ระหว่างรอให้วิอัณณาเตรียมตัวย้ายพี่สาวไปอีกโรงพยาบาล และรอทางโรงพยาบาลจัดการเคลื่อนย้ายคนป่วย วรรณยุกต์เลี่ยงไปโทร.หาพี่สาวเพื่อรายงานผลการเจรจาแบบมัดมือชก
“ขอบใจยุกต์มากเลยนะจ๊ะ พี่บอกแล้วว่ายุกต์ทำได้ น้องชายพี่เก่งที่สุด ส่วนเรื่องสัญญาเงินกู้ เดี๋ยวพี่ค่อยให้ทนายทำมาให้ ดอกเดิกพี่ไม่คิดหรอกแค่ทำให้พอน้องอุ่นสบายใจเท่านั้นเอง”
“อย่าชมกันนักเลยครับ กว่าจะยอมได้ผมก็ต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมไม่น้อย แต่ก็ดีที่จบได้ซะที”
“จบได้ไงจ๊ะ อย่ารีบสิ พี่บอกแล้วว่าอยากให้ยุกต์คอยดูแลน้องอุ่นด้วย”
“ดูแล? ยังไงครับ” วรรณยุกต์เริ่มสังหรณ์ใจแปลกๆ
“ก็อย่างเช่นไปรับไปส่งที่มหา’ลัย พาไปกินข้าวดูหนังวันหยุด ไปเที่ยวไปพักผ่อนแก้เครียดอะไรทำนองนั้นอ่ะจ้ะ” อักษรพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ เหมือนเป็นเรื่องดินฟ้าอากาศทั่วไป ทว่าคนเป็นน้องถึงกับอึ้ง เข้าใจจุดประสงค์ของพี่สาวในทันที
“นี่พี่ษรกำลังจับคู่ผมแบบเนียนๆ ใช่ไหมเนี่ย อย่าเด็ดขาดเลยนะครับ แค่ที่ช่วยเขาไปเขาก็ไม่ค่อยอยากจะรับแล้ว ขืนมาจับคู่พิเรนทร์ๆ อีก เขาไม่ยอมแน่ เผลอๆ เขาอาจมีแฟนอยู่แล้วก็ได้นะครับ”
“พูดแบบนี้หมายความว่า ถ้าเขายอมและเขาไม่มีแฟน ยุกต์ก็ไม่ขัดงั้นสิ?” อักษรแหย่น้องชายอย่างจับผิด
วรรณยุกต์อึ้ง นึกถึงคำพูดตัวเองมันก็ส่อให้คิดแบบนั้นจริงๆ นั่นสิ ถ้าหล่อนยอม ถ้าหล่อนไม่มีแฟน เขาจะสนใจหล่อนหรือเปล่า?
“แค่นี้นะครับ ผมจะรีบจัดการให้เรียบร้อย”
“เดี๋ยวสิ พี่พูดจริงนะยุกต์ เอาเถอะ ถ้ายุกต์ไม่สนน้องอุ่นก็ไม่เป็นไร แต่ยังไงก็ดูแลเขาหน่อยนะ ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนเดียว รถก็ไม่มี พี่สาวก็เจ็บ หลานชายก็ต้องดูแล คงลำบากแย่เลย ถ้าช่วยได้ก็ช่วยๆ กันเนอะ พี่ขอบคุณยุกต์มากจ้ะ”
อักษรรวบรัดตัดความแล้วกดวางสายไปเสียดื้อๆ ทำเอาวรรณยุกต์ได้แต่อึ้ง ส่ายหน้าเบาๆ เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า
“ทำไงได้ล่ะ มาขนาดนี้แล้ว ก็คงต้องเลยตามเลย”
เขาพูดเหมือนเป็นเรื่องจำเป็น แต่น่าแปลกที่ริมฝีปากกลับยกยิ้มอย่างไร้เหตุผล
เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บของคุณดียิ่งขึ้น และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณอย่างได้อย่างส่วนตัว ท่านสามารถอ่านนโยบายคุกกี้เพิ่มเติมได้ที่นี่