ม่านรักทะเลทราย

บทที่ 5 คืนวิวาห์ พาร์ท 2 จบ

“เมื่อกี้ผมทำคุณเจ็บมากหรือเปล่า”

เขาโน้มใบหน้าลงมาต่ำ ซึมซับปากอิ่มๆด้วยความรู้สึกหิวกระหายจัด รัมภาพูดไม่ออกตอนนี้เธอเสียเปรียบทุกประตู เธอหมดสติและถูกเขาขโมยตัวมาจากงานเลี้ยงน้ำชานั่น เธอนึกภาวนาไม่ให้ใครเจอภาพที่เขาอุ้มเธอไปที่ลานจอดรถด้านหน้าของสมาคม แต่จะเป็นไปได้อย่างไรล่ะ ยามที่นั่นกวดขันยิ่งกว่าโรงแรมระดับห้าดาวเสียอีก ที่ไหนเป็นสถานที่ของตระกูลแกรนท์มักจะมีเข้มงวดเรื่องความปลอดภัย เรื่องนี้เธอรู้ดี ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห ที่ชายหนุ่มคนนี้ทำให้เธอตกที่นั่งลำบากมากแค่ไหน ชื่อเสียงเธอกับตระกูลเดสม่อนคงป่นปี้เพราะเขาคนนี้คนเดียว

“รัมย์..ยกโทษให้ผมนะ เมื่อครู่นี้ผมหน้ามืดจริงๆ ผมไม่เคยมีสาวๆมาเป็นชาติแล้ว”

“อย่ามาโกหก ! สาวๆของคุณมีในสต๊อกเป็นโหลๆ”หญิงสาวพยายามต่อต้านเขาสุดฤทธิ์เธอพยายามกัดลิ้นของเขาอีกด้วย แต่มาร์ตินไม่ใส่ใจ เขาหลบอย่างว่องไว ราวกับเชี่ยวชาญเรื่องนี้มาตลอดชีวิต ส่งเสียงหัวเราะขบขันกับเรี่ยวแรงอันน้อยนิดของเธอ ยามนี้ถูกเขารวบไว้ใต้ร่างหนา ดวงหน้าคมคร้ามนั้นก้มต่ำมายิ้มใส่ตาเธอ

“ผมหมายถึงผมไม่เคยเบิร์นให้สาวคนไหนมาก่อน..คุณเป็นคนแรก และผมรู้ว่าคุณจะชอบมาก..”ดวงหน้าของเธอแดงก่ำกับคำพูดที่แสนจะราบเรียบและธรรมดาของเขา มาร์ตินยิ้มขำที่เธอเมินหน้าหลบสายตาเขาท่าทีอับอายแสนสาหัส

“เจ็บมากหรือเปล่า”

เขาถามอีกครั้ง ดวงตาคู่คมสำรวจผิวเนื้อบางที่แดงเรื่อไปทั้งร่าง บางส่วนมาจากฝีมือของเขาเอง ชายหนุ่ม รัมภากัดปากตนเองแน่น เธอน้ำตาคลออีกครั้งเมื่อหวนนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอีกครั้ง

“ผมเข้าพิธีไม่ได้ รัมย์...ต่อให้ผมอยากเอาใจคุณแค่ไหนผมก็ไม่มีทางทำได้..เลิกพูดเรื่องแต่งงานนั่นซะ ผมจะคุยเรื่องนี้กับคุณย่าเองเราจะอยู่ด้วยกัน”

“อย่ามาตบหัวแล้วลูบหลังฉันแบบนี้รอส ฉันไม่เชื่อคุณอีกแล้ว คุณบอกเลิกฉันก่อนนะ แล้วยัง..ฮือ..ฉันเกลียดคุณแล้วรอสคุณทำทุกอย่างของฉันพังหมด ความฝันของฉัน ความรักของฉันไม่มีที่สำหรับคุณอีกแล้วรู้ไว้ด้วย!”

รัมภาตอบโต้เขาเท่าที่จะนึกออก เธอเจ็บใจกับการถูกเขาทิ้งไว้กลางทางตั้งนาน กว่าจะทำใจได้เสียเวลาตั้งนานแล้วจู่ๆกับถูกเขาทำย่ำยีเหมือนผู้หญิงไร้ค่า ผู้หญิงคนเก่าๆของเขาแต่ละคนยังได้รับการดูแลและเอาใจให้เกียรติมากกว่าที่เขาทำกับเธอหลายร้อยเท่า ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บใจ

“ปล่อยนะ รอส ไปให้พ้น! ฉันจะแต่งงานกับใครก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่คุณ”

“อืม..ผมก็ไม่คิดจะแต่งงานกับใครนี่นา แต่ผมจะเก็บคุณไว้ รัมย์ ผมไม่ยอมปล่อยให้คุณไปมีคนอื่นแน่”

ดวงตาคู่ฟ้าเข้มข้นนั้นสบตากับเธอด้วยสีหน้าราบเรียบปราศจากการล้อเล่น ดวงตารื้นน้ำตาของเธอนั้นกลับมองเขาด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวด ชายหนุ่มขบกรามเบาๆมาร์ตินตัดสินใจแล้ว เขาจะทำตามใจตัวเองเท่านั้น เขาอาจจะพอต่อรองกับแม่เลี้ยงกรแก้วและคุณย่าของรัมภาที่คุ้มเวียงแก้วได้บ้าง แม้จะรู้ว่าไม่ง่ายนัก เพราะคนในครอบครัวคุ้มเวียงแก้วนั้นมีชื่อเสียงเป็นที่นับหน้าถือตาของชาวเมืองเชียงราย และเชียงใหม่มากแค่ไหน พวกเดชวารี เดสม่อน ค่อนข้างยึดติดกับจารีตประเพณีและยังเป็นกลุ่มตระกูลที่มีอิทธิพลมากในกลุ่มภาคเหนือ แน่ใจได้ว่ารัมภาเองจะตกที่นั่งลำบากถ้าต้องเป็นเมียเก็บของใครสักคนโดยไม่มีพิธีแต่งงานรองรับ

“ผมไม่มีวันยอม...” เขาย้ำอีกครั้งด้วยคำพูดที่แผ่วเบา แต่สะเทือนไปถึงจิตวิญญาณของคนที่อยู่ใต้ร่างยามนี้ ชายหนุ่มคิดว่าเขาไม่มีทางเลือกอีกแล้ว และการเอาคำสาปมาอ้างไม่ใช่เรื่องที่ใครจะยอมรับได้ นี่มันยุคสมัยไหนแล้ว..

“ผมจะพาคุณไปแช่น้ำอุ่นๆ เผื่อจะดีขึ้น” ร่างเปลือยเปล่าของเธอลอยขึ้นมาอยู่ในวงแขนแข็งแรง มาร์ติน สาวเท้าไปยังห้องน้ำ ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

“ขืนดิ้นอาจจะตกลงไปเจ็บอีกนะรัมย์”

ก่อนที่หญิงสาวจะดิ้นรนเขาก็ดักคอเธอไว้ด้วยเสียงราบเรียบ แต่แววตานั้นยังคงมีประกายหื่นหิวที่ทำให้หญิงสาวจำใจนิ่งเงียบลง แต่แววตานั้นเล่า เธอมองเขาอย่างไม่เป็นมิตรอยู่ดี ปากอิ่มนั้นขบเม้มอย่างไม่พอใจ ซึ่งมาร์ตินไม่ได้ร้อนใจนักเขาวางเธอลงในอ่างน้ำอุ่นปล่อยน้ำวนไหลออกมาอ่อนเอื่อย สีหน้าของเขาราบเรียบจะมีแค่แววตาที่ขยับยิ้มพร่าพรายในนั้น มันไหวระริกเหมือนคนอารมณ์ดีสุดๆ รัมภาสะอื้นในอก หัวใจเจ็บร้าวมากกว่าร่างกายที่บอบช้ำเพราะฝีมือของเขาหลายเท่า ไม่นึกมาก่อนเลยว่ามาร์ติน รอสจะเป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัวแบบนี้เขาอยากได้เธอโดยไม่คิดจะแต่งงานด้วย..

นี่ชะตาเธอตกต่ำขนาดนี้เลยหรืออย่างไร ปล่อยให้เขาย่ำยีโดยที่ขัดขืนไม่ได้หนำซ้ำยังถูกเขาลักตัวมาขังไว้ในบ้านอีก ซึ่งบ้านของเขาเธอเองก็ยังไม่เคยมาสักครั้ง ก่อนนั้นตอนที่คบหากัน เธอมักจะเจอกับเขาที่ภูเก็ตหรือไม่ก็ เขาไปถึงคุ้มเวียงแก้ว เขาทำให้แม่เธอและคุณย่าไว้ใจและตายใจ แต่สุดท้ายกลับฉีกหน้าเธอด้วยการบอกเลิก ทำให้เธอเจ็บปวดอยู่นานกว่าจะทำใจได้ แต่กลับมาทำร้ายเธอเพิ่มขึ้นด้วยการทำแบบนี้ เขาทำแบบนี้ทำไม?..ในเมื่อเขาเองก็มีผู้หญิงตั้งหลายคนเท่าที่เธอได้ยินจากข่าวนั่น ส่วนมากแล้วเป็นสาวฝั่งยุโรปทั้งนั้น จะมีสาวไทยก็แค่..ใช่..แม่น้ำหวานนั่นยังไงล่ะหญิงสาวได้แค่ก้มหน้าปล่อยน้ำตาไหลรินด้วยความเจ็บใจตนเอง ที่หลงรักคนอย่างมาร์ติน รอส เขาเห็นแก่ตัวอย่างที่เธอเองไม่เคยคิดมาก่อน เห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจที่สุด เธอมองเขาผิดตั้งแต่แรกแล้ว..

“รัมย์..”รัมภาปัดมือที่เอื้อมมาหาเธอนั่นอย่างชิงชัง กลั้นสะอื้นลงคออย่างยากเย็นตะคอกใส่คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยเสียงสั่นเครือ

“ฉันเกลียดคุณ รอส..เกลียดที่สุด..”

“ผมรู้..”เขายินยอมรับกับถ้อยคำนี้อย่างไม่รู้สึกรู้สา

“แต่ยังไงอย่าแช่น้ำนานนัก ผมให้แม่บ้านยกอาหารมาเสิร์ฟในสิบนาที..”

เสียงเคาะประตูดังมา ทำให้เขาพยักหน้าให้เธอ ร่างสูงก้าวไปที่ประตูปล่อยให้หญิงสาวได้มีเวลาอยู่ตามลำพัง รัมภา นั่งนิ่งเธออยากให้ตนเองหายไปจากห้องนี้ถ้าเป็นไปได้ ความอับอายแล่นไปทั่วทั้งร่าง ไม่มีที่ไหนที่มาร์ตินไม่ได้สำรวจมัน แม้ว่าในที่คับแคบแบบนั้นเขากลับทำให้ผู้หญิงร้อนเร่าได้ถึงขั้นยินยอมเขาทุกอย่างนั่นแปลว่าเขาเชี่ยวชาญเรื่องสาวๆมากเพียงใด และสายตาที่เขาจ้องเธอเมื่อครู่นี้มันเหมือนแววตาของสัตว์ที่กระหายในอาหาร วูบหนึ่ง หญิงสาวนึกกังวล เธอจำได้ว่าในที่แคบๆตรงนั้น มาร์ตินกดร่างเธอกับผนังนานแค่ไหนหลังจากที่เขาปล่อยความร้อนเร่าใส่เธอโดยปราศจากความสนใจถึงผลที่จะตามมา บางทีเธออาจจะท้อง..พระเจ้า..นี่เธอจะทำอย่างไรดีล่ะ? ถึงจะหนีจากที่นี่ได้..หัวใจของเธอเริ่มเต้นรุนแรงเมื่อหวนคิดถึงความเป็นไปได้ เมนส์เธอหายไปมากกว่าสิบห้าวันแล้ว มันสุ่มเสี่ยงกับการตั้งครรภ์มากทีเดียว

ขยับกายลุกจากอ่างน้ำอุ่น ใบหน้าของเธอบิดเบี้ยวกับอาการเจ็บแปลบกลางกายจนต้องทรุดลงนั่งแช่น้ำอีกสักพัก ลูบไล้เนื้อสาวที่ยังคงช้ำบวมจากการบุกรุกของเขา ใบหน้าเธอร้อนผ่าวไปหมด เมื่อสำนึกส่วนหนึ่งบอกเธอว่ามาร์ติน ตัวใหญ่เกินไปและร่างกายส่วนนั้นของเขาก็ใหญ่โตเหมาะสมกับเรือนร่าง ถ้าเขาข่มขืนเธอจริงๆไม่แน่ว่าเธอคงขาดใจตายไปก่อนแล้วแต่เขาเลือกที่จะปลุกเร้าร่างกายของเธอให้ยินยอมรับเขาได้ในที่สุด เขาเก่งเรื่องรู้จุดอ่อนของสาวๆจะตายไป..

“คนเลว..”เธอก่นด่าเขาออกมาด้วยความชิงชังอีกครั้ง สองมือยกลูบน้ำตาออกจากใบหน้ามันไม่ยอมหยุดไหลเสียที เธอคิดว่าเธอเจ็บปวดและผิดหวังกับสิ่งที่เขาทำนั่นมากมายจนกลายเป็นความแค้นใจ

“รัมย์” หญิงสาวสะดุ้งกับคำเรียกนั่น ร่างสูงของมาร์ตินก้าวมายืนตรงนี้พร้อมกับผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ที่กางไว้รอเธอ รัมภาขบปากตนเองพลางเงยหน้ามองเขาอย่างไม่พอใจ

“เอาวางไว้ ฉันจะจัดการเอง ออกไปนะ”

“คุณไล่ผมไม่ได้รัมย์ ลืมหรือเปล่านี่บ้านผมนะ ห้องนอนของผม”เขายิ้มมุมปากแต่แววตานั้นกลับฉายรอยอันตรายเมื่อมันกวาดมองเธอทั้งตัว ในน้ำใสแจ๋วกับอ่างสีขาวมันจะเล็ดรอดสายตาเขาไปได้อย่างไร เนื้อตัวของเธอกลายเป็นอาหารตาให้กับเขาไปแล้ว

“และขืนช้ากว่านี้ อาหารจะเย็นชืดไม่อร่อยนะ”

“ฉันไม่กิน!”เธอตอบโต้ไปเสียงฉุนๆ ชายหนุ่มก้าวมาใกล้ส่งสายตาพร่าพราวมาให้

“ไม่กินก็ไม่มีแรงนะ หรือว่าจะนอนเฉยๆ..”เขาสื่อสารด้วยรอยยิ้มในแววตาทั้งที่สีหน้านั้นกระด้างราบเรียบ แต่คนฟังนั้นใจเต้นรุนแรง ปากอิ่มเม้มเข้าหากันมองเขาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ

“ผมไม่เกี่ยงหรอกนะ รัมย์ ผมชอบ..”แววตาคู่คมนั้นฉายรอยเร่าร้อนเมื่อเลื่อนมองเรือนร่างขาวโพลนแข่งกับอ่างจากุชีในห้องนี้ รอยแดงๆบางส่วนยังปรากฏบนผิวขาวๆของเธอให้เขาได้เห็นชัดเจน แววตากระหายคู่นี้ช่างทำให้เธอหายใจไม่ออกได้ง่ายจริงๆ

“มาสิรัมย์ ผมเมื่อยแล้วนะ”เขาพยักหน้าอีกครั้งมุมปากกระตุกเมื่อหญิงสาวส่ายหน้าไปมา เธอไม่รู้ว่ามาร์ตินนั้นกำลังนับเลขในใจไปกี่ร้อยกี่พันหลักแล้วตอนนี้ ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ในมือถูกเขาปล่อยให้หลุดร่วงไปกองกับพื้น มือของเขาเลื่อนมาดึงเสื้อยืดออกจากลำตัวปล่อยเปลือยช่วงอกแข็งแกร่ง ทำให้หญิงสาวอ้าปากตาค้าง

“รอส!! นั่นจะทำอะไร?อย่านะ.. ไม่นะ!”

ร่างสูงๆของชายหนุ่มก้าวลงมาในอ่างน้ำอุ่นอย่างไม่รีบร้อนนักเขาปล่อยให้ดวงหน้าของเธอแดงก่ำกับภาพที่เห็นเต็มตา หญิงสาวส่งเสียงกรีดร้องเหมือนคนสติแตก สองมือยกปิดหน้าตัวเองไว้โดยลืมไปเสียสนิทว่าตนเองนั้นไม่มีอะไรปกปิดร่างกายสักชิ้นเดียวเปิดโอกาสให้ชายหนุ่มได้เห็นสองเต้าคู่สล้างงดงามเต็มตาอีกครั้ง

“ก็คุณรั้นทำไมล่ะรัมย์..”เสียงแหบห้าวนั้นดังกระทบข้างใบหูเล็กของเธอ ลมหายใจร้อนๆเป่ารดซอกคอก่อนจะกดจุมพิตลงไปจนหญิงสาวขนลุกเกรียวไปทั้งร่าง สองแขนถูกยึดไว้ ขณะที่เธอหลับตาปี๋ปากส่งเสียงกรีดร้องเหมือนคนเสียสติ

“ระ..รอส..ปล่อยนะ..”

“อืม..หลังจากสอนงานคุณสักยกสองยก..”เขาตอบความอุ่นร้อนแนบปิดลงบนกลีบปากที่สั่นๆของเธอ อารมณ์ของเขาพุ่งสูงอย่างรวดเร็วยามได้แตะต้องกลีบปากนุ่มคู่นี้ มันบดจูบหนักหน่วงบังคับให้หญิงสาวเผยอริมฝีปากอ้ารับเขาได้ในที่สุด




รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว