“ถ้าง่วงก็ไปนอนได้แล้วหล่อน” คุณหญิงพิรุณสั่งเพชรัตน์ เมื่อเห็นอีกฝ่ายหาวหวอด เพราะเพชรัตน์เพิ่งเลิกงานมาไม่นาน ร่างกายยังเพลียแต่ก็ยังคิดจะนั่งถ่างตาดูทีวีเป็นเพื่อนของทรายอยู่ “ไม่เป็นไรค่ะ”
“ไปพักผ่อนได้แล้ว พี่หรั่งเป็นสามีของทรายไม่ใช่ของเธอที่จะมาคอยให้เขากลับมาบ้าน” การถูกดักคออย่างรู้ทันทำให้เพชรัตน์หน้าชาได้เช่นกัน แต่ก็ยังคงดื้ออยู่เช่นเดิม “แต่เพชรยังไม่ง่วงค่ะ”
“เฮ้อ ตามใจก็แล้วกัน ถ้าเหนื่อยก็อย่ามาโทษว่าฉันไม่ให้หลับให้นอนล่ะ” คุณหญิงค้อนให้กับเพชรัตน์หลังจากที่สั่งกันไม่ได้
“คุณหญิงจะไปนอนเลยก็ได้นะคะ ก่อนที่จะดึกเอา” ทรายกล่าวขึ้นหลังจากที่คิดว่าดูนาฬิกาแล้วมันกำลังจะสามทุ่ม ปกติคุณหญิงพิรุณเองก็นอนทุ่มครึ่ง แต่วันนี้คุยกันเพลินหลายเรื่อง ทำให้คุณหญิงพิรุณไม่ได้รีบร้อนจะไปนอน
“ก็อยากจะไปหรอกนะ ถ้าหากว่าโน่น ไม่โผล่มาซะก่อน”
คนที่กำลังถูกพูดถึงเพิ่งจอดรถไปยังลานจอดรถ เขากลับบ้านมาในเวลาไม่ดึกอย่างที่คิดกันไว้
ชายหนุ่มยิ้มให้กับทุกคนที่นั่งยังห้องโถงใหญ่ สีหน้าของเขาแย้มยิ้มดูมีความสุข พลอยทำให้เพชรัตน์ใจคอไม่ค่อยดี เธอไม่แน่ใจว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นที่ศูนย์วิจัยหรือเปล่า
“วันนี้มีซีรีย์อะไรน่าสนใจเหรอครับ ไม่คิดจะหลับจะนอนกัน” เขาแซวขึ้นอย่างรู้สึกสนุกแล้วนั่งลงไปข้างกายภรรยา เหวี่ยงแขนออกเพื่อรวบเอาร่างของเธอเข้าหา แล้วกดจมูกไปยังกระหม่อมของหญิงสาวด้วยความคิดถึง
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่ยังไม่ไปนอนกัน ด็อกเตอร์จะรับอะไรอีกไหมคะ”
“ไม่เอาอะไรทั้งนั้น อิ่มแปล้เลย” ชายหนุ่มรู้สึกว่าทรายไม่ได้มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ท่าทางสายตาของย่าเล็กต่างหากที่ทำให้เขารู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก
“อิ่มอะไรคะ” เพชรัตน์แกล้งเย้าทีเล่นทีจริง สายตาที่ทำทีว่าทะลึ่งพลอยทำให้คุณหญิงพิรุณต้องมองและชักสีหน้าไม่ชอบใจ “หมายความว่ายังไงแม่เพชร”
“อ้าว...ก็ออกไปกินข้าวก็ต้องอิ่มไม่ใช่เหรอคะพี่หรั่ง” เธอเฉไฉไปอีก ชายหนุ่มยักไหล่น้อยนิด “ก็กินไปเยอะ มันก็เลยอิ่ม”
“เธอพูดจาแปลกๆ นะแม่เพชร ไม่ให้อิ่มข้าวแล้วเธอคิดว่าจะต้องอิ่มอะไร” คุณหญิงพิรุณยังคงไม่ชอบใจอยู่เช่นเดิม เพชรัตน์ยิ้มอย่างพอใจ “ใครจะไปรู้คะ วันนี้ได้ข่าวว่าคุณเจซซี่เข้าไปถึงศูนย์วิจัย”
คุณหญิงพิรุณถึงกับหันขวับมองหลานชายด้วยท่าทางเอาเรื่อง และเขาก็รู้ว่าตอนนี้มันท่าจะไม่ดี “อะไรครับ”
“นัดเจอกันที่ศูนย์รัชชะหรือไง” คุณหญิงถามเสียงเขียว ส่อเค้าว่าผิดหวังสิ้นดี
“ไม่ได้นัดครับ” แล้วเขาก็หันหน้าไปทางเพชรัตน์ที่ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นคนอนุญาตให้เจซซี่เข้าไปยังศูนย์ต้องห้ามนั้น
“เจซบอกว่าเพชรอนุญาต”
คุณหญิงถึงกับหันขวับกลับมามองเพชรัตน์ ที่ดูเหมือนจะเตรียมพร้อมในการรับมืออยู่แล้ว “แหม ก็จะให้เพชรทำยังไงล่ะคะ ในเมื่อนั่นก็คือเพื่อนของพี่หรั่ง ได้ข่าวว่าสนิทกันมาก ไม่ใช่เหรอคะพี่หรั่ง”
“เพชร...” ชายหนุ่มปรามเพชรัตน์ไว้ ไม่ต้องการให้มีการพูดถึงอดีตอะไรทั้งนั้น เขากอดภรรยาไว้แน่นเช่นเดิม เกรงว่าทรายจะเกิดน้อยเนื้อต่ำใจหรือหึงเอา ต่อให้ทรายจะรู้แต่การถูกลูกยุ พูดจาให้เกิดอารมณ์ คนที่ไม่คิดจะหึงจะหวงสามี อาจจะเริ่มอยู่ไม่เป็นสุขก็เป็นได้ และเขาก็ไม่อยากจะให้ทรายเสียใจ
ส่วนคุณหญิงที่เห็นว่าเพชรัตน์กำลังทำอะไรล้ำเส้น มันก็ทำให้นางโมโหจากนั้นก็เริ่มส่งเสียงดังออกไป
“แต่หล่อนไม่มีสิทธิ์อนุญาตให้ใครเข้าออกในศูนย์วิจัย หล่อนรู้ดีทำไมต้องทำ!” เสียงดุนั้นทำให้ทรายเกิดหวาดกลัว ใบหน้าของเพชรัตน์ซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัด ต่อให้ว่าเตรียมรับมือกับสิ่งที่ทำลงไปแล้ว แต่ความโกรธของคุณหญิงนั้นเธอไม่ได้คิดจะรับมือ
“หนูก็แค่...เห็นว่านั่นคือเพื่อน หนูไม่ได้คิดอะไรเลยจริงๆ ค่ะ” เพชรัตน์ก้มหน้างุด หวาดกลัวกับสายตาของคนมีอายุมากจริงๆ เธอไม่กล้าสบตาด้วยเลย ไม่กล้าเลยสักครั้ง
“เธอนี่เหลือเกินนะ จะไปยุ่งวุ่นวายทำไม ในเมื่อพวกเขาจะนัดเจอกันด้านนอกก็ได้ การที่จะเข้าไปเดินเล่นในศูนย์วิจัยไม่ใช่จะทำตามอำเภอใจได้ เกิดเข้าไปในเขตปลอดเชื้อ ไม่ได้สวมชุด อุปกรณ์เครื่องป้องกันต่างๆ แล้วหล่อนจะรับผิดชอบกับการนำเชื้อโรคเข้าไปยังศูนย์หรือเปล่าแม่เพชร”
“คุณย่าครับพอเถอะครับ คือเจซไม่ได้เข้าไปในศูนย์หรอกครับ โชคดีว่าผมเดินออกมาเห็นตรงเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ไม่งั้นก็ไม่แน่...” เขาตวัดตามองไปยังเพชรัตน์ที่ก้มหน้าตัวสั่นเพราะความหวาดกลัว
“งั้นพาเมียขึ้นไปข้างบนไป แม่เพชรตามฉันไปที่ห้อง”
เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บของคุณดียิ่งขึ้น และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณอย่างได้อย่างส่วนตัว ท่านสามารถอ่านนโยบายคุกกี้เพิ่มเติมได้ที่นี่
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว