รักหมดใจยัยเด็กดื้อ
“พี่ไทม์ จอดตรงนี้แหละ จอดๆ ๆ”
“เฮี้ยดดด กึก” เสียงรถจากัวร์สีบร์อนเงินจอดเทียบฟุตบาทหน้าคณะอย่างกะทันหันจนคนที่เร่งให้จอดแทบหัวทิ่มกระจกออกไปสวัสดีชาวโลกทั้งหลายที่พร้อมใจหันมามองกันถ้วนหน้า
“หัวหนูเกือบชนกระจกแล้วนะใจร้าย งอน....” ว่าและก็แกล้งงอนมันซะเลยดีไหมวะ ฉันหันใบหน้าอันแสนน่ารักที่สุดในสามโลกของตัวเองออกไปนอกรถไม่สนใจร่างสูงที่นั่งหน้านิ่งอยู่ข้าง เออเขาเป็นคู่หมั้นฉันไงละ หมั้นกันมาได้ตั้งเกือบจะปีแล้ว
“ลงเร็วๆ เลย” สั้นๆง่ายๆได้ใจความแม่งไม่สนใจฉันเลยอ่ะไม่ลงงอนอยู่ไม่ง้อก็ไม่ลงเอาสิฉันเรียนสายอีพี่มันนี่ก็ต้องไปทำงานสายเหมือนกัน
“น้องเพลงเดี๋ยวสายมีเรียน 9.00โมงไม่ใช่หรือไง?” น้ำเสียงเนื่อยๆกับใบหน้าหล่อๆของคุณคู่หมั้นสุดที่รักของฉันหันมามองเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปมองยังเบื้องหน้าแล้วขมวดคิ้วแน่นทำหน้ายุ่งตามสไตล์
“ดื้อ..เราไปทำอะไรไม่ดีมาหรอไงทำไมคนต้องมองเยอะขนาดนั้น”
และก็เช่นเดิมดังทุกครั้งที่เขามาส่งฉันที่มหาลัย ฉันก็มักจะได้ยินเสียงบ่นแบบนี้เสมอคือแบบว่าเอาง่ายๆฉันน่ะเป็นหนึ่งในสาวสวยสุดฮอตติดท็อปไฟว์ของมหาลัยมาสองปีซ้อนพ่วงด้วยตำแหน่งอดีตดาวมหาลัย คือคนมันฮอตไงแฟนคลับทั้งผู้หญิงและผู้ชายทั้งหลายเลยมารอคอยเป็นไทมุงกันแต่คือผู้ชายพอจะเข้าใจนะว่าฉันน่ะสวยมีความรวยมาแต่กำเนิดเลยมีความเลิศมาเป็นกำไรแต่ที่ไม่เข้าใจคือผู้หญิง...มึงมามุงดูอะไรวะ
“อ่ะแหน่ลุง หึงเค้าอ่ะดิ..หึงใช่มั้ยๆ”
ฉันยื่นปลายนิ้วเรียวไปจิ้มแก้มนิ่มๆเนียนใสไร้สิวของคนข้างๆ สองสามทีอีตาลุงขี้บ่นก็หันมามองฉันตาขวางปากสีแดงสดธรรมชาติอย่างคนสุขภาพดีบ่นขมุบขมิบอะไรไม่รู้ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาเสียงนิ่งๆ พร้อมกับส่ายหน้าน้อยๆ
“เดินลงดีๆ เร็วๆ พี่รีบมีประชุมสำคัญ”
น้ำเสียงราบเรียบทว่าแฝงความจริงจังดังออกจากริมฝีปากหยักสวยสีแดงน่าจุ๊บของของอีตาลุงขี้บ่นทำให้ฉันยู่ปากไม่พอใจน้อยๆ วันนี้ยังไม่ได้แกล้งเลยก็นะไม่ว่าจะแกล้งใครก็ไม่สนุกเท่ากับแกล้งลุงอ่ะมันชุ่มชื่นหัวใจดียิ่งเห็นเขาทำหน้ายุ่งๆมันก็ยิ่งอยากแกล้งยิ่งบ่นใส่แม่งก็ยิ่งเร้าใจฮ่าๆๆเออกูโรคจิตไง
“ลงก็ได้เชอะ”
ฉันเปิดประตูก้าวลงจากรถก่อนจะปิดประตูเบาๆหันหลังพร้อมกับยิ้มโปรยสเน่ห์ให้แฟนคลับบางคนที่ตั้งก้องถ่ายรูปประหนึ่งฉันเป็นดาราฉันก้าวขาจะเดินขึ้นตึกเรียนเดาว่าป่านนี้ยัยเพื่อนๆตัวแสบของฉันคงรอบ่นอยู่เปิดเทมอสองวันแรกก็เกือบเข้าสายแล้ว
“เพลงขวัญ!” เสียงเรียกที่คุ้นเคยดึงฉันให้หันมองกลับหลังอีกครั้งก็เห็นว่าอีตาลุงพี่ไทม์ลดกระจกรถลงก่อนจะชะโงกหน้าหล่อๆ ออกมาน้อยๆ
“เลิกแล้วโทรหาห้ามดื้อกลับก่อนห้ามหนีเที่ยวเข้าใจไหม?” จ้าพ่อทูนหัวของบ่าวฉันยิ้มกว้างทันทีที่อิพี่มันพูดจบผู้ชายบ้าอะไรน่าฟัดให้จมเตียงเฮ้ยน่ารักน่าใคร่ดีต่อใจวัยรุ่นชอบ
“รับแซ่บครับผม” ฉันยืนตะแบะเท้าเข้าหากันพร้อมกับยกมือขึ้นทำท่าเคารพเหมือนทหารอีตาลุงเสือยิ้มยากพูดน้อยต่อยหนักก็ยิ้มรับพยักหน้าน้อยๆกับท่าทางของฉันพร้อมกับเคลื่อนรถห่างออกไป
ห้องเรียน
ฉันก้าวเข้ามาในห้องเรียนที่อาจารย์ประจำวิชายังไม่มานักศึกษาก็ยังพากันคุยเล่นหยอกล้อกันสนุกสนานฉันกวาดสายตาไปเจอกลุ่มเพื่อนรักตั้งแต่สมัยมัธยมของฉันมันกำลังเล่นหัวเอ่อ..ถักผมให้กันอยู่อีกมุมหนึ่งของหลังห้องก่อนที่พากันหันมาเห็นฉันแล้วโปกไม้โปกมือให้เดินเข้าไปหา
เอาล่ะขอแนะนำตัวนิดหนึ่งฉันชื่อเพลงขวัญ นิธิเกรียตริไพศาสกุล เรียนอยู่คณะนิเทศเอกถ่ายภาพและการจัดการสารคดี ปี 2 เทมอ 2 มหาลัย MB ก็ไม่อยากจะอวดหรอกแต่อยากอธิบายฉันน่ะเป็นหนึ่งในท็อปไฟว์สาวสวยแถมอดีตดาวคณะและดาวมหาลัยด้วยถ้าถามว่าได้มาอย่างไร ตอบง่ายๆ ....สวยไงถามว่าโสดไหมตอนนี้บอกเลยว่า ฮึ! ไม่แล้วค่ะสถานะมีคนจับจองเป็นแม่ของลูกเรียบร้อย และฉันก็ยินดีให้จับจองมาก
อิพี่ไทม์เคยเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนมัธยมฉันมาก่อนตอนนั้นฉันก็แบบเป็นรุ่นน้องสาวน้อยม.สองแอบส่องรุ่นพี่มอหกที่กำลังจะจบตามประสาวัยรุ่นมุ้งมิ้งแอบปลื้มแอบตามเขาต้อยๆ เมียนมองอย่างกับโรคจิตลักกางเกงในจนเขาเข้ามหาลัยเลยล่ะไปๆ มาๆ ฉันก็โตขึ้นเป็นสาวงามคิดว่าจะเลิกชอบล่ะแต่ผิดคลาดก็พี่ไทม์แม่งหล่ออ่ะมหาลัยเสือกอยู่ใกล้กับโรงเรียนอีกก็เลยยิ่งชอบขึ้นไปเรื่อยๆ ไงรู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นคู่หมั้นกันซะงั้น คือบังเอิญพ่อแม่เราสองคนเป็นเพื่อนกันเลยบังคับแต่ฉันเต็มใจส่วนอีตาลุงนะหรอ ก็คงต้องเต็มใจตามระเบียบลูกชายคนเดียว
ถ้าถามว่าทำไมฉันเรียกเขาว่าลุง อันที่จริงอีตาพี่ไทม์เนี่ยเรียนจบแล้วจบสามปีครึ่งน่ะแม่งเก่งไงเบื่อ! ฉันชอบเรียกพี่ไทม์ว่าลุงก็เพราะเขาอายุห่างจากฉันประมาณสี่ถึงห้าปีได้ที่สำคัญคือชอบบ่นฉันอ่ะ บ่นและก็บ่นยิ่งกว่าพ่อตอนแรกว่าดูเป็นคนนิ่งๆนะแต่ลองให้พี่แกพูดขึ้นมาสิ...ฮึ่ยน่าแกล้งให้บ่นไปตลอดชีวิตเลยว่าแล้วก็อยากจะจับปล้ำแม่งบ่นอยู่นั้น
“อะไรย่ะ ชะนีน้อยหอยสังข์ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่” กำลังเพ้อเจ้อได้ที่อยู่ดีๆก็มีมือหยาบๆของยัยมีมี่ชะนีกล้วยไข่มาจิ้มกล่องความคิดอันสวยงามของฉันแตกเพล้งไปกลางอากาศ
“แหม ก็เห็นว่าพี่ไทม์เขามารับมาส่งแกอยู่ทุกวันจะเพ้อไรนักหนาว่ะ”
ยัยไออุ่นผู้มีชื่อเป็นสาวหวานหน้าก็หวานขัดกับนิสัยที่แท้จริงพูดขึ้นฉันก็หันไปยิ้มหวานใส่มันทันทีก็คนมันมีความสุขอ่ะ วันนี้ใครด่าเพลงขวัญก็ไม่โกรธคะ อารมณ์ดีเหมือนหน้าตา คริๆ
“ไม่เหมือนนะวันนี้พี่ไทม์พูดเหมือนหวงฉันด้วย....” ฉันยกมือขึ้นทั้งสองข้างท้าวคางตัวเองไว้ฉันชอบนะเวลาเขาบ่นฉันเพราะฉันมันทำให้รู้สึกว่าเขาเป็นห่วง.... เขาบอกเหรอก็เปล่าหรอกแต่ฉันโตแล้วมโนเองได้
“ยังไงๆ” สองชะนีเขย่าแขนฉันคนละข้างอย่างอยากรู้อยากเห็น โอ้ยหน้าฉันเกือบจะกระแทกโต๊ะแล้วไอ้เพื่อนบ้าพวกนี้นี่โชคดีนะเนี่ยวันนี้เรียนคลาสรวมคนเยอะไม่งั้นตายหมู่เพราะแต่ละคนสนใจเรียนกันมาก
“ก็วันนี้น่ะ....พี่ไทม์บอกว่าห้ามหนีเที่ยว ห้ามกลับก่อน แสดงว่าเขาต้องห่วงต้องหวงฉันม๊ากมาก” ตอบพร้อมรอยยิ้มหน้าระรื่นสองชะนีก็เบะปากมองบนทันที อะไรกันต้องยิ้มดิไม่ดีใจรึไงเพื่อนมีความสุขขนาดนี้
“มโนได้อีกเพื่อนกู....”
ยัยอุ่นเอามือตบหน้าฝากตัวเองเบาๆ ก่อนจะฟุบหน้าลงไปนอนเอียงราบหันหน้าหนีไปกับพื้นโต๊ะส่วนยัยมีมี่ชะนีกล้วยใข่ที่มองยังไงๆก็สวยกว่าหญิงแท้ๆก็เลิกสนใจฉันหันมาตั้งอกตั้งใจจดเลคเชอร์ทันทีอะไรกันว่ะ
“เอ้าทำไมอ่ะ..ยัยอุ่น ยัยมี่ไม่เชื่อหรอฉันพูดจริงนะเว้ยปกติอ่ะพี่ไทม์ใช่ว่าจะพูดแบบนี้บ่อยๆนะ” ฉันว่าขึ้นก่อนจะหันไปเขย่ายัยเพื่อนยากทั้งสองคนให้หันมาสนใจแต่มันก็จริงนะอีตาลุงอ่ะไม่ค่อยพูดอะไรแบบนี้บ่อยๆหรอกเห็นบ่นอย่างนั้นฉันอย่างนี้แต่ก็เป็นเพราะฉันชอบแกล้งดื้อใส่เขาต่างหาก
“พี่ไทม์นะ เขาเป็นคนดีจะตายไปแค่ทำตามคำสั่งป๊าแกหรือเปล่า” ยัยอุ่นหันหน้ามาพูดทั้งๆที่ยังนอนอยู่เอ่อจริงๆมันก็ส่วนหนึ่งนะแต่ฉันเคยถามพี่ไทม์ไปแล้วเขาบอกว่าเต็มใจไง
“ใช่ยัยเพลงเอางี้พิสูจน์ไหมล่ะ” ยัยมีมี่เอ่ยขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มชั่วร้ายเอาอีกแล้วมันต้องชวนฉันทำเรื่องแผงๆอีกแน่แต่เอาเถอะฉันมันพวกชอบอะไรสนุกๆด้วยสิไม่ลองก็ไม่รู้ใช่ไหมล่ะ......
พี่ไทม์ขี้บ่นVs.น้องเพลงขี้ดื้อ
#เรื่องนี้เเต่งจบเเล้วจะลงให้อ่านทุกวันวันละตอนนะคะหรืออาจจะวันเว้นวันนะคะเเต่จะขอติดเหรียญบางตอนสำคัญเช่นNC เพราะค่อนข้างบรรยายชัดเจนส่วนอื่นๆจะติดเมื่อทิ้งช่วงไปสักระยะเวลาหนึ่งหรือทันทีหลังลงตอนอื่นค่ะ