นางรองสองวิญญาณ ตอนนางเอกตกอับ女配不想死(快穿)-1.วันนี้เธอดูหน้าตาสดใสดีนะ

โดย  โปรเจคพิเศษ by Hongsamut

นางรองสองวิญญาณ ตอนนางเอกตกอับ女配不想死(快穿)

1.วันนี้เธอดูหน้าตาสดใสดีนะ

บทนำ

คนงามน้อยแห่งสกุลหลัว

เมืองเยี่ยนอู่ ถือเป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญแห่งหนึ่งของแคว้นเจียเหลียง โดยแคว้นเจียเหลียงมีชายแดนติดกับทางเหนือของต้าอู๋

พื้นที่ส่วนใหญ่ของเจียเหลียงเป็นที่ราบทุ่งหญ้า เหมาะแก่การเลี้ยงม้า วัว แพะ และแกะเป็นอย่างมาก หลังฮ่องเต้พระองค์ใหม่แห่งแคว้นต้าอู๋ขึ้นครองราชย์ นับแต่นั้นแคว้นเจียเหลียง และแคว้นต้าอู๋ได้กลายเป็นพันธมิตรต่อกัน สองแคว้นไปมาหาสู่ และแลกเปลี่ยนทางการค้าราวกับพี่น้องที่สนิทชิดเชื้อกันมาก

ใกล้จะถึงวันปีใหม่แล้ว ร้านค้าในเมืองเยี่ยนอู่หลายร้าน เริ่มวางขายข้าวของเครื่องใช้ เครื่องเซ่นไหว้ในวันปีใหม่กันแล้ว ของหลายชิ้นเป็นสินค้าที่นำมาจากแคว้นต้าอู๋ หลายสกุลใหญ่ในเมืองเยี่ยนอู่ ต่างออกมาซื้อของกันอย่างพร้อมเพรียงราวกับนัดไว้ ไม่ว่าจะเป็นบ้านสกุลหลี่ บ้านสกุลเหวิน หรือแม้แต่บ้านสกุลหลัว

เมื่อกล่าวถึงบ้านสกุลหลัว คนในเมืองเยี่ยนอู่ไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะบ้านนี้มี‘คนงามน้อย’ชื่อเสียงโด่งอยู่นางหนึ่ง นางเป็นบุตรสาวคนโตของหลัวจิ่งเทียน ซึ่งเกิดกับอดีตหญิงงามอันดับหนึ่งแห่งเมืองเยี่ยนอู่ กล่าวขานกันว่าความงามของนางนั้น ทำให้บุรุษทั่วหล้าที่ได้พบเห็น ถึงกับมองจนลืมหายใจ

ในตอนที่นางยังไม่ได้ออกเรือน มีบุรุษรูปงามจากตระกูลดีทั่วแคว้นเจียเหลียง ยอมเดินทางข้ามน้ำ ข้ามภูเขา หอบเอาสินสอดทองหมั้น และแม่สื่อมาเพื่อทาบทามสู่ของนางไปเป็นภรรยา ทว่าสุดท้ายบุรุษที่ครองใจนางได้ มีเพียงหลัวจิ่งเทียน หมอหนุ่มที่มีรูปร่างหน้าธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น

ในตอนที่หญิงงามอันดับหนึ่งแห่งเมืองเยี่ยนอู่เข้าวิวาห์ บุรุษทั่วหล้าต่างพากันร้องไห้เสียงระงม บางคนถึงกับลั่นวาจาขอหมั้นหมายบุตรสาวคนโตของนางไว้ตั้งแต่ไม่ทันเกิด ซึ่งตระกูลที่ว่านั้นก็คือตระกูลเหวินนั่นเอง

ตระกูลเหวินนับเป็นตระกูลที่ร่ำรวยมากที่สุดในเมืองเยี่ยนอู่ พวกเขาสร้างเนื้อสร้างตัวจากการค้าขายจนได้ดิบได้ดี มีหน้ามีตามาจนทุกวันนี้ พวกเขามีลูกหลานหน้าตาดีไม่มาก แต่ที่น่าจับตามองที่สุดก็คือคุณชายเหวินถัง ซึ่งเป็นบุตรชายคนโต และเป็นบุตรชายคนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่จนถึงปัจจุบัน และยังเป็น‘คู่หมั้น’ของคนงามน้อยแห่งสกุลหลัวอีกด้วย

แต่ความเป็นบุตรชายคนเดียว ทำให้เหวินถังมีนิสัยเอาแต่ใจตัวเอง และเจ้าชู้มาก วันๆไม่คิดอ่านการใด ไม่สนการศึกษาเล่าเรียน นอกจากผลาญเงินทองที่บรรพบุรุษหามาด้วยความยากลำบาก จนหมดไปกับการหาความสำราญในบ่อนการพนัน และสุรานารีเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ชื่อเสียงของเขาย่ำแย่ลงทุกวัน

หลายปีมานี้ ชาวเมืองเยี่ยนอู่ต่างจับตามองงานวิวาห์ระหว่างสกุลหลัว และสกุลเหวินมาตลอด เนื่องจากสองตระกูลล้วนเป็นตระกูลใหญ่ เชื่อว่าจะต้องมีการจัดงานขึ้นอย่างยิ่งใหญ่แน่นอน แต่ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ต่างออกไป หลายคนกล่าวว่า งานวิวาห์ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ เนื่องจากคุณชายเหวินถังชมชอบคนงาม แต่‘คนงามน้อย’แหล่งสกุลหลัวนั้นเรียกได้ว่า ไม่มีเค้าโครงของคนงามอยู่เลย

ใช่แล้ว นางคือหลัวซานซาน สตรีอัปลักษณ์ที่สุดในแผ่นดินเจียเหลียง !

สองวันก่อนคุณชายเหวินถังได้เดินทางไปบ้านสกุลหลัวเพื่อขอถอนหมั้น โดยให้เหตุผลว่าเขาทำใจแต่งงานด้วยไม่ลงจริงๆ อย่าว่าแต่ร่วมหอเลย แม้แต่มองหน้ายังตกใจจนแทบสิ้นสติ ความอัปลักษณ์ของนางนั้น ผีเห็นยังหวั่น แล้วคนที่ต้องร่วมเรียงเคียงหมอนกับนาง จะไม่ตกใจตายหรืออย่างไร

ทางเหวินฮูหยินก็เห็นด้วยกับบุตรชาย นางกล่าวว่านางเหลือบุตรชายเพียงคนเดียว หากบุตรชายของนางมีอันเป็นไป สกุลเหวินจะขาดผู้สืบทอด นางคงทำใจไม่ได้ จึงอยากขอถอนหมั้นเพื่อรักษาชีวิตบุตรชายของนางไว้ ถ้าหากสกุลหลัวรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม ทางฝ่ายนางยินดีจะยกของหมั้น และมอบเงินทองอีกมากมาย เพื่อชดเชยค่าเสียหายให้กับสกุลหลัว

หลัวจิ่งเทียนโกรธจัดมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา ในขณะที่หลัวซานซานดีใจมาก นางไม่คิดโกรธแค้นอดีตคู่หมั้น และคนบ้านสกุลเหวินเลย เพียงแต่กล่าวด้วยวาจาสุภาพอ่อนหวานว่า‘สักวัน พวกเขาจะต้องเสียใจ ที่ดูถูกคนงามน้อยอย่างนาง !’

หลังจากนั้นหลัวซานซานได้สั่งให้พ่อบ้าน พาคนไปขนสินสอดของหมั้นทุกชิ้น ที่สกุลเหวินนำมามอบให้ ออกไปวางกองที่หน้าบ้าน แล้วประกาศต่อธารกำนัล ด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า

“ข้าหลัวซานซาน แม้จะถูกถอนหมั้นอย่างไม่เป็นธรรม แต่ก็ไม่ต้องการความเมตตาสงสารจากผู้ใด และไม่ปรารถนาจะรับของที่สกุลเหวินมอบให้ ข้าจึงนำของทั้งหมดมามอบเป็น‘ทาน’แก่ผู้ที่ขัดสนยากไร้ หากพวกท่านไม่รังเกียจก็จงรับมันไปเถิด”

หลังสิ้นคำของนาง ของหมั้นที่วางกองเต็มหน้าบ้านก็ถูกชาวเมืองหยิบไปจนหมด ครั้นคนสกุลเหวินได้เห็นสิ่งที่หลัวซานซานทำ ถึงกับหน้าชาราวกับโดนตบหน้าอย่างแรง โดยเฉพาะเหวินถัง เขาอับอายขายหน้ามาก นางทำเช่นนี้เท่ากับกำลังชี้หน้าด่าเขาทางอ้อมว่า ‘ของของสกุลเหวินก็ไม่ต่างจาก‘ขยะ’ที่นางไม่ต้องการ’

ในขณะที่คนสกุลเหวินถูกชาวเมืองเยี่ยนอู่วิจารณ์รุนแรงว่าหน้าตาดีแต่ใจดำคับแคบ ไร้ความสำนึกผิด และไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษ

ในทางกลับกัน หลัวซานซานกลับได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลามว่า แม้นางมีหน้าตาอัปลักษณ์ก็จริง แต่น้ำใจนางงามนัก และยังมากมากคุณธรรม สตรีเช่นนี้ไม่ว่าอยู่ที่ใด ย่อมไม่ลำบากอย่างแน่นอน

ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ของผู้คนจำนวนมาก ที่มาเป็นพยานในการถอนหมั้นของสองสกุลใหญ่ หนึ่งในนั้นมีบุรุษรูปร่างสูงใหญ่สองคน คนหนึ่งสวมชุดสีทึบรัดกุม อีกคนหนึ่งสวมชุดสีฟ้าอ่อน พวกเขายืนมองสตรีอัปลักษณ์ ของแผ่นดินเจียเหลียงด้วยแววตาตกตะลึง เพราะคาดไม่ถึงว่าสตรีอย่างนาง ไม่อับอายที่ถูกถอนหมั้นแม่แต่น้อย

หลัวซานซานยิ้มแก้มปริ วันนี้นางไม่เพียงกำจัดคู่หมั้นที่ไม่เอาไหนออกไปจากชีวิตนางได้ แต่ยังสามารถแก้แค้นผู้ที่ดูถูกนางจนหน้าแตกยับเยินได้อีกด้วย ยิงเกาทัณฑ์เพียงครั้งเดียว แต่ได้นกถึงสองตัว มีเพียง‘คนงามน้อย’ ที่ฉลาดหลักแหลมอย่างนางเท่านั้นที่ทำได้

ยามนั้นมีเด็กสาววัยห้าขวบ หน้าตามอมแมมนางหนึ่งเดินขึ้นมา นางมองหลัวซานซานด้วยแววตาชื่นชม แล้วถามน้ำเสียงสดใสว่านุ่มนวล ราวกับได้รับการอบรมเป็นอย่างดีว่า“พี่สาวน้ำใจงาม ท่านมีนามว่าอย่างไร”

หลัวซานซานหลุบตามองเด็กน้อย ริมฝีปากแดงฉ่ำภายใต้ผ้าปิดหน้าสีขาวทึบยกขึ้นสูง ดวงตาสีน้ำตาลเปล่งประกาย เพียงมองเด็กน้อย นางก็รู้แล้วว่าเด็กคนนี้มิใช่ลูกหลานชาวบ้านธรรมดา นางจึงตอบหนูน้อยไปว่า“ต่อไปให้เรียกข้าว่า ‘คนงามน้อย’ แห่งสกุลหลัว”

********************************************************************************************************************************************************************************************

(มาแล้วค่ะ มาช้าแต่มานะ ลงบทนำให้อ่านกันก่อนค่ะ หลังจากนี้ไรท์จะพยายามลงให้บ่อยขึ้น แต่จะช้าหน่อยนะคะ เพราะว่าไรท์ทำE-Book ไข่มุกจันทรา ไปด้วย สำหรับนางเอกเรื่องนี้ นางไม่เก่งถึงขั้นมีวรยุทธ์ แต่มีความฉลาดมาก ฝากคนงามน้อยไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ ขอบคุณที่ติดตามผลงานไรท์นะคะ ขอบคุณค่ะ)



รีวิวจากผู้อ่าน
ยังไม่มีรีวิวสำหรับเรื่องนี้

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว