ภารกิจพลิกชะตาฟ้า-อาการเหม่อลอยของผู้สูงศักดิ์

โดย  Phoenix_C

ภารกิจพลิกชะตาฟ้า

อาการเหม่อลอยของผู้สูงศักดิ์

วรวีย์แทบสติแตก เมื่อจู่ๆ มีมอเตอร์ไซค์วิบาก พุ่งขึ้นเหยียบหลังคารถเก๋งของเธอ ล้อหลังกระแทกกระจกหน้า โชคดีที่รถติดฟิล์มคุณภาพดี กระจกจึงแตกเป็นไยแมงมุม ไม่อย่างนั้นเศษของมันอาจทะลุ ฝังบนเรือนร่างของเธอเป็นแน่

ขณะเกิดเหตุวรวีย์ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย เมื่อตกใจสุดขีดก็เผลอเหยียบเบรกเต็มน้ำหนักเท้า มือขวาสอดผ่านช่องพวงมาลัยรถ คว้าบิดกุญแจดับเครื่องยนต์ทันที การหยุดรถฉับพลันทำให้เกิดแรงเหวี่ยง ร่างบางกระเด็นเข้ากับคอนโซลหน้ารถ ทับข้อมือของเธอที่ขัดอยู่กับช่องพวงมาลัย

“โอ๊ย!!” แรงกระแทกทำให้วรวีย์เจ็บจนต้องร้องออกมา

“บ้าเอ้ย!!ชายหนุ่มผู้ขับขี่สบถเสียงดัง ไม่นึกว่ารถเก๋งคันนี้จะเคลื่อนตัว ตรงกับจังหวะที่เขาโจนทะยาน เพื่อทดสอบสมรรถนะจักรยานยนต์วิบากคันใหม่ ที่เพิ่งนำเข้าจากต่างประเทศ ยังดีที่เขาควบคุมรถได้ไม่เสียหลักล้มลง

วรวีย์ตกใจมาก กับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเพียงเสี้ยววินาที เธอเงยหน้ามองหนุ่มคู่กรณีรูปร่างใหญ่ ประเมินด้วยสายตาน่าจะสูงเกือบร้อยเก้าสิบเซนติเมตร ชายหนุ่มก้าวขายาวข้ามเบาะวิบากอย่างคล่องตัว ดูเท่ราวกับนายแบบ โดยเฉพาะเขาสวมเสื้อการ์ดลวดลายโดดเด่นแนบเนื้อ จนเห็นส่วนอกกำยำด้วยมัดกล้ามเด่นชัด ชายผู้นี้ช่างน่ามองมีเสน่ห์ทั้งที่ไม่เห็นใบหน้า เรียกได้ว่าความหล่อทะลุหมวกนิรภัยเต็มใบที่สวมใส่

เขาเดินเข้าหาหญิงสาวในรถ กำมือมะเหงกเคาะกระจกเรียกเธอ วรวีย์ มองเขาตาค้างเหมือนคนช็อก ทำให้เขายิ่งเป็นห่วง

ก๊อก ก๊อก ก็อก คุณ คุณ เป็นอะไรไหมหญิงสาวหัวใจเต้นผิดจังหวะตัวสั่นเทา เพราะตั้งแต่ขับรถมา ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุสักครั้ง

“คุณ คุณ” ก๊อก ก๊อก ก๊อก เมื่อถูกเคาะเรียกซ้ำๆ วรวีย์ก็ตื่นจากภวังค์ แต่ไม่กล้าออกจากรถ เพราะเขาอาจเป็นโจรที่ดักปล้นเธอก็ได้

‘เงินหมื่นที่ได้ จะกลายเป็นทุกขลาภหรือนี่’ เธอคิดในใจ

“เป็นอะไรหรือเปล่าเจ็บตรงไหนไหม” ชายหนุ่มถามเมื่อเธอเริ่มมองเขาอย่างคนได้สติ วรวีย์เปิดประตูก้าวลงจากรถพร้อมวีนแตกทันที

“นายบ้าไปแล้วหรือไง นี่ถ้าฉันตกใจเหยียบคันเร่งค้าง คงได้ตายกันแน่”

หญิงสาวโมโหเพราะเธอตกใจมากจนขาดสติ ดีที่ไม่เหยียบเบรกผิดเป็นเหยียบเร่ง ไม่เช่นนั้นเหตุการณ์คงร้ายแรงกว่านี้

“ก็คิดว่าในรถไม่มีคน” เขาพูดไม่เต็มเสียงนัก เพราะรู้ตัวว่าเป็นฝ่ายผิด

“เอางี้ผมจะจ่ายค่าเสียหายให้ แล้วจบกัน”

เขาพูดเหมือนมันเป็นเรื่องง่าย ทั้งที่รถเธอเสียหายมากฝากระโปงหน้าบุบ กระจกบานหน้าแตกร้าวทั้งบาน ไหนจะต้องลากไปอู่ซ่อม ต้องรอเวลาอีกตั้งหลายวันกว่าจะมีรถใช้ สำคัญที่สุดคือ พฤติกรรมของชายหนุ่มเป็นอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนน มีหรือที่นักข่าวสาวผู้รักความถูกต้องอย่างเธอ จะยอมรับเงินแล้วจบ

“จ่ายแล้วจบเหรอ นี่ไม่ใช่อุบัติเหตุเฉี่ยวชนธรรมดา พฤติกรรมนายเป็นภัยต่อสังคม แว้นรถสร้างความเดือดร้อนเป็นอันตราย ฉันจะแจ้งตำรวจฐานนายขับรถประมาท” วรวีย์เปิดประตูคว้ามือถือทันที

“ไม่ต้องถึงขนาดนั้นมั้ง รับค่าเสียหายแล้วจบเถอะน่า” น้ำเสียงเขาหงุดหงิดมองว่าเธอเรื่องมาก ไม่อยากให้เรื่องถึงตำรวจ เพราะถ้ารู้ถึงบิดาของเขา คงถูกยึดรถและถูกบังคับให้ไปทำงานที่บริษัท

“ถึงตำรวจแน่นายต้องถูกดำเนินคดี และต้องจ่ายค่าเสียหาย ค่าเสียเวลา เสียโอกาสที่ฉันไม่มีรถใช้ด้วย”

“บอกไม่ให้เรียกตำรวจไง” วรวีย์กำลังจะกดโทร.ออก แต่ถูกคว้ามือเอาไว้ เขาใช้เสียงดังเข้าข่มก่อนจะปล่อยมือเธอ เพราะเห็นหญิงสาวมีสีหน้ากลัวทำท่าหันซ้ายหันขวา ถนนเส้นนี้ไม่ได้เปลี่ยว แต่เวลานี้ดึกมากจึงไม่ค่อยมีรถแล่นผ่าน และแล้ววรวีย์ก็รู้สึกอุ่นใจ เมื่อตำรวจสายตรวจสองนายขี่รถจักรยานยนต์ เข้ามาจอดเทียบรถเธอ เพื่อช่วยเหลืออุบัติเหตุที่เกิดขึ้น

“เกิดอะไรขึ้นครับ มีใครเป็นอะไรไหม” นายตำรวจผู้ขับขี่เอ่ยถาม

“คุณตำรวจคะ นายคนนี้ขี่มอเตอร์ไซค์พุ่งข้ามรถยนต์ของฉัน เมายาบ้าหรือเปล่าไม่รู้” วรวีย์รีบชิงแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที

“แล้วมีบาดเจ็บตรงไหนไหมครับ” ตำรวจอีกนายถาม

“เจ็บแค่ที่ข้อมือค่ะ แต่ตกใจแทบช็อก ส่วนหมอนี่คงไม่เป็นอะไรมั้ง”

“อ้าวหนุ่มถอดหมวกกันน็อคออกซิ” ตำรวจผู้ขับขี่สั่ง

ชายหนุ่มปลดล็อกหมวกนิรภัยพ้นศีรษะ วรวีย์จึงได้เห็นหน้าคู่กรณี นี่เขาเป็นชาวต่างชาติหรอกหรือ แต่ที่คุยกันเขาพูดภาษาไทยชัดเจน แล้วไม่ใช่ฝรั่งธรรมดา หน้าตายังหล่อราวกับพระเอกฮอลลีวู้ด ผิวสีแทนโครงหน้าแบบชาวยุโรป คิ้วหนาตาคม นัยน์ตาสีน้ำทะเล สันจมูกโด่งหนวดเคราครึ้มบางๆ ลามแก้มทั้งสองข้างครอบเหนือริมฝีปากบน ไล่ลงไปทั่วคาง ปล่อยผมหยักศกยาวจนเกือบถึงไหล่ เขาน่าจะอายุน้อยกว่าเธอหลายปี แต่โครงร่างหนุ่มต่างชาติจะตัวใหญ่ และหนวดเคราทำให้เขาดูมีอายุ

วรวีย์จ้องหนุ่มคู่กรณีตาค้าง ‘หล่อเข้มเท่ ใช่เวลาไหมจะมาชมเขาเนี่ย หมอนี่เกือบทำให้เธอตายแล้วนะ’ เธอพยายามดึงสติกลับมา

“อีกแล้วเหรอครับคุณชาคริต” ตำรวจทักว่าอีกแล้วเหรอ แสดงว่านายนี่คงสร้างวีรกรรมไว้เยอะ คมสันขับรถมาถึงที่เกิดเหตุ เห็นว่ารถของวรวีย์มีปัญหาและมีตำรวจอยู่ด้วย จึงจอดรถแล้วก้าวลงมาหาเธออย่างรีบเร่ง

“น้องวีเกิดอะไรขึ้น” เขาถามน้องสาวนอกสายเลือด ด้วยความเป็นห่วง

“ก็นายนี่ซิพี่คม ขี่วิบากพุ่งข้ามรถวีแต่ไม่พ้น แขนวีเจ็บด้วยค่ะ” วรวีย์พูดพลางมองไปที่หนุ่มหล่อล่ำ คมสันทำเสียงโหดข่มขวัญคู่กรณี ที่บังอาจมาทำน้องสาวที่รักของเขาเจ็บและเป็นอันตราย

“ทำแบบนี้ได้ไงห๊า เกิดน้องวีเป็นอะไรไปแกจะรับผิดชอบยังไง มันน่านัก”

“ผมผิดก็ขอโทษและพร้อมชดใช้ค่าเสียหาย ประเมินแล้วไม่น่าเกินสองหมื่นบาท แต่จะให้สักสามหมื่นห้าค่าเสียเวลาด้วย และขอให้จบ”

ค่าเสียหายที่ถูกเสนอก็พอรับได้ แต่คมสันไม่ชอบใจ ที่ชาคริตใช้เงินฟาดหัวอย่างคนไม่สำนึกผิด โดยเฉพาะยานพาหนะของคู่กรณี นี่มันวิบากแบบโมโตครอส รุ่นนำเข้าจากต่างประเทศไม่มีขายในไทย หมอนี่น่าจะรวยพอสมควร

“ง่ายไปมั้งรถเสียหายมาก ทำน้องเขาตกใจและเจ็บตัวด้วย เอามาเลยห้าหมื่นบาท”

“ห้าหมื่นบาทมากไป” ชาคริตแย้ง เพราะเขามีเงินสดติดตัวมาแค่สามหมื่นห้าพันบาท และอยากให้จบแค่ตรงนี้ เพราะถ้าใช้ผ่านบัตรเครดิต ก็จะมีปัญหากับผู้เป็นพ่ออีก

“เอาล่ะอย่าเพิ่งตกลงกัน ผมขอเชิญทุกคนไปให้ปากคำที่โรงพัก เดี๋ยวผมให้รถมาลากรถน้องผู้หญิงไปไว้ที่สน.ก่อน ค่อยเรียกช่างทีหลังแล้วกัน เพราะเวลานี้อู่ปิดหมดแล้ว คุณชาคริตไปด้วยนะครับ” นายตำรวจรีบห้ามทัพไม่อยากให้ทะเลาะวิวาทกัน

“น้องวีไปรถพี่” คมสันโอบไหล่หญิงสาว วรวีย์เงี่ยหูฟังคู่กรณีของเธอว่าจะตุกติกอะไรหรือไม่ เพราะหมอนี่ก่อคดีจนเป็นที่รู้จักของตำรวจ

“ผมไม่มีเวลากำลังจะไปต่างจังหวัด เดี๋ยวจะตามคนรถที่บ้านมาเคลียร์”

“ไม่ได้ครับคุณต้องไปโรงพักเอง และต้องตรวจสารเสพติดด้วย”

ชาคริตกระซิบกับตำรวจ และวรวีย์แอบได้ยินทั้งหมด ‘หน็อยหมอนี่คิดจะหนี’ ทันทีที่ชายหนุ่มสตาร์ทรถ เธอก็กระโดดซ้อนท้าย ท่ามกลางความตะลึงของคมสัน

“น้องวี” “ฉันไปกับนายด้วยเดี๋ยวหนี” ชาคริตเองก็อึ้งในความใจกล้าของเธอ ก่อนหน้านี้ยังบอกจะช็อกตายอยู่เลย

“แน่ใจเหรอ” เขาล่ะชอบจริงๆ ผู้หญิงใจถึงแบบนี้

“ไม่ได้หรอก ถ้านายหนีจะทำไงล่ะ ขับดีๆ ”

“หึ หึ” ชาคริตหัวเราะหึในลำคอ นึกสนุกยิ่งเธอพยายามจิกนิ้ว ดึงเสื้อของเขาเพื่อยึดตัวแทนที่จะโอบกอด ก็ยิ่งทำให้อยากจะแกล้ง

“ว๊ายยย ไอ้บ้า!!” ทันทีที่รถออกตัวหญิงสาวก็ร้องวี้ดว๊ายเสียงดัง และโอบกอดเขาเต็มอ้อมแขน ส่วนอกนูนเสียดสีที่แผ่นหลัง จนชายหนุ่มรู้สึกได้และจินตนาการขนาดในใจ นอกเหนือจากความคิดลามกในสมอง กอดของวรวีย์ยังทำให้เขารู้สึกอบอุ่น อย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน

*************************************

เริ่มต้นก็ขี่กระโปรงรถแล้วน่าประทับใจมาก

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว