ล้านคนล้านความคิด ผู้คนมากมายบนโลกใบนี้ล้วนแล้วแต่มีความคิดเป็นของตัวเอง ประสบการณ์ที่พบเจอมาก็ย่อมแตกต่างกัน ทุกคน...ต่างก็เคยผิดหวัง สมหวัง ทุกข์บ้าง สุขบ้าง อาจจะมีบางวันที่รู้สึกมีความสุขจนเอ่อล้นหรือบางทีก็พบเจอกับเรื่องทุกข์ใจจนแทบจะไม่มีแรงสู้ต่อ หลายคนผ่านมันไปได้อย่างรวดเร็ว แต่กับบางคนต้องใช้เวลานานเป็นปีกว่าจะสามารถสลัดความทุกข์นั้นออกไปได้ แม้กระทั่งความคิด คำพูด นิสัยหรือเป้าหมายในชีวิตของแต่ละคนก็ย่อมต่างกัน
พลอยนภัส มนฤทัย หญิงสาวผู้กำพร้าพ่อแม่มาตั้งแต่เด็ก เธออาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กในหมู่บ้านแห่งหนึ่งทางภาคเหนือเพียงลำพังหลังจากที่พี่ชายสุดที่รักเพียงคนเดียวออกเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศตั้งแต่ที่เธอยังเรียนอยู่มัธยมปลายปีสุดท้าย
เธอหาเงินส่งเสียตัวเองเรียนจนจบมหาวิทยาลัย โดยมีพี่ชายคอยสนับสนุนอีกทาง เงินที่พี่ชายเธอส่งมาให้ในทุกๆ เดือนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน เธอเก็บสะสมมันไว้ในบัญชีธนาคารเป็นอย่างดีเพื่อเป็นเงินสำรองไว้ใช้จ่ายยามที่เธอลำบาก
‘ดั่งดวงมนฤทัย’ เป็นโฮมสเตย์ที่ถูกสร้างขึ้นอยู่ทางภาคเหนือบ้านเกิดของเธอ จากเงินก้อนสุดท้ายที่เธอเก็บออมไว้ตั้งแต่เรียนจบจนกระทั่งออกมาทำงาน ปัจจุบันโฮมสเตย์ดั่งดวงมนฤทัยได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ
“พลอย ได้ข่าวว่าแกจะไปหาพี่ชายเหรอ? ไปวันไหนอ่ะ ถ้าไปบอกฉันด้วยนะ…จะฝากซื้อของหน่อย” นาราพูดน้ำเสียงออดอ้อนในท้ายประโยคผ่านสายโทรศัพท์
นารา รัศมีรุ่งเรือง เพื่อนสนิทตั้งแต่เด็กของพลอยนภัสเพียงคนเดียวที่ยังติดต่อกันอยู่จนถึงทุกวันนี้
“ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดน่าจะเป็นวันศุกร์นี้ ครั้งนี้แกจะฝากฉันซื้ออะไรล่ะ น้ำหอมก็ซื้อแล้ว กระเป๋าก็มีแล้ว เสื้อผ้าเหรอ…อืมม ฉันว่าอย่าเพิ่งซื้อเลยดีกว่า เดี๋ยวเสื้อผ้าในตู้เสื้อผ้าแกจะน้อยใจเอา” มือเรียววางโทรศัพท์ในมือลงบนโต๊ะทำงาน พร้อมกับเปิดลำโพง ขณะที่กำลังพูดกับเพื่อนสาวผ่านทางสายโทรศัพท์ เธอก็หยิบเอกสารสำคัญทางการเงินขึ้นมาตรวจเช็ดความเรียบร้อยไปด้วย
“ครั้งนี้ไม่ใช่ทั้งน้ำหอม กระเป๋าและเสื้อผ้าแน่นอน ฉันรับรอง” นาราพูดยืนยันกับเพื่อนสาวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
พลอยนภัสเงยหน้าจากเอกสารในมือขึ้นมามองโทรศัพท์อย่างไม่เชื่อหูตัวเอง เพราะทุกครั้งที่เธอเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ เพื่อนสาวก็มักจะฝากซื้อแต่พวกน้ำหอม กระเป๋าและเสื้อผ้าแฟชั่นอยู่เสมอ
“ถ้าไม่ใช่แล้วมันคืออะไรกัน?”
“ไว้ฉันจะส่งรูปไปให้แกทีหลังพร้อมกับเงิน เที่ยวให้สนุกและก็ฝากเที่ยวด้วย กลับมาครั้งนี้ฝากหิ้วผู้ชายหล่อๆ มาให้ฉันด้วยนะ”
“ของที่แกฝากซื้อได้ครบแน่นอน แต่เรื่องผู้ชายฉันว่าคงน่าจะนานอยู่ แกคงต้องรออีกสักสิบปี ยี่สิบปีแล้วกันนะ เผื่อถึงวันนั้นเนื้อคู่แกอาจจะลงมาเกิดแล้ว” ขณะที่พูดแซวก็แอบขำเบาๆ
“ยัยพลอย!! ฉันงอนแล้วนะ พูดแบบนั้นได้ยังไงกัน เขาอาจจะเป็นแค่คนขี้อายเฉยๆ ก็ได้เลยไม่กล้ามาแสดงตัวให้ฉันเห็น…ก็เท่านั้นเอง ชิ! งอนแล้ว”
“โอเคๆ เขาแค่ขี้อายเฉยๆ” เธอพยายามกลั้นขำสุดชีวิตกับสิ่งที่เพื่อนพูด เพราะไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนเพื่อนของเธอก็ไม่เคยเปลี่ยนความคิด โดยเฉพาะกับเรื่องเนื้อคู่ที่เพื่อนสาวฝันหา
“พอเลยย...แล้วแกล่ะ ล้มเลิกเรื่องนั้นไปแล้วหรือยัง?? ถ้าให้ฉันเดา…คงยังสินะ” เธอเดาคำตอบเพื่อนสาวอย่างรู้ใจ
“ฉันเชื่อมั่นว่าสักวันต้องเจอ… โดยเฉพาะคุณสมบัติของเขาคนนั้นที่ฉันต้องการ” พูดอย่างแน่วแน่
“ในเมื่อแกยืนยันขนาดนี้ ฉันก็เคารพในการตัดสินใจของแกเสมอและฉันก็หวังว่าแกจะสมหวังในเร็วๆ นี้นะ”
“ฉันเองก็หวังว่าแกจะได้พบเจอกับเนื้อคู่ของแกในเร็วๆ นี้เหมือนกันนะ ไม่ต้องรีบแค่จะบอกว่า…ฉันรอเป็นเพื่อนเจ้าสาวอยู่ บาย” เธอพูดประโยคสำคัญทิ้งท้ายไว้ก่อนจะกดวางสายไป
บางทีเธอเองก็นึกขำกับความคิดของตัวเองเหมือนกัน ไม่รู้ว่าความคิดเหล่านั้นเข้ามาในหัวตั้งแต่เมื่อไร รู้ตัวอีกทีเธอก็เดินทางไปฝากไข่ที่โรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว เพราะกลัวว่าสิ่งที่ตั้งใจไว้จะยังไม่สมหวังในเร็วๆ นี้
เธอรีบสะบัดความคิดออกจากหัว ก่อนจะหันมาจดจ่ออยู่กับเอกสารในมือ
•••
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว