หัวใจเสน่หา เพียงรัก

สามีนอกใจ

ตอนที่ 6 คฤหาสน์โชติจิระนันท์ 2


“คุณพงษ์คะ ตื่นได้แล้วค่ะ นี่มันสายแล้วนะคะ” เพียงตาที่อยู่ในชุดเดรสยาวสีฟ้ามานั่งบนเตียงนอนเพื่อปลุกสามี


“อื้ม...อือ...ผมยังอยากนอนต่ออยู่เลยอะ เพียงมานอนกับผมนะ” พงษ์เทพพูดแล้วก็โอบกอดเมียสาวให้นอนลงไปบนเตียงแล้วจูบไซร้ไปที่ซอกคอขาว


“ว้าย คุณพงษ์คะ ไม่เอาค่ะ นี่กลางวันแสกๆนะคะ” เพียงตาพูด


“จร๊วบ ผัวเมียกอดกันไม่เห็นเกี่ยวกับพระอาทิตย์นี่นา” พงษ์เทพพูด


“คุณพงษ์คะ ไม่ดื้อนะคะ ลงไปทานข้าวกันเถอะค่ะ เดี๋ยวคุณแพรวาจะรอนาน จุ๊บ” พูดจบแล้วเพียงตาก็หอมไปที่แก้มขวาของพงษ์เทพนึงที


“ได้ๆ งั้นคุณลงไปก่อนนะ เดี๋ยวผมตามลงไป” พงษ์เทพพูด


แล้วเพียงตาก็ออกจากห้องนอนเดินลงไปที่ชั้นล่างผ่านห้องรับแขกเข้าไปในห้องรับประทานอาหารก็พบกับป้านวลที่ยืนคุยกับแพรวาอยู่พอดี


“เดี๋ยวคุณพงษ์ก็ลงมาแล้วค่ะ ถ้าคุณแพรวาหิวจะทานก่อนเลยก็ได้นะคะ” เพียงตาพูดกับแพรวา


“ไม่ ฉันจะรอทานพร้อมคุณพ่อ” แพรวาพูดกระแทกเสียงใส่ทำให้เพียงตาตกใจเล็กน้อย


“แล้วคุณเพียงจะทานเลยไหมค่ะ เดี๋ยวป้าตักให้” ป้านวลพูดกับเพียงตาด้วยสายตาห่วงใย


“ไม่ดีกว่าค่ะ เดี๋ยวรอคุณพงษ์ลงมาค่อยตักก็ได้ค่ะ ป้านวล” เพียงตายิ้มตอบกลับไป


ถึงแม้ผ่านไปเกือบจะสองเดือนแล้วที่เพียงตาแต่งเข้ามาอยู่ที่คฤหาสน์นี้แต่แพรวาก็ดูจะยังไม่มีท่าทีจะชอบเพียงตาหรือแม้แต่จะพูดดีด้วยเลยซักครั้งเดียว แต่เพียงตาก็ยังทำใจดีสู้เสือคิดไว้ในใจเสมอว่าเธอรักพงษ์เทพไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเธอก็จะทน


“โทษทีๆ รอนานกันไหม มากินกันเลยเถอะ นวลตักข้าวได้เลย” พงษ์เทพพูดเมื่อเดินเข้ามาในห้องรับประทานอาหารแล้วป้านวลก็ตักข้าวใส่จานให้ทั้งสามคนแล้วก็ยกกับข้าวมาวางไว้บนโต๊ะ


“ว้าว นี่แกงเผ็ดเป็ดย่างของโปรดหนูเลยนี่คะ ป้านวล” แพรวาหันไปพูดกับป้านวลอย่างยิ้มแย้ม


“ใช่ค่ะ แต่ป้าไม่ได้ทำหรอกนะคะ คุณเพียงเธอเป็นคนทำน่ะค่ะ ป้าลองชิมดูแล้วอร่อยกว่าที่ป้าทำอีกค่ะ คุณหนูลองทานดูซิคะ” ป้านวลพูด


“หนูไม่หิวแล้ว หนูไปก่อนนะคะ พ่อ ป้านวล” แพรวาวางช้อมส้อมลงบนจานแล้วก็หันไปบอกลาพงษ์เทพกับป้านวลแล้วก็ลุกจากเก้าอี้


“คุณแพรวาค่ะ แต่อาหารมื้อเช้าสำคัญนะคะ” เพียงตาลุกจากเก้าอี้ขึ้นมาพูดกับแพรวา


“อย่ามาพูดเหมือนกับว่าเธอเป็นแม่ฉันหน่อยเลย เธอไม่ใช่แม่ของฉัน เธอมันก็แค่นางบำเรอของคุณพ่อ” แพรวาหันมาพูดกับเพียงตา


แพรวา! นี่มันจะมากเกินไปแล้วนะ ขอโทษคุณเพียงเค้าเดี๋ยวนี้” พงษ์เทพตะคอกเสียงดังลั่น


“หนูไม่ขอโทษ” พูดจบแพรวาก็เดินออกไปจากตัวบ้านทันที


แพรวา แพรวา” พงษ์เทพตะโกนเรียกลูกสาวคนเล็ก


“คุณพงษ์ อย่าตะโกนเลยนะคะ เพียงไม่เป็นไรหรอกค่ะ” เพียงตากลั้นใจพูดออกไป


“ยัยลูกสาวคนนี้มันจะมากเกินไปแล้ว ผมขอโทษแทนเด็กคนนั้นด้วยนะ ผมเลี้ยงลูกแบบตามใจมากไปหน่อย” พงษ์เทพพูดกับเพียงตาพร้อมกับลูบหลังเบาๆ


เวลา 11.00 น.


เพียงตาเดินถือตะกร้าที่ใส่ผ้าอยู่เต็มใบลงมาที่ห้องซักผ้าซึ่งป้านวลที่อยู่ที่ห้องครัวเห็นเข้าพอดีจึงตรงเข้าไปหา


“คุณเพียงค่ะ ถ้ามีเสื้อผ้าที่ต้องซักบอกป้าซิคะ ป้าจะได้ขึ้นไปเก็บลงมาซักให้” ป้านวลพูด


“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เพียงเอาลงมาซักเองได้ อีกอย่างป้านวลกำลังทำกับข้าวอยู่ด้วย ทำทุกอย่างคนเดียวเหนื่อยตายเลยค่ะ” เพียงตายิ้มตอบกลับไป


“คุณพ่อคุณแม่ของคุณเพียงนี่คงเลี้ยงดูคุณเพียงมาอย่างดีเลยนะคะ ถึงได้เป็นคนดีอย่างนี้” ป้านวลพูด


“เอ๊ะ ทำไมอยู่ดีๆ ชมเพียงหล่ะคะ เพียงไม่ได้ดีขนาดนั้นหรอกนะค่ะ ป้านวล” เพียงตาตอบกลับพร้อมความเขินอายเล็กน้อย


“เรื่องเมื่อเช้าป้าก็ต้องขอโทษแทนคุณแพรวาด้วยนะคะ เด็กคนนั้นเค้าเสียแม่ไปตั้งแต่ยังเด็ก เค้าเลยค่อนข้างเอาแต่ใจมากไปหน่อย ป้าเลี้ยงดูเค้ามาไม่ดีพอ” ป้านวลพูดด้วยเสียงสั่นเคลือ


“ไม่ใช่ความผิดป้านวลหรอกค่ะ เพียงไม่โกรธหรอกนะค่ะ อย่าคิดมากเลยค่ะ เอ๊ะ ผงซักฟอกหมดนี่คะ” เพียงตาพูดขณะที่ก้มไปหาผงซักฟอกมาใส่เครื่องซักผ้า


“อ๊ะ สงสัยป้าลืมเอาไว้ที่ห้องเก็บของเดี๋ยวป้าออกไปเอาแป๊ปนึงนะคะ” ป้านวลพูด


“งั้นเดี๋ยวเพียงออกไปเอาเองก็ได้ค่ะ ป้านวลทำกับข้าวต่อเถอะค่ะ” เพียงตาพูด


“งั้นก็ได้ค่ะ” ป้านวลพูด


คฤหาสน์โชติจิระนันท์กว้างขวางเป็นอย่างมากภายในตัวบ้านมีห้องนอนถึงสิบห้อง มีห้องครัว ห้องซักผ้าที่มีเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า ห้องนั่งเล่นที่กว้างขวาง ส่วนฝั่งซ้ายของภายนอกตัวบ้านก็มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ส่วนด้านขวาของตัวบ้านก็เป็นห้องพักของคนงานที่ถูกแยกออกเป็นหลังๆของใครของมัน ห้องเก็บของกับโรงจอดรถ มีสวนใหญ่โตล้อมรอบตัวบ้าน ส่วนตรงหน้าทางเข้าตัวบ้านก็มีวงเวียนน้ำพุตั้งอยู่ แต่คฤหาสน์ที่กว้างใหญ่บัดนี้กลับมีคนอยู่อาศัยอยู่เพียงแค่หกชีวิตเท่านั้น เหตุเพราะพงษ์เทพไม่ชอบจ้างคนแปลกหน้าให้เข้ามาภายในบ้านคนที่เค้าจ้างส่วนใหญ่ต้องเป็นคนที่เค้าไว้ใจได้เท่านั้น ในเรื่องของอาหารการกินกับซักเสื้อผ้าก็จะเป็นหน้าที่ของป้านวลที่จะคอยจัดการ ถ้าป้านวลต้องการของสิ่งไหนก็จะวานให้ลุงอ่ำไม่ก็ลุงฉิมไปซื้อให้ แต่ช่วงหลังๆก็จะวานให้หนุ่มลูกชายวัย 39 ปีที่ไม่ทำมาหากินอะไรซื้อเข้ามาให้เพราะไม่ว่าอย่างไรหนุ่มก็จะเข้ามาขอเงินป้านวลเป็นประจำอยู่แล้ว ส่วนในเรื่องของการทำความสะอาดคฤหาสน์พงษ์เทพก็จะจ้างบริษัททำความสะอาดให้เข้ามาทำให้ทุกๆ เดือนเป็นประจำอยู่แล้ว


“ลุงฉิม สวัสดีค่ะ แดดร้อนระวังเป็นลมแดดนะคะ” เพียงตาพูดกับลุงฉิมที่กำลังดูแลสวนตามหน้าที่


“ฮ่า ฮ่า ไม่เป็นอะไรหรอกครับ ไอ้ฉิมซะอย่าง อ้าว แล้วนั่นคุณเพียงจะไปไหนน่ะครับ” ลุงฉิมถาม


“เพียงจะไปห้องเก็บของน่ะค่ะ ไปก่อนนะคะ” เพียงตาพูดจบก็เดินจากมา


“อ้าว คุณเพียงจะไปโรงจอดรถหรอครับ” ลุงอ่ำที่เดินสวนมาพอดีก็ทักเพียงตา


“สวัสดีค่ะ ลุงอ่ำ เพียงจะไปห้องเก็บของน่ะค่ะ” เพียงตาตอบ


“จะไปเอาอะไรครับ เดี๋ยวผมไปเอาให้” ลุงอ่ำเสนอตัว


“ขอบคุณค่ะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตหรอกค่ะ เพียงไปเอาเองได้ ลุงอ่ำไปทำธุระตัวเองเถอะค่ะ” แล้วเพียงตาก็เดินตรงไปที่โรงเก็บของที่ตั้งอยู่ก่อนถึงโรงจอดรถเปิดเข้าไปแล้วก็หยิบผงซักฟอกในระหว่างที่เดินออกมาก็พบกับผู้ชายคนนึงเข้า


“อ้าว คุณเพียงตานี่เอง ผมก็นึกว่าเป็นแม่ซะอีก มาทำอะไรครับเนี่ย” หนุ่มลูกชายของป้านวลพูดขึ้นพร้อมสอดส่ายสายตามองเพียงตาที่อยู่ในชุดเดรสสีฟ้ายาวถึงเข่าอย่างไร้มารยาท


“อ๊ะ คุณหนุ่ม มาหาป้านวลหรอค่ะ เดี๋ยวเพียงไปตามมาให้นะคะ” เพียงตาพูดจบก็เดินจากมาทำเป็นไม่สนใจสายตาของหนุ่ม ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ก็เจอหนุ่มอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่เคยชินกับสายตาอุบาทว์คู่นั้นซักที


“หูยย อีนี่ขนาดแต่งตัวมิดชิด หุ่นแม่งยังโคตรน่าเอาเลยโว้ย” หนุ่มพูดหลังจากเพียงตาลับสายตาไปแล้วพร้อมกับเอามือขยำเป้าที่กำลังตุงของตัวเอง

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว