่อาจเทียบกับเขาได้ นับประสาอะไรกับหลี่หวู่ซวง

เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีของหลี่หวู่ซวง ใบหน้าของเจียงเฉินไม่มีความแตกตื่นแม้แต่น้อย เมื่อโล่สีทองมาถึงตัวเขา เจียงเฉินปลดปล่อยหมัดออกมาราวสายฟ้าฟาด เมื่อเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งอย่างหลี่หวู่ซวง เขาไม่ก็ไม่กล้าที่จะประมาท เขาชกออกไปด้วยกำลังทั้งหมดของเขา ทันใดนั้นพลังงานได้พรั่งพรูขึ้น แขนของเขาพลันขยายใหญ่ขึ้น บนแขนเขาได้มีสัญลักษณ์มังกรสีทองไหลเวียนอยู่ เพียงแค่ชกออกไปตรงๆ มันทำให้ผู้คนรู้สึกว่ามันหนักราวกับภูเขา

"เจ้าโง่ คิดจะวัดความแข็งแกร่งกับข้าด้วยหมัดงั้นรึ"

หลี่หวู่ซวงมองตรงไปยังเจียงเฉินด้วยท่าทีเย้ยหยัน

ปัง!

หมัดของเจียงเฉินปะทะเข้ากับโล่สีทองของหลี่หวู่ซวง ฉากที่ทุกคนต่างคิดว่าเจียงเฉินจะปลิวกระเด็นออกไปนั้นไม่เกิดขึ้น เจียงเฉินทำให้พวกเขาได้เห็นถึงฉากที่น่าตกตะลึงมากที่สุด

เพล้ง!

โล่ของหลี่หวู่ซวงที่สร้างขึ้นมาด้วยพลังมหาศาลของเขาแตกกระจาย เพราะไม่สามารถทนหมัดของเจียงเฉินได้ หมัดของเจียงเฉินนั้นด้วยตราประทับมังกรยี่สิบห้าดวง ทำให้เขามีกำลังหมัดถึงสองแสนห้าหมื่นจิน ด้วยพลังหมัดของเขานั้นราวกับขุนเขาได้กดทับศัตรูของเขาจนสิ้นซาก อย่างไรก็ตามหลี่หวู่ซวงต้องการใช้พละกำลังของเขาเข้าปะทะ ดูเหมือนว่าเขาหาเรื่องเจ็บตัว

ตึก ตึก ตึก ...!

หลี่หวู่ซวงได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก เขาได้กระเด็นถอยหลังไปกว่าสามก้าวก่อนที่จะพยุงตัวขึ้นได้ เขาได้ไปหยุดที่มุมของสนามประลอง ท่าทางเย้ยหยันของเขาได้หายไปจากใบหน้าของเขาโดยสิ้นเชิง มันได้แทนที่ไปด้วยความตกตะลึง

ห๊ะ!!

สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ได้สร้างความวุ่นวายขึ้นในทันที เป็นฉากที่น่าตื่นเต้นมาก ถ้าพวกเขาไม่ได้เห็นด้วยตนเอง พวกเขาต้องไม่เชื่ออย่างแน่นอน

"โอ้ สวรรค์!!หมัดของเขาทำให้หลี่หวู่ซวงถอยหลังได้ เหมือนตอนที่เขาได้จัดการหลิงอ้าว เจียงเฉินมันเป็นสัตว์ประหลาดอันใดกัน"

"ข้าต้องตาฝาดไปแน่ๆ หลี่หวู่ซวงได้บ่มเพาะด้วยทักษะ'ป้าเถียน'ซึ่งเป็นถึงทักษะขั้นปฐพีระดับสูง ที่ได้รับตกทอดมาจากผู้เชี่ยวชาญจิตวิญญาณยุทธ และด้วยร่างกายที่มีความทนทานเหลือเชื่อนั้น แต่เขาแพ้การจากการประลองด้วยพละกำลังกับเจียงเฉิน ไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ! "

"บัดซบ! อย่าบอกข้านะว่าหลี่หวู่ซวงกำลังจะพ่ายแพ้ ?! เม็ดยามนุษย์หยวนสามร้อยเม็ดของข้า เจ้าหมานั่นมันโกงข้า...!"

"สัตว์ประหลาด! แบบนี้มันไม่ใช่คนแล้ว ข้าว่าความสามารถของเขาเหนือยิ่งกว่าหนานเป่ยเฉาเสียอีก เขามีระดับการบ่มเพาะเพียงแค่ขอบเขตแก่นแท้มนุษย์ขั้นต้น และ เขาสามารถล้มหลี่หวู่ซวงได้ เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริงๆ "

ทุกคนที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่มีใครสามารถควบคุมท่าทีของตนได้อีก แม้ว่าผู้ชนะจะยังไม่ได้ประกาศ และ หลี่หวู่ซวงแค่แพ้แลกหมัดเท่านั้น คนที่ถูกทำให้กระเด็นถอยหลัง เพียงแค่แลกหมัดครั้งแรก คือ หลี่หวู่ซวง

เหล่าผู้คนที่เล่นพนันกับหวงต้า พวกเขาได้พนันทุกสิ่งไว้กับหลี่หวู่ซวง และ เมื่อเห็นหลี่หวู่ซวงกระเด็นไป ใจของพวกเขาราวกับแตกออกเป็นเสี่ยงๆ พวกเขาอยากจะร้องไห้ดังๆแต่ไม่สามารถทำได้เพราะดวงตาของพวกเขายังตกตะลึงอยู่

ศิษย์ทั้งหมดจากนิกายเซวียนอี้ต่างปิติยินดี ความแข็งแกร่งของเจียงเฉินเหนือกว่าจิตนาการของพวกเขาไปมาก ฮันหยานนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้น เขามุ่งความสนใจทั้งหมดของเขาไปที่พระสูตรหัวใจโพธิสัตว์ เขาไม่ได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นบนลานประลอง ถ้าเขาได้เห็นเขาจะตกตะลึงยิ่งกว่าผู้ใด นั่นเพราะว่าเขารู้ว่าความทนทานของร่างกายหลี่หวู่ซวงมันน่าเหลือเชื่อขนาดไหน

"พ่อหนุ่มน้อยช่างน่าสนใจเสียจริง!"

บนหอคอย เสียงอันเซ็กซี่และทรงเสน่ห์ของไป๋ฮัวเตี๋ยดังขึ้น ดูเหมือนว่านางจะสนใจในตัวของเจียงเฉิน

"ไป๋ฮัวเตี๋ย เจ้าชื่นชอบคนอื่นไปทั่วเลยนะ"

เหลียงเซียวจ้องไปที่ไป๋ฮัวเตี๋ย

"สิ่งที่ข้าคนนี้ชื่นชม อย่างน้อยก็ดีกว่าตัวเจ้า"

ไป๋ฮัวเตี๋ยพูดต่อ

"ข้าคิดว่าหลี่หวู่ซวงต้องพ่ายแพ้แน่"

"นังแพศยาอย่างเจ้าจะไปรู้อะไร? ศิษย์น้องหลี่มีวิชามากมายที่ยังไม่ได้แสดงออกมา"

เหลียงเซียวแค่นเสียงอย่างเย็นชา การต่อสู้ระหว่างหลี่หวู่ซวงกับเจียงเฉิน เกี่ยวพันไปถึงชื่อเสียงของนิกายเทียนเจี้ยน

"แล้วเจ้าเห็นเจียงเฉินใช้ทักษะยุทธหรือยังล่ะ?"

ไป๋ฮัวเตี๋ยถามด้วยรอยยิ้มอันทรงเสน่ห์

"เหลียงเซียว ทางที่ดีเจ้าควรภาวนาให้หลี่หวู่ซวงแค่พ่ายแพ้จะดีกว่านะ มิเช่นนั้นอาจจะเป็นเหมือนหลิงอ้าวก็เป็นได้ ดูเหมือนว่าเจียงเฉินจะไม่ใช่คนมีเมตตาซะด้วยสิ"

กวนอี้หยุนหัวเราะออกมา ศักยภาพของเจียงเฉินเหนือกว่าจินตนาการของพวกเขา ในวันนี้การแข่งขันประจำแคว้นฉีได้เปลี่ยนแปลงไปเพราะได้มีม้ามืดอย่างเจียงเฉิน

ปัง.....!!

ในเวลานี้ บนสนามประลองเกิดเสียงดังสนั่นขึ้นอีกครั้ง หลี่หวู่ซวงเริ่มโจมตีอีกครั้ง หมัดสีทองขนาดยักษ์ได้พุ่งไปยังเจียงเฉิน หลังจากพ่ายแพ้การดวลด้วยพละกำลัง หลี่หวู่ซวงก็ได้ปลดปล่อยหมัดทลายฟ้า เขาพยายามที่จะใช้ทักษะที่ทรงพลังที่สุดของเขาจัดการเจียงเฉิน เพื่อรักษาหน้าของเขาไว้

เมื่อเผชิญหน้ากับหมัดยักษ์ของหลี่หวู่ซวง เจียงเฉินไม่มีท่าทีตื่นตระหนกกลับดูสบายๆอีกต่างหาก เขาชี้นิ้วของเขา มีแสงออกมาดูราวกับดาบ ด้วยความแข็งแกร่งของหกดัชนีสุริยันนั้นเพียงพอต่อการทำลายหมัดทลายฟ้า

ตามมาด้วยเสียงระเบิดดังขึ้น! ดัชนีทองคำขนาดยักษ์สองสายได้ถูกปลดปล่อยออกมาจากเจียงเฉิน และดัชนีทองคำสายที่สามที่ปรากฏขึ้นจางๆพลันเห็นชัดเจนขึ้นได้ถูกปลดปล่อยออกไป

แสงสว่างจากการต่อสู้ได้ปกคลุมอาณาเขตขนาดใหญ่ หกดัชนีสุริยันปะทะกับหมัดทลายฟ้า การต่อสู้ของทั้งสองต่างใช้ทักษะยุทธที่ทรงพลังที่สุดเข้าปะทะกัน หลายคนกลั้นหายใจขณะที่ได้ดู

ปัง.....!

ในที่สุด ภายใต้ความคาดหวังของคนจำนวนมาก ทักษะยุทธทั้งสองได้ปะทะกันอย่างรุนแรง คลื่นพลังได้กระจายออกจากศูนย์กลางการปะทะไปนับลี้ หากไม่ได้ม่านพลังที่เหล่าผู้เชี่ยชาญวางเอาไว้ ด้วยการปะทะครั้งนี้ คงทำให้สนามประลองถูกทำลาย

จากการปะทะกัน เจียงเฉินถอยไปก้าวเดียว แต่หลี่หวู่ซวงกระเด็นไปสองก้าว มันดูเหมือนว่าสูสีกัน แต่ความจริงแล้ว เจียงเฉินแข็งแกร่งกว่า

ดวงตาของเจียงเฉินส่องประกาย หลี่หวู่ซวงแข็งแกร่งกว่าหลิงอ้าว หากว่าเขาไม่ได้ตราประทับมังกรเพิ่มอีกหกดวงก่อนหน้า คงยากที่จะเผชิญหน้ากับหลี่หวู่ซวง

"มารดาเถอะ! เจ้าเด็กนี่มันเป็นปีศาจหรืออย่างไร? ร่างกายของเขาแข็งแกร่ง ทนทานกว่าข้าเสียอีก มันเป็นแค่จุดสูงสุดแก่นแท้มนุษย์ขั้นต้น แต่พละกำลังของมันมากกว่าข้าเสียอีก"

หลี่หวู่ซวงก่นด่าในใจ เขาตั้งใจจะเป็นอันดับหนึ่งของการแข่งขันตามที่เขาคาดไว้ ควรมีแค่ราชาปีศาจน้อยฮันหยานเท่านั้นที่จะตัดสินกับเขา แต่เขาคาดไม่ถึงว่าท้ายที่สุด เขาต้องมาแข่งชิงอันดับหนึ่งกับเจ้าผู้ฝึกตนพเนจรนี่

"ไม่ดีแน่ ถ้าข้าแพ้เจียงเฉิน อันดับหนึ่งมันก็จะตกไปยังมือของเจ้าเด็กขี้โกง ถ้าเป็นเช่นนั้นหลี่หวู่ซวงจะยังคงเชิดหน้าชูตาในแคว้นฉีได้อีกหรือ!ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปด้วยความสามารถและทักษะของเขา คงยากที่จะจัดการมันลงได้ ดูเหมือนว่าข้าจำต้องใช้สมบัติของข้าเสียตอนนี้"

ท่าทีของหลี่หวู่ซวงเปลี่ยนเป็นดำมืด เขาจะแพ้เจียงเฉินไม่ได้ ไม่ใช่แค่เพียงเกี่ยวพันกับชื่อเสียงของนิกายเทียนเจี้ยน แต่เขาเป็นหนึ่งในตัวแทนของแคว้นฉี ถ้ามาแพ้เจ้าผู้ฝึกตนพเนจรนี่ ที่ควรจะอ่อนแอกว่าเขา ชื่อเสียงของเขาต้องป่นปี้เป็นแน่

"เจียงเฉิน เจ้ากำลังหาที่ตาย อย่ามาตำหนิข้าล่ะ!"

หลี่หวู่ซวงพูดอย่างเย็นยะเยือก

"เช่นนั้นเจ้าจงแสดงความสามารถที่เจ้ามีออกมาซะ"

เจียงเฉินไม่ได้สนใจคำพูดที่โหดเหี้ยมของหลี่หวู่ซวง

"ฮึ่ม!"

หลี่หวู่ซวงแค่นเสียงเย็นชาออกมา ทันใดนั้นยันต์สีทองได้ปรากฎขึ้นที่มือของเขา อาคมที่ซับซ้อนปกคลุมผิวหน้าของยันต์ หลี่หวู่ซวงบีบมันอย่างแรง แล้วยันต์ก็ระเบิดในทันทีกลายเป็นเศษเปลวเพลิงสีทองหลอมรวมเข้ากับร่างกายเขา พลังของหลี่หวู่ซวงได้เพิ่มสูงขึ้น

"ดูสิ! หลี่หวู่ซวงนำยันต์บางอย่างออกมา และมันได้เพิ่มพละกำลังการต่อสู้ของเขา! เจียงเฉินเสร็จแน่!"

"ช่างเป็นพลังที่มหาศาลเสียจริง! พลังของหลี่หวู่ซวงถึงขั้นขอบเขตแก่นแท้สวรรค์แล้ว เขาได้รับสืบทอดสมบัติจากผู้เชี่ยวชาญจิตวิญญาณยุทธจริงๆด้วย และเขายังซ่อนทักษะลับที่ทรงพลังไว้อีก!"

"มาดูกันว่าเจียงเฉินจะรับมือเขาอย่างไร?"

ทุกครั้งที่เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นบนสนามประลองทำให้ผู้ชมเกิดความโกลาหลขึ้น ทำให้ผู้ชมเหล่านั้นตึงเครียดยิ่งเสียกว่าผู้ประลองทั้งสองเสียอีก

"ยันต์กำเนิดพลัง"

เจียงเฉินรู้ดี แม้ผู้อื่นอาจไม่รู้ว่ายันต์นั่นคือสิ่งใด แต่เจียงเฉินสามารถรับรู้ได้ในทันที

ยันต์กำเนิดพลัง มันสร้างขึ้นเมื่อผู้ฝึกตนได้ใช้พลังชีวิตของตนผนึกพลังยุทธของเขาเอาไว้ในยันต์ก่อนที่จะตาย หากว่ามีคนเก็บยันต์นี้ได้ เขาสามารถที่จะใช้พลังที่เก็บสะสมไว้ด้านในได้

ชัดเจนว่ายันต์กำเนิดพลังในมือของหลี่หวู่ซวงเป็นสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญจิตวิญญาณยุทธได้ทิ้งเอาไว้ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่การบ่มเพาะของหลี่หวู่ซวงต่ำเกินไป เขาจึงไม่สามารถที่จะใช้พละกำลังการต่อสู้ทั้งหมดที่ผนึกไว้ได้ เขาสามารถใช้ได้เพียงแค่เศษเสี้ยวของพลังที่อยู่ภายใน ขณะที่นอกนั้นจะสูญเปล่า

แต่แม้ว่าจะเพียงแค่นี้ มันก็ยังคงน่าหวาดหวั่น หลี่หวู่ซวงสามารถที่จะใช้ยันต์กำเนิดพลังเพิ่มความแข็งแกร่งได้ถึงสองระดับ เจียงเฉินไม่สามารถที่จะจัดการได้

ในโลกต้นกำเนิดเซียน ยันต์ประเภทนี้หาได้ยากมาก มันถือว่าเป็นสิ่งที่ล้ำค่าอย่างมาก เนื่องจากไม่มีผู้ใดต้องการที่จะเสียสละพลังชีวิตของตน

ดังนั้น แม้ว่ายันต์กำเนิดพลังจะทรงพลังยิ่ง มันยังคงมีจุดอ่อนอยู่ ยันต์นี้สามารถใช้ได้เพียงแค่ครั้งเดียว และ มันหมายความว่าหลี่หวู่ซวงสามารถที่จะปลดปล่อยการโจมตีที่ทรงพลังได้เพียงครั้งเดียว หลังจากนั้นพลังงานของเขาเองก็จะหมดไป และเขาก็จะเป็นดั่งศรที่บินไปจนสุดทาง

แต่สำหรับหลายๆคน ด้วยพลังงานที่ทรงพลังถึงขนาดนี้ การโจมตีเพียงครั้งเดียวเกินพอ

"ช่างเป็นพลังยุทธที่ทรงพลังยิ่งนัก! พลังของหลี่หวู่ซวงอยู่ขั้นขอบเขตแก่นแท้สวรรค์ขั้นกลาง! เจียงเฉินจบแล้วล่ะ..เขาไม่สามารถรับมือขนาดนี้ได้"

ใครบางคนพูดด้วยท่าทางสยดสยอง

"ท่านพี่เจียงเฉินจะไม่เป็นไร ใช่ไหมเจ้าคะ?"

ท่าทีกังวลของเยี่ยนเฉินหยวี่ปรากฎขึ้นบนหน้าของนาง แม้แต่หวงต้าท่าทางดูเคร่งเครียด เจียงเฉินเป็นสัตว์ประหลาดที่ทรงพลังก็จริง แต่การบ่มเพาะปัจจุบันของเขานั้นอ่อนแอเกินไป ไม่มีผู้ใดคาดคิดหรอกว่าหลี่หวู่ซวงจะมีไม้ตายก้นหีบที่ทรงพลังเช่นนี้อยู่

"ฮ่าฮ่า... กวนอี้หยุน ข้าสงสัยจังว่าใครกันแน่ที่พบกับทางตัน! เจ้าสามารถคาดเดาอย่างไรว่าเจียงเฉินจะป้องกันตัวเองจากการโจมตีของศิษย์น้องหลี่!"

บนเวทีเหลียงเซียวหัวเราะออกมาเสียงดังขณะที่กำลังจ้องกวนอี้หยุนที่กำลังกังวลอย่างมีความสุข

"ฮึ่ม!"

กวนอี้หยุนแค่นเสียงอย่างเย็นชา แล้วเขาก็คุยกับเจียงเฉินด้วยสัมผัสเทวะของเขา

"เจียงเฉินยอมแพ้เถิด เจ้าไม่จำเป็นต้องทิ้งชีวิตตัวเองเช่นนี้!"

ในขณะนั้นเอง พลังของหลี่หวู่ซวงได้ไต่ขึ้นถึงระดับสูงสุดของแก่นแท้สวรรค์ขั้นกลาง ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ แม้ว่าจะสามารถลงมือได้เพียงครั้งเดียว เจียงเฉินจะต้านไหวหรือ?