พิมพ์สุดาหน้างอเมื่อโดนมารดาดุเสียงเขียวเรื่องที่เธอไปกินไอศกรีมกับเพื่อนๆ
สมัยก่อนมารดาไม่เคยเป็นแบบนี้นี่นา แต่ท่านเปลี่ยนไปตั้งแต่เธอมีพี่ชายต่างสายเลือดมาร่วมบ้านด้วย
“วันหลังหนูต้องกลับบ้านพร้อมพี่ธีเขานะลูก แม่ฝากหนูกับพี่เขาเอาไว้แล้ว เพราะแม่กับลุงธามต้องเดินทางบ่อย คนที่จะฝากฝังหนูได้คือพี่ธี”
“ค่ะคุณแม่”
เธอไม่อยากขัดใจมารดา เพราะถึงพูดอะไรไป ธีรัชก็ต้องออดอ้อนฟ้องมารดาอีกจนได้ หากเธอดื้อหรือขัดใจเขา
บางทีพิมพ์สุดาก็นึกน้อยใจที่มารดาดูรักลูกชายคนใหม่มากกว่าเธอเสียอีก
อีกฝ่ายชอบออดอ้อนและทำให้ท่านไว้เนื้อเชื้อใจ มารดาจึงบอกว่าให้เธอเชื่อฟังพี่ชายอย่างธีรัช
“คุณแม่กลับมาเหนื่อยๆ ดื่มน้ำก่อนนะครับ”
ธีรัชหยิบน้ำเย็นมาให้มารดา เข้าไปกอดรัดประจบประแจงทุกครั้งที่เจอหน้ากัน เขาทำแบบนี้แหละ มารดาเลยรักเขาหนักหนา
“น่ารักจริงเชียว”
“คุณแม่รักคนอื่นมากกว่าลูกตัวเอง”
“อะไรกัน เรานี่ขี้อิจฉาจริงเชียว เดี๋ยววันนี้แม่ต้องออกไปงานเลี้ยงกลับมาดึกๆ ธีฝากน้องด้วยนะจ๊ะ ให้น้องทำการบ้านให้เรียบร้อย อย่าขี้เกียจล่ะเรา”
“เจ้าค่ะคุณแม่”
พิมพ์สุดารับคำ มารดาของเธอเป็นนักธุรกิจและเป็นสาวสังคม ท่านไม่ค่อยมีเวลาให้เธอหรอก พอสมรสใหม่กับคุณธามบิดาของธีรัชซึ่งอีกฝ่ายก็เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จเช่นกัน คนบ้างานกับคนบ้างานมาเจอกันเลยยิ่งไม่มีเวลาให้ลูกๆ
บิดาเลี้ยงกับมารดาของเธอเจอกันก็พูดแต่เรื่องทำธุรกิจ เรื่องลงทุน เรื่องเงินที่จะหามาให้ได้เยอะกว่าที่เป็นอยู่ พิมพ์สุดาคิดว่าพวกท่านรวยมากอยู่แล้ว บางทีควรจะมีเวลาให้ลูกๆ บ้าง
พิมพ์สุดาขอตัวขึ้นไปอาบน้ำอาบท่า ไม่นานก็ได้ยินเสียงรถยนต์แล่นออกไปจากบ้าน เธอเปิดม่านหน้าต่างออกดูก็เห็นมารดาออกไปงานเลี้ยงเสียแล้ว
เพิ่งกลับมาแท้ๆ ก็ออกไปอีกแล้ว เธอถอนใจก่อนที่เสียงประตูห้องจะถูกเคาะ
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร เธอเดินไปเปิดประตูห้อง ก่อนจะเดินไปนั่งที่เตียง
“ทำการบ้านหรือยัง”
เขาเอ่ยถามเขยิบเข้าไปนั่งบนเตียงกับเธอ พิมพ์สุดาส่ายหน้าไปมา เธอเพิ่งกลับจากเรียนยังเหนื่อยอยู่เลย
“ไม่มีอารมณ์เหรอ”
เขาขยับเข้ามาใกล้คนที่ทิ้งตัวลงนอนอยู่บนเตียงกว้าง
“ขอนอนพักก่อนนะคะ เดี๋ยวค่อยทำ”
สาวน้อยวัยสิบแปดพูดเสียงบางเบา ท่าทีง่วงงุน
“หิวไหม”
“ก่อนถึงบ้านแวะกินของว่างกับเพื่อนแล้วค่ะ”
“เพื่อนผู้หญิงหรือผู้ชาย”
คนขี้หวงเอ่ยถาม เขาสอดมือเข้าไปในเสื้อยืดสีขาวของเธอเพื่อขยำนมอวบๆ ของเด็กสาว เธอครางเบาๆ ไม่ได้ปัดป้องเพราะเคยชินกับสัมผัสวาบหวามของธีรัชตั้งแต่ย้ายมาอยู่บ้านหลังเดียวกัน
“ผู้หญิงค่ะ”
เธอสะบัดเสียงหน่อยๆ ก็เขานั่นแหละคอยฟ้องมารดาว่าเธอคบเพื่อนผู้ชาย ท่านเลยบ่นว่าเธอริรักในวัยเรียน แถมคนขี้ฟ้องยังใส่สีตีไข่ว่าเธอแอบหนีเรียนไปเที่ยวกับผู้ชายด้วย นั่นทำให้เธอโดนมารดาบ่นจนหูชา
“อื้อ...”
เธอครางแผ่วๆ เมื่อเขาบี๋หัวนมของเธอไปมา สัมผัสนั้นทำให้ฮอร์โมนของวัยสาวพลุกพล่านขึ้นมาอย่างรุนแรง
“ไม่มีอารมณ์ทำการบ้าน พี่บิ้วอารมณ์ให้เอาไหม”
“อ๊า...”
เธอครางเสียวๆ เขาดึงกางเกงขาสั้นท่อนล่างออกจากสะโพก มองหว่างขาที่กางเกงในเปื้อนเยิ้มไปด้วยหยาดน้ำรักไม่วางตา
“มีอารมณ์เหรอหนูพิมพ์”
“อื้อ...”
เขาแยกหว่างขาของเธอออก ก้มลงไปเลียเป้ากางเกงในเยิ้มน้ำหวานของเธอ
“อ๊า...”
เธอส่ายหน้าไปมาด้วยความเสียวซ่าน ผงกศีรษะขึ้นมองร่างสะท้าน
“ให้พี่ช่วยนะ จะได้มีอารมณ์”
เขาดึงกางเกงในของเด็กสาวออก แล้วมองร่องสีชมพูจัดของเธอ ก่อนจะเริ่มเลีย
“อ๊า...”
เธอมองลิ้นสากร้อนที่ลากขึ้นลงกับเนินสวาทจนเปียกชุ่ม ก่อนจะหลับตาซูดปากด้วยความเสียวสุดกำลัง
“อิ๊!”
พิมพ์สุดาส่ายหน้าไปมากับหมอนใบโตเมื่อโดนเลียหนักหน่วงขึ้น เขาเร่งเร้าลิ้นไปมา ขบเม้มติ่งเสียวจนร่างบางสั่นระริก