เจ้าบ่าวเพื่อน

ตอนที่ 4 แผนเอาคืน

องศา...


ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ผมฟื้นขึ้นมาบนเตียงในโรงพยาบาลของเพื่อนพี่ชายตัวเอง ข่าวรถพ่วงขนวัตถุไวไฟที่ชนประสานงากันก็ดังไปทั่วประเทศ ภาพในข่าวคือกองไฟนรกที่ลุกโชนแผดเผาทุกสิ่งที่อยู่ภายในจนไม่เหลือซาก ไม่ไกลจากกองเพลิงนรกนั่นมีภาพผู้ชายคนนึงร้องไห้ฟูมฟายอย่างบ้าคลั่งบนฟุตบาทท่ามกลางเจ้าหน้าที่ที่วิ่งเข้ามาคว้าตัวเขาเอาไว้


ไม่นานนักข่าวต่อมาก็โด่งดังไปทั่วทั้งโลก แวดวงธุรกิจต่างฮือฮาและให้ความสนใจ ข่าวครอบครัวสามีวางแผนกันฆ่าลูกสะใภ้ ข่าวที่ว่าครอบครัวของผมผลักไสและทิ้งส่งเวลาตอนที่เธอตั้งท้อง ข่าวที่ว่าครอบครัวผมเลี้ยงดูเวลาและนาทีอย่างลับๆ ข่าวที่ว่าเวลาเป็นเมียเก็บ ข่าวที่ว่าครอบครัวของผมกำจัดเวลาเพราะเธอทำลายชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของวงตระกูลผม และข่าวต่อมาคือสมาชิกผู้ถือหุ้นของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักใหญ่ในอังกฤษถูกผู้ถือหุ้นถอนตัวออกจนแทบไม่เหลือ และบริษัทย่อยส่งคำร้องขอปิดตัวลง สัญญาการทำธุรกิจและการซื้อขายต่างๆถูกยกเลิก พนักงานยื่นใบลาออกกันเกือบหมดภายในไม่กี่นาทีหลังจากที่ข่าวดังออกไปและมีข่าวว่าครอบครัวของผมจะล้มละลายในไม่ช้า


" ไอ้พี่ กูรู้ว่ามึงเสียใจแต่มึงต้องสู้เพื่อลูกมึงนะ มึงรีบๆโอเคนะโว้ย นาทีลูกชายมึงกำลังรออยู่ "

ฟาเรนท์ที่อุ้มลูกชายผมมาวางไว้บนเตียงนอนข้างๆผมพูดขึ้นก่อนจะเดินออกไป


" พ่อกับแม่กำลังมา น่าจะอีกวันสองวันจะถึงไทย กูรู้ว่าไม่นานมึงจะลุกขึ้นมาสู่เพื่อลูกมึง "

อัคคีแฝดพี่ของผมเดินเข้ามาตบไหล่เบาๆก่อนจะเดินออกไป


" คุณองศาให้ป้าดูคุณหนูให้มั้ยคะ "

ป้าช้อยเดินเข้ามาหาผมที่ยังคงนั่งก้มหน้าอยู่อย่างเงียบๆ


" ไม่เป็นไรครับป้า แต่ผมฝากลุงกับป้าดูแลสวนกับรีสอร์ตไปก่อนนะครับ "

ผมเงยหน้าบอกป้ากับลุงก่อนที่ทั้งสองท่านจะพยักหน้าให้ผมแล้วเดินออกไป


" ย่าขอโทษนะองศา ย่าดูแลหลานไม่ได้ "

คุณย่าที่ก่อนหน้านี้หมอบอกว่าท่านเป็นลมตอนเห็นข่าวพูดกับผมเมื่อท่านเดินเข้ามาหาผมในห้อง


" มันไม่ใช่ความผิดของคุณย่าครับ มันเป็นความผิดของผมเอง ผมไม่น่ารู้จักเวลาเลย ฮือๆ ถ้าผมไม่ยุ่งกับเวลาตั้งแต่แรก ถ้าผมไม่ข่มขืนเธอ ชีวิตของเธอคงไม่จบลงแบบนี้ ป่านนี้อึก ฮือๆ เธอคงใช้ชีวิตที่ดีแล้วมีความสุขไปแล้ว "

ผมพูดกับคุณย่าที่ตอนนี้ท่านกอดผมเอาไว้แน่น ความเจ็บปวดที่จุกอยู่กลางอกทำให้ผมไม่อยากมีชีวิตต่อไป ไม่แน่ถ้าไม่มีนาทีผมคงตายตามเวลาไปแล้ว หลายคำพูดมากมายที่อยากจะพูดกลับจุกอยู่ที่ลำคอ อยากร้องไห้อยากตะโกนดังๆแต่ร้องไม่ออก ร้องออกมาได้ไม่เต็มที่ ผมเสียเธอไปแล้วจริงๆ เวลา...


" ถ้าย่าไม่ทำสัญญาบ้าๆนั่นขึ้นมา เรื่องทุกอย่างก็คงไม่เป็นแบบนี้ "

คุณย่าที่ยังคงกอดผมเอาไว้พูดโทษตัวเอง


" คุณย่าไม่ผิดหรอกครับที่ทำแบบนั้น โรสต่างหากที่ผิด เธอเห็นแก่เงินจนยอมทำทุกอย่าง แต่เธอจะผิดน้อยกว่านี้หากว่าเธอรับเงินไปแล้วและยังรักษาสัญญา เธอก็แค่ไปใช้ชีวิตของเธอต่างคนต่างอยู่ทุกอย่างมันคงจบ แต่เธอผิดสัญญาและทำให้คนอื่นเดือดร้อนเพราะความแค้นของเธอ "

ผมบอกพลางกอดคุณย่าตอบ


" ตอนนี้โรสรินทร์หนีข้ามประเทศไปด้วยความช่วยเหลือของใครสักคน "

คุณย่าบอก


" ผมขอโทษนะครับคุณย่า ที่ทำให้คุณย่าเดือดร้อนและตอนนี้ครอบครัวเรากำลังจะล้มละลาย "


" มันไม่เป็นแบบนั้นหรอกองศา ทุกอย่างจะไม่เป็นแบบนั้น แต่ตอนนี้ปล่อยทุกอย่างให้เป็นในแบบที่มันอยากจะเป็นก่อน หลานรีบลุกขึ้นมาสู้เพื่อลูกของหลานนะ ไปสานต่อทุกอย่างที่เคยคิดเคยฝันเอาไว้ "

ผมพยักหน้าก่อนจะส่งยิ้มให้คุณย่าก่อนที่ท่านจะเดินออกไป



ผมมองดูเด็กชายตัวน้อยที่อีกไม่กี่เดือนก็จะถึงหนึ่งขวบนอนหลับปุ๋ยอยู่ข้างๆ ผมเสียใจกับทุกอย่างที่เกิดขึ้นจนไม่สามารถบรรยายหรืออธิบายออกมาได้หมด และพอเห็นหน้าของเด็กตรงหน้าน้ำตาของผมมันก็ไม่สามารถไหลออกมาได้อีก ถึงเรื่องราวต่างๆจะเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ภาพเหตุการณ์ทุกอย่างยังคงฝังใจ แต่ผมไม่สามารถร้องไห้หรืออ่อนแอได้อีกต่อไปตราบใดที่ยังมีนาทีที่เป็นส่วนหนึ่งของเวลาอยู่ข้างๆผม ผมต้องเดินต่อไป

.

.

.

" ขอบคุณนะ "

เสียงของผมขอบคุณผู้หญิงคนนึงที่นั่งให้นมลูกอยู่ตรงหน้า


" ขอบคุณอะไรของนาย "

เธอเงยหน้าขึ้นมาสบตาก่อนจะส่งยิ้มบางๆมาให้


" ก็...ขอบคุณที่ยังเก็บกับข้าวถุงนั้นไว้กินมื้อเย็นไง "

ผมบอกก่อนจะส่งยิ้มละมุนให้เธอ


" ก็...กับข้าวมันยังดีๆอยู่นิ เก็บไว้กินมื้อเย็นก็ไม่เห็นเป็นอะไร "

เธอบอกยิ้มๆก่อนจะหันหน้าไปอีกทาง แก้มขาวเนียนของเธอค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อหน่อยๆ


" ฉัน...คิดว่าเธอจะทิ้งมันซะอีก "

ผมบอก


" ไม่ทิ้งหรอก ถ้ามันยังดีอยู่ "

ผมและเธอส่งยิ้มให้กันพลางสบตากันอยู่อย่างนั้น


" เฮ้อ ฝันหรอไอ้พี่ รีบตื่นได้แล้วจะได้กลับบ้านกัน ลูกพี่มึงนั่งรอพ่อตาแป๋วแล้วเนี่ย "


รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว