รีวิวเป็นเมียแม่ทัพไม่ง่าย-รีวิวเป็นเมียแม่ทัพไม่ง่าย

โดย  โป๊ยเซียนเขียนรีวิว

รีวิวเป็นเมียแม่ทัพไม่ง่าย

รีวิวเป็นเมียแม่ทัพไม่ง่าย

ณ ห้องแห่งหนึ่งภายในเมืองxxxเป็นห้องที่มืดมิดมีเพียงแสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์และมีคนกำลังนั่งเล่นคอมพิวเตอร์เป็นชายไม่สูงมากไม่เตี้ยมาใส่แว่นตามองจอคอมพิวเตอร์.. เขาคนนี้คือ เฟิงหลี่พระเอกของเรื่องนี้อย่างไม่ต้องสงสัย

“โธ่เว้ย นั่งฝึกมาตั้งนานพอจะแพ้ก็แพ้ ไหนบอกว่าตัวเอกเป็นอัจฉริยะฟร่ะเนี้ย นิยายจีนมาแบบนี้กันทุกเรื่องเลยรึไงนะ!!”

เสียงของเขาดังขึ้นอย่างโมโห โดยไม่ต้องสืบไขเลยเขากำลังอ่านนิยายจีนแบบ E-Book อยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์นั้นเองที่เขาอ่านคือนิยายกำลังภายในเรื่องหนึ่งสำหรับสิ่งที่ทำใหเขาโมโหคือ พระเอกฝึกหนักมาอย่างเทพและมีบอกว่าแกร่งมากแต่กลับต้องสู้สุดกำลังกับผู้เยาว์ที่มีเบื้องหลังใหญ่โตจึงทำให้เขาหงุดหงิด

“ถ้าเป็นตูคงไปนั่งฝึกจนเทพไม่มีใครเทียบได้ยังดีกว่า”

เสียงเขาที่ดังมาแบบนั้น ทันใดนั้นในเวลาต่อมาเบื้องหลังของเขาพลันปรากฏหลุมสีดำดูเหมือนหลุมดำแต่ขนาดมันเล็กมากอย่างมากสุดก็คงดูดของในห้องนี้ทั้งหมดเท่านั้น แน่นอนว่าถ้าแรงดูดมันเหมือนกับหลุมดำมันคงทำได้ เสียงดูดมันค่อนข้างน่ากลัวจนทำให้เฟิงหลี่หันควับปับมาดูจนเผลออุทานคำหยาบออกมาว่า “เชี้*ไรเนี้ย”

แต่ยังไม่ได้จะกล่าวร่างของเขาและหลายสิ่งหลายอย่างโดนดูดเข้าไปในหลุมดำช่องว่างจนเขาแหกปากไปอย่างรุนแรงว่า “อ๊ากกกก Shit Shit Shit!!!!” สิ่งของต่างภายในห้องถูกดูดเข้าไปหลายอย่างพอสมควรโชคร้ายที่ตู้เล็กในห้องโดนดูดมาทีหลังจนมันกระเด็นมาโขกใส่หัวเฟิงหลีจนสลบ

ร่างของเขาและสิ่งของในห้องบางส่วนโดนดูดเขาไปหลายอย่างพอสมควรก่อนที่มันจะหายไปอย่างไร้ร่องลอยโดยไม่มีใครทราบว่าเกิดอะไรขึ้น... ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ร่างของเฟิงหลี่และของในห้องบางส่วนพลันลอยเขว้งอยู่ในมิติมืด

ณ โลกที่ไม่ใช่โลกเดิมภายในตำหนักแห่งหนึ่งที่งดงามหรูหราอารามตาแสงสีทองส่องระยิบระยับล้ำค่าจนบาดลูกตาแต่น่าเศร้าที่ไม่มีแสงอาทิตย์หากดูนอกตำหนักมันจะถูกครอบไว้ด้วยภูเขาโดยไม่มีใครทราบว่ามีตำหนักสุดหรูหราอยู่ภายในภูเขาลูกนี้

ในห้องโถงของตำหนักที่มีความหรูหราอย่างมากกลางห้องโถงมีรูปวาดกับพื้นเป็นวงกลมและรอยบางสิ่งบางอย่างมันงดงามอย่างมากหากมองในมุมมองที่สูงจะเห็นเป็นเหมือนกับจุดอะไรสักอย่างทันใดเหนือพื้นตรงจุดนี้พลันมีหลุมสีดำปรากฏขึ้นขนาดมันใหญ่กว่าตอนอยู่ห้องเฟิงหลี่เล็กน้อย

"ตู้มมม"

ร่างของเฟิงหลี่หลุดออกมาจากหลุมดำพร้อมกับมีของบางส่วนที่โดนดูดมาด้วยกระเด็นออกมาจนหมดก่อนที่หลุมสีดำจะหายไปทันทีที่ร่างของเฟิงหลี่ร่วงลงพื้นจนเกิดเสียง "ตูบ" โชคร้ายที่หัวของเขามุ้งดิ่งลงพื้นพอกระทบกัลพื้นจนเกิดเสียง "กรอบ" เหมือนกระดูกหัก เขาที่นอนหลับสะดุ้งตื่นจากแรงกระแทก

“อ๊อก!! ที่นี้ที่ไหนว่ะเนี้ย..”

เขาหันมองสำรวจโดยรอบขณะลูบตนคออย่างเจ็บปวดถ้าสูงกว่านี้กระดูกคอของเขาคงหักชีวิตน้อยๆของเขาเกือบจับสูญสิ้นไปเสียแล้ว พอเขามองเหฌนห้องโถงเหมือนห้องพระราชาหรูหราขนาดที่ห้องของประธานาธิปดีโลกทุ่มกำลังสุดตัวเพื่อตกแต่งยังเทียบไม่ได้

“เอิ่ม...”

เขาเอียงหัวขบคิดขณะที่มองก่อนจะทำความเข้าใจด้วยสภาพสมองที่โครตจะจินตนาการเก่งจองเขาทุบมือหนึ่งครั้งในสไตล์การ์ตูนญี่ปุ่นที่ทำบ่อยพร้อมกับกล่าว

“อ่อ เข้าใจแล้วที่นี้คือวังในต่างโลกที่รอให้ชั้นหอบไปขายสินะ!”

“ใช่ที่ไหนฟร่ะ!!”

ขณะที่เฟิงหลี่กำลังปล่อยมุขด้วยสมองที่สุดจะเพอร์เฟคของเขาก็มีเสียงคัดค้านจากใครไม่ทราบดังขึ้นในห้องโดยไม่ทราบตนเสียงเฟิงหลี่สะดุ้งโหยงอย่หวาดกลัว “ไอ่ผีบัดซบแกอย่าเข้ามานะเว้ย ชั้นมีสร้อยพระนะเว้ย” เขาโดดขึ้นพร้อมหยิบเอาสร้อยพระในคอออกมาโชว์

“ฮะฮะ ใจเย็นๆขาไม่ใช่ผีแต่เป็นเศษเสี้ยววิญญานของที่แห่งนี้ไว้คุยกับเจ้าเสร็จก็สูญสลายไปแล้ว” เสียงปริศนาตอบเฟิงหลี่

“เดียวนะ วิญญานมันก็ผีไม่ใช่รึไงฟร่ะ”เมื่อได้ยินคำตอบเฟิงหลี่โต้ตอบ

“เอ๊ะ.. เป็นงั้นจริงด้วยนี้น่า” เสียงปริศนามำเสียงเหมือนกับเห็นด้วยกับความคิเฟิงหลี่

“......” เฟิงหลี่พูดไม่ออกกับเสียงโง่งมหรือแกล้งโงคนนี้

“โฮ๊ะๆ เรื่องนั้นช่างมันเถอะ ข้าจะอธิบายเกี่ยวกับโลกแห่งนี้ให้เจ้าฟังก็หมดหน้าที่แล้ว ข้าคือเศษเสี้ยววิญญานของ 'จักรพรรดิปราญช์เซียน' ที่หลงเหลือไว้รอผู้สืบทอดและเจ้าก็คือผู้สืบทอดที่ข้าได้เลือก.. ในโลกแห่งนี้เป็นโงกแห่งเทพเซียนอยู่จุดสูงสุดด้วยกำปั้นของตัวเอง สำหรับเจ้าที่เป็นผู้สืบทอดของข้าในตำหนักแห่งนี้มีทั้ง ตำรา, วิชาฝึก, ยาช่วยบ่มเพาะพลังต่างๆ เจ้าสามารถใล้มันฝึกจนยกระดับได้ แต่อย่างไรก็ตามการฝึกไม่ใช่จะใช้เพียงยาเท่านั้นแต่ต้องมีความพยายามตั้งใจ... ในโลกนี้ยังมีเรื่องอีกมากมายเอาล่ะเจ้าสามารถผจญภัยในโลกแห่งนี้ได้... เหตุผลที่ข้าหาผู้สืบทอดข้าเพียงกังวลว่าจะไร้ผู้สืบทอดหากเจ้าสืบทอดแล้วของต่างๆเป็นของเจ้าแล้วแต่เจ้าจะเลือกวิธีใช้เอาล่ะข้าไม่มีอะไรจะบอกแล้ว ข้าก็ถึงวาระสุดท้ายงั้นข้าขอลา...”

“ฮ...เฮ้ เดียวสิ--”

ก่อนที่จะได้กล่าวเสียงของคนที่อ้างว่าตัวเองเป็นปราญช์เซียนพลันสิ้นสุดลงที่แห่งนี้กลับมาสู่ความเงียบ.. เฟิงหลี่ตระหนักได้อย่างหนึ่งคือความรู้เขามีความรู้ของโลกและความรู้ของทางเดินในตำหนักที่เก็บของต่างผุดขึ้นมา...

เขาเข้าใจว่าโลกแห่งนี้เป็นโลกเทพเซียนมีอยู่หลายทวีปพอสมควรทวีปที่เขาอยู่ในตอนนี้คือทวีปเซียนเซิ่งแม้จะเป็นทวีปที่อ่อนแอที่สุดแต่ก็มีคนแข็งแกร่งเยอะทวัปแห่งนี้แบ่งออกเป็น 5 อาณาจักร มี 3 สุดยอดนิกายแห่งทวีปเซียนเซิ่ง... ที่ตั้งของตำหนักแห่งนี้อยู่ในอาณาจักรเซิ่งเหลิน... อาณาจักรแห่งนี้แม้จะอ่อนแอสุดใน 5 อาณาจักรแต่มีเบื้องหลังโดยหนึ่งในสามนิกาย จึงไม่มีใครกล้าทำสงครามด้วย

เขานั่งทำความใจอยู่นานมากก่อนที่จะเริ่มสำรวจสิ่งของที่ติดตัวมามีเพียงตู้ที่ไว้เก็บของต่างๆและตู้ชุดเสื้อผ้าพร้อมกับสมาร์ทโฟนสามเครื่องโดยเป็น โทรศัพท์หน้าจอใหญ่กับโทรศัพท์ปกติอีกสองเครื่องสายชาร์จ.. แชะโชคดีที่แบตเตอรี่สำรองที่ชาร์จด้วยแสงจากดวงอาทิตย์มาด้วย ไม่งั้นคงไร้ประโยชน์.. เพราะโลกนี้ไม่มีไฟฟ้าแน่ๆ.. แต่ยังมีปลั๊กไฟและคอมพิวเตอร์ทั้งชุดมันเอามากระทั่งคีย์บอร์ดและเมาท์.. ถึงจะไม่มีไฟฟ้าแต่ก็นับเป็นโชคดีได้ใช่มั้ย.. ในขณะที่มีเสื่อมาด้วยตอนหล่นลงมันรองให้หน้าจอคอมพิวเตอร์พอดีหน้าจอจึงไม่แตก

เฟิงหลี่ทำความเข้าใจอยู่นานก่อนนะสงบจิตสงบใจพร้อมตัดสินใจว่า "เอาสิเว้ย!!!" แต่เขาจะไม่ผจญภัยแน่นอนเขาไม่ใช่พระเอกในนิยายสักหน่อยที่ผจญภัยพร้อมฝึก ในเมื่อโลกนี้ไม่ต้องการ การต่อสู้เสี่ยงตายเพื่อเลื่อนระดับแต่อาศัยการฝึกปรือและใช้ยาตันชนิดต่างๆเขาตัดสินใจทันทีว่า

“หากตูไม่แข็งแกร่งที่สุดตูจะไม่ออกไปเด็ดขาด!!!”

พอตัดสินใจแบบนี้เขาย้ายของไปในห้องเหมาะๆจัดห้องเสร็จวิ่งหาตำราและวิชาต่างๆเขาเริ่มฝึกอย่างรวดเร็วตลอดเวลาเขาใช้เวลาฝึกปรือและฝึกวิชาทักษะยุทธ์ โชคดีที่มีสนามฝึกซ้อมการต่อสู้กับสัตว์อสูร ยังมีต่อสู้กับมนุษย์เทียมที่มีเลือดเนื้อ เขาไม่ใช่คนที่จะฆ่าคนไม่ได้เพราะยังไงเขาก็ไม่ได้ชื่นชอบมนุษย์ขนาดนั้น อีกอย่างมันไม่ได้เสี่ยงชีวิตและถูกเหยียดหยามเขาจึงฝึกสู้กับมนุษย์เทียมนี้ได้

แม้ครั้งแรกในการฆ่าจะทำให้รู้สึกอาเจียนอยู่บ้างแต่ก็ปรับสภาพอย่างรวดเร็ว... เขาฝึกปรืออย่างบ้าคลั่งตลอดเวลา.. เวลาไหลผ่านไปอย่างรวดเร็วโดยตัวเขาเองก็ไม่ทราบได้..

1 ปีผ่านไป

2 ปีผ่านไป

20 ปีผ่านไป

100 ปีผ่านไป

5000 ปีผ่านไป

50000 ปีผ่านไป

พริบตาเดียวก็ผ่านมาเกือบๆล้านปีที่เขาฝึกหนักใช่เขามีพรสวรรค์แต่เขาก็ฝึกต่อไปเรื่อยๆด้วยความมุ้งมั่นโดยตัวเขาเองยังไม่รู้สึกตัวผ่านไปกว่าล้านปีเสียแล้ว! ร่างของเขาไม่แก่ยังคงสภาพตอนอายุ 20 ปีหนุ่มๆแน่นๆ อยู่ตลอดหลายปีเขาก็ดูแลตัวเองอยู่บ้าง

รูปร่างเขาตอนนี้เป็นบุรุษรูปงามหน้าตาคมกริบจากการชำระล้างผลัดกระดูกใามากเกินกว่ามนุษย์ธรรมดาจะทำได้ใบหน้าจึงงดงามผิวขาวเนียนราวกับอิสตรีผมของเขายาวถึงเอวสีขาวไม่เหมือนสีของผมที่ตายตัว แต่เปลี่ยนสีไปเพราะการฝึกผลัดกระดูกและ เซลล์ในร่างกายจึงวิวัฒนาการ ไม่มีหนวดมีเครา.. ผู้หญิงเห็นต้องกรีดผู้ชายเห็นยังหน้าแดง ไม่ว่าจะหล่อเหลาหรืองดงาม อยู่กับเฟิงหลี่หมด!!

“เอาล่ะถึงเวลาต้องออกผจญภัยจริงๆแล้ว!!”

ในตอนนี้เขาฝึกจนถึงขั้นที่แม้แต่ปราญช์เซียนยังฝึกไม่ถึง อันที่จริงใช้เวลาหลายปีจะเลื่อนแต่ล่ะขั้นหลังจากที่อยู่ในระดับเหนือกว่าปราญช์เซียนเขาจึงไม่มียาตัน เฟิงหลี่จึงใช้พรสวรรค์และความอดทนฝึกจนถึงระดับสุดยอด!! มุมปากเขายกยิ้มขึ้น..

“เอาล่ะตอนแรกก็ไปเมืองเล็กๆ.. แล้วค่อยๆเติบใหญ่.. แต่ถ้าจะให้ดีผนึกพลังไว้เยอะก่อนแต่เมื่อเจอวิกฤติจริงๆค่อยใช้พลัง เมืองเล็กที่ใกล้ที่สุด... เอิ่ม.. พลังน่าจะอยู่แค่ระดับแรกๆงั้นเอางี้ล่ะกัน”

พอคิดงั้นเขาโบกมือทีหนึ่งพลังที่มากมายถูกปิดกั้นอันที่จริงเขาไม่ชอบที่จะแพ้คนอื่นทั้งที่ฝึกมานาน แต่เขาก็ไม่ใช่ว่าจะแสดงให้ตัวเองแข็งแกร่งจนเกินไปยิ่งมีไพ่ในมือยิ่งดีที่เขาศึกษามาจากพระเอกในนิยายว่าไม่ควรเปิดเผยพลังมากไป ดังนั้นเขาจึงระงับพลัง ถ้าถึงที่สุดค่อยปลดพลัง

อันที่จริงมีเรื่องที่เขาไม่รู้อย่างหนึ่งคือ... โลกนี้มันผ่านมากว่าล้านปีแล้วระดับพลังหรือเมืองสถานที่ต่างๆต่องเปลี่ยนไปเยอะจนแทบคนล่ะโลกแน่นอน

หนึ่งเม็นหนึ่งแชร์ = หนึ่งกำลังใจให้นักเขียนนะจ้ะ ><

รีวิวจากผู้อ่าน
ยังไม่มีรีวิวสำหรับเรื่องนี้

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว