วิวาห์รักเจ้าสาวสำรอง [e-book]

ตอนที่ 5-1


ลีลาวดียังเช็ดน้ำตาที่เอ่อซึมออกมาเป็นระยะ ๆ ถึงแม้คุณหมอจะย้ำกับเธอมาสองวันแล้วว่าเจตน์ปลอดภัย... กระดูกในร่างกายไม่หักสักซี่เดียว... มีเพียงแต่รอยช้ำบนใบหน้าและบาดแผลบนศีรษะเท่านั้น แต่เธอก็อดที่จะเป็นห่วงเป็นใยสามีหนุ่มที่ยังไม่ฟื้นขึ้นมาเสียที

สองวัน!

สองวันที่เธอคอยให้เขารู้สึกตัวตามที่นายแพทย์แจ้งไว้

ซึ่งถ้าไม่เป็นเพราะเธอล้ำเส้นเกินไป หายนะของเขาครั้งนี้คงไม่เกิดขึ้น

เธอหวังไว้ว่าสักวันหนึ่งเขาคงจะให้อภัยเธอ

ถ้าเขาไม่ตื่นขึ้นมาแล้วไล่เธอไปให้พ้นจากที่นี่เสียก่อนนะ

ลีลาวดีต่อสู้กับความหวาดหวั่นในหัวใจ กับเหตุการณ์ที่จบไม่สวยของเธอและชายที่เธอรัก...

“นี่มันสี่สิบแปดชั่วโมงตามที่คุณหมอบอกแล้วนะ... ทำไมพี่เจตน์ถึงไม่รู้สึกตัวอีก...” อุษณิษาเดินอุ้ยอ้ายด้วยครรภ์เกือบหกเดือนมาชะโงกมองดูใบหน้าช้ำที่เปลี่ยนรอยเป็นสีม่วงอมเขียวของพี่ชายก่อนจะกลับไปนั่งเก้าอี้โซฟายาวข้างเขมชาติผู้เป็นสามีที่มีเด็กหญิงอารีญาลูกสาวนอนหนุนตักอยู่

“คุณหมอบอกว่าโดยประมาณ... ดังนั้นอาจจะเลยไปที่สี่สิบเก้าหรือห้าสิบชั่วโมงก็ได้นะหนูณิ” เป็นเสียงทุ้มของเกื้อคุณพี่ชายคนโตที่ขับรถไปกลับกรุงเทพฯ กาญจนบุรีมาสองวันติด ๆ กันแล้ว

ซึ่งถ้าวันนี้น้องชายของเขายังไม่ฟื้น พรุ่งนี้เช้าเขาก็จะขับกลับมาที่นี่อีกเป็นวันที่สาม

“ลี่เธอไปพักผ่อนที่บ้านบ้างก็ได้นะ เฝ้าพี่เจตน์ทั้งวันทั้งคืนอย่างนี้ เดี๋ยวจะล้มพับเอานา...” อุษณิษาเปลี่ยนมาคะยั้นคะยอเพื่อนสนิทที่จับพลัดจับผลูมาเป็นพี่สะใภ้ได้หนึ่งสัปดาห์ด้วยความห่วงใย

“นั่นนะสิ อาจะนอนเฝ้าให้ก็ไม่ยอม”

คทาที่ผุดลุกผุดนั่งสลับกับจาตุรงค์ราวกับสับเปลี่ยนกันเป็นโรคริดสีดวงทวารพูดแทรกขึ้นบ้าง

“ตลอดสองคืนมานี่... ส่วนมากลี่ก็นอนหลับเป็นส่วนใหญ่อยู่แล้วล่ะค่ะ”

เธอโกหกทุกคน

เธอข่มตาหลับให้สนิทยากมาก เพราะคำพูดของเขาที่ดังก้องในโสตประสาทหูวันนั้น ทำให้ความเจ็บปวดยังไม่เลือนหาย

ถึงแม้เธอจะคิดว่าเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเธอเลยก็ตาม แต่ในเมื่อมันหลุดออกมาจากปากและจิตสำนึกของเขาที่มีอคติต่อตัวเธอแล้ว มันกลับเป็นผลบั่นทอนจิตใจเธอน่าดู

“โชคดีนะที่เกิดอุบัติเหตุลี่ไม่ได้อยู่บนรถกับพี่เจตน์...” เป็นเสียงอุษณิษาที่พูดขึ้น “ไม่อย่างนั้นแทนที่พวกเราจะเป็นกังวลถึงพี่เจตน์คนเดียว ก็ต้องเพิ่มเป็นสองคนแน่เชียว”

“เออ ใช่...”

ทีนี้เป็นเสียงจาตุรงค์สนับสนุนคำพูดของอุษณิษา

“พอดี เรามีเรื่องทะเลาะกันนิดหน่อย แล้วอาเจตน์ก็รีบขับรถออกไป”

“โดยทิ้งเธอไว้ที่ร้านอาหารนั่นรึ... พี่เจตน์นะพี่เจตน์ นิสัยใจร้อนวู่วาม ขับรถเร็วราวกับเป็นเจ้าถนนแบบนี้เมื่อไหร่ถึงจะหายเนี่ย”

อุษณิษายังบ่นในสิ่งที่ทุกคนรู้ดีทีเดียว เพราะก่อนหน้านี้ เจตน์ก็ขับรถไปหาเธอกับอารีญาลูกสาวของเธอที่หาดเจ้าสำราญอยู่เป็นประจำ เพิ่งจะเริ่มซาลงเมื่อเธอแต่งงานกับเขมชาติ และจำยอมปล่อยให้เธอมีชีวิตกับครอบครัวนี่เอง

“อาเจตน์ไม่ผิดหรอกหนูณิ... คนผิดก็คือฉันเองที่ลงจากรถมาอย่างกะทันหัน และนั่นคงเพิ่มความโกรธให้อาเจตน์จนไม่ทันระวังตัว”

ขณะที่พูดลีลาวดีก็เช็ดน้ำตาป้อย ๆ ด้วยความเสียใจ

“ไม่ใช่ความผิดของน้องลี่หรอกครับ คิดว่ามันคงเป็นกรรมของเจตน์มันน่ะ เขาขับรถอย่างนี้มานานแล้ว และนี่คงเป็นสัญญาณเตือนอะไรสักอย่างหนึ่งนั่นแหละ”

เกื้อคุณเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาบ้าง

แล้วคทาซึ่งเป็นอาแท้ ๆ ของเธอเสริมด้วยประโยคเข้าใจสัจธรรมชีวิต

“ใช่แล้วล่ะ ลี่อย่าไปโทษตัวเองเลยนะ มันเป็นบทเรียนของไอ้เจตน์เอง ไม่เกี่ยวกับใครทั้งนั้นหรอก”

เงียบกันอยู่สักครู่หนึ่ง เขมชาติก็บอกเล่าถึงเรื่องราวคดีความ

“เรื่องคดีความ... ผมให้ทนายของผมจัดการแล้วนะคุณเกื้อ ดูเหมือนรถคันนั้นก็ไม่มีประกันด้วย... ผมเลยให้เขาเอาผิดตามบทกฎหมาย คิดว่าคนขับคงเข็ดอยู่ในคุกอีกนานเลยทีเดียว”

“แล้วอย่างนี้พี่เจตน์ต้องไปให้ปากคำกับตำรวจหรือเปล่าคะคุณเขม”

“อืม... คงรอฟื้นตัวก่อนครับหนูณิ… จากนั้นตำรวจคงขอเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม”

ขณะที่พูดนิ้วมือใหญ่ของเขมชาติก็ลูบศีรษะเล็กเบา ๆ ให้ภรรยาคลายความกังวลลงไปด้วย เพราะทุกอย่างถ้าอยู่ในมือเขาแล้ว ขอให้เธอเชื่อใจก็เพียงพอ

“นี่ก็เริ่มจะเย็นแล้ว...” เสียงเกื้อคุณ “คุณเขมพาหนูณิและอารีกลับเถอะ... ถ้าเจตน์ฟื้นแล้วผมจะโทรศัพท์ไปบอก...”

ตอนนี้เขมชาติและครอบครัวยังพักที่เพ้นท์เฮ้าส์ชั้นบนสุดของโรงแรมหรูใจกลางกรุงเทพฯ อยู่... ทว่าพอจะกลับไปยังโรงแรมที่หาดเจ้าสำราญก็รู้ข่าวเรื่องอุบัติเหตุเสียก่อน

ซึ่งผิดกับเกื้อคุณที่พาครอบครัวกลับบ้านไร่ที่จังหวัดกาญจนบุรีไปเมื่อวานนี้แล้ว ดังนั้นพอเขาทราบข่าว เขาจึงขับรถทางไกลมาเพียงลำพัง และนี่ก็เป็นวันที่สองแล้วที่เขาพักอยู่ที่บ้านอาชาวนนท์อย่างกระวนกระวายใจ

“ผมก็กำลังคิดจะพาหนูณิและอารีไปพักผ่อนอยู่พอดีครับคุณเกื้อ...”

ระหว่างที่คนมาเยี่ยมพูดคุยกันเบา ๆ ในส่วนที่แบ่งโซนเป็นที่รับรองแขก ความรู้สึกเจ็บปวดศีรษะอย่างรุนแรงกระแทกเข้าสู่เจตน์จนเขาแทบหายใจไม่ออก... เขาพยายามบีบบังคับความปวดรวดร้าวราวมีคนเอาเข็มเป็นพัน ๆ เล่มแทงพุ่งใส่สมองเขาอย่างไรอย่างนั้น...

เขาพยายามต่อสู้ ขืนร่างกายให้คุ้นกับความเจ็บปวดที่มาเยือนเหมือนฝันนี้ให้จงได้...

ดวงตาคมเลื่อนลอยก็ค่อย ๆ ลืมขึ้นด้วยความงุนงงสับสน... และแล้วจึงสบประสานกับดวงตาคมซึ้งที่มีรอยคล้ำใต้ตาราวกับอดหลับอดนอนมาหลายคืนเข้าพอดิบพอดี

“อาเจตน์...”

รีอัปกลรักไฟพิศวาส พร้อมโหลดอีบุ๊คราคา 99 บาท

เมียรักพ่อเลี้ยงดนย์ วางแผงร้านเซเว่น หลังวันที่ 10 มีนาคม 2561 ราคาเล่มละ 129 บาท ตอนนี้ลบอีบุ๊คออกไปชั่วคราว หลังจาก 4-5 เดือนจะกลับมาให้โหลดพ่อเลี้ยงอีกครั้งนะจ๊ะ


นางบำเรอจำนนรัก (ภูดิษฐ์+มาตา) ตอนนี้โหลดอีบุ๊คที่เวปเมพ ราคา 99 บาท ส่วนรูปเล่ม รอคิวจาก สนพ แป๊บนะค้า แล้วไรท์จะมาแจ้งอีกครั้งค่า


เจ้าสาวบำเรอรักซาตาน เปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น ยอดสวาทเมียลวง ใช้นามปากกา รังรอง ตีพิมพ์โดย สนพ เฮเลน ราคา 99 บาท วางแผงตามร้านเซเว่นทุกสาขา...

ขอฝากนามปากการังรองด้วยนะค้า

1.กลกามา ราคาอีบุ๊คที่เวปเมพเพียง 49บาท

2.เกลียวคลื่นสวาท ราคาอีบุ๊คที่เวปเมพเพียง 49บาท

3. สกุณายั่วรัก ราคาอีบุ๊คที่เวปเมพเพียง 49 บาท

4. บูรพาเริงรัก ราคาอีบุ๊ค 49 บาท

5. หนุ่มนักรักร้อนสวาท ราคาอีบุ๊ค 69 บาท


โปรโมชั่นเดือนมีนาคม ลดราคาหลายเรื่องที่เวปเมพจ้า...


ขอฝากผลงานอีบุ๊คทุกๆ เรื่องราวไว้ในอ้อมกอดทุกๆ ท่าน ด้วยนะจ๊ะ


รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว