ภรรยาที่รัก-ยาวิเศษ

โดย  Meboon

ภรรยาที่รัก

ยาวิเศษ

“อะไรนะ?! เข้าทดสอบมา 2 ปี กว่า 245 ครั้งเนี่ยนะ!!”

ซุน ได้ยินเช่นนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ เพราะรัศมีลมปราณที่ชายหนุ่มซูบผอมแผ่ล้นออกมานั้น เป็นถึงชนชั้นลมปราณสีน้ำเงินขั้นที่ 1 ซึ่งพื้นฐานลมปราณระดับนี้ ถือว่าผ่านเงื่อนไขการเป็นศิษย์สายในได้ด้วยซ้ำ ไม่น่าเชื่อเลยที่คนผู้นี้กลับไม่เคยสอบผ่านแม้แต่บททดสอบของศิษย์สายนอก...

สำคัญกว่านั้น เมื่อ ซุน พิจารณาอย่างละเอียด ชายผู้นี้ถึงจะดูผอมแห้งขี้โรค แต่กลับแต่งกายด้วยอาภรณ์ที่ค่อนข้างหรูหรา สวมแหวนมิติ ห้อยป้ายเหล็กไว้ข้างเอว แน่นอนว่าป้ายเหล็กนั้น ถือเป็นสถานะตระกูลที่ส่งมากเป็นรองเพียงแค่ป้ายชนชั้นพิเศษ อยู่ในระดับเดียวกับ ตระกูลซ่ง ตระกูลหาน และตระกูลเกา

ส่งผลให้หว่างคิ้วของ ซุน ย่นยับด้วยความฉงน...
“เหตุใดจึงพี่ชายถึงสอบไม่ผ่าน?! อีกทั้งด้วยเส้นสายของตระกูลป้ายเหล็ก ท่านคงสามารถเข้าพรรคราชสีห์สวรรค์ ที่แข็งแกร่งพอ ๆ กับสำนักสายลมประจิม ได้อย่างง่ายดายเลยมิใช่หรือ?!”

ชายซูบผอม ถอนหายใจพลางส่ายหน้าเบา ๆ
“ข้านั้นไร้พรสวรรค์ในการฝึกยุทธ แม้แต่เคล็ดวิชากระบวนท่าง่าย ๆ ข้าก็คงฝึกไม่สำเร็จเลย ดังนั้นการทดสอบที่เป็นการแสดงวรยุทธเช่นนี้ ถือเป็นจุดอ่อนที่สุดของข้า...”

“บรรลุชนชั้นลมปราณสีน้ำเงินได้ก่อนอายุ 20 ปี จะเรียกไร้พรสวรรค์ได้อย่างไร” ซุน ถามย้ำ

ชายผู้นั้นปริยิ้มเจือจาง...
“ข้ามีความสามารถที่อย่างหนึ่ง ที่เหนือกว่าผู้อื่น...”

ไม่บ่อยครั้งนักที่ ซุน จะรู้สึกตื่นเต้น เมื่อได้ยินคำตอบคลุมเครือเช่นนั้น...
“ความสามารถอะไรงั้นหรือ?!”

ชายซูบผอม เปิดแหวนมิติของตน ก่อนจะแสดงเม็ดยาบ่มเพาะระดับสูงมากมายภายในมือทั้งสองข้าง เสมือนเป็นคำตอบว่าที่ชายผู้นี้บรรลุระดับลมปราณที่สูงส่งมิใช่เพราะมีพรสวรรค์ แต่เพราะมีเม็ดยาระดับสูงให้กลืนกินตั้งแต่เยาว์วัยอย่างไร้ขีดจำกัด...

“บ้านข้ารวย... นั่นแหละคือความสามารถของข้า...”

“!!!!!!!!!!” ซุน ถึงกับผงะ ใช้ความพยายามอย่างมากในการกลั้นเสียงหัวเราะ!!

ก่อนที่ชายซูบผอมจะเริ่มพรรนา ว่าตนมีนามว่า ตันเหมา มาจากตระกูลตัน ซึ่งเป็น 1 ใน 10 ตระกูลใหญ่ภายในเมืองหลวง ทั้งยังเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดจากทั้งสิบตระกูลใหญ่ เปิดกิจการหอนางโลมมากกว่าร้อยแห่งทั่วทวีปพยัคฆ์ขาว เงินทองมิเคยขาดมือในการจับจ่ายกว้านซื้อโอสถระดับสูงมาช่วยในการบ่มเพาะ ทดแทนพรสวรรค์ที่ตนขาดหายไป และด้วยความที่ลมปราณแข็งแกร่งเกินกว่าร่างกาย ทั้งยังถูกผลข้างเคียงจากเม็ดยาจำนวนมาก จึงดูซูบผอมราวกับคนขี้โรคเช่นนี้

“ที่ข้าไม่ยอมเข้า พรรคราชสีห์สวรรค์ ทั้งที่มีเส้นสายมากมาย ก็เพราะเป้าหมายของข้ามีเพียงสำนักสายลมประจิมเท่านั้น!! เจ้าลองมองไปรอบ ๆ ตัวเจ้าเวลานี้สิ เห็นหรือไม่ว่าทั้งหมดล้วนเป็นบุรุษเพศ...

นั่นก็เพราะ สำนักสายลมประจิม รับแค่ศิษย์ที่เป็นบุรุษเพศ... ส่วนสำนักบุปผาประจิม ซึ่งเป็นสำนักที่มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับสำนักสายลมประจิม จะรับแค่ศิษย์ที่เป็นสตรีเพศเท่านั้น ทั้งที่นั่นยังเต็มไปด้วยบุปผางามมิต่างชื่อสำนัก... ซึ่งระหว่างสองสำนักนี้ จะมีการฝึกฝนและทำภารกิจร่วมกันอยู่บ่อยครั้ง สำนักสายลมประจิม จึงเป็นที่เฝ้าฝันของบุรุษผู้เยาว์มากมายอย่างไร...

ข้าเองก็มีหญิงสาวที่หมายปองมาตั้งแต่เล็ก และนางก็เข้าเป็นศิษย์สำนักบุปผาประจิมไปแล้วตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน ดังนั้นหนทางเดียวที่ข้าจะเข้าใกล้นางได้ คือข้าต้องเป็นศิษย์สำนักสายลมประจิม!!” น้ำเสียงของ ตันเหมา แน่นหนักไม่สมร่างผอมกะหร่อง

อีกครั้งที่ ซุน มือกุมท้องตัวสั่นเพื่อกลั้นขำ เมื่อได้รู้ว่าคุณชายร่ำรวยที่ตระกูลเปิดกิจการหอนางโลมนับร้อยแห่ง กลับหมายปองหญิงสาวผู้หนึ่ง จนยอมลำบากตรากตรำอยู่หลายปี แม้จะมองว่าเป็นความรักอันแสนงดงามที่ชายหนุ่มมีให้กับหญิงสาว แต่ ซุน ก็ยังอดที่จะมองว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระอย่างหาที่สุดมิได้!!

ใช้เวลาอยู่หลายอึดใจกว่าที่ ซุน จะสูดลมหายใจลึกได้อีกครั้งกลับสู่ความสงบ เกือบจะต้องสูญเสียรูปแบบการแปลงโฉม เพียงเพราะเรื่องอันไร้สาระนี้เสียแล้ว... ซุน ตบไปที่ไหล่ของ ตันเหมา เบา ๆ ทั้งรอยยิ้ม...

“ถือเป็นวาสนาที่เราได้พบพาน ข้าไม่เคยเห็นบุรุษใดมีความพยายามเยี่ยงท่านมาก่อน เอาเช่นนี้ดีหรือไม่... พอดีว่าข้าเป็นคนต่างถิ่นนอกจากจะไม่มีญาติพี่น้องใดในเมืองหลวงแล้ว ยังไร้ซึ่งมิตรสหายที่คอยชี้แนะเรื่องราวต่าง ๆ หากข้าสามารถช่วยให้ท่านผ่านการทดสอบนี้ได้ พวกเรามาเป็นสหายกัน!!” ซุน กล่าวพลางยิ้มเลศนัย

แน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้ ซุน รู้สึกสนใจในตัวของ ตันเหมา คือความรู้แจ้งเรื่องราวต่าง ๆ ภายในสำนัก ที่ ซุน ไม่ต้องลำบากไปค้นหาข้อมูลด้วยตนเอง ทั้งยังเป็นคุณชายมือเติบ เงินหนา มีอิทธิพลไม่น้อยในเมืองหลวง ถึงเด็กหนุ่มจะไม่ได้คิดชั่วร้ายถึงขั้นหลอกลวงไว้ใช้งาน แต่ก็ไม่เสียหายที่จะคบหากัน...

ดวงตาของ ตันเหมา พลันเบิกโพลง...
“ช่วยให้ข้าผ่านการทดสอบ?! จะเป็นไปได้เยี่ยงไรที่จะคดโกงการทดสอบที่เข้มงวดเช่นนี้!!”

ซุน หัวเราะ หึหึ ในลำคอ...
“ข้ามีวิธีของข้าก็แล้วกัน ว่าแต่ท่านเถอะยังสนใจเรื่องที่ข้าบอกกล่าวหรือไม่เล่า?!”

“แน่นอน!! หากข้าสามารถผ่านการทดสอบในวันนี้ อย่าว่าแต่เป็นมิตรสหายเลย ให้ข้าเรียกเจ้าว่า ลูกพี่ ก็ยังได้!! ข้านั้นพยายามมาเนิ่นนาน แต่ก็ยังไม่เห็นความหวังแม้แต่น้อย... สำนักสายลมประจิม มีระเบียบเข้มงวดที่แม้เงินทองมากมาย ก็มิอาจซื้อตำแหน่งได้...” ตันเหมา จิตใจสั่นระรัว

ซุน ยกมุมปากแสยะฟันเขี้ยวมีประกาย...
“เช่นนั้นจงทำตามแผนที่ข้าจะบอกให้ดี...”

......................................................

จำนวนผู้เข้าทดสอบผ่านเลยไปอย่างต่อเนื่อง... แต่ถึงแม้จะผ่านไปกว่าร้อยคนแล้ว เหล่าอาจารย์ผู้ตัดสิน ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะให้ผู้ใดในวันนี้สอบผ่านแม้แต่คนเดียว!! ส่วนหนึ่งเพราะการทดสอบมีมาตรฐานที่เข้มงวด ใช่ว่าคนที่ทำได้ดีที่สุด 3 คนในแต่ละวันจะสามารถผ่านเข้าไปได้เสมอ... หากในบางวันไม่มีผู้เยาว์คนใดแสดงความสามารถได้ตามเกณฑ์ของสำนัก ก็อาจไม่มีผู้สอบผ่านเลยแม้แต่คนเดียวในวันนั้น...

จวบจนกระทั่ง หวนมาถึงลำดับการทดสอบของ ซุน...

“หมายเลขทดสอบ 144”

ซุน ก้าวเดินขึ้นหน้าออกไปด้วยท่าทีสง่า ใบหน้าที่จินตนาการนี้เต็มไปด้วยความใสซื่อดูไร้พิษภัยกับผู้ใด อีกทั้งปานแดงรูปดาวห้าแฉกที่ใต้หางตา ก็ทำให้ดูน่าสนใจขึ้นไปอีกขั้น... สิ่งแรกที่เด็กหนุ่มต้องกระทำ คือการทาบมือลงบนแผ่นศิลาอักขระตรวจสอบ

ปรากฏอายุ 17 ปี 18 วัน ขึ้นมาอย่างแม่นยำ...
ทั้งยังปรากฏพื้นฐานลมปราณสีน้ำเงินขั้นที่ 2

แน่นอนว่ามันได้สร้างความตกตะลึงให้กับเหล่าผู้เยาว์คนอื่น ๆ อยู่ไม่น้อย ทั้งเหล่าอาจารย์ทั้งสาม ก็ยังเผยรอยยิ้มพึงพอใจ หากเทียบกับอายุโดยเฉลี่ยแล้ว นับว่าเป็นอัจฉริยะผู้หนึ่ง...

“พื้นฐานยอดเยี่ยมมาก... หากแต่ผลการทดสอบจะชี้วัดที่วรยุทธ จงใช้กระบวนที่ภาคภูมิใจที่สุดของเจ้า โจมตีใส่ศิลาทดสอบ เพื่อให้พวกเราเหล่าอาจารย์ได้พิจารณา...” อาจารย์เจียง ผู้เข้มงวดยอมออกปากด้วยตนเอง

ซุน ประสานมือโค้งตัวอย่างสุภาพนอบน้อม...
ก่อนจะเพ่งมองไปยัง ศิลาทดสอบ...

แน่นอนว่าเหล่าผู้เยาว์นับร้อยคนก่อนหน้านี้ ได้ผลัดเปลี่ยนกันโจมตีเข้าใส่ศิลาเพื่อแสดงความสามารถ บางคนหยิบเอาศาสตราที่ชำนาญออกมาฟาดฟันเสียด้วยซ้ำ จากแต่สุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครทำให้ศิลาทดสอบก้อนนี้สั่นคลอน หรือสึกหลอได้เลย เพราะมันถูกสร้างมาเป็นพิเศษจนแข็งแกร่งมาก กว่า 99 ใน 100 ของผู้ทดสอบมีพื้นฐานเพียงชนชั้นลมปราณสีคราม จึงไม่มีทางทำลายมันได้แน่นอน...

ซุน พิจารณาอยู่ชั่วครู่ใหญ่ ก่อนรีดเค้นลมปราณมหาศาลออกมาจากร่างในฉับพลัน ตั้งกระบวนฝ่ามือขึ้นยกสูง ก่อเกิดเงาขวานในชั่วพริบตา...
“กระบวนท่าไร้ขวาน... บดทำลาย!!”

ตูม!!

เสียงปะทะก้องกังวานรุนแรง!!
ศิลาทดสอบสั่นโคลงเป็นครั้งแรก!!

เหล่าผู้เยาว์ตนอื่น ๆ ที่เห็นล้วนแล้วแต่อ้าปากค้างไปตาม ๆ กัน บ้างก็ถูฝ่ามือไปมาด้วยใบหน้าอัปลักษณ์ เพียงแค่มองยังรู้สึกเจ็บมือแทนเด็กหนุ่ม... เหล่าอาจารย์ทั้งสามถึงกับนั่งไม่ติดเก้าอี้ สูดหายใจลึกและกลั้นค้างไว้เช่นนั้นด้วยความตื่นเต้น เพียงแค่เห็นกระบวนท่ายังบ่งบอกถึงความสามารถอันน่าสะพรึง...

“หมายเลข 144 เจ้ามีนามว่าอะไร?” อาจารย์เจียง เอ่ยทักขึ้นทันที

ซุน ประสานมือสุภาพอีกครั้ง พร้อมยิ้มอ่อนประดับ...
“ผู้เยาว์มีนามว่า... เหยาซาน”

อาจารย์เจียง แย้มยิ้มพร้อมพยักหน้า...
“ขอใช้สิทธิ์ผู้ตัดสิน... ให้ เหยาซาน ผ่านการทดสอบคนแรกของวันนี้!!”

เหล่าผู้ที่ชมดูไม่มีใครกล้าเคลือบแคลงใจในคำตัดสิน เห็นได้ชัดว่าเด็กหนุ่มนั้นมีความสามารถที่น่ากลัวจริง ๆ ทางด้าน ซุน ก้าวเดินลงออกมาจากลานทดสอบด้วยท่าทีสงบ พร้อมกับเดินเฉียดเข้ามาใกล้ ตันเหมา เล็กน้อย กระซิบแผ่วเบายามเดินสวนกัน...
“สังเกตจุดแดงที่ข้าใช้โลหิตป้ายทำตำหนิเอาไว้... ชกไปที่จุดนั้นให้สุดกำลัง...”

ตันเหมา ได้ยินเช่นนั้นพลันสูดหายใจลึกตื่นเต้นขึ้น...

“หมายเลขทดสอบ 145”

สิ้นเสียงเรียก ตันเหมา เดินเข้าไปในลานทดสอบด้วยเงอะงะเล็กน้อย ทั้งยังสะดุดขาตนเองคราหนึ่งจนเกือบจะล้มลงขายหน้า... เหล่าผู้เข้าทดสอบที่เห็นว่าหมายเลข 145 คือ ตันเหมา ก็ล้วนมองด้วยสายตาที่ดูแคลน เพราะทุกคนที่มาประจำล้วนทราบดีว่าคนผู้นี้พื้นฐานสูงส่ง แต่ไร้ความสามารถ หากมิใช่เพราะเป็นคนจากตระกูลใหญ่โต คงถูกผู้คนกลั่นแกล้งหัวเราะเยาะไปนานแล้ว...

กระทั่งเหล่าอาจารย์ทั้ง 3 คน ยังทอดถอนหายใจ เนื่องด้วยทุกคนต่างรู้จักเด็กหนุ่มผู้มาทำการทดสอบแทบทุกวันผู้นี้เป็นอย่างดี กระทั่งเมื่อวานมันก็ยังมา และก็จบลงที่ความน่าสมเพชจนไม่อยากมีผู้ใดจดจำ แต่กฎย่อมเป็นกฎ เมื่อมาขอเข้าทดสอบ ย่อมได้รับโอกาสทดสอบ...

แผ่นศิลาอักขระเปิดเผยอายุ 19 ปี 325 วัน
พื้นฐานลมปราณสีน้ำเงินขั้นที่ 1

แม้จะถือว่าสูงมาก แต่กลับไม่มีผู้ใดแสดงท่าทีตื่นเต้น ออกจะดูแคลนยิ่งขึ้นเสียด้วยซ้ำ...
“เจ้านี่อีกแล้ว... ไม่รู้ว่ามันจะมาทดสอบทำไมทุกวี่วัน ช่างเสียเวลาผู้ทดสอบคนอื่นยิ่งนัก”
“นั่นสิ!! ไร้พรสวรรค์ แต่อาศัยเม็ดยาบ่มเพาะลมปราณ มันคดโกงผู้อื่นชัด ๆ”
“เจ้านี่คือจุดด่างพร้อยของตระกูลตันโดยแท้...”

เสียงที่แว่วลอยมา ไม่มีความชื่นชมยินดีแม้แต่เสียงเดียว... ตันเหมา คุ้นชินกับบรรยากาศเช่นนี้มาเนิ่นนานแล้ว แต่ชายหนุ่มก็ยังเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นไม่ยอมแพ้... เมื่อหันมองกลับไปยังเหล่าคนดู มีเพียงสายตาคู่หนึ่ง ที่แสดงถึงความเชื่อมั่นให้กับ ตันเหมา นั่นคือสายตาของ ซุน!!

“แสดงให้เจ้าพวกนี้มันได้เห็นเลย!!” ซุน แผดเสียงแหลมแทรกแซงทุกคำพูดหมิ่น!!

ตันเหมา ได้ยินเช่นนั้นก็เต็มไปด้วยความฮึกเหิม!!

“เริ่มการทดสอบได้แล้ว... คงไม่ต้องอธิบายวิธีแล้วกระมัง...” หนึ่งในอาจารย์ตัดสิน กล่าวขึ้นน้ำเสียงดูหน่ายใจ

ตันเหมา ประสานมือน้อมรับ ก่อนจะหันมองเพ่งพินิจไปที่ ศิลาทดสอบ... ทันใดนั้นดวงตาของ ตันเหมา ก็เบิกโพลงขึ้น มันมองเห็นจุดตำหนิสีแดงขนาดเล็กที่ศิลาทดสอบอยู่จริง ๆ ดังที่เด็กหนุ่มก่อนหน้านี้ได้ว่าไว้...

ไม่มีความจำเป็นที่ต้องลังเลใด ๆ อีก ตันเหมา รีดเค้นพลังทั้งหมดเท่าที่ร่างกายซูบผอมนี้จะสามารถทำได้ ภาพความพ่ายแพ้ในการทดสอบตลอด 245 ครั้งผุดขึ้นมาในหัวไม่หยุดหย่อน ถึงกระนั่นก็ยังไม่อาจทำลายความมุ่งมั่น!!

ตันเหมา ปล่อยหมัดออกไปสุดกำลัง!!

ตูม!!

เสียงที่ผิดแผกไปจากทุก ๆ ครั้งก้องดังขึ้น พร้อมบังเกิดความตกตะลึงงันให้กับทุกคนที่เฝ้าดู เมื่อก้อนศิลาทดสอบ แหลกละเอียดกลายเป็นเศษศิลาที่ป่นปี้!!


....................................................

รีวิวจากผู้อ่าน
ยังไม่มีรีวิวสำหรับเรื่องนี้

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว