มีครอบครัวหนึ่งเพิ่งย้ายบ้านมาอยู่ต่างจังหวัด พวกเขาได้ซื้อที่ดินติดแม่น้ำแต่มีความรู้สึกแปลกกับที่ดินผืนนี้ โดยเฉพาะเด็กชายอายุ 13 ปีที่เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของครอบครัว
"เดี๋ยวสิเธอ จะไปไหน" เด็กน้อยได้เห็นเด็กผู้หญิงใส่กระโปรงบาน ลายลูกไม้กำลังเดินลงน้ำ เขาพยายามเรียกเธอหลายต่อหลายครั้งแต่เธอกลับไม่ได้ยินและเดินหายไปในแม่น้ำ สร้างความมึนงงให้กับเด็กชายตัวน้อยอย่างมาก
"พ่อครับ ผมเห็นเด็กผู้หญิงเดินหายไปในน้ำครับ" เด็กชายเดินไปสะกิดพ่อของเขาที่กำลังซ่อมรถที่เสียอยู่
"ไปเล่นที่อื่นก่อนนะพ่อกำลังยุ่งอยู่"
"ครับ"
"แม่ครับ วันนี้ผม..." ยังไม่ทัน ที่เด็กน้อยจะพูดจบแม่ของเขาได้ขัดขึ้น
"หยิบมะนาวให้แม่หน่อยนะ วันนี้เราจะกินต้มยำกัน"
"ครับ"
เมื่อการเล่าเรื่องแปลกประหลาดให้คนอื่นฟังกลับไม่มีใครสนใจ เขาจึงเก็บเงียบไว้เพียงคนเดียว ตกดึกคืนนั้นเด็กน้อยนอนไม่หลับเพราะเสียงหมาหอนโหยหวนดังก้องไปทั่ว เขานอนกลิ้งไปมาบนเตียงด้วยความหงุดหงิดใจ
"มาาา...กับฉันไหมมม..."
เสียงของเด็กผู้หญิงดังจากนอกบ้าน เขาได้ลุกขึ้นจากเตียงด้วยความสงสัยกับเสียงที่ได้ยิน เขาเปิดหน้าต่างห้องจากทางชั้นสองแล้วก้มมองดูที่มาของเสียง
"มาาา...เล่นนน...กันนะ" เด็กผู้หญิงที่เขาเห็นเมื่อตอนเย็นเงยหน้าขึ้นทักทายด้วยรอยยิ้มหวาน
"เอ่อ..." เด็กชายสงสัยมากขึ้นว่าเด็กผู้หญิงที่เห็นคนนี้เป็นใคร
"ลงมาซิ"
เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่ชวนขนลุกแต่เขากลับมองว่าเป็นการเชิญชวนให้ไปเล่นด้วยกัน เขายิ้มด้วยความดีใจที่มีเพื่อนเล่น เท้าของเขานั้นก้าวลงไปข้างล่างโดยไม่มีการลังเล แล้วทั้งสองได้เดินหายไปในความมืด
จนเช้าวันรุ่งขึ้นพ่อและแม่ของเด็กชายได้ตามหาลูกชายที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เธอได้แจ้งตำรวจและชาวบ้านได้ข่าวจึงมาช่วยกันตามหาเด็กชายกันยกใหญ่แต่กลับไร้ร่องรอยเช่นเดิม
เช้าวันต่อมาการตามหาบุคคลหายยังไม่สิ้นสุด จนกระทั่งมีคนพบศพเด็กชายเกาะกับขอนไม้ลอยมาติดฝั่งแม่น้ำ ถัดจากบ้านของพวกเขาออกไปสองหลัง สร้างความเสียใจให้กับผู้เป็นพ่อและแม่เป็นอย่างมาก พวกเขาไม่สามารถอยู่บ้านหลังนี้ได้จึงพากันย้ายกลับไปอยู่กรุงเทพตามเดิม
สองสามวันต่อมาคนในหมู่บ้านได้พูดถึงเรื่องเด็กจมน้ำตายกันหนาหู
"เธอได้ข่าวเด็กที่จมน้ำตายเมื่อสองวันก่อนไหม"
"ได้ยินเหมือนกัน"
"ฉันได้ข่าวว่าก่อนวันที่เด็กคนนั้นจะหายไปเขามีการล้างป่าช้าทางฝั่งโน้นนะ"
"ถ้าอย่างนั้นข่าวที่ว่าช่วงล้างป่าช้าให้ระวังเด็กและอย่าไปเดินใกล้แม่น้ำคงจริงสินะ"
"อืม ก็คงใช่"
"น่ากลัวจังเนอะ"
หนึ่งปีผ่านไป
บ้านหลังดังกล่าวได้กลายเป็นบ้านร้างไร้คนอาศัย จนกระทั่งมีครอบครัวหนึ่งย้ายเข้ามาอยู่ใหม่
"แม่ค่ะห้องหนูห้องไหน"
สาวน้อยหน้าตาน่ารักผมยาวเป็นลอนใส่กระโปรงบานเหมือนตุ๊กตาอยากเห็นห้องนอนของตนเอง แต่แม่ของเธอห้ามเอาไว้ก่อนที่เธอจะขึ้นไปเพราะของยังเต็มคันรถต้องช่วยกันขนขึ้นบ้านไม่เช่นนั้นคืนนี้คงไม่ได้นอน
"ชั้นสองจ๊ะ เดี๋ยวค่อยไป มาช่วยแม่ขนของเข้าบ้านก่อน"
"ค่ะ"
เด็กน้อยช่วยแม่ของเธอขนของทุกอย่างเข้าบ้าน สายตาของเธอเหลือบไปเห็นเด็กผู้ชายกำลังยืนมองเธอจากทางหน้าต่าง แต่เมื่อเธอหันกลับไปอีกครั้งเด็กผู้ชายคนนั้นก็หายตัวไปแล้วสร้างความสงสัยให้กับสาวน้อยเป็นอย่างมาก
ตกดึกคืนนั้นเธอได้ห้องนอนที่ถูกใจ ด้วยความที่กำลังเข้าสู่วัยรุ่นจึงอยากได้ห้องที่เป็นส่วนตัว ก่อนที่เธอจะหลับเธอเหลือบเห็นเด็กผู้ชายจากทางหน้าต่างกำลังกวักมือเรียกเธออยู่
"ใครน่ะ"
เธอเดินลงไปข้างล่างเพื่อจะส่องดูเด็กหนุ่มคนนั้นจากทางประตูหลังบ้านแต่กลับไม่พบใคร เธอจึงคิดว่าตนเองตาฝาดไปอย่างแน่นอน จึงหันหลังเพื่อเดินกลับห้องนอนตามเดิม
"มาาา...กับฉันไหมมม..." เธอได้ยินเสียงแปลกประหลาดพูดด้วยน้ำเสียงชวนขนลุก
"คะ...ใครนะ ไม่ตลกนะ" เธอหันซ้ายหันขวาด้วยความกลัว
"ฉันนน...เหงาาา...มาเล่นด้วยกันนะ"
เธอหันไปตามเสียงที่ได้ยินอีกครั้ง เด็กชายปริศนากำลังกวักมือเรียกเธออยู่เช่นเดิมแต่เธอกลับก้าวขาไม่ออก และเวลานั้นขาของเธอได้เดินออกไปข้างนอกโดยอัตโนมัติ ร่างกายเริ่มควบคุมไม่ได้ ดวงตาแสนสวยเริ่มมืดมน เธอเดินตามเด็กชายคนนั้นหายไปในความมืด
ปัจจุบันได้ผ่านมาเกือบหนึ่งปีแล้ว ยังไร้ซึ่งวี่แววของสาวน้อยคนนั้น ตั้งแต่เธอหายตัวไปแม่ของเธอได้ย้ายออก บ้านจึงกลับมาร้างเช่นเดิมจวบจนถึงทุกวันนี้
.
.
.
ควรระวัง
ไปอยู่แปลกถิ่นไม่ควรทักสิ่งที่เราไม่รู้จัก เวลาได้ยินเสียงประหลาดควรเงียบเข้าไว้ และอย่าไปเผชิญหน้ากับมัน ไม่เช่นนั้นคุณจะหายไปโดยไม่รู้ตัว
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว