[จบแล้ว] ศศิน Yaoi

ตอนที่ 4

“ไม่มีทางเสียหรอก คนฉวยโอกาส คุณก็รู้ว่าฉันมองไม่เห็น จะแกล้งกันใช่ไหม” แม้จะหน้าแดงในคำพูดอ่อนหวานของเขา เธอกลับเอาอารมณ์โกรธมาแทนที่

“การพูดกับสามีดีๆ ไม่เห็นเป็นการโดนแกล้งตรงไหน” เขาพูดอย่างเจ้าเล่ห์

นิ่มอนงค์ตามไม่ทันความคิดของเขาเลยสักนิด

“อย่ามาบีบบังคับกันนะ ลูกกาฝากแบบคุณที่ได้แต่งงานกับฉันก็ดีถมเถไปแล้ว ไหนจะได้ครอบครองไร่ไพรวัลย์อีกครึ่งหนึ่ง ฉันว่าเรามาตกลงกันโดยสันติดีกว่า ฉันอยากพูดเรื่องหย่ากับคุณ”

“นี่มันคืนเข้าหอไม่ใช่เวลามาพูดเรื่องหย่า”

นิ่มอนงค์สัมผัสได้ถึงน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปของเขา ไม่มีแววล้อเล่นหรืออ่อนโยนอีกต่อไป ลมหายใจที่ถูกปล่อยออกมาก็หนักหน่วงเหมือนพยายามสะกดกลั้นอารมณ์

“ฉันจะพูด”

“พี่ให้โอกาสเธออีกครั้ง นิ่มอนงค์...”

น้ำเสียงของพฤกษ์ทำให้หญิงสาวปิดปากลงในทันที เธอเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องไปฟังเขาด้วย

“บอกไว้เลยไร่ไพรวัลย์เป็นของพี่ทั้งหมด ไม่ใช่แค่ครึ่งนึงอย่างที่เธอบอก”

“โลภ อยากได้ทั้งหมดใช่ไหม พูดออกมาแล้วสิว่าตัวเองละโมบเพียงใด”

“เราจะยุติเรื่องไร่ไว้เพียงแค่นี้ มันไร้สาระและพี่ก็เหนื่อยมาทั้งวัน อีกอย่าง... ไม่มีใครจะเข้ามาอาบน้ำให้เจ้าสาวในขณะที่สามียืนอยู่ทนโท่ในคืนเข้าหอหรอกนะ”

เมื่อเขาอยากยุติเรื่องไร่ เธอจึงไม่พูดถึงอีก ตอนนี้เรื่องไร่ไม่สำคัญเท่าเรื่องเขากับเธอ และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า

“คุณต้องสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรฉัน”

“นิ่มอนงค์พี่ไม่ชอบให้เธอแทนตัวเองแบบนี้ หวังว่าเธอคงเข้าใจ ต้องให้พูดจาซ้ำซาก ไม่เบื่อบ้างหรือไง” เสียงเขาดูเข้มงวดและหงุดหงิดเล็กๆ

“โอเคค่ะ พี่พฤกษ์สัญญาว่าจะไม่ทำอะไรนิ่ม” เธอสูดลมหายใจเข้าปอด พูดออกไปเสียงดังฟังชัด

“สัญญา” พฤกษ์ตอบเสียงราบเรียบก่อนจะตวัดอุ้มร่างอรชรขึ้นแนบอก

“ว้าย!”

“กอดคอพี่ไว้ จะพาเข้าห้องน้ำ วันหลังจะสอนให้หัดเดินเอง” เขากระซิบบอก

นิ่มอนงค์รีบคว้าหมับเข้าที่คอเขาแบบไม่ต้องให้พูดซ้ำเพราะเธอกลัวตกเป็นที่สุด

“พี่คิดว่าเธอควรสระผมเพราะสเปรย์พวกนี้คงทำให้นอนไม่สบาย” เขาพูดขึ้นหลังจากวางเธอบนพื้นห้องน้ำเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่สนใจจะให้เธอตอบรับหรือปฏิเสธ เสื้อคลุมก็ถูกถอดออกไปโดยง่าย

“อย่าถอดนะ” นิ่มอนงค์คว้าได้แต่อากาศ เธอหันรีหันขวางแต่มองไม่เห็น รู้สึกอึดอัดจนอยากจะร้องไห้ เพิ่งเข้าใจสภาพของคนตาบอดก็วันนี้เอง

พฤกษ์ถอนใจพรืด ไม่ใช่เพราะรำคาญแต่เพราะสงสาร เขาพอจะเข้าใจความรู้สึกของเธอดีว่าอึดอัดขัดใจแค่ไหนกับสภาพของการอยู่ในโลกมืด

“ฟังพี่คนดี พี่จะอาบน้ำให้เธอ” พฤกษ์ใจอ่อนยวบเมื่อเห็นอาการของคนตรงหน้า เธอกำลังหวาดกลัวเพราะมองไม่เห็นและไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรกับร่างกายของเธอบ้าง

..ให้ตายเถอะ! เขาเองก็แทบทนไม่ไหวแต่ต้องทนและค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป

“เริ่มต้นด้วยการแปรงฟัน โอเคไหม” เขาบีบยาสีฟันใส่แปรง ก่อนจะจับมือเธอให้ถือเอาไว้ “บ้วนปากคนดี” เขากระซิบบอกเสียงอ่อนโยน

นิ่มอนงค์คลายจากความเกร็งไปได้มาก เธอยกแก้วน้ำที่เขาดึงมือเธอไปจับขึ้นบ้วนปากก่อนจะเริ่มแปรงฟัน แม้ตาจะมองไม่เห็นแต่ประสาทสัมผัสทุกอย่างของเธอยังดีอยู่ หากมีคนช่วยเหลือแบบนี้เธอจึงคล่องขึ้น

พฤกษ์มองร่างเปลือยเปล่าที่มีแค่กางเกงชั้นในสีอ่อนหวานติดกายแล้วลมหายใจสะดุดอีกครั้ง ยิ่งเวลาเธอขยับมือแปรงฟัน ทรวงอกอิ่มก็แกว่งไกวไปมาเหมือนกำลังกวักมือเรียกให้เขาเข้าไปคลุกเคล้า

ชายหนุ่มสะบัดศีรษะไปมาแรงๆ เรียกสติกลับคืนมาอีกครั้ง

“น้ำยาบ้วนปาก” เขากระซิบบอก แตะแก้วไปที่ปากของเธอ

นิ่มอนงค์ชะงักปิดปากเพียงครู่ก่อนจะรับเข้าไปในปาก

“ล้างหน้าก่อนไหม” เขาถามเอาใจ แต่ไม่สนใจฟังคำตอบอีกครั้ง สายตาเหลือบไปเห็นโฟมล้างหน้าของเธอที่น้าสาวเป็นคนสั่งสาวใช้ให้มาตระเตรียมเอาไว้ เขานึกขอบคุณอยู่ในใจ ทั้งเสื้อผ้าและข้าวของทุกอย่างในห้องหอ นงนภัสเป็นคนจัดการให้หลานสาวอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แม้ท่าทีนางจะไม่ค่อยพอใจนัก แต่ไม่ถึงกับละเลยเรื่องละเอียดอ่อนพวกนี้ไป

“ค่ะ” นิ่มอนงค์เหนื่อยเกินจะคัดค้านหรือแผลงฤทธิ์ เธอเองก็อยากนอนเต็มที และควรจะรีบออกไปจากสถานการณ์ชวนอึดอัดนี้ให้เร็วที่สุด

“ล้างหน้าก่อน” เขาเปิดน้ำและเอามือเธอจ่อไปที่หัวก๊อก

นิ่มอนงค์กวักน้ำลูบหน้า ก่อนที่พฤกษ์จะบีบโฟมล้างหน้าลงบนฝ่ามือ เธอลูบเบาๆ ทำความสะอาดใบหน้าของตัวเอง แล้วยื่นมือสะเปะสะปะไปด้านหน้า อุ้งมือใหญ่คว้าเอาไว้แล้วเอาไปจ่อที่ก๊อกน้ำเช่นเดิม เธอล้างหน้าจนสะอาดแล้วรู้สึกสดชื่นจนยิ้มออกมาได้

พฤกษ์นำผ้าสะอาดมาเช็ดหน้าให้เธอ นิ่มอนงค์ทำท่าจะเบี่ยงหลบ แต่เขารั้งเอาไว้และซับให้อย่างบางเบา จนเธอจึงยืนนิ่งให้เขาเช็ดอยู่อย่างนั้น

“สระผมนะครับ” เขายังพูดต่อไปเหมือนไม่นึกรำคาญสักนิด

เธอเองไม่ปริปากทำลายบรรยากาศนี้ นึกเปรียบเทียบไปถึงผู้ชายคนอื่น

..หากต้องมีภรรยาตาบอดและทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเช่นนี้จะรำคาญ จะทำเสียงขัดอกขัดใจหรือเปล่านะ

แล้วถ้าเป็นยศวินล่ะจะทำให้เธอแบบนี้หรือเปล่า?

นิ่มอนงค์บอกตัวเองว่าแฟนหนุ่มต้องทำแบบนี้แน่นอน เขาทำด้วยความรัก ไม่เหมือนพฤกษ์ที่ทำเพื่อหวังทรัพย์สมบัติ อย่าเพิ่งตัดสินว่าเขาดีเพียงแค่เขาทำดีเพียงเล็กน้อย แบบนี้ต้องดูกันไปนานๆ

ร่างบางถูกวางลงในอ่างอาบน้ำแต่ไม่มีน้ำรองรับเอาไว้เหมือนอย่างที่เธอคิด เขาดึงศีรษะเธอให้พิงกับขอบอ่างก่อนจะใช้ฝักบัวรดผมให้อย่างเบามือ

“ใช้น้ำอุ่นนะ จะได้ไม่หนาวเกิน” เสียงของเขาดังอยู่บนศีรษะ

นิ่มอนงค์ยกมือขึ้นกอดอกตัวเอง เขารู้ว่าจะสระผมให้เธอ ทำไมต้องเอาเสื้อคลุมออกด้วย ให้เธอมานอนเปลือยอยู่แบบนี้

..คนบ้า! แอบค่อนขอดเขาอยู่ในใจ

“ไม่ต้องเกร็ง ปล่อยตัวตามสบาย” อาจเพราะเธอเกร็งตัวแข็งทำให้เขาก้มลงมากระซิบปลอบเหมือนปลอบเด็ก ลมหายใจของเขาเป่ารดอยู่ข้างแก้มก่อนที่...

จ๊วบ..

“อุ๊ย! คนฉวยโอกาส” เธอยกมือขึ้นลูบแก้มเมื่อโดนปากร้อนๆ กดประทับลงมาเต็มๆ

“แก้มหอม” เขาพูดหน้าตาเฉย ลอบยิ้มโดยที่เธอไม่มีวันเห็น

พฤกษ์สระผมให้จนสะอาด เขาค่อยๆ ลงครีมนวดผมแล้วนวดศีรษะให้เธอจนรู้สึกผ่อนคลาย นิ่มอนงค์หลับตาพริ้ม นึกอยากถามเสียนักว่าเขาไปเรียนรู้วิธีทำแบบนี้มาจากไหนกัน

“เสร็จแล้ว” เสียงของเขากระซิบที่ข้างหู

ทำเธอลืมตาอย่างงัวเงีย ไม่อยากให้เสร็จเลย มันสบายจนเผลอหลับไป เขาเช็ดผมให้เบาๆ ก่อนจะอุ้มเธอขึ้นสู่อ้อมแขนอีกครั้ง

“อาบน้ำกันได้แล้ว เดี๋ยวจะดึกยิ่งกว่านี้” เขาบอกก่อนจะดึงกางเกงในตัวบางลงไปติดอยู่ที่ปลายเท้า

“ว้าย! อย่าถอดนะคะ” เธอยกมือขึ้นปิดส่วนสงวนหน้าแดงจัด

“แล้วจะอาบน้ำทั้งอย่างนี้หรือไง” เขานั่งลงยกขาเธอขึ้นเพื่อจะดึงกางเกงในออกทางปลายเท้า

“อุ๊ย!” นิ่มอนงค์อุทานอีกรอบ ยกมือขึ้นคว้าไหล่เขาเอาไว้เพราะกลัวล้ม เธอค้อนลมค้อนแล้งเมื่อต่อต้านอะไรเขาไม่ได้เลยจริงๆ

หญิงสาวมัวแต่ไม่พอใจเลยไม่รู้ว่าพอเขาคุกเข่าลงตรงหน้าในสภาพที่เธอเปลือยเปล่าเช่นนี้ ทำให้ใบหน้าของเขาตรงกับเนินเนื้อสาวพอดิบพอดี กลิ่นหอมของบุปผาชาติทำให้พฤกษ์เผลอสูดดมเข้าเต็มปอด

“หอม” เขาพึมพำเสียงแหบพร่า

นิ่มอนงค์ขมวดคิ้วไม่เข้าใจว่าเขาหมายความว่าอะไร เธอยังปักหลักจับไหล่กว้างของเขาเอาไว้ไม่ยอมขยับ

เธอสะดุ้งเมื่อเขาซุกหน้าลงตรงเนินบุปผาแล้วสูดกลิ่นหอมกรุ่นของสาบสาวเข้าไปเต็มๆ ความรู้สึกตกใจระคนเสียวซ่านทำให้เกิดเสียงครางตามมาในทันที

“อ๊า...อย่านะคะ” เธอละล่ำละลักบอก

แต่เขาไม่ฟัง พฤกษ์กุมสะโพกหนั่นแน่นงามงอนนั้นเอาไว้แล้วจับเธอแยกขาฝังใบหน้าลงไป ไม่ว่าจะเธอจะหนียังไงเขาก็ล็อกเอาไว้ไม่ยอมปล่อย

“ไม่เอา อื้อ... อ๊ะ” นิ่มอนงค์ประท้วงแต่เสียงพร่าเกินห้ามใจ เธอจิกทึ้งผมของเขาแทบแหลกลาญแต่พฤกษ์หาได้สนใจไม่ ลิ้นหนาตวัดลามเลียจนเปียกชุ่ม

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว