..........มีนเหงานอนคนเดียวเมื่อไม่มีเจซีนอนเป็นเพื่อนจึงมาหาถึงคอนโดของมุนีและบ่นทำนองต่อว่าเจซี
“นายปล่อยให้ฉันนอนคนเดียวเลยน่าจะอยู่เป็นเพื่อนกันหน่อย ฉันอยู่ห่างไกลแฟนไม่มีคนนอนกอด คิดถึงชลีเคยกอดนอนทุกคืนนี่เจ็ดคืนแล้วที่ไม่เห็นหน้ากัน”
เจซีนั่งบนโซฟายาวเบียดซบอยู่กับมุนี จมูกนั้นถูไถข้างแก้มอิ่มของมุนีแล้วเลื่อนไล้ไปข้างซอกคอจูบย้ำทำให้อีกฝ่ายเผยอปากผ่อนลมหายใจเงยหน้าหลับตาอย่างมีอารมณ์ร่วม
มีนมองหน้ามุนีแล้วให้หัวใจกระตุกแวบหนึ่งเกิดวาบหวิวในหัวใจทันทีอย่างช่วยไม่ได้ ด้วยยังไม่คุ้นเคยกับชายเกย์เมื่อเห็นผู้ชายหอมแก้มกันกอดเบียดบี้กันอย่างที่เจซีทำกับมุนี
“นายอย่าทำหน้าอย่างนั้นได้ไหมมุนี ฉันใจแหว่ง มันหวิวว่ะ...”
“จะมาว่าผมคนเดียวได้ไงพี่มีน เจซีชอบปลุกอารมณ์ผมก็เคลิ้ม... ดูสิมือไม้อยู่ไม่สุขจับบีบก้นผมอีก”
มีนมองตามอ้อมแขนของเจซีเหมือนโอบกอดแต่มือซุกเข้าข้างสะโพกจึงเอื้อมมือไปตีมือซุกซนของเจซี
“โธ่มีนก็... มุนีน่ารักนี่ง่ายกับผมยอมผมทุกอย่างให้กอดให้จูบให้ผมทำอะไรก็ได้ คนมันกำลังหิวห่างแฟนไม่ได้กอดกันเลยหลายคืนผมทนนอนเหงาอยู่ว่างเปล่าเอาแต่คิดถึงคีย์ไม่ไหวนี่ ของาบมุนีแทนไปพลางๆ ก่อนละกัน เข้าใจคีย์เลยที่เคยเป็นแฟนมุนีคงเพราะอย่างนี้ตอบสนองได้หนำใจสุดยอดกอดได้เต็มไม้เต็มมือ”
เจซีพร่ำพรรณนาขณะอยู่ในอารมณ์ใคร่ชื่นชมยกย่องคู่สวาทบาดใจไม่ขาดปาก
มีนส่ายหน้าระอาใจกับชายจอมเจ้าชู้มักมากในกามอย่างเจซี
“ฉันรู้เรื่องความใคร่กับใครก็ได้ไม่จำกัดจำนวน แต่ความรักแท้ในหัวใจจำกัดแค่เพียงหนึ่งเดียวในหัวใจ ถ้าหากความใคร่ครอบครองจิตใจจนคุกคามความรักด้วยการนอกใจกันนายไม่แคร์ความรู้สึกของคีย์หรือถ้ารู้ว่านายกำลังทำอย่างนี้อยู่กับมุนี ป่านนี้คีย์คงกำลังนอนคนเดียวเปลี่ยวเหงาคิดถึงนายอยู่”
ต่อว่าเจซีแล้วมีนถึงลุกขึ้นเดินออกไปนอกห้องไปยืนตรงระเบียงรับลมกลางคืน
พูดถึงความรักแน่นอนว่าเจซีรักคีย์มากกว่าใครอื่นทั้งมวล เขาจึงลุกขึ้นเดินตามมีนออกไปคุยกันตรงระเบียง
มุนีถูกขัดจังหวะขณะกำลังอยู่ในอารมณ์เคลิ้มกับอ้อมกอดของเจซีถึงกับบ่นลับหลัง
“เซ็งจิต... ไอ้จอมเจ้าชู้”
ทันทีนั้นจึงฉวยจังหวะว่างเพียงเสี้ยวนาทีหยิบมือถือโทรหาคนที่เขาคิดถึง...
“หมดช่วงพายุเข้าวันมะรืนพี่คีย์จะมากระบี่นี่ใช่ไหม”
“ยังไม่ว่างเลยพี่ติดธุระสำคัญมากต้องไปล่องเรืออีกสองคืน คงอีกสามวันกว่าจะไปได้นะมุนี”
“ผมคิดถึงพี่คีย์ คนทางนี้รอพี่คีย์อยู่หลายคนนะยังไงรีบมาให้เร็วหน่อย”
ขณะนั้นยังไม่ทันคุยจบดีสายตาของมุนีได้เหลือบมองเห็นสิ่งแปลก! เจซีให้นิ้วจิ้มเล่นจี้เอวของมีน ถ้าเจซีไม่มีใจนึกคิดพิศวาสผู้ชายด้วยกันย่อมไม่หยอกเย้าเล่นอย่างเป็นคู่รักกันเช่นนั้นแน่ จึงพูดบอกเตือนคีย์
“เพราะถ้ามาช้าคู่รักของพี่คีย์คงมีนอกใจกลายเป็นของชายอื่น พี่คีย์คงรู้นิสัยแฟนพี่คีย์มันเจ้าชู้ หัวงูอนาคอนด้ายังต้องเรียกมันว่าตัวพ่อเลย”
แล้วมุนีรีบกดตัดสายมือถือเพื่อถ่ายรูปฉับไวส่งไปให้คีย์ดูรูปถ่ายที่เจซีเล่นจี้เอวมีนแถมปิดท้ายได้ช็อตเด็ดด้วยการกอดคอหัวร่อต่อกระซิกกับมีน
คืนนี้มุนีได้กลับไปนอนที่ไร่โรจนานำบ้านตนเอง เพราะต้องขับรถไปส่งเจซีกับมีนที่บ้านใหญ่ของตระกูลเกศิยามน เมื่อเจซีใจอ่อนกลับไปนอนเป็นเพื่อนมีนผู้ชายเหงาขี้อ้อนเหลือเกินอย่างที่มุนีสู้ไม่ได้เลย
..........คีย์นอนไม่หลับกับรูปถ่ายในมือถือรูปแล้วรูปเล่าที่มุนีส่งมาให้ดู มีนเป็นผู้ชายหน้าตาน่ารักที่โดนหยอกเย้าโอบกอดคออยู่นั้นคือเจซีแฟนของคีย์เอง เกิดเครียดขึ้นมาถึงต้องลงมาหากาแฟกินในห้องอาหารที่มีตู้เย็นเล็กเก็บขนมและโต๊ะกาแฟ
ชลีอยู่ในห้องครัวคุยกับโรสและทานนมอุ่นก่อนนอนเห็นเงาหลังคีย์จึงเดินเข้ามาดูและอยู่คุยเป็นเพื่อน
“เขาทำให้ฉันเครียด รู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่าเจซีไม่เคยซื่อสัตย์กับความรัก”
คีย์กล่าวขณะยืนอยู่ข้างหน้าต่างหันมองออกไปข้างนอก น้ำตาคลอ...
ชลีมองรูปถ่ายที่คีย์ยื่นให้ดูจากมือถือของเขาแล้วเข้าใจได้เลยว่าเขาต้องคิดมากแน่ แต่เธอรู้จักพี่มีนของเธอดี
“พี่มีนไม่ใช่เกย์ไม่มีวันคิดแย่งเจซีไปจากคีย์หรอก อย่าคิดมากเลย”
“แต่เจซีทำได้ทุกอย่างถ้าเขาฮึดขึ้นมาเวลาอยากได้เขาจะต้องพยายามทำเพื่อเอามาเป็นของตัวเองให้ได้ ฉันผ่านช่วงนั้นมาแล้วถึงต้องเลิกกับมุนีเพราะเจซีนี่ล่ะ เขาเคยขู่ฉันห้ามนอกใจเขา ถ้าฉันรักใครอื่นเขาจะฆ่าคนที่ฉันรัก ด้วยอำนาจเงินฉันรู้เขาทำได้ ที่ผ่านมาสามปีกว่าฉันถึงไม่เคยคิดนอกใจเขาเลย มีแต่คอยตามหึงหวงเขาตลอดเพราะเขาคอยแต่คิดจะนอกใจ ถึงตอนนี้จะให้ตามหึงหวงยังไงมันเหนื่อยใจไปหมดแล้ว คืนนี้ฉันรู้สึกว่าล้าเหลือเกิน”
คีย์พร่ำรำพันพรั่งพรูน้ำตาไหลร่วง...
แม้แต่ตอนร้องไห้ยังเห็นได้ถึงความงามเหงาเศร้าน่าสงสารของคีย์ ชลีถึงได้ใช้วงแขนโอบกอดคนทุกข์ระทมรักไม่สมหวังเพื่อปลอบใจ
บรรยากาศภายนอกหน้าต่างนั้นสายฝนพรำ แสงฟ้าแลบแปลบปลาบสว่างวาบเป็นระยะท่ามกลางความมืดหม่นขมุกขมัว ชลีหวังเป็นมิ่งมิตรที่มีน้ำใจต่อคีย์ให้ความอบอุ่นยามเขาเศร้าเหงาอย่างนี้
..........คีย์ตื่นเช้ามายืนข้างหน้าต่างในห้องอาหารมองดูสายฝนตกพรำอีกหลังจากเพิ่งหยุดไปตอนดึกยันเช้าตรู่
“คงรอฝนหยุดตกไม่ได้ ถ้าหลังกินข้าวเช้าแล้วฝนยังไม่หยุดตกคงต้องขนของกันทั้งฝนกำลังพรำนี่ล่ะ”
วันนี้เขาต้องเตรียมจัดโปรแกรมการล่องเรือจึงสั่งคนงานไปช่วยขนของลงเรือยอร์ชลำใหญ่ของบ้านมิอุระ ในเรือต้องพรั่งพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกไม่ว่าจะเป็นร้านเสริมสวยและสปาซึ่งลูกค้าเป็นคนรวยทั้งนั้นวันนี้ปิดร้านบนเกาะต้องขนอุปกรณ์ไปลงเรือเพื่อเปิดบริการลูกค้าบนเรือแทน ร้านขายขนมและเครื่องดื่มต้องเตรียมอาหารและขนอุปกรณ์ไปลงเรือเพื่อเตรียมขายให้ลูกค้าในวันรุ่งขึ้นซึ่งพรุ่งนี้เรือจะแล่นออกจากเกาะนี้ไป ร้านค้าเหล่านี้เช่าพื้นที่ของคีย์ดังนั้นเขาจึงชักชวนให้ร่วมไปล่องเรือด้วยพร้อมทั้งช่วยอำนวยความสะดวกในการขนย้ายข้าวของโดยส่งคนงานมาช่วยขนของ
เจ็ดวันที่ชลีมาอยู่ที่นี่เพิ่งเห็นคนงานบ้านคีย์มีมากเกือบสามสิบคน โรสบอกว่าพวกเขาอาศัยอยู่บ้านพักคนงานที่ห่างจากบ้านติดหน้าผาแห่งนี้ชลีจึงไม่เคยได้เห็นพวกเขามากนัก ปกติพวกเขาทำไร่คอยดูแลและปลูกต้นยูคาลิปตัสกับต้นปาล์มน้ำมันกับอ้อยรวมทั้งไผ่ นอกนั้นเป็นคนงานเรือประมงน้ำลึก ซึ่งเธอเพิ่งรู้ว่าบ้านคีย์ใช้ท่าเรือของบ้านมิอุระเพื่อขนส่งสินค้าจำเป็นนั่นทำให้เขาต้องไปมาหาสู่บ้านมิอุระอยู่ตลอดรวมทั้งบ้านนี้สั่งซื้ออาหารทะเลกับคีย์ประจำเช่นเดียวกับบ้านของมิสเตอร์จางและบ้านคนเวียดนามด้วย นอกจากนี้เรือประมงน้ำลึกของคีย์ยังจับปลาส่งขายโรงงานปลากระป๋องของเจซีที่ลงทุนสร้างโรงงานอยู่ใกล้ชายฝั่งเวียดนาม แต่เจซียังไม่รู้ว่าเรือประมงน้ำลึกของคีย์เดินทางไปมาถึงเกาะแห่งนี้ด้วย
ชลีกับวรรณกนกติดตามนั่งรถไปดูพวกเขาขนของขึ้นเรือยอร์ชลำใหญ่ยาวหนึ่งร้อยเมตรชื่อเรือซันฟลาวเวอร์ ซึ่งต้องนั่งรถไปสามกิโลเมตรจากตัวบ้านติดหน้าผาแห่งนี้จึงถึงท่าเรือของบ้านมิอุระ คลื่นยังคงกระแทกแรงทางเดินขึ้นเรือกระดอนขึ้นลงต้องระวังตัวจับราวสะพานไว้ให้มั่นเวลาเดินไม่ให้ล้มกลิ้งตกลงน้ำทะเล
พอขึ้นเรือได้ถึงเห็นความกว้างใหญ่ของเรือมีห้องมากมาย ห้องที่โดดเด่นสุดคือห้องโถงใหญ่ติดตั้งเวทีสำหรับจัดงานปาร์ตี้ให้นักร้องนักดนตรีได้ขึ้นไปร้องเพลง มีเก้าอี้มุมโซฟาให้นั่งดูการละเล่นและพักผ่อน ถัดไปที่น่าสนใจที่สุดทุกคนต้องมาที่ห้องนี้คือห้องอาหารซึ่งมีพ่อครัวกับผู้ช่วยและพนักงานเสิร์ฟทั้งสาวและหนุ่มจำนวนสิบกว่าคนซึ่งวันนี้วุ่นกับการจัดลำเลียงข้าวของทั้งผักผลไม้จำนวนมากน่ากินทั้งนั้น ชลีกับวรรณกนกมองดูอย่างตื่นเต้น
“เสียดายเนอะวรรณกนกไม่ได้ไปด้วย”
ชลีจับมือวรรณกนกอย่างเสียดายแทนอยากให้ไปด้วยแต่เกรงใจคีย์ เพราะทั้งตัวเธอและวรรณกนกต่างเป็นผู้อาศัยไม่ใช่ญาติสนิทไม่มีสิทธิ์เรียกร้องสิ่งใด
“ไม่ต้องเสียดายหรอก พรุ่งนี้เช้าเธอจะได้กลับบ้านไปหาพ่อแม่และครอบครัวของเธอเตรียมตัวเก็บข้าวของมีค่าของใช้ส่วนตัวเธอให้เรียบร้อยนะเย็นนี้ ฉันจะขับแมงปอของฉันไปส่งเธอที่สนามบินเมืองกระบี่”
คีย์เดินมาบอกวรรณกนกขณะเดินดูคนงานขนลำเลียงข้าวของ
..........หกโมงเช้าคีย์ขับแมงปอซึ่งเป็นเฮลิคอปเตอร์ของเขาพาวรรณกนกไปส่งยังสนามบินจังหวัดกระบี่แล้วบินกลับมารับมิสเตอร์จางจากคฤหาสน์พักตากอากาศที่เกาะและจอดเฮลิคอปเตอร์ไว้ที่ดาดฟ้าลานจอดบนเรือซันฟลาวเวอร์ของฮอนมะ ส่วนผู้โดยสารที่จะไปกับเรือมีทั้งหมดประมาณห้าสิบคนค่อยทยอยพากันมาขึ้นเรือตลอดทั้งวัน โดยเรือจะออกจากท่าเรือในตอนบ่ายสี่โมงเย็น
นายจั่นพ่อของโรสเป็นคนขับรถมาคอยรอรับส่งชลีในตอนเที่ยงวัน ถึงท่าเรือบ้านมิอุระก็ช่วยลากกระเป๋าเดินทางใบเล็กไปตามสะพานปูนทอดยาวไปยังเรือซันฟลาวเวอร์ ตอนนี้ไม่เห็นเรือประมงน้ำลึกของคีย์ที่เคยจอดทอดสมออยู่ถัดไปคาดว่าน่าจะออกทะเลไปก่อนหน้านี้
เมื่อส่งชลีขึ้นเรือได้แล้วนายจั่นจึงขับรถกลับบ้านไป
ฝ่ายชลีมีลูกเรือชายที่ทำหน้าที่เหมือนพนักงานต้อนรับมานำทางพาไปยังห้องพักซึ่งต้องลงบันไดไปอยู่ชั้นล่าง ห้องไม่กว้างนักแค่พอดีเตียงนอนคู่ขนาดใหญ่กับตู้หัวเตียงปลายเตียงตั้งตู้เสื้อผ้า มีหน้าต่างกว้างห้าฟุตอยู่สูงจากระดับเตียงประมาณสามฟุตและเธอจะต้องนอนร่วมห้องเดียวกับคีย์!
นั่นล่ะที่ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ ชลีนึกหวั่นหวาดกลัวจะเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าหนอ?
..........ตั้งแต่ขึ้นเรือมายังไม่รู้ว่าคีย์อยู่ที่ไหนยังไม่เห็นหน้ากันแต่ท้องร้องบอกหิวข้าว ชลีจึงขึ้นบันไดไปชั้นบนเป็นห้องอาหารของเรือสั่งอาหารทานฟรีเพราะอาหารทุกอย่างคีย์เหมาจ่ายล่วงหน้าเรียบร้อย ออกจากห้องอาหารเดินแวะไปร้านกาแฟและเบเกอรี่ซึ่งมาเปิดร้านขายบนเรือใช้บัตรคูปองอาหารก็ได้มานั่งทานสบายใจ กินอิ่มจึงแวะไปร้านเสริมสวยสระเซ็ตผม อยู่คนเดียวมานานนับชั่วโมงโดยไม่ได้รู้จักพูดคุยกับใครเลยเดินมาห้องโถงที่มีการแสดงบนเวที ช่วงนี้เปิดโอกาสให้ใครก็ได้สามารถขึ้นไปร้องเพลงคาราโอเกะบนเวทีได้ตามใจ แต่ชลีนุ่งกระโปรงสั้นชายกระโปรงบางบานพลิ้วจึงไม่กล้าขึ้นเวทีให้ใครเห็นเพราะที่นี่มีทั้งผู้หญิงและผู้ชายดูอยู่รวมกันโดยมีเก้าอี้ให้นั่งดูนั่งฟังสำหรับแฟนเพลง ส่วนถัดออกมาจากเก้าอี้เป็นแถวของโซฟาเข้ามุมและมีพนักงานเสิร์ฟเครื่องดื่มเป็นชายหนุ่มคอยรอให้บริการ
ชลีสั่งเครื่องดื่มจำพวกนมผสมโซดานั่งเล่นอยู่พักเดียว คีย์ถึงเพิ่งโทรตามตอนบ่ายสามโมงเย็นหลังคลุกอยู่กับฮอนมะและมิสเตอร์จางในห้องประชุมและเดินเล่นเที่ยวชมเรือกันไปแล้ว
“มีข่าวดีจะบอกฉันขายเฮลิคอปเตอร์ได้แล้วล่ะ มิสเตอร์จางโอนเงินให้ห้าล้านเลยทันที”
คีย์นั่งยิ้มร่าขณะบอกข่าวดีของเขาสองอ้อมแขนโอบกอดรอบตัวเธอ
“งั้นเหรอดีใจด้วย”
เธอพลอยยินดีไปกับเขาด้วย
“ฉันเลยแบ่งเงินให้เธอแสนหนึ่งนะชลีโอนเข้าบัญชีเธอแล้วลองเช็คดูยอดเงินในบัญชีเธอสิ”
ได้ฟังดังนั้นชลีตาโตดีใจรีบกดดูยอดเงินผ่านแอพให้บริการของธนาคาร
“หา! มีเงินโอนเข้ามาแล้วแสนหนึ่งจริงด้วย ขอบคุณมากนะคีย์”
พร้อมการขอบคุณชลีได้โอบกอดรอบคอเขาตอบแทน
เป็นสุขชื่นมื่นกันไปพักใหญ่ก่อนถึงเวลาอาหารเย็น คีย์ไม่มีคุยธุรกิจกับใครจึงอยู่เป็นเพื่อนทานอาหารค่ำกับชลี นั่งริมหน้าต่างชมพระอาทิตย์ตกขอบฟ้าลาท้องทะเลไปในความรู้สึกสงบสุขเย็นสบายใจ ไม่ค่อยได้คุยอะไรกันอีกแค่นั่งมองหน้าสบตากันและกันได้เห็นความสวยงามเพลินตาเพลินใจรู้สึกดีที่ตอนนี้ได้อยู่ในสายตาของกันและกัน
ตอนหัวค่ำเปิดฟลอร์เต้นรำในห้องโถงคีย์ต้องขึ้นไปเอนเตอร์เทนแขกเหรื่อในเรือนี้โดยการร้องเพลงและเต้นไปสามสี่เพลง เหงื่อตก... ลงมานั่งพักที่โซฟาเข้ามุม
ชลีส่งผ้าเย็นให้เช็ดใบหน้าและลำคอ นั่งได้พักหนึ่งคีย์จึงชวนออกไปเต้นรำในฟลอร์ด้วยกัน เห็นฮอนมะเต้นรำอยู่กับพวกผู้หญิงญาติสนิทมิตรสหายของมิสเตอร์จาง
เลิกจากเต้นรำคีย์ชวนชลีไปลงแช่อ่างน้ำวนที่มีอุณหภูมิอุ่นพอเหมาะสบายตัว แต่ชลียังอายอยู่ถ้าต้องโป๊ต่อหน้าคนอื่นจึงไม่ไปด้วย เลยอาบน้ำและเข้านอนในชุดนอนผ้ายืดเป็นเสื้อกล้ามตัวยาว
คีย์อาบน้ำเสร็จใส่เสื้อกล้ามและกางเกงขาสั้น เมื่อเขาลงนั่งเตรียมตัวนอนบนเตียงเห็นชลีลุกขึ้นนั่งเขยิบเข้าไปด้านในติดกับหน้าต่างท่าทางกลัวเกรง ถึงได้เอ่ยถาม
“กลัวฉันเหรอชลี”
“เปล่า... คือเรายังไม่เคยนอนด้วยกันสองคน”
“อ๋อ... เดี๋ยวก็ชินไปเองไม่มีอะไรหรอกยังมีพรุ่งนี้อีกคืนนอนหลับให้สบายเถอะ คืนนี้ฉันเพลียเหนื่อยมาทั้งวัน ง่วงนอน...”
คีย์บอกพร้อมจุมพิตหน้าผากนวลของชลีเป็นการราตรีสวัสดิ์ก่อนล้มตัวลงนอนก่อนเธอ
ไม่มีอะไรให้นึกหวั่นกลัวเมื่อเห็นเปลือกตาของคีย์ที่มีแพขนตายาวปิดสนิทลง ชลีจึงลงนอนบ้างอย่างนิ่งสงบ ท่ามกลางความเงียบสงัด จู่ๆ ชลีได้ยินเสียงกระซิกร้องไห้แผ่วเบาราวหูแว่ว หันมองรอบกายในห้องนอนแคบเล็กนี้มีเพียงแสงไฟสลัวห้องสีขาวไม่มีใครอื่นนอกจากคีย์และตัวเธอเท่านั้น
สิ่งมองไม่เห็นแฝงเร้นดังเงาเฝ้าติดตามเช่นวิญญาณเด็กที่ถึงเวลาจะมาเกิดกำลังผิดหวังต่อพ่อแม่ที่ไม่ทำอะไรกันสักทีมัวแต่ไม่มีอะไรกันอย่างนี้เมื่อไหร่วิญญาณเขาจะได้มาจุติสักที
หากจัดอันดับคนกลัวผีชลีต้องติดอันดับหนึ่งในนั้น ไม่กลัวคีย์แล้วตอนนี้กลัวผีมากกว่าจึงก่ายขาทั้งท่อนแขนนอนกอดคีย์
คีย์รู้สึกตัวโดนเธอกอดจึงจับขาเธอไว้อย่างนั้นชอบที่ได้อยู่ในอ้อมกอดของเธอ
.
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว