นางโจรปล้นรัก (สนพ.ตะวันเปรมปรีดิ์ / กุหลาบแก้ว)-นางโจรปล้นรัก.....ตอนที่ 21

โดย  Ben Chantranusorn

นางโจรปล้นรัก (สนพ.ตะวันเปรมปรีดิ์ / กุหลาบแก้ว)

นางโจรปล้นรัก.....ตอนที่ 21

21


นภัสสูดลมหายใจเข้าให้ลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้ สิ่งที่ต้องการมากที่สุดในตอนนี้คือพลังที่จะสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง วันนี้เป็นวันที่เธอจะต้องให้คำตอบอย่างไม่มีทางเลี่ยง

แต่ละก้าวมันช่างทรมานหัวใจ เหมือนว่าระหว่างทางที่เดินนั้นเต็มไปด้วยหนามแหลม ราวกับว่ากำลังเดินเข้าไปหาพญามัจจุราช อนิรุทธ์มองคนที่เดินมาหยุดตรงหน้าของตนแล้วส่งยิ้มให้ ดูออกว่าเธอกำลังรวบรวมความกล้าที่จะพูดออกมาอยู่

“วันนี้คุณคงพร้อมที่จะให้คำตอบผมแล้วนะ” ชายหนุ่มถามก่อนเมื่อเห็นว่าเธอไม่ยอมพูดเสียที

“ใช่”

“ก่อนที่จะพูดอะไรช่วยทำหน้าดีๆ หน่อยได้ไหม หน้าคุณตอนนี้เหมือนกับนักโทษประหารที่กำลังรอความตายหมดอาลัยกับชีวิต” เขาพูดติดตลก

“แล้วมันต่างกันตรงไหน ชีวิตของฉันตอนนี้มันก็เหมือนอย่างที่คุณบอกนั่นแหละ คุณก็เหมือนมัจจุราชที่กำลังจะเอาชีวิตของฉันอยู่”

“พูดราวกับว่าผมเป็นปิศาจเสียอย่างนั้น” เขาบ่นเมื่อเห็นว่าเธอกำลังมองในแง่ร้าย

“คุณไม่ได้เป็นปิศาจ คุณเป็นเพียงแค่ผู้ชายที่มีข้อบกพร่องมากถึงมากที่สุดก็เท่านั้น” นภัสพูดอย่างอดไม่ได้

“คุณกำลังด่าผม ผมไม่เห็นว่าตัวเองจะมีข้อบกพร่องตรงไหนเลยนะ ออกจะเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบที่สุดคนหนึ่งในโลกเลยก็ว่าได้”

“นี่คือข้อบกพร่องที่เห็นได้ชัด คุณมันหลงตัวเอง”

“ได้ทีเอาใหญ่เลยนะ” เขาดักคออย่างรู้ทันแล้วเอ่ยต่อว่า

“ผมว่าเราอย่ามาเถียงกันเลยดีกว่า เข้าเรื่องเลยแล้วกัน คุณตกลงว่าอย่างไร” อนิรุทธ์เข้าประเด็นที่ต้องการทันที

“ฉันจะยอมรับข้อเสนอของคุณค่ะ” หญิงสาวพูดอย่างมั่นใจ ในขณะที่คนฟังยิ้มออกมาอย่างพอใจเป็นที่สุด

“คุณคิดถูกมาก”

“แต่ฉันมีข้อแม้ ถ้าคุณยอมรับสิ่งที่ฉันต้องการได้ ฉันจะทำตามข้อเสนอของคุณ” นภัสพยายามไม่ให้เสียงสั่น

“นี่คุณมีข้อต่อรองด้วยเหรอ” ชายหนุ่มอมยิ้มเล็กน้อย

“ใช่”

“ไหนลองบอกมาสิว่ามีอะไรบ้าง” เขาถามอย่างใจเย็น

“ข้อแรก ฉันต้องการโฉนดคืน”

“ไม่มีปัญหา ผมจะคืนให้ทันทีที่คุณย้ายมาอยู่กับผม” เขาพูดออกมาด้วยท่าทางสบายอกสบายใจอย่างที่สุด

“ข้อที่สอง ฉันไม่ต้องการเป็นเพียงแค่ผู้หญิงของคุณ เพราะนั่นหมายความว่ามันจะเป็นเพียงแค่นางบำเรอ ฉันจะไม่ยอมลดค่าของตัวเองแบบนั้น” นภัสพูดอย่างหนักแน่น

“แล้วคุณต้องการอะไร”

“ฉันต้องการได้รับการยอมรับจากสังคม ต้องการทะเบียนสมรส คุณต้องแต่งงานกับฉันอย่างถูกต้องตามประเพณีและกฎหมาย ฉันต้องการเข้าไปในครอบครัวของคุณในฐานะภรรยาไม่ใช่นางบำเรอ”

คำพูดของเธอทำให้คนที่นั่งฟังอยู่เลิกคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย จะว่าไปเขาเองก็ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เหมือนกัน และไม่คิดว่าต้องการแบบนี้ด้วย

“ไม่คิดว่ามันจะมากไปเหรอ”

“ไม่เลยค่ะ มันน้อยไปด้วยซ้ำ” นภัสเชิดหน้าเล็กน้อย ถึงจะมีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้องแต่ก็จะไม่ยอมลดศักดิ์ศรีตนเองเด็ดขาด

“มีข้ออื่นอีกไหม” อนิรุทธ์ถามเพื่อจะได้ตัดสินใจทีเดียว

“มี”

“ว่ามาเลย”

“คุณต้องการนอนกับฉันด้วยใช่ไหม ถึงได้เสนอข้อเสนอบ้าๆ แบบนี้” ใบหน้านภัสร้อนผ่าว ถึงจะอายแต่ก็ต้องการความชัดเจนทุกสิ่ง

“ตรงมาก ดี ผมชอบ ในเมื่อถามตรงๆ ผมก็จะพูดตรงๆ ใช่ มันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว ถ้าไม่เป็นแบบนั้นผมจะอยากได้คุณมาทำไม แค่เดินควงเฉยๆ คงไม่ใช่” เขาตอบหน้าทะเล้น แถมไม่ตรงคำถามอีกต่างหาก ใจจริงอยากจะบอกอีกอย่างแต่กลับพูดอีกอย่างแทน

“ฉันจะยอมนอนกับคุณ แต่เพียงแค่หนึ่งเดือนแรกหลังจากที่จดทะเบียนสมรสแล้วและฉันไม่อยากท้อง เพราะถ้าเกิดคุณเบื่อและขอหย่าลูกจะกลายเป็นปัญหาของเรา ดังนั้นเราต้องคุมกันทั้งคู่ เพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามมา”

“คุณไม่คิดว่ามันมากไปหน่อยเหรอ” คราวนี้อนิรุทธ์ชักจะหงุดหงิดกับข้อเสนอสุดพิสดารนี้

“ไม่ คุณได้ชื่อว่าเป็นปิศาจสำหรับผู้หญิง คุณเปลี่ยนผู้หญิงบ่อยมากถึงมากที่สุด บางเดือนคุณเปลี่ยนผู้หญิงถึงสามคน ดังนั้นเรื่องอย่างว่ามันคงไม่ใช่เรื่องยากที่คุณจะหาทางระบายกับคนอื่น” นภัสพูดออกมาอย่างใจเย็น

“คุณคงจะเป็นคนขี้เบื่อ และฉันคงจะเป็นสิ่งที่หน้าเบื่อสำหรับคุณในไม่ช้า”

“รู้ดีจังนะ ว่าไหม” ที่แท้ก็หาข่าวจากพวกที่ไม่รู้ความจริง อนิรุทธ์ปล่อยให้อีกฝ่ายเข้าใจตามข้อมูลที่ได้มา

“มันเป็นข้อมูลที่หาได้ไม่ยากค่ะ”

“แล้วรู้ไหมว่ากำลังสร้างเงื่อนไขที่ไม่เข้าท่า” น้ำเสียงชายหนุ่มเข้มขึ้นเล็กน้อย

“ฉันกำลังต่อรองแลกจิตวิญญาณของตัวเองต่างหาก” นภัสสบตาเขา

คนอย่างอนิรุทธ์จะรู้อะไร แค่สิ่งที่ตัดสินใจทำลงไปเธอก็แทบไม่เหลือศักดิ์ศรีอะไรในชีวิตแล้ว

“ถ้าผมไม่ตกลงล่ะ” เขาย้อนถาม

“ฉันก็คงทำอะไรไม่ได้นอกจากทำใจ และยอมปล่อยสมบัติชิ้นเดียวของพ่อกับแม่ไป” เธอกัดฟันตอบออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่แววตานั้นเจ็บปวดอย่างที่สุด

“ไม่เป็นไร เพราะบางทีมันอาจจะไม่เป็นอย่างนั้น คุณอาจจะยอมนอนกับผมมากกว่านั้น” อนิรุทธ์พูดออกมาอย่างมั่นใจ เขาจะทำให้เธอยอมและหลงใหลในตัวเขาให้ได้

“มีข้อย่อยอีกในข้อนี้ ฉันจะยอมนอนกับคุณก็ต่อเมื่อ คุณนำเอกสารยืนยันความปลอดภัยมาให้ฉัน”

“เอกสารอะไรเหรอ” ชายหนุ่มทวนคำทันที

“ใบตรวจโรค ฉันต้องป้องกันตัวเอง และระหว่างที่เราอยู่ด้วยกัน คุณจะต้องสัญญาว่าจะไม่มีผู้หญิงคนอื่น”

“มีอีกไหมข้อต่อรองของคุณ” อนิรุทธ์แอบถอนหายใจเบาๆ

“ฉันอยากรู้ว่านานแค่ไหน ฉันถึงจะเป็นอิสระจากพันธนาการครั้งนี้”

“จนกว่าผมจะเบื่อ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องพยายามทำตัวให้ผมเบื่อนะ” เขารีบดักคอ

“คุณควรจะมีสัญญาระบุระยะเวลาของความสัมพันธ์ของเราสองคนให้ชัดเจน”

“ไม่จำเป็น ก็ผมบอกแล้วว่าจะเขี่ยคุณทิ้งก็ต่อเมื่อเบื่อ และผมก็บอกไม่ได้ว่าจะเบื่อคุณเมื่อไหร่ บางทีอาจจะแค่สองสามเดือน หรือไม่ก็อาจจะสามถึงสี่ปี หรือไม่แน่ผมก็จะขังคุณไว้กับผมไปตลอดชีวิต” อนิรุทธ์ยักคิ้วอย่างกวนๆ กลับไป

“เป็นอันว่าเราได้ทำการตกลงเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะ” นภัสสรุปตัดบทต้องการให้จบโดยเร็วที่สุด

“ใช่ เรื่องแต่งงานผมจะดำเนินการให้เร็วที่สุด คุณเตรียมเอกสารให้พร้อม เพราะคุณคงต้องขอวีซ่าจากสถานทูต”

“ทำไมต้องขอ” นภัสถามอย่างไม่เข้าใจ

“ผมมีงานที่ต้องรับผิดชอบอยู่มากนะคุณ ผมต้องกลับลอนดอนเนื่องจากญาติของผมมีภารกิจบางอย่างต้องทำ จะว่าไปก็คือต้องไปเปิดตลาดที่จีน ดังนั้นผมต้องเข้าไปดูแลงานที่นั่นจนกว่าเขาจะจัดการเรื่องต่างๆ ของตัวเองเสร็จเรียบร้อย และแน่นอนว่าผมจะไม่ยอมกลับไปคนเดียว คุณต้องไปกับผมในฐานะภรรยา ถ้าคุณต้องการที่จะให้สังคมยอมรับคุณก็ต้องไปไหนมาไหนกับผมทุกที่” อนิรุทธ์ย้ำชัดทุกคำพร้อมเอ่ยต่อว่า

“เรื่องแต่งงานรอไม่เกินหนึ่งอาทิตย์ ตอนนี้ไปเข้าคอร์สเจ้าสาวแบบเร่งด่วนเตรียมไว้เลย” เขาพูดออกมาอย่างอารมณ์ดี

“ไม่ต้องรีบก็ได้”

“ต้องรีบสิคุณ รู้ไหมผมอยากจะมีเมียจนเนื้อตัวสั่นไปหมดแล้ว ไม่ใช่แค่ตัวสั่นนะ อย่างอื่นก็สั่นด้วย”

“คุณนี่มันลามกที่สุด” หญิงสาวต่อว่าเมื่อเขาหัวเราะอย่างมีความสุข

“ผมหมายถึงหัวใจมันสั่น คุณคิดไปถึงไหน คุณนั่นแหละที่ลามก ผมยังไม่คิดอะไรเลย คุณคิดไปไกลมากเลยนะ” เขาล้อเลียนเมื่อได้โอกาส

“ฉันก็คิดแค่ใจสั่น ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่านี้” หญิงสาวรีบแก้ตัวอย่างรวดเร็ว

“จริงรึ” เขาทำเสียงล้อเลียนยิ่งเห็นเธอหน้าแดงยิ่งชอบ

“จริงสิ”

“แน่นะ”

“คุณจะมาต่อเพลงกับฉันหรืออย่างไร”

“ก็มันอดไม่ได้ เวลาคุณเขินหรืออาย คุณสวยมากนะรู้ไหม หน้าแดงๆ สวยจริงๆ นะ” ชายหนุ่มชมจากใจก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า

“ผมอยากจะขออะไรคุณสักอย่างได้ไหม”

“เรื่องอะไรคะ” หญิงสาวถามอย่างสงสัย

“ผมไม่อยากให้คุณเรียกชื่อเต็ม เรียกผมว่ารุทธ์จะดีกว่า”

“ทำไมต้องเรียกแบบนั้น” เขาถอนหายใจเล็กน้อยก่อนที่จะตอบ

“เพราะคุณไม่ใช่คนอื่น แต่กำลังจะมาเป็นคนในครอบครัว มาเป็นภรรยาของผม แม่จ๋าและทุกคนเรียกผมว่ารุทธ์กันทั้งนั้น ดังนั้นคุณควรจะเรียกผมว่ารุทธ์”

“แล้วบรรดาผู้หญิงของคุณล่ะ เรียกคุณว่าอย่างไร” นภัสถามกลับอย่างอดไม่ได้ พอคิดถึงเรื่องผู้หญิงของเขาทีไร เธอก็หงุดหงิดขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุทุกครั้งไป

“ก็หลายอย่าง ฮันนี่ ที่รัก สวีตฮาร์ต ความจริงผมมีชื่อที่เพื่อนๆ เรียกกันคือออสการ์ แต่ว่าคุณจะมาเป็นเมียไม่ได้เป็นเพื่อนดังนั้นตัดไป แล้วก็อีกหลายชื่อ เอาแบบนี้ไหม เพื่อไม่ให้เหมือนใคร พอเราแต่งงานกันแล้ว คุณเรียกผมว่าผัวจ๋าหรือไม่ก็สามีที่รักก็ดีนะ”

“แหวะ”

“อ้าว เป็นซะอย่างนั้น ผมยังไม่ได้ทำอะไรคุณเลย แพ้ท้องแล้วเหรอ” เขาจงใจที่จะยั่วโมโห

“คุณนี่มัน ฉันคงต้องเป็นบ้าแน่ๆ ถ้าต้องอยู่กับคุณทั้งวัน”

“ผมจะทำให้คุณเป็นบ้า แต่เป็นบ้ารักนะ จะทำให้คุณบ้ารักผม”

“อย่าหวังอะไรให้มันมากนักเลย ฉันจะไม่มีวันรักคุณ คุณเองก็ไม่ได้จริงจังกับฉัน คุณยอมรับข้อเสนอก็เพราะอยากได้ฉันเป็นนางบำเรอเท่านั้น ไม่ได้รักอะไรฉันเหมือนกัน” นภัสพูดด้วยน้ำเสียงที่ขมขื่นกับความรู้สึกในตอนนี้

อนิรุทธ์ทำอะไรไม่ค่อยถูกเมื่อได้ยินอย่างนั้น เขาพอจะเข้าใจความรู้สึกของเธอ คงเจ็บปวดกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเองมากพอสมควรเลยทีเดียว

“อย่าคิดอะไรที่มันจะทำให้คุณไม่สบายใจเลย คิดในแง่ดีจะดีกว่า คิดสิว่าจะเอาคืนผมโดยการผลาญเงินผมเล่นก็ได้ ผมไม่ว่าหรอก” เขาพยายามทำให้เธอลืมเรื่องไม่สบายใจ อย่างน้อยคำพูดแบบนี้มันจะทำให้เธอโกรธและลืมเรื่องเศร้าไปได้บ้าง

“ฉันไม่มีทางคิดแบบนั้น เงินของคุณไม่ใช่เงินของฉัน” เธอเสียงเขียว

“เอาละ เราตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ผมหวังว่าคุณจะไม่เปลี่ยนใจ เพราะถ้าเกิดคุณเปลี่ยนใจละก็ ผมจะบีบคอคุณ”

“คุณไม่ต้องกลัวว่าฉันจะเปลี่ยนใจ เหยื่อที่ยอมเดินตรงเข้ามาหาราชสีห์ย่อมแสดงว่า มันตั้งใจเอาไว้แล้วว่าพร้อมที่จะตาย”

“พูดได้ดี ขอให้เป็นแบบที่พูดจริงๆ ก็แล้วกัน” เขาย้ำอีกเสียงเข้ม

“ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว ขอตัวไปทำงานก่อน” นภัสตัดบท เพราะถ้าคุยกับเขานานกว่านี้เธอได้เสียสติแน่ๆ

“ตามสบายเลยว่าที่เมีย ว่าแต่กลางวันและตอนเย็นไปกินข้าวด้วยกันนะ”

“วันนี้กลางวันนัดกินข้าวกับคนอื่นไว้แล้ว”

“ถ้าเป็นไอ้หน้าจืดคนนั้น ขอสั่งห้าม” อนิรุทธ์เสียงดังฟังชัดขึ้นมาทันที

“คุณห้ามฉันไม่ได้ และฉันจะไม่ทำตามถ้าคำสั่งนั้นมันไม่มีเหตุผลมากพอ” เธอโต้ตอบอย่างไม่เกรงกลัว อนิรุทธ์มองสบตาคู่หวานอย่างท้าทายเมื่อได้ยินแบบนั้น

“ห้ามได้สิ ผมต้องห้ามคุณได้แน่ คุณเป็นว่าที่เมียของผมนะ”

“ก็ยังเป็นแค่ว่าที่ แต่ยังไม่ได้เป็นเมีย” เธอสวนกลับทันทีก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องทำงาน โดยไม่สนใจว่าคำพูดนั้นจะทำให้อีกฝ่ายขุ่นเคืองใจมากแค่ไหน



-------------------------------------------

ฝากลิงค์อีบุ๊คนะคะ

https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjA3NzE5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NjoiMTIxOTc0Ijt9

รีวิวจากผู้อ่าน
ยังไม่มีรีวิวสำหรับเรื่องนี้

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว