ซูเยว่ซื่อ คุณหนูจวนขุนนาง-ตอนที่ 4

โดย  Her xiuxin เฮอ ซิ่วซิน

ซูเยว่ซื่อ คุณหนูจวนขุนนาง

ตอนที่ 4

บทที่ 10 แยกบ้านไม่ได้


“เด็ก ๆ ในหมู่บ้านเห็นกันเยอะแยะ ฉันไม่ได้มีความสามารถมากขนาดที่จะไปเป่าหูเด็ก ๆ ทุกคนให้ปรักปรำเธอได้หรอกนะ” เสิ่นทิงหงพูดยิ้ม ๆ


“คราวก่อนก็พูดไปแล้วว่าเรื่องนี้ไม่จบง่าย ๆ แน่ ตอนนี้พวกเรามาคุยกันเถอะ บ้านพวกคุณเลือกให้จัดการกันเองหรือจะไปแจ้งความ?”


จางซู่ฉินได้ยินคำนี้ก็ได้แต่คิดว่าเราจะไปแจ้งความไม่ได้ เธอจะมีหนทางอะไรได้อีกล่ะ


“จัดการเอง จัดการเอง!”


“เอาละ ในเมื่อป้าสะใภ้ใหญ่ตัดสินใจแล้วว่าให้จัดการกันเอง งั้นฉันจะไม่สร้างความลำบากให้พวกคุณแล้วกัน พวกเรามาพูดเรื่องค่าชดเชยกันดีกว่า”


“อ๋อ! พูดถึงเรื่องค่าชดเชยแล้ว จะว่าไปยัยหนูแสนสวยอย่างนีเอ๋อร์ของพวกเรายังเหลือรอยแผลเป็นอยู่ ถ้าเกิดรักษาไม่หายขึ้นมา ไม่เท่ากับว่าเธอต้องเสียโฉมงั้นเรอะ?” เซียวเจี้ยนฟางพูด


“ค่า…ค่าชดเชย? ต้องการเท่าไหร่” จางซู่ฉินมีเงินเสียทีไหนกันเล่า ทุกสิ้นปีตอนที่หัวหน้าหมู่บ้านแบ่งเงินปันผล แม่สามีเธอก็แบ่งให้บ้านละ 2 หยวนก็นับว่าดีมากแล้ว เพราะแม่สามีบางคนไม่แบ่งให้แม้แต่เหมาเดียว


แต่ยังไงก็ได้กินอยู่ที่บ้านตระกูลเสิ่น ยังไม่ได้แยกบ้านออกไปพวกเราไม่มีทางอดตายแน่นอน ดังนั้นส่วนใหญ่จางซู่ฉินก็จะแบ่งเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ เอาไปช่วยเหลือบ้านแม่ตัวเอง


ค่าเล่าเรียนอะไรต่างเป็นเงินกองกลาง ทั้งพ่อเฒ่าเสิ่นและแม่เฒ่าเสิ่นต่างก็เป็นคนมีเมตตา ขอเพียงเด็ก ๆ ในบ้านใฝ่เรียนรู้ พวกเขาจะได้เรียนหนังสืออย่างแน่นอน แต่ถ้าผลการเรียนออกมาไม่ดีหรือว่าเจ้าตัวไม่อยากเรียนเองก็จะไม่ได้เรียนต่อ เรื่องนี้ทุกคนถูกปฏิบัติเหมือนกัน ซึ่งก็ยุติธรรมดีแล้ว


ยกเสิ่นปี้เหลียนเป็นตัวอย่าง แน่นอนว่าเธอไม่อยากออกไปใช้แรงงานหนัก แต่เพราะคะแนนของเธอไม่ดี แม้แต่คุณครูยังบอกว่าเคี่ยวกร่ำเด็กคนนี้ต่อไปไม่ไหว เรียนต่อไปก็เหมือนเอาเงินไปโยนทิ้งน้ำ เธอจึงถูกเรียกตัวกลับมา


ทว่าคะแนนของเจ้าของร่างเดิมนั้นดีมาก เลยยังได้เรียนหนังสือมาตลอด ตอนนี้เหลือเพียงปีการศึกษาสุดท้ายของชั้นมัธยมตอนปลาย เธอก็จะจบมัธยมปลายแล้ว


“เรื่องมีเงินหรือไม่มีเงินมันไม่สำคัญหรอก ยังไงเสียเธอก็ต้องพยายามหาเงินมาให้ได้” หลิวเยว่เอ่ยดักคออีกฝ่าย


พอคำพูดนี้หลุดออกจากปากหลิวเยว่ ถึงบ้านใหญ่ทั้งสามคนจะไม่เข้าใจ แต่อู๋อวิ๋นที่แอบดูความครึกครื้นอยู่ในห้องกลับพอจะเดาออก


เธออดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ หลิวเยว่พูดแบบนี้คงไม่ได้กำลังคิดจะแยกบ้านหรอกนะ


ความจริงแล้วไม่มีลูกสะใภ้คนไหนไม่อยากแยกบ้าน ไม่อย่างนั้นที่ทำงานหนักทั้งปีก็เพื่อรอส่วนปันผลอันน้อยนิดงั้นเรอะ ครอบครัวไหนก็ย่อมไม่มีความสุขแน่นอน


ยิ่งไปกว่านั้น เสิ่นทิงเหวินก็เริ่มทำงานมาแล้วสองปี พวกเขาต้องมีเงินเก็บแน่ ๆ อีกทั้งที่บ้านก็ยังไม่มีเรื่องให้ต้องใช้จ่ายใหญ่โตจำพวกงานแต่งอะไร เงินเดือนเดือนละ 10 หยวน บวกกับเงินที่สะสมเอาไว้หลายปี อย่างน้อย ๆ ก็ต้องมีสักหลายร้อยหยวนได้


“สะใภ้สาม พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง?” พ่อเฒ่าเสิ่นเริ่มคาดเดาบางอย่างออก ถึงแม้จะไม่อยากพูดออกมาเวลานี้ แต่ว่าในฐานะหัวหน้าครอบครัวก็ยังต้องพูดออกมา


“พ่อคะ ความหมายของฉันออกจะชัดเจน พ่อก็รู้ว่าเรื่องนี้มันแย่ขนาดไหน ถ้าไม่ใช่เพราะนีเอ๋อร์ดวงแข็ง ตอนนี้ยังจะมายืนอยู่ตรงนี้ได้เหรอ อีกอย่างเรื่องนี้ก็มีคนเห็นตั้งเยอะแยะ ใช่ว่าฉันใส่ร้ายเสิ่นปี้เหลียนเสียหน่อย”


หลิวเยว่จ้องกลับไปยังพ่อเฒ่าเสิ่น ไม่อ้อมค้อมอีกต่อไป พูดตรง ๆ เหมือนเทถั่วผ่านกระบอกไม้ไผ่ พูดทุกสิ่งที่เธออยากจะพูดออกมาจนหมด


“ตลอดมาฉันไม่ใช่พวกทำตัวเหนียมอาย พ่อแม่ก็รู้จักนิสัยของฉันดี เรื่องพวกนี้ก็ไม่ต้องไปถามต้าเฉียงแล้ว พวกเราสองปากท้องปรึกษากันดีแล้ว พวกเราไม่สามารถอยู่ในบ้านที่มีควันดำปกคลุมนี้ได้อีก”


หลิวเยว่มีความมั่นใจว่า เมื่อแยกบ้านก็ต้องแยกออกมาสร้างบ้านเป็นของตัวเอง จะไม่ไปอยู่รวมกันกับพวกเขาอีก ตอนนี้การสร้างบ้านก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร พอถึงเวลานั้นพี่ชายพี่สะใภ้ทางฝั่งแม่ก็จะมาช่วยกันหมด แล้วค่อยขอคนในหมู่บ้านให้มาช่วยอีกสักสองสามคน ไม่นานก็คงสร้างเรียบร้อย


“เฮ้ย ดูเหมือนครั้งนี้ภรรยาของเสิ่นต้าเฉียงจะโกรธเข้าจริง ๆ แล้ว ก่อนหน้านี้ใช่ว่าจะไม่เคยทะเลาะกัน ถึงแม้เธอจะมีนิสัยแบบนั้นก็ไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องการแยกบ้าน”


“ใช่ไหมเล่า พูดแล้วก็เป็นเรื่องที่ลูกสาวบ้านต้าลี่นั่นก่อขึ้นมาเอง จิตใจชั่วร้ายตั่งแต่อายุยังน้อย เกรงว่าในอนาคตคงไม่สามารถหาคนดี ๆ มาแต่งด้วยได้…”


“ใครบ้างที่ไม่รู้ว่าครอบครัวต้าเฉียงเห็นลูกสาวคนนี้เป็นดั่งแก้วตาดวงใจ แล้วยังจะทำเรื่องชั่วร้ายแบบนี้อีก ถ้าฉันเป็นคนบ้านต้าเฉียง ฉันก็จะแยกบ้าน ต้องอยู่ร่วมกับคนประเภทนี้ ฉันคงกลัวว่าจะได้ตายแบบไม่ทันรู้ตัวเข้าสักวัน”


“ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน”


“....”


ครั้นได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากรอบด้าน สีหน้าของคนบ้านใหญ่ก็ยิ่งดูไม่ได้


“ไม่ได้ จะแยกบ้านไม่ได้!” พ่อเฒ่าเสิ่นยังไม่ทันพูดอะไร จางซู่ฉินก็ยอมแพ้ขึ้นมาก่อน


พ่อเฒ่าเสิ่นรู้สึกว่าลูกสะใภ้คนนี้ยังนับว่ามีด้านดี ๆ อยู่บ้าง สุดท้ายกลับได้ยินจางซู่ฉินตะโกนออกมาว่า


“ถึงจะแยกบ้านก็ต้องแบ่งเงินในส่วนที่บ้านเราต้องใช้สู่ขอภรรยามาก่อนถึงจะแยกได้”


คำพูดนี้ทำให้ทุกคนในที่นั้นหัวเราะเยาะเย้ยออกมา


เซียวเจี้ยนฟางก้าวออกมาตบหน้าจางซู่ฉินไปหนึ่งฉาด


“เดิมทีฉันอยากจะไว้หน้าบ้านพ่อสามีของลูกไว้บ้าง ต่อให้มาทุบตีเด็กนั้นก็จะไม่ลงมือกับพวกเธอ แต่เธอกลับทำตัวโง่เง่าจริง ๆ ฉันจะจัดการกับเธอยังไงดีนะ”


“บ้านเธอจะแต่งสะใภ้ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับบ้านลูกพวกเราด้วย วันนี้ฉันต้องเห็นครอบครัวลูกเขยฉันได้แยกบ้าน ต่อให้ลูกฉันไม่ติดใจเอาความ ยายแก่คนนี้ก็จะเป็นคนไปแจ้งความเอง ดูซิว่าจะอธิบายเรื่องฆ่าคนยังไง”


เสิ่นทิงหงอยากจะลุกขึ้นปรบมือให้กับคุณยายของเธอขึ้นมา ช่างเป็นการตอกกลับที่ดีจริง ๆ ตอกกลับซะจนป้าสะใภ้ใหญ่ต้องร้องโอดโอย


แล้วก็เกิดความโกลาหลขึ้นอีกรอบ เรื่องแยกบ้านนี้ยังไงก็ต้องเรียกเสิ่นต้าหย่งกับอู๋อวิ๋นออกมาด้วย


“พวกเธอสองคนจะว่ายังไง” พ่อเฒ่าเสิ่นถามขึ้น


เสิ่นต้าหย่งไม่พูดอะไร ส่วนอู๋อวิ๋นก็ทำเป็นว่าไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น แต่ความจริงแล้วพวกเขาทั้งคู่นั้นรู้ดี


“ได้ ถ้างั้นก็แยกเถอะ จริง ๆ แล้วก็ไม่ควรมาอยู่รวมกันแบบนี้ แยกไปแล้วเราสองคนจะได้มีเรื่องกวนใจน้อยลง” แม่เฒ่าเสิ่นถอนหายใจ ไม่ทันไรก็เกิดเรื่องเปลี่ยนแปลงมากมาย


พ่อเฒ่าเสิ่นพยักหน้าตกลง


“พ่อคะ แม่คะ ฉันพูดไว้ตรงนี้เลยนะ เป็นฉันที่ยกเรื่องแยกบ้านนี้ขึ้นมาพูด แต่ว่าต่อไปทั้งเรื่องความกตัญญูตอบแทน อาหาร และเงิน ทั้งฉันและต้าเฉียงจะไม่ให้ขาดแม้แต่น้อย แต่ว่าพวกเราต้องการแยกบ้านออกมาสร้างบ้านเอง ห้องเก่าที่นี่ก็ถือว่ายกให้พี่ใหญ่พี่รองค่ะ”


ความหมายของคำพูดนี้ก็ชัดเจน พวกเขาต้องการสร้างบ้านอยู่เอง พวกบ้านใหญ่บ้านรองจำเป็นต้องอาศัยอยู่ที่ห้องเดิมนี้ เรื่องแบ่งเงินควรแบ่งยังไงก็คงไม่ต้องพูดออกมาแล้ว


แต่ในบรรดาสะใภ้ทั้งสามคน ก็มีเพียงหลิวเยว่ที่ยืนกรานจะแยกบ้าน ต่อให้ต้องใช้เงินมากหน่อยก็ตาม ส่วนจางซู่ฉินกับอู๋อวิ๋นก็ไม่กล้าพูดอะไร


เพราะต่อให้แบ่งเงินมาให้พวกเธอเยอะขึ้นหน่อย พวกเธอก็ยังมีไม่พอไปซื้อบ้านใหม่


“งั้นเจ้าสองก็ไปเชิญหัวหน้าใหญ่แล้วก็ผู้อาวุโสของตระกูลมาหน่อย” พ่อเฒ่าเสิ่นพูดไปสูบบุหรี่ไป





รีวิวจากผู้อ่าน
ยังไม่มีรีวิวสำหรับเรื่องนี้

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว