บทที่ 6 ตามแผน
"พวกเจ้าเปิดประตูให้ข้าสักครู่"
ตงเชียนสั่งทหารที่เฝ้าประตูด้านในทั้งสองให้เปิดประตู
เมื่อประตูเปิดออก ตงเชียนเห็นทหารอีกสองคนที่เฝ้าหน้าประตูด้านนอก
"พวกเจ้าสี่คนมายกเข่งใส่ใบไม้ให้ออกจากข้างทางให้ที เดียวมีแขกมามันดูไม่งาม"
ซึ่งทั้งสี่คนมีสีหน้าตอนนี้กลำงต่างมองหน้ากัน
"เดี๋ยวข้ายืนอยู่ตรงนี้เฝ้าแทนพวกเจ้าให้..รีบทำให้เสร็จเร็วเข้า"
"ขอรับ"
ทหารทั้งสี่รับครับพร้อมวิ่งไปเคลื่อนย้ายเข่งที่มีแต่เศษขยะใบไม้
พอทหารจากหน้าประตู...ร่างหนึ่งพุ่งออกจากประตู วิ่งหายไปอย่างรวดเร็ว
ซักพัก...พอพวกทหารจัดการตามคำสั่งตงเชียนเสร็จก็กลับมาที่ประตู
"ขอบใจพวกเจ้า..ข้าไปล่ะ"
กล่าวขอบคุณเสร็จตงเชียนก็เดินจากไป พอไม่มีใครสังเกตุก็ตรงไปที่ข้างรั้วหน้าจวนพร้อมทั้งกระโดดข้ามรั้วออกจากจวน
ณ.มุมตึกห่างจากจวนตระกูลหลานสองช่วงตึก
"ทำไมมากันช้าเยื่องนี้..ข้ามารอได้ซักพักแล้ว..เร็วๆรีบขึ้นมานั่งก่อน"
เหลาฉีที่นั่งอยู่ในรถม้ากล่าวทักพี่น้องตระกูลหลานที่วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา
เมื่อสองพี่น้องขึ้นนั่งเรียบร้อย รถม้าที่ขับโดยกวานต้าซือก็เคลื่อนตัวโดยจุดหมายอยู่ที่หอชุนฮวา
"แผนการเจ้าอย่างไงต่อ"
เหลาฉีมองมาที่ฟงเช่อพร้อมถามถึงขั้นตอนต่อไป
"ยงกังแจ้งข้าว่า..พ่อบ้านตระกูลหล่ำออกมาแล้ว..คงถึงหอชุนฮวาก่อนค่ำแน่..พวกเราต้องรีบรั้งตัวแม่นางเม่ยฮัว
แล้วต้องหากระดาษ หรือข้อความที่นางจะส่งให้พวกซือเหล่าต้า..ข้าอยากรู้วันเวลาที่แน่นอนเพื่อนำมาวางแผนต่อ"
ฟงเช่อกล่าวขึ้น
"อย่างกะนางเจ้าให้เจ้าอ่านง่ายๆ ต่อให้นางใจดีให้เจ้าอ่าน นางก็ต้องรู้ว่าแผนลับตอนนี้ถูกเปิดเผยแล้ว"
เหลาฉีเอ่ยขึ้น
"ก็นั้นล่ะ..ข้าถึงต้องเอาพวกท่านมาด้วย"
"อย่าบอกนะว่าเจ้าจะให้พวกข้าเข้าไปในสถานที่นั้นด้วยนะ"
ตงเชียนเอ่ยถามทันที่ที่ฟงเช่อพูดจบ
"ท่านพี่สบายใจได้..ไม่ใช้พวกท่านที่ต้องเข้าไป...แต่เป็นข้ากับพี่ฉีที่ต้องเข้า"
ตงเชียนทำสีหน้าคลายกังวลตรงข้ามกับเหลาฉีที่ทำหน้าตะลึงพร้อมทั้งชี้นิ้วไปที่หน้าตัวเองแต่สายตาจ้องไปที่ฟงเช่อ
"ทำไมต้องเป็นข้าด้วยล่ะ..ถ้าพ่อข้ารู้ว่าข้ามาเทียวสถานที่แบบนี้ข้ามีหวังโดนพาดหลังลาย"
"ก็ท่านหน้าตาหล่อเหลา รูปร่างสง่าผ่าเผย หญิงใดเห็นล้วนต้องใจ ในที่นี่จะมีใครเหมาะสมยิ่งกว่าท่าน งานนี้คงต้องให้ท่านเสียสละแล้วล่ะ"
"ตงเชียนก็หล่อเหลา รูปร่างก็ดี ทำไมเจ้าไม่ให้พี่เจ้าเสียสละล่ะ"
การโต้แย้งล่ะหว่างเหลาฉีกับฟงเช่อยังคงดำเนินไป
"พี่ข้าอายุยังเยาว์ใครเห็นก็ต้องรู้ว่ายังเป็นผู้เยาว์อยู่ อีกทั้งทั่วเมืองหลวงนี้ใครบ้างจะไม่รู้จักพี่ข้า เกิดเรื่องถึงหูตระกูลข้าพวกเรา
ได้เดือดร้อนกันหมดนะ"
ฟงเช่ออธิบายเหตุผลกับเหลาฉี
"แล้วข้าไม่เป็นที่รู้จักหรือไง ข้าก็มีชื่อเสียงระดับนึงนะ"
เหลาฉียังคงไม่ยอม
"พี่กวานของที่ข้าให้ท่านเตรียมมาได้ครบหรือไม่"
ฟงเช่อเอยถามกวานต้าซือที่กำลังบังคับม้า
"อยู่ในถุงผ้าสีดำข้างรถม้าด้านขวาคุณชาย"
กวานต้าซือตอบกลับ
ฟงเข่อไม่รอช้ารีบค้นถุงผ้าดำแล้วหยิบบางสิ่งออกมา พร้อมยื่นให้เหลาฉี
"ข้าเตรียมการไว้แล้วพี่ฉี..หน้ากากครึ่งหน้านี้ให้พี่ฉีใส่ ก่อนเข้าหอชุนฮวา..ใส่แล้วก็ไม่มีใครจำพี่ท่านได้"
"ช่างเตรียมการนักนะเจ้าเนี้ย"
เหลาฉีประชดเล็กน้อย
"อีกอย่าง..ข้าต้องรักษาความบริสุทธิ์ทั้งกายและใจให้ฮูหยินข้า..เจ้าต้องดูแลข้า..อย่าให้พวกสาวๆในนั้นมาแทะโลมข้าเข้าใจไหม"
"โห..ท่านพี่ฉี..ท่านเพิ่ง 16 คิดไปถึงเรื่องมีฮููุหยินแล้วเหรอ..ข้าเข้าไปไม่นานหรอกเดียวก็ออกมาแล้ว"
ฟงเช่อทำน้ำเสียงเหลือเชื่อเมื่อได้ยินคำกล่าวของเหลาฉี
"ให้มันได้ตามนั้นนะ"
เหลาฉีกล่าวสับทับฟงเช่ออีกครั้ง
หน้าหอชุนฮวา
"ป่ะ..พี่ฉีท่านลงมากับข้า…พี่ตงท่านอยู่ในรถม้านะ..พี่กวานเคลื่อนรถม้าไปหลบที่ได้ร่มไม้ใหญ่ที"
ทั้งสองหนุ่มเดินลงจากรถม้าแล้วเดินตรงไปยังหอชุนฮวา
เมื่อถึงด้านใน ก็มีหญิงสาวกลางคนมาทักทายฟงเช่อ ซึ่งหญิงวัยกลางคนนี้ไม่ใช่ใครแต่เป็นผู้จัดการของหอชุนฮวา
"ไม่พบกันพักใหญ่เลยนะคุณชายเฟ้ย..ไม่ทราบว่าวันนี้ท่านจะมาดื่มหรือมาหาเพื่อนนั่งดื่มค่ะเจ้าค่ะ"
"พี่สาวชีซิ้ง..ม่ะๆๆ..ให้ข้ากอดให้หายคิดถึงหน่อย..ไม่เจอท่านพักใหญ่ทำไมท่านแลสาวขึ้นสวยขึ้นถึงเพียงนี้"
ฟงเช่อเดินเข้าหาแล้วกอดซีซิ้ง..ก่อนที่ซีซิ้งจะละจากอกแล้วกล่าวว่า
"ท่านเฟ้ยเนี้ยช่างปากหวานนัก..มิน่าเด็กๆในหอข้าถึงกล่าวถึงท่านไม่หยุด"
"พี่สาวชีซิ้งกล่าวเกินไปแล้ว..มาๆๆ..ข้าขอแนะนำให้รู้จัก...ท่านนี้คือนายกองคนใหม่เพิ่งม้าประจำการเมืองหลวง ชื่อว่าท่านหม่านจง"
"ว้าว..ยังหนุ่มยังแน่นมีตำแหน่งเป็นถึงนายกอง ข้าซีซิ้งขอน้อมคารวะ"
ซีซิ้งหันไปมองเหลาฉีพร้อมทั้งโค้มตัวลง
"เอ้อพี..เอ้..อแม่นางซีซิ้งเกรงใจเกินไปแล้ว.
เหลาฉีเอยว่าจาพร้อมโค้มตัวเล็กน้อยเพื่อเป็นการตอบรับและทักทายซีซิ้ง
ซีซื้งหันกลับมามองหน้าฟงเช่อ ฟงเช่อกระซิบเบาๆที่ข้าหูซีซิ้ง
"ท่านนายกองได้รับบาดแผลนิดหน่อยในตอนออกรบจึงต้องใช้เครื่องปกปิดบาดแผล"
ซีซิ้งหันมามองหน้าเหลาฉีอีกครั้ง พร้อมทั้งเดินไปเบื่องหน้าเหลาฉี ใช้มือขวาอันอ่อนนุ่ม
ลูบไล้จากหน้าอกจนมาหยุดที่เหนือสะดือเหลาฉี
หน้าของซีซิ้งเชิดขึ้นเพื่อให้ได้เห็นใบหน้าของเหลาฉี
"ลูกผูชายที่ร่างกายมีบาดแผลจากสงคราม ช่างสั่นคลอนหัวใจ ของข้ายิ่งนัก"
ซีซิ้งยังคงมองอยู่อย่างนั้นจนได้ยินเสียงกระแอม จากฟงเช่อ
"อะแอ้มมมม"
เหมือนได้สติ ซีซิ้งหันมามองหน้าฟงเช่อ
"ข้าต้องการโต๊ะเหมาะเพื่อดูการแสดงและร่ำสุรากับท่านผู้กองซักหน่อยพี่สาวคนสวยของข้าพอจัดการให้ได้ไหม"
ฟงเช่อกล่าวพร้อมจ้องมองซีซิ้งด้วยแววตาหยาดเยิ่มทรงสเน่ห์
เมื่อเห็นแววตาของฟงเช่อหน้าซีซิ้งแดงเล็กน้อย แล้วกล่าววาจาพร้อมเดินนำหน้าไปยังโต๊ะหน้าเวทีการแสดงโต๊ะนึง
"แหม..คุณชายล่ะ..ตามข้ามาเจ้าค่ะ"
แต่แล้วสายตาของฟงเช่อก็เหลือบไปมองเห็นที่ชั้นสองของหอ
แม่นางเมยฮัวเดินลงมาส่งพ่อบ้านตระกูลหล่ำที่บันได
ฟงเช่อหยุดมองพร้อมทั้งสะกิดให้เหลาฉีมองแม่นางเมยฮัวและเอ่ยกับซงซิ้งขึ้นว่า
"แม่นางเมยฮัวคืนนี้มีแขกหรือยัง"
ซีซิ้งหันกับมาพบกับภาพที่เหลาฉีกำลังจ้องมองเมยฮัวก็พยักเข้าใจในความหมายของฟงเช่อทันที
"ร่ำสุรากับสาวงาม..แม่นางเมยฮัวคืนนี้ยังไม่มีแขกเจ้าค่ะ"
ฟงเช่อรีบหยิบเหรียญทองที่เตรียมในกระเป๋า..ส่งให้ซีซิ้งทันที่
"พี่สาวคนสวย..ช่วยจัดการให้ข้าทีนะ"
ฟงเช่อเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งมองไปที่เหลาฉีอย่างมีนัย
"พวกท่านไปนั่งดืมรอที่โต๊ะริมหน้าต่างก่อน เดียวพี่สาวคนนี้กลับมานะ"
ซีซิ้งเอ่ยพร้อมกับเดินจากไป
"เจ้านี่ดูคุ้นเคบกับผู้คนแถวนี้ดีนะ"
เหลาฉีถามขึ้นพร้อมนั่งลงบนเก้าอี้
ฟงเช่อยกกาสุราขึ้นมารินใส่จอกให้เหลาฉีพร้อมทั้งตอบคำถาม
"ข้าก็ต้องวางแผนเตรียมการมั่งล่ะท่านพี่..จะเข้ามาดุ่มๆไม่รู้อะไรคงไม่ได้"
ก่อนจะพูดอีกประโยค
"สุราที่นี่หอมหวาน..แต่ยังหวานชวนลุ่มหลงด้อยกว่าวาจาอิสตรี...ท่านอย่าดื่มมากล่ะ..เรามาด้วยเรื่องงาน"
"ข้ารู้น่า" เหลาฉีตอบ
ฟงเช่อได้แต่ทำปากเบ้..เพราะอาการของเหลาฉีที่นั่งตัวตรงคอเชิดทำท่าสง่า ยังคงไม่คลายนับแต่ได้ฟังคำของซีซิ้ง
ซักพักซีซิ้งก็เดินมาหาพวกเขาที่โต๊ะ..พร้อมกับนำพวกเขาไปที่ห้องๆนึงบนชั้นสอง
"เม่ยฮัว..ข้าจะแนะนำให้เจ้ารู้จัก..คุณชายเฟ้ยเจ้าคงรู้จักแล้ว...ส่วนนี้ผู้กองคนใหม่นามหมานจง"
"เมยฮัวคารวะคุณชายเฟ้ย เม่ยฮัวคารวะท่านผู้กองหมานจง"
"ไม่ต้องมากพิธีพี่หญิงเม่ย พวกเราใช่เพิ่งรู้จักกันที่ไหน"
ฟงเช่อเอยทักเม่ยฮัว
"ครั้งก่อนคุณชายเฟ้ย ช่วยข้าไว้ข้าต้องขอขอบคุณยิ่ง มีอะไรให้ข้าตอบแทนคุณชายโปรดบอก"
"เกรงใจไปแล้วพี่หญิง..วันนี้ข้ามากับแขกคนสำคัญคงต้องฝากพี่หญิงช่วยดูแลด้วย"
ฝงเช่อผายมืออกแล้วชี้ไปทางเหลาฉี
"ข้าหม่านจง ยินดีที่ได้พบแม่นางเม่นฮัว"
เม่ยฮํวเผยรอยยิ้มแล้วเชิญคนทั้งสองนั่งลงก่อน
ส่วนผู้จัดการร้าน ซีซิ้งขอตัวไปรับแขกท่านอื่น
เมื่ออาหารและสุราที่สั่งมาส่งทีห้องของเม่ยฮัว
เม่ยฮัวก็ทำหน้าที่เจ้าบ้าน ยกสุรารินให้แก่เหลาฉีและฟงเช่อ
"ให้ข้าเม่ยฮัวได้ปฏิบัติรินสุราให้แก่พวกท่านนะ"
พร้อมกับที่เม่ยฮัวเดินไปเพื่อรินสุรา
ฟงเช่อเมื่อเข้ามาในห้องของเม่ยฮัวก็เฝ้าสังเกตุถึงสถานที่ๆคิดว่าเป็นที่เป็บจดหมายลับ
เมยฮัวรินสุราให้กับเหลาฉีที่ตอนนี้ทำได้เพียงยิ้มรับ ถัดมาก็มารินให้แก่ฟงเช่อ
"ขอบคุณพี่หญิง"
ฟงเช่อกล่าวขอบคุณ ขณะที่สายตาเหลือบมองเห็นซองกระดาษที่อยู่ด้านในชายเสื้อ
เมื่อเมยฮัวรินสุราเสร็จก็กลับมานั่งที่
"วันนี้อากาศร้อนหรือไร หรือเพราะข้าดื่มสุรามากไป"
ฟงเช่อเอ่ยขึ้น
"งั้นเดี๋ยวข้าไปเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศให้นะเจ้าค่ะ"
แล้วเม่ยฮัวก็เดินไปเปิดหน้าต่าง
ฟงเช่อหันกระซิบเบาๆกับเหลาฉีว่า
"พี่ฉี..ท่านช่วยไปดูที่มุมห้องให้หน่อย ว่ามีอะไรน่าสงสัยไหม..รีบตรวจสอบก่อนที่แม่นางเม่ยฮัวจะกลับมา"
เหลาฉีรับคำพร้อมทั้งรีบไปตรวจสอบที่มุมห้อง
ส่วนฟงเช่อกลับหยิบซองยาเล็กๆที่บรรจุขี้ผึ้งก้อนน้อยๆ..ก่อนนำขี้ผึ้งนั้นป้ายปากจอกสุราของเม่ยฮัวและเหลาฉี
เมื่อทุกคนกลับมานั่งเป็นปกติ ฟงเช่อก็พูดคุยสวนเสเฮฮาไปเรื่อย
"มาๆ ข้ารินสุราให้พวกท่าน"
"มาๆ เพิ่มสุราอีกนิด"
"เติมสุราหน่อย..แล้วเรามาชนแก้วกัน"
ฟงเช่อมองที่หน้าเหลาฉีที่เริ่มมีสีแดงระเรื่อ..แล้วมองไปที่เม่ยฮํวที่มีสีแดงเช่นกัน
พร้อมส่งสายตาเหมือนเป็นสัญญาณ
"ข้าขอออกไปข้างนอกสูดอากาสแป๋บนะ"
เม่ยฮัวได้ยินดังนั้นก็เดินตามฟงเช่อออกมาที่ประตู
ฟงเช่อออกมานอกประตูแล้วหันกลับมาหาเมยฮัว แล้วกล่าวบางอย่างพร้อมยื่นบางสิ่งใสมือนาง
"ข้าฝากผู้กองด้วย..ดูแลให้ดีล่ะ"
เม่ยหัวมองที่มือที่กำแท่งทองไว้พร้อมอมยิ้มแล้วปิดประตู
ฟงเช่อกลับมาที่รถม้าแล้วมานั่งข้างๆกวานต้าซือ
"นานเท่าไหร่ยาถึงจะออกฤทธิ์"
ฟงเช่อถามกวานต้าซือ
"น่าจะครึ่งชั่วยามขอรับ..แต่ถ้าจะให้ถึงขั้นโง่งมหลงไหลไม่ได้สติก็น่าจะสักหนึ่งชั่วยาม"
"อืม..งั้นเราลงมือตอนนั้น..ท่านไม่ต้องเข้าไปนะ..แค่ส่งข้าที่หน้าต่างที่เปิดไว้พอ"
ฟงเช่อกล่าว
"ข้าว่าเสียงใคร..แล้วเหลาฉีล่ะ"
ต้าเชียนถามขึ้น
"กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่"
"เจ้าพักต่อเถอะ ยังไม่ถึงงานในส่วนของเจ้า" ฟงเช่อกล่าวพร้อมมองไปที่ห้องของเม่ยฮัวที่ตอนนี้แสงตะเกียงได้ดับลงแล้ว
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว