Senior รุ่นพี่สีเทา 1-จุดเริ่มต้นของจุดจบ 1

โดย  ซีเทียร์ CTear

Senior รุ่นพี่สีเทา 1

จุดเริ่มต้นของจุดจบ 1

"โจวชิง เจ้าลงมือหนักขนาดนี้ ไม่กลัวว่าคนอื่นจะมาแก้แค้นรึไง?"

ใต้เนินเขาแห่งหนึ่งในป่าหวงหยวน ชายหนุ่มที่สวมชุดแพรกำลังโบกพัดในมืออย่างเอื่อยๆ ขณะจ้องมองชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆด้วยรอยยิ้ม

ระดับการบ่มเพาะของชายหนุ่มคนนี้ค่อนข้างสูง เขาบรรลุขอบเขตฉีซวนขั้นที่ 7 สูงสุดแล้ว แต่ชายที่อยู่ข้างๆกลับมีระดับการบ่มเพาะที่สูงกว่า นั่นก็คือขอบเขตฉีซวนขั้นที่ 8

หลังจากได้ยินคำพูดของชายหนุ่มคนนั้น ใบหน้าของโจวชิงก็แสดงความดูแคลนออกมา "ก็แค่พวกมดปลวกกลุ่มหนึ่ง ฆ่าได้ก็ฆ่า ใครจะกล้ามาแก้แค้นข้า! อันที่จริงแล้ว ข้ายังฆ่าไม่หนำใจเลย !" ขณะที่พูด เขาก็เลียปากไปด้วย ในดวงตาฉายแววกระหายเลือดออกมา

"ใช่ ไอ้บ้านนอกพวกนั้นมันอ่อนแอเกินไป ทุบตีไม่กี่ก็ตายแล้ว" ชายหนุ่มเม้มปากแน่น พลางพูดอย่างเสียดายว่า "เจ้าเด็กที่ชื่อเหมาฉางเทียนนั่น ก็พอจะแข็งแกร่งอยู่บ้าง เสียดายที่ดันบาดเจ็บหนักเพราะหมัดของข้า..."

รอบกายของพวกเขาทั้งสองคน ยังมีคนอีกประมาณ 20-30 คนอยู่ แน่นอนว่าการบ่มเพาะของแต่ละคน ล้วนไม่ธรรมดาเลย

เห็นได้ชัดแล้วว่าคนเหล่านี้ก็คือ กลุ่มคนที่ผู้บัญชาการเจียงกล่าวถึง และยังเป็นตัวปัญหาในสายตาของโจวซุน!

เมื่อได้ยินที่ชายหนุ่มคนนั้นกับโจวชิงสนทนากัน คนในกลุ่มก็หัวเราะขึ้นมา "โจวชิง หลี่หยาง ถ้าพวกเจ้าสองคนเบื่อกันจริงๆ พวกเจ้าก็นำไปก่อนเถอะ ตราบใดที่ไปถึงเขตมืดได้ ที่นั่นจะไม่ได้มีแค่สัตว์อสูรมากมาย แต่ยังมีคนที่ร้ายกาจอีกด้วย ข้ารับรองว่าพวกเจ้าต้องสนุกแน่ๆ !"

"ให้พวกข้าสองคนไปที่เขตมืดตามลำพังน่ะรึ?" หลี่หยางโบกพัดในมือ " ไม่เอาน่า พวกเราแค่คันมือ ไม่ได้อยากจะรีบใช้ชีวิตซะหน่อย!"

ก่อนที่พวกเขาจะมาที่นี่ พวกเขาได้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับที่นี่มาก่อน จึงเป็นธรรมดาที่จะรู้ว่าเขตมืดนั้นอันตรายมาก

"อีกอย่าง สู้กับสัตว์อสูรต่อให้ชนะก็ไม่น่าสนใจเท่าไหร่ มันต้องสู้กับคนสิ ถึงจะสะใจกว่า" หลี่หยางเก็บพัดและส่ายหน้า "แต่คนพวกนั้นมันอ่อนแอเกินไป ต่อยไม่กี่ทีก็ตายไปหลายคน ทำเอาข้าตกใจแทบแย่ จนไม่กล้าลงมืออีก"

เมื่อได้ยินแบบนั้น ทุกคนก็พากันหัวเราะออกมา

การต่อสู้เมื่อกี้ ในหมู่พวกเขาก็มีหลายคนที่ลงมือ ดังนั้นพวกเขาจึงรู้ว่าศิษย์ของสำนักเฉินกวงและสำนักหยุนซานนั้น ทั้งอ่อนแอและขี้ขลาด

ในหมู่คนเหล่านั้น มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่สวมเสื้อผ้าซอมซ่อ เมื่อเขาได้ยินเสียงหัวเราะของคนเหล่านั้น ก็รู้สึกอึดอัดใจขึ้นมา สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะถามไปว่า "หรือพวกเจ้าไม่รู้สึกว่าตัวเองทำเกินไปหน่อย? พวกเขาก็แค่ฆ่าสัตว์อสูรที่พวกเจ้าไม่ทันเห็นไปตัวหนึ่ง พวกเจ้าถึงกับต้องทำขนาดนี้เลยหรือ?"

ที่น่าแปลกใจก็คือ การบ่มเพาะของชายคนนี้ค่อนข้างต่ำมาก ระดับการบ่มเพาะของเขาอยู่ที่ขอบเขตฉีซวนขั้นที่ 3 ซึ่งดูสะดุดตามาก เมื่ออยู่รวมกลุ่มกับคนที่มีการบ่มเพาะระดับฉีซวนขึ้นที่ 7 8 9

"เซียวเหยียน ไม่มีใครพูดกับเจ้านิ!" หลี่หยางแสยะยิ้มออกมา ก่อนจะปรายตามองไปที่ชายหนุ่มในชุดซอมซ่อ ด้วยแววตาที่เย็นชา "อย่านึกว่าตัวเองคืออัจฉริยะที่รุ่งโรจน์ในปีนั้นสิ สภาพของเจ้าในตอนนี้ ไม่ได้ดีไปกว่าไอ้พวกบ้านนอกกลุ่มนั้นหรอก ถ้าไม่ใช่เพราะตระกูลเซียวคอยปกป้องเจ้าอยู่ล่ะก็ น้ำหน้าอย่างเจ้าจะมีสิทธิเข้าร่วมการฝึกในครั้งนี้ได้ยังไง!" มุมปากของเขาเหยียดยิ้มออกมา "สามสิบปีอยู่ทางตะวันออกของแม่น้ำ สามสิบปีอยู่ทางตะวันตกของแม่น้ำ[1] ตอนนี้ ข้าสามารถจัดการเจ้าด้วยมือข้างเดียวได้ด้วยซ้ำ !"

โจวชิงก็หัวเราะอย่างเย็นชา "บางทีเจ้าอาจจะเคยแข็งแกร่ง แต่ก็แค่เคย ตัวเจ้าในตอนนี้ มันต่างกับพวกบ้านนอกกลุ่มเมื่อกี้ตรงไหนกัน? ไม่สิ ก็แตกต่างอยู่บ้างนะ เพราะว่าแม้แต่พวกบ้านนอก ก็ยังมีบางคนที่แข็งแกร่งกว่าเจ้า ให้ตายสิน่าขายหน้าชะมัด!"

" ขยะ !"

"สวะเอ๊ย!"

"ข้าไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมตระกูลเซียวถึงยังเก็บขยะแบบนี้ไว้ให้เปลืองอาหาร !"

คำพูดดูถูกมากมายจากผู้คนรอบๆ ราวกับมีดที่เสียบแทงเข้าไปในใจของเซียวเหยียน ทำให้เขากำหมัดแน่น พร้อมกับหายใจถี่รัว

ตอนนั้นเอง ก็มีมือเล็กๆอันขาวนวลเอื้อมมาจับที่ข้อมือของเซียวเหยียน จากนั้นน้ำเสียงใสกังวานที่เต็มไปด้วยความห่วงใย ก็ลอยเข้ามาในหูของเซียวเหยียน " พี่เซียวเหยียน...."

เมื่อรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากฝ่ามือ เซียวเหยียนก็ใจเย็นลง เขาหันกลับมามองเด็กสาวที่อยู่ข้างกาย ซึ่งแสดงสีหน้าเป็นห่วงและกังวลใจ จากนั้นก็ฝืนยิ้มออกมา "วางใจเถอะ ซินเอ๋อร์ ข้าไม่เป็นไร"

หลังจากที่ลูบหัวเด็กสาวแล้ว เซียวเหยียนก็เงยหน้าขึ้น และมองไปที่หลี่หยาง โจวชิงและคนอื่นๆด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์ ก่อนจะพูดว่า "ไม่ว่าพวกเจ้าจะคิดยังไงก็ตาม ข้าขอแนะนำว่ามีบางอย่างที่พวกเราไม่อาจทำเกินเลยได้ หาไม่แล้ว สักวันหนึ่ง พวกเจ้าอาจจะไปยั่วยุกับคนที่ไม่สมควรไปยั่วยุได้!"

"พวกข้าจะทำอะไร ยังไม่ถึงคราวที่คนอย่างเจ้าจะมาสอน!" โจวชิงฮึดฮัดออกมา "อย่าลืมฐานะของตัวเองสิ ไอ้สวะตระกูลเซียว!"

เซียวเหยียนมองไปที่โจวชิงแล้วยักไหล่ แต่ไม่ได้พูดอะไรต่อ

เซียวเหยียนสามารถทนได้ แต่เด็กสาวที่อยู่ข้างๆกลับทนไม่ไหว นางเอียงคอมองโจวชิงและพูดขึ้นมาว่า "เก่งจริง ก็ลองพูดอีกทีสิ!" น้ำเสียงหวานใส แต่กลับไร้ซึ่งความอบอุ่น

เมื่อรู้สึกได้ถึงสายตาที่เย็นชาของเด็กสาว ลมหายใจของโจวชิงก็ติดขัด ในดวงตาฉายแววหวาดกลัวขึ้นมา กระทั่งปากยังสั่นระริก ไม่กล้าพูดอะไรออกมา

ไม่ใช่แค่โจวชิง แต่ทุกคนที่อยู่รอบๆต่างก็หวาดกลัวเด็กสาวผู้นี้ !

ไม่ต้องพูดถึงสถานะอันลึกลับของสาวน้อยคนนี้เลย แค่ระดับการบ่มเพาะของนางที่ทะลวงขอบเขตฉีซวนขั้นที่ 9 ได้ ก็ทำให้คนส่วนใหญ่อิจฉาแล้ว !

บรรยากาศอันตึงเครียดค่อยๆแพร่กระจายออกมาอย่างช้าๆ

"พอได้แล้ว โจวชิง หลี่หยาง พวกเจ้าเงียบปากไปได้แล้ว คุณหนูซินเอ๋อร์ เจ้าก็ใจเย็นๆหน่อย อย่าลืมสิว่าพวกเราต้องไปหาประสบการณ์ที่เขตมืด อย่าให้มันพังเพราะเรื่องเล็กๆแบบนี้!" หลังจากที่เงียบกันอยู่นาน ในที่สุดก็มีชายหนุ่มที่ดูสุขุมหนักแน่นคนหนึ่งเปิดปากออกมา การบ่มเพาะของเขาก็คือขอบเขตฉีซวนขั้นที่ 9 ชั้นต้น ในบรรดาคนที่อยู่ที่นี่ มีแค่เขาคนเดียวเท่านั้น ที่มีระดับการบ่มเพาะทัดเทียมกับเซียวซินเอ๋อร์

โจวชิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนจะรีบหันมาพูดประจบชายหนุ่มคนนั้นว่า "ได้เลย พี่ใหญ่เซินถู!"

หลี่หยางเองก็ปาดเหงื่อที่หน้าผาก และบอกกับชายหนุ่มด้วยความเคารพว่า "ตกลง!"

เห็นได้ชัดว่านอกจากเซียวเหยียนและเซียวซินเอ๋อร์นั้น ทุกคนที่อยู่ที่นี่ค่อนข้างเชื่อฟังชายหนุ่มคนนี้มาก

"ตอนที่พวกนั้นด่าพี่เซียวเหยียน เจ้ากลับไม่ห้าม แต่ตอนนี้เจ้ากลับ..." สีหน้าของเซียวซินเอ๋อร์ยังคงเยือกเย็นเหมือนเดิม นางไม่แม้แต่จะไว้หน้าเซินถู

แต่ก่อนที่นางจะพูดจบ เซียวเหยียนก็ยื่นมือออกมาห้ามนางไว้ ก่อนจะส่ายหน้าและพูดว่า "ช่างมันเถอะ ซินเอ๋อร์"

เมื่อได้ยินแบบนั้น เซียวซินเอ๋อร์ก็พูดอย่างเป็นกังวลว่า "แต่พี่เซียวเหยียน คนพวกนี้ทำเกินไป พวกเขาด่าท่านขนาดนี้!"

นางไม่เพียงโกรธโจวชิง หลี่หยาง และคนอื่นๆอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงไม่พอใจกับท่าทีของเซินถูอีกด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเซินถูจงใจลำเอียงเข้าข้างคนพวกนั้น มีหรือที่โจวชิง หลี่หยางและคนอื่นๆจะกล้าด่าเซียวเหยียนต่อหน้านาง

เซียวเหยียนยิ้มน้อยๆ และพูดขึ้นอย่างใจเย็นว่า "ด่า? หลายปีที่ผ่านมานี้ คำพูดที่แรงกว่านี้ข้าก็เคยได้ยินมาก่อน แค่คำด่าพวกนี้ จะนับเป็นอะไรได้?"

ตั้งแต่ตอนที่เขาตกจากบัลลังก์อัจฉริยะ เขาก็มักจะได้ยินคำล้อเลียนและดูถูกอยู่เสมอ หลายปีมานี้เขาแทบชินกับมันแล้ว

ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ เขาไม่ต้องการให้เซียวซินเอ๋อร์ทะเลาะกับเซินถูเพราะเรื่องของเขา

การบ่มเพาะของเซินถูไม่ได้ด้อยไปกว่าเซียวซินเอ๋อร์ ถ้าหากสู้กันขึ้นมาจริงๆ ไม่ว่าใครจะเป็นฝ่ายแพ้หรือชนะ ก็ไม่ใช่เรื่องดีทั้งนั้น

" พี่เซียวเหยียน" เซียวซินเอ๋อร์เม้มปากแน่น ในใจก็อดตำหนิตัวเองไม่ได้ ที่ไม่สามารถช่วยพี่เซียวเหยียนได้

นางมองไปที่เซินถูอย่างเย็นชา จากนั้นก็หันหน้าหนีพร้อมกับสูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็พูดกับเซียวเหยียนอย่างหนักแน่นว่า "พี่เซียวเหยียน ท่านอย่าเพิ่งยอมแพ้นะ ซินเอ๋อร์สาบานว่า จะหาวิธีแก้ไขปัญหาที่ท่านเลื่อนระดับการบ่มเพาะไม่ได้อย่างแน่นอน! ต่อให้ต้องค้นหาทั่วราชวงศ์โจว แต่ข้าก็จะไม่ยอมแพ้ !"

แม้ว่าเซียวเหยียนจะหมดหวังไปนานแล้ว แต่เมื่อเห็นสีหน้าที่เด็ดเดี่ยวของเซียวซินเอ๋อร์ เขาก็ไม่อาจจะทำให้อีกฝ่ายผิดหวังได้ จึงฝืนยิ้มออกมาและพูดว่า "ดี ข้ารับปากเจ้า ข้าจะไม่ยอมแพ้ !"

"สวะฝันกลางวัน !" โจวชิงพึมพำออกมาเบาๆ

" เจ้าว่าอะไรนะ?" เซียวซินเอ๋อร์ขมวดคิ้วและมองไปที่โจวชิงด้วยแววตาที่ไม่เป็นมิตร มือเรียวยาวของนางเอื้อมไปแตะกระบี่ที่อยู่ข้างเอว ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

เซินถูมองไปที่เซียวซินเอ๋อร์ และกล่าวเสียงเรียบว่า "คุณหนูซินเอ๋อร์ ถ้าไม่อยากให้มีอะไรเกิดขึ้นกับเซียวเหยียน มันจะดีกว่านี้ หากควบคุมอารมณ์ของตัวเองเอาไว้บ้าง"

ในน้ำเสียงที่ราบเรียบแฝงไปด้วยคำขู่!

โจวชิงเป็นลูกน้องอันดับหนึ่งของเขา แม้ว่าจะพูดอะไรที่เกินเลยไปหน่อย แต่ทว่าเขาก็ไม่อนุญาตให้ใครมาสั่งสอนคนของเขาต่อหน้าเขา!

"เซียวซินเอ๋อร์"

เซียวเหยียนส่ายหน้าและพูดขึ้นอย่างใจเย็น "อย่าไปคิดมากกับคำพูดพวกนั้นเลย"

....

พวกเขาพากันมุ่งหน้าไปยังเขตมืดด้วยความเร็วที่ไม่ช้าไม่เร็ว บรรยากาศที่ค่อนข้างตึงเครียด ทำให้พวกเขาเกิดหวาดกลัวขึ้นมา และพยายามอย่างมากที่จะควบคุมตัวเองไว้ ดังนั้นการเดินทางจึงค่อนข้างราบรื่น

"พี่ใหญ่เซินถูมีคนสะกดรอยตามพวกเรามา ท่านอยากจะ...." ผ่านไปประมาณ 15 นาที โจวชิงก็อดไม่ได้ที่จะเข้ามาหาเซินถูและถามขึ้นมา

เขาสังเกตเห็นตั้งนานแล้วว่ามีใครบางคนสะกดรอยตามพวกเขามา แต่เซินถูก็ไม่ได้พูดอะไร จนเขาทนไม่ไหวเลยต้องเดินเข้ามาถาม

สีหน้าของเซินถูยังคงเรียบเฉย "เมื่อกี้ข้าให้เจ้าทำตามใจมาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนี้อย่าทำให้ข้าต้องเสียเวลาโดยไม่จำเป็น พวกเขาอยากจะตามเรามา ก็ให้ตามไป แต่ภารกิจหลักของพวกเราก็คือการหาประสบการณ์ อย่าวอกแวก!" สุดท้ายเขาก็ส่งสายตาเตือนไปให้กับโจวชิง "อีกอย่าง เลิกหาเรื่องเด็กตระกูลเซียวได้แล้ว การบ่มเพาะของเซียวซินเอ๋อร์ ไม่ได้ด้อยไปกว่าข้า หากนางต้องการจะทำร้ายเจ้าจริงๆ แม้แต่ข้าก็อาจจะปกป้องเจ้าไม่ได้"

โจวชิงยิ้มแห้งๆออกมา แล้วอธิบายว่า " ข้าแค่ไม่ชินที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน ก็เห็นชัดๆแล้วว่ามันกลายเป็นขยะไปแล้ว แต่ทำไมตระกูลเซียวก็ยังดีกับเขา แม้แต่เซียวซินเอ๋อร์ก็ยังคอยปกป้องเขาทุกครั้ง"

"ที่เจ้ากับหลี่หยางเพ่งเล็งเขา เพราะเซียวซินเอ๋อร์งั้นรึ?" เซินถูมองไปที่โจวชิงด้วยสีหน้าแปลกๆ

โจวชิงอายนิดๆแต่ก็ยังคงพยักหน้าตอบรับ " ใช่ เด็กสาวที่โดดเด่นแบบนี้ ใครกันที่จะกล้าบอกว่าไม่ชอบนางบ้าง ?"

ยิ่งเซียวซินเอ๋อร์ปกป้องเซียวหยานมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งอิจฉามากเท่านั้น และยิ่งอดใจไม่ไหวที่จะหาเรื่องเซียวเหยียน

เซินถูส่ายหน้า เขามองไปที่เซียวซินเอ๋อร์แวบหนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจังว่า "เท่าที่ข้ารู้มา เซียวซินเอ๋อร์มีสถานะที่ไม่ธรรมดา ที่มาของนางนั้น เกรงว่าคงน่ากลัวกว่าที่พวกเราคิด หากเจ้าเชื่อข้า ก็จงฟังคำแนะนำของข้าและอย่าคิดถึงนางอีกในอนาคต ไม่งั้นแล้ว เจ้านี่แหละที่จะเป็นฝ่ายซวยซะเอง !"


[1]สามสิบปีอยู่ทางตะวันออกของแม่น้ำ สามสิบปีอยู่ทางตะวันตกของแม่น้ำ อุปมาว่า เรื่องราวเปลี่ยนแปลงรุ่งเรืองหรือตกต่ำไม่แน่นอน


รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว