การมีคู่หมั้นตั้งแต่เด็กเป็นสิ่งที่วิเศษมาก
สำหรับ นิดา กับ อารัญ ที่แม้ตอนอ่อนวัยยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคำนี้เท่าไหร่นัก แต่พอโตขึ้นคำว่าคู่หมั้นซึ่งถูกซึมซับมาโดยตลอดก็ทำให้เด็กชายเด็กหญิงทั้งสองเริ่มเข้าใจความหมายอย่างถ่องแท้และลึกซึ้งเมื่อขึ้นชั้นเรียนมัธยม พวกเขาต่างประคับประคองกันและกันในฐานะที่มีมากกว่าเพื่อนและมากกว่าแฟนธรรมดาทั่วไปนี้ได้อย่างดี
“นิด!”
อารัญร้องเรียกผู้หญิงที่ยืนข้างสนามพลางวิ่งออกมาจากสนามบาสทันทีหลังจบการแข่งขันกีฬาสีรอบสุดท้าย
“เหนื่อยไหม? อาร์ม”
นิดาคลี่ยิ้มสดใส ยกมือทั้งสองที่ข้างหนึ่งมีผ้าเย็น ข้างหนึ่งมีน้ำดื่มเย็นๆ ขึ้นเบื้องหน้า เธอทั้งเชียร์อย่างตั้งอกตั้งใจทั้งรอท่าบริการอย่างเต็มที่
อารัญยืนก้มหน้าให้นิดาซับเหงื่อ “เหนื่อยเป็นบ้า”
“อ่ะ! ดื่มน้ำก่อน”
“อือ...”
เด็กหนุ่มรับน้ำเย็นขึ้นดื่มอึกๆ
“ดื่มช้าหน่อย เดี๋ยวสำลัก”
นิดาอดไม่ได้ที่จะดุคู่หมั้น พลางยกผ้าเช็ดปากให้เขา
“อ่า...ชื่นใจจัง”
ไม่ใช่น้ำหรอก แต่เป็นเพราะคู่หมั้นตรงหน้า
เธอทั้งดูแลและเอาใจใส่เขาทุกเรื่องอย่างไร้ที่ติจริงๆ ดูตากลมโตที่แสนจะสดใสและใบหน้าอมชมพูระเรื่อนั่นไง ทั้งทำให้คนมองชื่นใจและอยากฟัดเป็นบ้า
อารัญนึกอยากหอมแก้มนุ่มๆ ของนิดาขึ้นมาจับใจ แต่ติดตรงที่ไม่เหมาะสมทั้งสถานที่และเวลา
เนื่องจากพวกเรายืนอยู่ท่ามกลางครูและเพื่อนพ้องพี่น้องร่วมสถาบัน อีกทั้งอายุก็ยังน้อยด้วยกันทั้งคู่
แม้จะเป็นถึงคู่หมั้นก็ตาม
ความผูกพันอันยาวนานที่ทั้งสองมีให้กันชนิดนี้ มันมากกว่าเพื่อนและยิ่งกว่าแฟน
ทว่าความสัมพันธ์ยังไม่ถึงขั้นตอนอันลึกซึ้งแบบสามีภรรยา เพราะทุกอย่างล้วนต้องอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่
ต่อให้หมั้นกันแล้วแต่อาจมีเรื่องไม่คาดฝัน
อย่างเช่นวันหนึ่งอารัญเกิดไปพบหรือมีรักแท้กับใครระหว่างเรียนมีเหตุให้ต้องถอนหมั้นกัน วันนั้นนิดาจะต้องปลอดภัยไร้รอยราคี เพื่อที่เธอจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างดี มีชีวิตอันงดงาม ไม่มีมลทินติดกาย
และถ้าหากเด็กทั้งสองพ้นช่วงวัยรุ่นอันตรายเหล่านี้ไปได้อย่างราบรื่น การหมั้นหมายย่อมขยับฐานะเป็นคู่ชีวิตที่สุดแสนจะเพอร์เฟค
อารัญจึงต้องอดทนและทำใจยอมรับให้ได้ในข้อนี้ กระทั่งขึ้นมัธยมปลายแล้วแต่เขาก็ยังคงทำได้แค่จับมือกับถือแขนและเดินเคียงข้างนิดาในทุกวัน
แค่จะหอมแก้มกัน ยังต้องแอบทำตอนเธอเผลอ โดยไม่ให้ใครเห็นเด็ดขาด
“เมื่อไหร่จะเรียนจบแล้วได้แต่งงานกันสักทีนะ?”
อารัญบ่นอุบอิบยามจับมือนิดาเดินกลับบ้านด้วยกัน เพราะโรงเรียนอยู่ไม่ไกลและบ้านของพวกเขาก็อยู่ใกล้กัน
นิดาปรามขำๆ “อีกไม่นานพวกเราก็ใกล้จบ ม.ปลายแล้วไง อาร์มใจร้อนทำไมเนี่ย?”
อารัญมองคนสวยอย่างหมั่นไส้ “จบ ม.ปลายแล้วแต่ยังต้องต่อ ป.ตรี อีกตั้งสี่ปีไง”
นิดาเอียงหน้าระบายยิ้ม แซวผู้ชายข้างกายอย่างน่ารัก “ก็แค่สี่ปีป่ะ? ทำเป็นตาแก่ขี้บ่นไปได้”
เด็กหนุ่มก้มหน้าลง หรี่ตามองเด็กสาวในระยะประชิด กระซิบเสียงทุ้มนุ่ม “นิดก็รู้ว่าอาร์มบ่นเรื่องอะไร เพราะอะไร ทำเป็นไม่เข้าใจ”
นิดาย่นจมูกร้องฮึ “อายุสิบแปดแล้ว เป็นหนุ่มแล้ว ทำไมนิดจะไม่เข้าใจละ ถ้าอาร์มทนไม่ได้ ทนไม่ไหวจริงๆ ก็ไปซื้อกินเอาเถอะ”
นิดาใจกว้างพอในเรื่องนี้ แต่จะให้เธอปล่อยเนื้อปล่อยตัว นั่นย่อมเป็นการผิดสัญญาต่อผู้ใหญ่ และเธอก็เข้าใจในความต้องการที่แตกต่างกันระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย
เธอยังไม่ลืมสำทับเขา
“อย่าลืมป้องกันดีๆ ล่ะ แล้วเดี๋ยวนิดจะพาอาร์มแอบไปตรวจเลือดเอง เรื่องนี้จะไม่บอกผู้ใหญ่ด้วย”
อารัญขมวดคิ้ว กล่าวเสียงเครียด
“จะบ้ารึไง? อาร์มไม่ไปอ่ะ ไม่เอาใครทั้งนั้น จะเก็บความบริสุทธิ์ไว้ให้นิดคนเดียว”
นิดามองคู่หมั้นอย่างไม่เชื่อถือนัก จนคนถูกมองต้องเลิกคิ้ว “ไม่ต้องมองอาร์มแบบนี้เลย”
เด็กสาวนึกขำในความหงุดหงิดของเขา
ทำเอาเด็กหนุ่มต้องมุ่นคิ้ว “ไม่ต้องหัวเราะด้วย”
เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บของคุณดียิ่งขึ้น และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณอย่างได้อย่างส่วนตัว ท่านสามารถอ่านนโยบายคุกกี้เพิ่มเติมได้ที่นี่