มาม่าซังป้ายแดง

ตอนที่ 4 เทพบุตรประจำกาย++50%

9…ประตูทางออกที่ปิดตาย


รักแท้ก็ยืนเหวอเมื่อเรียกโชติวิชญ์ไม่ทัน

“พี่รักฟ่างจริงๆ ไม่ใช่ต้องการรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น”

เฮ้ย! รักแท้สะดุ้งโหยงเหมือนฟ้าผ่ากลางแจ้งไร้เมฆฝนทั้งที่เมื่อกลางวันเขาก็พูดแล้ว

“โต!!” ออกตัวเร็วไม่ทันให้เธอตั้งตัวเลย

“ตามนั้น แล้วอยากฟังความจริงพี่ก็จะเล่าให้ฟัง แต่อย่าขัดให้เสียจังหวะจนกว่าพี่จะเล่าจบ มานั่งใกล้ๆ พี่นี่มา”

“ไม่!!”

“พี่ไม่อยากตะโกน”

รักแท้เดินลากเท้าไปนั่งที่โซฟายาวอย่างไม่เต็มใจ แล้วก็โดนท่อนแขนแข็งแรงดึงไปกอด

“ปล่อยฟ่างนะ”

“อย่าดิ้น ถ้าดิ้นพี่ปล้ำ” เขายกร่างหญิงสาวขึ้นนั่งคร่อมตักบังคับให้นั่งหันหน้าเข้าหา

คิดว่ารักแท้จะนั่งนิ่งๆ ให้เขาทำไหม ไม่ หญิงสาวทุบตีหยิกทึ้งแทบจะเอาหัวโขกหัวอีกฝ่ายให้แตกกันไปข้าง

“ก็บอกให้ปล่อยไงเล่า ไม่เอาอย่างนี้นะ” เดี๋ยวก็เตลิดอีก กลิ่นกายหอมๆ ของเขาเร้าใจจนเธอปั่นป่วนไปหมดแล้ว ขืนให้นั่งคร่อมตักหัวใจวายตายกันพอดี

“อยากโดนปล้ำใช่ไหม จัดมันตรงนี้เลย” น้ำเสียงเขาจริงจังขณะพยายามปัดป้องและรวบมือหญิงสาวเอาไว้ ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ ขณะฉกจมูกลงบนพวงแก้มแดงปลั่งแล้วเธอกรี๊ดขึ้นมาเบาๆ

ความเครียดค่อยหมดไปแต่ความต้องการทางด้านร่างกายเข้ามาแทนเมื่อหญิงสาวดิ้นอยู่บนตัก เขาปล่อยเสียงซี้ดออกไปเมื่ออะไรๆ มันเสียดสีกัน เพราะหญิงสาวสวมกระโปรงบานยาวกรอมเท้าเมื่อนั่งคร่อมกระโปรงก็เปิด

น้องสาวกับน้องชายทักทายกันผ่านชุดชั้นใน ถ้าพูดได้น้องชายเขาคงจะทักขึ้นก่อนว่า จ๊ะเอ๋คนสวย ทำไมตัวนุ่มจัง แค่คิดน้องชายของสงครามก็ยิ่งคึกแข็งขึ้นเป็นลำ

“อี๊ย์!!” หญิงสาวเบี่ยงหน้าหนี โมโหปรี๊ดเมื่อโดนเขาหอมแก้มและจับตรงโน้นนิดตรงนี้หน่อย

“ฟ่างจ๋า ขอนะพี่ไม่ไหวแล้ว” สงครามครางเสียงแหบพร่าประกบริมฝีปากเข้ากับริมฝีปากเรียวนุ่ม

“อื้อ!!!” รักแท้ตกใจจนตัวชา และตกตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก เขาขอทำอะไรอย่าบอกนะว่าขอความสาวเธอ ขอกันง่ายๆ ราวกับขอบุหรี่จากเพื่อนหรือไม่ก็ขอลูกอมหมากฝรั่งก็ไม่ปาน

“อืม...” หวานจัง ชายหนุ่มครางในลำคอ

สงครามฉวยโอกาสที่หญิงสาวไม่ได้สติปล่อยลมหายใจร้อนๆ ใส่ขณะจูบซับเรียวปากซ้ำๆ ดูดย้ำอยู่เช่นนั้นราวกับตัดใจไม่ได้ แล้วก็ค่อยสอดลิ้นเข้าไปข้างในเกี่ยวรัดลิ้นเล็กเอาไว้แล้วดูดดึงไม่ปล่อย หวานที่สุดอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด หวานมาก ชายหนุ่มดูดแรงๆ แล้วปล่อยจากนั้นกัดที่เปลือกปากนุ่มเบาๆ แล้วสอดลิ้นเข้าไปใหม่ ทำซ้ำๆ สลับกันขณะที่มืออยู่ไม่นิ่งบีบเคล้นนวดคลึงผ่านเนื้อผ้าพร้อมกับสะกิดกระดุมให้หลุดทีละเม็ด

อ๊า!! หัวใจจะวายไหมมึงไอ้โต ผ่านสงครามมาก็มากแต่ไม่เคยเจออะไรอย่างนี้มาก่อน เนื้อแน่นๆ เนียนนุ่ม

รักแท้รู้สึกว่าในหูมีเสียงดังวิ้งๆ ตัวเบาเหมือนจะลอยได้ แล้วก็ตัวสั่นเยือกรู้สึกเลือนๆ ว่าลิ้นสากระคายชุ่มชื้นกำลังเกี่ยวรัดลิ้นเธอแล้วดูดราวกับอดอยากหิวโหย กระแสความรู้สึกบางอย่างวิ่งปราดไปทั่วร่าง วูบวาบที่ท้องน้อย ร่างกายอ่อนเปลี้ย เธอขยับลิ้นตามเขาอย่างงงๆ ราวกับโดนอะไรบางอย่างชักจูงให้ทำเช่นนั้น

“อื้มมมม”

“ขอนะ” เขาผละจากปากนุ่มอย่างเสียดายเพื่อลงไปชื่นชมด้านล่าง

โอวววว ละลานตา บอกได้คำเดียวว่า ขาว ต่ออีกคำว่า อวบ ขออีกสองคำว่า ตั้งเต้า แล้วก็เพ้อยาววนไปขณะอ้าปากกินอย่างตะกละตะกลามขาวอวบตั้งเต้าหอมกรุ่น เร้าอารมณ์อะไรอย่างนี้นะข้าวฟ่าง พี่อยากกินนมข้าว พี่อยากได้ฟ่าง

รักแท้สั่นระริกสองมือจิกที่ท่อนแขนล่ำทั้งข่วนและจิกทำสารพัดเพื่อระบายอารมณ์ ขณะที่ริมฝีปากครางอื้อๆ อ้าๆ ไม่หยุดกระทั่งรู้สึกเจ็บแปล๊บที่ยอดอกจึงก้มลงไปมอง สงครามกำลังดื่มนมอย่างเอาเป็นเอาตาย ดูดจนแดงก่ำเป็นมันปลาบ แล้วเธอก็สั่นเยือกอีกรอบเมื่อโดนครูดด้วยไรฟันและเขากัดเบาๆ ราวกับอดใจไม่ไหว จะกัดให้ขาดเลยไหม

หญิงสาวส่งเสียงซี้ดดังเต็มปากเต็มคำขณะขยี้ผมบนหัวเขาเป็นพัลวัน ใจหนึ่งอยากให้เขาทำอีกใจอยากให้เขาหยุด อีกนิดนะอีกนิดได้แต่บอกตัวเองอยู่เช่นนั้นขณะแอ่นอกให้เขาดื่มนม

สงครามลืมตัวเผลอกัดเธอเข้า เขาไม่ได้ชอบเสพความรุนแรงแต่มันเขี้ยวเลยขบเบาๆ แล้วเลียแต่หญิงสาวที่ยังใหม่ นมเพิ่งโดนเจาะยังไม่ชินกับสัมผัสที่เร่าร้อนก็เลยตกใจ

เจ็บ! รักแท้ได้สติเพราะปลายนิ้วที่ซุกเข้ามาในน้องสาวแล้วก็ร้องกรี๊ดเมื่อเขาขยับมือเข้าออกจนเกิดเสียงดังเพราะเธอฉ่ำแฉะ เธอรู้สึกเจ็บมากกว่าจะเสียวซ่านแล้วตอนนี้แม้จะเป็นนิ้วเดียวก็ตาม

เพี้ยะ!! ตบเขาจนหน้าหันแล้วขยับตัวลงจากตักอย่างทุลักทุเล

ตุ้บ!!! “โอ๊ย!!” รักแท้ร้องลั่นเพราะเสียหลักผิดจังหวะหงายหลังหล่นลงจากตักสู่พื้นเต็มแรง

มือนุ่มๆ ที่ฟาดลงมาบนใบหน้าแทบไม่ระคายผิวคนหน้าด้านอย่างเขา และสภาพหญิงสาวที่นั่งจุมปุ๊กอยู่กับพื้นทำให้สงครามเอามือกุมท้องหัวร่องอหาย ยื่นมือลงไปหมายจะดึงเธอขึ้นมาแต่โดนตีมือเสียก่อน

“อย่ามาถูกตัวฟ่างนะ” หญิงสาวขู่ฟ่อขณะตลบกระโปรงลงและกลัดกระดุมเสื้อมือไม้สั่น

“ถ้าพี่จะทำ ฟ่างไม่รอดเชื่อป่ะ”

เชื่อ! แต่เรื่องอะไรจะตอบ รักแท้แทบจะไม่มองหน้าเขาเลยก็ว่าได้เพราะความอาย เป็นพี่น้องเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กจู่ๆ ก็มาทำกันอย่างนี้ใครบ้างจะไม่ตกใจ เธออยากจะวิ่งเข้าไปหลบในห้องนอนอีกห้องที่ว่างแต่กลัวเขาวิ่งตามเข้าไปแล้วจะยิ่งแย่ หญิงสาวลูบผมให้เรียบร้อยแล้วลุกขึ้นยืนแข้งขาสั่นเทาแทบไม่มีแรงแต่ฝืนทรงตัวไม่ให้เขารู้

“จะไปไหน”

“พี่ถามว่าจะไปไหน มานี่”

“ปล่อยนะโต” หญิงสาววิ่งหนีเขาไปรอบๆ ห้อง ราวกับเล่นไล่จับกันแต่เพราะไม่มีแรงก็เลยเป๋ไปเป๋มา บ้าเอ๊ย! เขาแกล้งให้เธอหมดแรง หญิงสาวหอบหายใจทางปาก

สงครามหัวเราะลั่นจนตัวงอ “จะหยุดไหมฟ่าง” พูดพลางหัวเราะ

หญิงสาวส่งค้อนให้เขาเกาะขอบโต๊ะไว้แน่นไม่อย่างนั้นทรุดลงไปกองกับพื้นแน่นอน

“พี่ไม่ทำอะไร สัญญา” เขายกมือให้สัญญา “แต่ฟ่างต้องให้ความร่วมมือ นั่งนิ่งๆ ขณะฟังพี่เล่า”

“แล้วถอดเสื้อทำไม” หญิงสาวลุกลนหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อเห็นแผงอกกว้าง ยอดอกเม็ดจิ๋วสีชมพูทำให้เธอคอแห้งและน้ำลายสอ

“ร้อน”

“ต่างคนต่างนั่ง ห้ามมาถูกตัวฟ่าง” เธอกำมือแน่นเมื่อเห็นผลงานตัวเองบนแผ่นอกเขากระจายไปทั่ว จำไม่ได้ว่าปลดกระดุมซุกมือเข้าไปทำร้ายเขาตอนไหน แต่เป็นฝีมือเธอแน่นอน

“ใครเป็นต่อ” เขาเลิกคิ้วแล้วกระดิกนิ้วราวกับเรียกหญิงสาวเข้าไปหาทั้งที่เป็นตัวเขาเองเดินเข้ามาหาเธอ

บ้าจริง พี่โชก็หายเข้าไปในห้องนอนไม่ยอมออกมาเสียที รักแท้บ่นวุ่นวายในใจ ร่างใหญ่ของสงครามเดินเข้ามาใกล้ทุกที หญิงสาวทำหน้าเหมือนจะร้องไห้กัดริมฝีปากแน่นเมื่อโดนอุ้มกลับไปนั่งที่โซฟา

สงครามหัวเราะผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขนด้วยความเอ็นดูแล้วเขาก็เริ่มเล่าตั้งแต่ต้น ระหว่างนั้นรักแท้ที่นั่งฟังก็หน้าแดงก่ำ

เขาให้โชติวิชญ์ซึ่งเป็นเพื่อนรักเข้ามาจีบรักแท้ ขอเป็นแฟนโดยมีเขาคอยลุ้น และเขาก็เป็นคนคุมเกม โชติวิชญ์ต้องเล่นตามเขาจะออกนอกลู่นอกทางไม่ได้ เหตุผลที่ทำอย่างนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้หญิงสาวไปรักผู้ชายคนไหนจนกว่าจะเรียนจบ หญิงสาวเรียนจบเมื่อไหร่โชติวิชญ์ต้องตัดความสัมพันธ์ทันที จากนั้นเขาจะรับช่วงต่อจัดการหญิงสาว แต่รอแล้วรอเล่าเพื่อนเขาก็ไม่ยอมจบความสัมพันธ์ ถามทีไรมันก็บอกว่ายังไม่มีโอกาสพูดเสียที

ชายหนุ่มคิดง่ายๆว่า เมื่อหญิงสาวไม่ได้รักใคร ก็คงตอบตกลงแต่งงานกับเขาเข้าสักวัน เมื่อไหร่ นานแค่ไหน ตอนนั้นเขาคิดว่ารอได้ แต่ไม่ใช่ตอนนี้เพราเขาอยากหมั้นและแต่งให้เร็วที่สุด

“มันใช่เรื่องที่ทำเล่นๆ ไหมโต หัวใจฟ่าง รักของฟ่างนะ เพื่อนของพี่ก็ด้วยนะ” หญิงสาวบ่นยาวแก้อาการร้อนรุ่มหายใจไม่ออก และข่มความไม่พอใจเอาไว้ มันใช่เรื่องไหมที่สงครามมาทำอะไรเล่นๆ กับชีวิตของเธอ

“พี่ขอโทษ แต่ฟ่างก็ไม่ได้รักไอ้โชนี่นา ไอ้โชเองก็ไม่ได้รักฟ่าง”

“ตลกล่ะ ไม่รักกันคงไม่คบกันเป็นแฟนนานจนถึงบัดนี้หรอกนะโต”

“อย่ามาโกหก ฟ่างกับไอ้โชไม่ได้รักกัน”

“โอ๊ย!! ไม่อยากจะพูด” ขืนเถียงกันมียาวแน่ เอาชนะสงครามไม่ใช่เรื่องง่าย เถียงแบบกำปั้นทุบดินเพื่อให้ชนะอีกฝ่ายเขาก็ทำมาแล้ว

“พี่เห็นด้วย”

“แต่ต้องพูด เอาเป็นว่าฟ่างไม่โกรธก็แล้วกันถือว่าพี่โตเป็นกามเทพช่วยให้ฟ่างกับพี่โชรักกัน”

“นี่ยังไม่เข้าใจอีก ระหว่างฟ่างกับไอ้โชจบลงแล้ว”

“ใครบอกว่าจบ หรือว่าพี่โชบอก”

“พี่ไง พี่บอกอยู่นี่ไง ฟังบ้างสิที่เล่าไปไม่เข้าสมองเลยรึไงหรือว่ามัวแต่คิดถึงจูบของพี่อยากได้อีก” สงครามมองริมฝีปากแดงฉ่ำตาปรอย เขาอดใจมานานขนาดนี้ได้อย่างไรกันนะ ตั้งแต่อายุสิบห้า

รักแท้หายใจแรงด้วยความโมโหทำให้ทรวงอกกระเพื่อมขึ้นลง แล้วสายตามันปลาบที่จ้องมองมาทำให้หญิงสาวสงสัย เขามองอะไรกันนะ

“มองอะไร”

“อยากกินนมข้าวฟ่าง”

หญิงสาวเงื้อมือแล้วก็ชะงักเมื่อโดนรวบไปกอดเอาไว้แน่น

“ขืนตบมียาว คราวนี้ไม่มีหยุดนะ ไปโลด” พูดเสียงกระเส่าข้างใบหูเล็กหอมกรุ่นแล้วกัดเบาๆ

อาการหนาวๆ ร้อนๆ ตัวสั่นเหมือนคนเป็นไข้กลับมาอีก หญิงสาวนั่งนิ่งพยายามควบคุมสติ

“ฟ่างไม่ชอบให้โตทำแบบนี้ เรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็กอย่าให้ความสัมพันธ์นั้นต้องเปลี่ยนไปเลย ฟ่างเสียดาย” หญิงสาวพูดเสียงนุ่มบอกตัวเองให้ยอมๆ ไปก่อน น้ำกำลังเชี่ยวเธอว่ายต้านกระแสน้ำไม่ไหวแน่นอนปล่อยตัวไหลไปตามน้ำก่อน

“ความสัมพันธ์ของเราจะแนบแน่นขึ้นต่างหาก เป็นเพื่อนเป็นพี่เป็นคนรัก พี่เป็นให้ฟ่างได้ทุกอย่าง ดีจะตายไป ฟ่างมีแต่ได้กับได้”

“ฟ่างรักพี่โชนะ ไม่ได้รักโต”

“จะเอาอย่างนั้นก็ได้ รักไอ้โชก็รักไปพี่ไม่ถือ พี่ค่อยทำให้ฟ่างรักพี่ภายหลังก็แล้วกัน เชื่อสิพี่ทำได้ ตะกี้เราเข้ากันได้ดีจะตายไป”

“โตมั่นใจมากเกินไป และความมั่นใจของโตกำลังทำร้ายทั้งพี่โชและก็ฟ่าง”

สงครามหน้าเสีย เริ่มไม่มั่นใจในตัวเอง ตลอดเวลาที่โชติวิชญ์กับรักแท้คบหากันเขาดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดและคอยย้ำกับเพื่อนรักเสมอว่าห้ามเผลอให้ใจรักแท้ไปอย่างเด็ดขาด ส่วนรักแท้นั้นเขาคิดว่าเขาเอาอยู่เพราะเธอรำคาญเขาต่างหากจึงตอบตกลงเป็นแฟนโชติวิชญ์ และตลอดเวลาที่คบกันหญิงสาวมีเวลาให้เขามากกว่าเพื่อนเขาเสียอีก อยู่กับเขามากกว่าอยู่กับโชติวิชญ์ หรือไม่ก็อยู่กับตำราและงานเพราะตอนนั้นเขาเริ่มเปิดร้านขายยาแล้วด้วย หญิงสาวยุ่งจนหัวยุ่งหน้ามันแทบไม่มีเวลาดูแลตัวเองเสียด้วยซ้ำจนเขานึกสงสาร ตอนนั้นกว่าทุกอย่างจะลงตัวเขาคิดว่าหญิงสาวน้ำหนักลด

“พี่ขอโทษที่ทำให้เรื่องมันวุ่นวาย แต่พี่ก็ยังมั่นใจว่าฟ่างกับไอ้โชไม่ได้รักกัน”

“โตทำอย่างนี้ทำไม”

“จะให้บอกอีกกี่ครั้งว่าเพราะรัก”

“แล้วทำไมไม่บอกตอนนั้น มาบอกทำไมตอนนี้”

“พี่ขอฟ่างคบแล้วนะ แต่ฟ่างเลือกไอ้โช”

“พี่ไม่ได้บอกรักฟ่างป่ะ แค่ขอคบและให้ฟ่างเลือกระหว่างพี่กับพี่โช แล้วฟ่างก็เลือกพี่โชเพราะเขาไม่เจ้าชู้ ฟ่างไม่อยากตบกับสาวๆ ของพี่หรอกนะพี่โต”

“ก็พี่บอกแล้วว่าจะเลิกให้หมด”

“เชื่อพี่มีแต่ช้ำใจ ใครเชื่อก็โง่แล้ว”

“เห็นไหม เพราะฟ่างนั่นแหละที่ไม่ยอมคบกับพี่ ไม่ยอมเชื่อใจพี่”

“อ๋อ ก็เลยให้พี่โชเป็นไม้กันหมา”

“ก็มีทางเดียวนี่นา”

ตั้งแต่ประกาศเปิดตัวกับโชติวิชญ์ผู้ชายที่คอยตามตื๊อก็หายหมดไม่เหลือแม้แต่คนเดียวเพราะทุกคนคิดว่าเธอมีแฟนแล้ว ส่วนก่อนหน้านั้นสงครามจะคอยกีดกันผู้ชายทุกคนที่เข้าใกล้เธอโดยให้เหตุผลว่า ยังไม่ถึงเวลา รอให้เรียนจบก่อน เธอเฉยๆ ชอบเสียด้วยซ้ำเพราะมีคนคอยกวาดความรำคาญทิ้งให้

“ทุกอย่างมันไม่ใช่อย่างที่เราคิดเสมอไปหรอกนะโต พี่โชกับฟ่างเป็นคนรักกัน แม้คนอื่นจะมองว่าเราไม่หวานไม่หวือหวา จืดชืดแต่เราก็คบกันในแบบของเราที่คนอื่นไม่มีวันเข้าใจ”

“อย่ามาหลอกเสียให้ยาก ไอ้โชเป็นเพื่อนรักพี่นะ ตั้งแต่มัธยมมองตาก็เห็นไปถึงไส้ติ่ง ส่วนฟ่างมองตาก็เห็นนม ลอยมาเลยสองเต้าเต็มๆ ตา”

เพี้ยะ!! หญิงสาวฟาดหน้าหล่อๆ อย่างไม่ต้องคิด

“ตั้งแต่โดนจูบนี่รู้สึกว่าจะตบเก่งนะเราน่ะ” เขาเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้ม โดนตบที่เดิมชาๆ ไปเหมือนกัน

“เอาไว้ลามกกับผู้หญิงของพี่เถอะ”

“ก็ฟ่างไงจะใครล่ะ”

“เรียกพี่โชออกมาถามว่าเอาไง ไม่ต้องพูดกันยาว ส่วนฟ่างจบที่คำเดิมคือ ไม่ ไม่ว่ายังไงก็ไม่เลิกคบกับพี่โชเด็ดขาด”

“ทำไมถึงดื้อ ถึงฟ่างจะไม่รักพี่แต่ฟ่างก็ไม่ได้รักไอ้โชเหมือนกัน ขอโอกาสให้พี่นะฟ่างนะ”

“ไม่ค่ะ ถ้าไม่เรียกพี่โชออกมาตอนนี้ก็ค่อยเจอกันวันหลังก็แล้วกัน ดึกแล้วฟ่างง่วงอยากกลับไปนอน”

“ไม่ค้างที่นี่อยู่ดูแลน้องเล็กเหรอ”

“ก็แค่เมาเหล้า และพี่โตก็อยู่ ฟ่างคิดว่าคงจะดูแลน้องได้” นานมาแล้วที่เธอไม่มาค้างที่นี่ตั้งแต่เจอเขามีอะไรกับผู้หญิงบนโซฟา

แต่ถ้าหากต้องพารุ่งฉัตรไปนั่งร้านเหล้าเที่ยวผับก็จะกลับไปนอนที่ร้าน ถ้าเมากลับกันไม่ไหวก็เปิดโรงแรมนอนแต่ส่วนใหญ่โชติวิชญ์จัดการส่งถึงที่พักอย่างปลอดภัยทุกครั้ง

“จะกลับให้ได้ใช่ไหม”

“ค่ะ”

“งั้นจูบก่อน เอาหวานๆ นะ”

“จะบ้าเหรอโต” รักแท้หน้าร้อนผ่าว เมื่อคิดว่าที่ผ่านมาเขาทำอะไรกับร่างกายเธอไปบ้าง ไม่ได้หยุดแค่จูบ

“นะ” เขาทำหน้าอ้อนแต่มีหรือรักแท้จะใจอ่อน

“ไม่ และถ้าโตปล้ำฟ่างอีก คราวนี้จะโกรธไม่ทำงานให้ เลิกเป็นเพื่อนเลิกเป็นพี่น้องกัน” หากเริ่มอีกคราวนี้เธอคงเป็นฝ่ายปล้ำเขา ไอร้อนผะผ่าวที่แผ่มาจากร่างใหญ่ทำให้เธอสะบัดร้อนสะบัดหนาว

ชอบสัมผัสของเขาแล้วหนีเขาทำไม ไม่แน่ว่ามีใจให้เขาเสียด้วยซ้ำ ก็เพราะเขาเข้ามาผิดเวลา ผิดวิธี ผิดทำนองคลองธรรม ถ้าเขาขอคบเธอตั้งแต่แรก...ก็ไม่แน่ว่าเธอจะตอบตกลงคบกับเขา เพราะเธอไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้ ไม่อยากปวดหัวในภายหน้า

“ฟ่างอ่ะ” ชายหนุ่มทำหน้ามุ่ย

สีหน้าของเขาทำให้รักแท้อดจะขำไม่ได้แต่ต้องกลั้นหัวเราะเอาไว้

“ปล่อยฟ่าง”

“ครับๆ ไว้รอให้หมั้นกันก่อนก็ได้” สงครามปล่อยให้หญิงสาวเป็นอิสระ แม้จะเสียดายอยู่มากก็ตาม

รักแท้เดินไปที่ประตู หญิงสาวหันมาส่งยิ้มให้เขาแล้วพูดว่า

“ฟ่างยืนยันเหมือนเดิมว่า ไม่หมั้น”

‘พี่ก็ยืนยันเหมือนเดิมว่า จะทำให้ฟ่างเป็นของพี่ให้ได้’

สงครามหยิบเสื้อมาสวมแล้วเปิดประตูห้องนอนเข้าไปโดยไม่ได้เคาะ เห็นภาพตรงหน้าแล้วต้องยิ้ม

ไอ้โช มึงยังไงกับน้องสาวกูวะ

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว