สายรัก​ (อุ้มบุญ)​-Chapter 4 สรุปเราเป็นอะไรกัน (1)

โดย  อิสรียา/กฤติณ/Chandra

สายรัก​ (อุ้มบุญ)​

Chapter 4 สรุปเราเป็นอะไรกัน (1)

Chapter 2

สะใภ้คนโปรด (1)



เช้านี้เป็นวันหยุด การนอนหลับของอคิราห์ถูกปลุกให้ตื่นจากเสียงอาเจียนที่ดังแว่วมาจากห้องน้ำ เขาลุกพรวดขึ้นนั่งตามความเคยชิน...พริมายังไม่หายจากอาการแพ้ท้อง หล่อนจะแพ้หนักในตอนเช้า และเป็นแบบนี้มานับตั้งแต่ฝังตัวอ่อนที่เกิดจากน้ำเชื้อของเขาและไข่ของหล่อนเข้าไปในผนังมดลูก เมื่อตัวอ่อนฝังตัวและเจริญเติบโต ฮอร์โมนในร่างกายก็เปลี่ยนไปตามธรรมชาติ เหมือนกับการตั้งครรภ์แบบปกติทั่วไป

ชายหนุ่มเดินไปยังห้องน้ำ แววตาเจือความอาทรส่งไปถึงคนที่ยืนโก่งคออาเจียนอย่างทรมาน ในขณะที่เขาก็ไม่รู้ตัวหรอกว่ากำลังมองหล่อนด้วยความสงสารและเห็นใจ เขาไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของหัวใจตัวเองที่แสนซับซ้อนยากเกินคาดเดา

"พรีม...ไหวหรือเปล่า"

หล่อนพยักหน้าแทนคำตอบ สัมผัสได้ถึงความอุ่นซ่านที่ซึมซาบไปทั่วแผ่นหลังจากการที่มือใหญ่ช่วยลูบหลังให้...มันซึมซาบไปถึงก้อนเนื้อที่กำลังหวั่นไหว เพราะแบบนี้ เขาเป็นแบบนี้ ปากบอกไม่รักแต่การกระทำชวนให้ไหวหวั่น เขาใส่ใจดูแลหล่อนดีเกินไป หัวใจจึงรั้นรักไม่เชื่อฟังกันเลย

"พรีมเวียนหัว สงสัยเพราะนอนดึก พรีมขอโทษที่ทำให้คุณต้องมานั่งดูแลกันแบบนี้"

หล่อนยอมรับผิดหากเขาจะตำหนิเรื่องพักผ่อนไม่เพียงพอ แต่เขากลับเลือกที่จะวางมันลง

"ช่างมันเถอะ เอาตัวเองตอนนี้ให้รอดก่อน เวียนหัวแล้วเดินได้ไหม กลับไปนอนพักต่อเผื่ออาการจะดีขึ้น"

"พอได้ค่ะ"

เขาประคองคนที่อาเจียนจนแขนขาอ่อนแรงกลับมาที่เตียง ประหนึ่งหล่อนเป็นเมีย เป็นแม่ของลูกตัวจริงที่เขาต้องคอยประคบประหงม ดูแลห่วงใยเสียจนลืมตัวว่าต่างมีสถานะใดต่อกัน

พริมาเอนหลังพิงหมอนที่ตั้งซ้อนกันเอาไว้ โดยมีอคิราห์นั่งอยู่ข้าง ๆ เขามองหน้าซีดเซียวที่เปลือกตาถูกปิดลงราวอ่อนล้า สีหน้าของหล่อนไม่ค่อยสู้ดีนัก ยาดมถูกยื่นไปจดจ่ออยู่ตรงปลายจมูกเพื่อให้หล่อนสูดดมบรรเทาอาการ

"ทายาหน่อยนะพรีม เผื่ออาการเวียนหัวจะดีขึ้น"

หล่อนพยักหน้าเบา ๆ ทั้งที่ยังนอนหลับตา เขาเอายาหม่องน้ำมาป้ายตรงขมับทั้งสองข้างแล้วนวดคลึงเบา ๆ ไออุ่นจากปลายนิ้วผสานฤทธิ์ยาซึมซาบไปทั่ว ซึมลึกไปถึงหัวใจ...นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาทำแบบนี้ แล้วหล่อนจะทานทนไปได้อย่างไร จะทนไม่รักเขาได้ไหม ในเมื่อต้องใช้ชีวิตในฐานะสามีภรรยาไปอีกตั้งหลายเดือน

หล่อนถึงได้อยากจบด้วยการขอหย่าก่อนจะถลำลึกไปมากกว่านี้ ถ้าเขายอมหย่าหล่อนจะเอาลูกติดตัวไปด้วย จะปิดเรื่องที่หล่อนกับเขาร่วมกันทำไม่แพร่งพรายออกไปให้ใครรู้ แต่เขากลับไม่ยอมหย่าจนกว่าลูกของเขาจะคลอดออกมา แต่หล่อนไม่อยากเล่นเกมต่อไปอีกแล้ว ถ้าถึงวันที่เกมจบลงหล่อนคงขาดใจตายเสียแน่ ๆ

ท่ามกลางความคิดหลากหลาย เสียงทุ้มนุ่มก็แทรกเข้ามาในโสตประสาท

"พอจะกินอะไรได้ไหม มื้อเช้าสำคัญ คุณไม่ได้ตัวคนเดียว ฉะนั้นจะอดมื้อใดมื้อหนึ่งไม่ได้ เพราะพวกเขาต้องการสารอาหารจากแม่ที่เพียงพอ"

เขาพูดจบหล่อนก็ทำหน้าเหม็นเบื่อ ส่ายหน้าไปมาราวเด็กกำลังถูกบังคับให้กินผัก

"พรีมกินอะไรไม่ลงค่ะ มันคลื่นไส้ พรีมคงลงไปทานมื้อเช้ากับทุกคนไม่ไหว คุณลงไปคนเดียวนะคะ ฝากขอโทษคุณพ่อของคุณด้วยที่ต้องเสียมารยาท"

"ไม่ลงไปก็ไม่เป็นไร แต่ยังไงก็ต้องฝืนใจกิน เดี๋ยวผมให้คนเอาขึ้นมาส่งที่นี่ โอเคนะพรีม"

เสียงเขาเริ่มเข้ม หล่อนไม่อยากขัดใจจึงยอมแพ้

"ก็ได้ค่ะ คุณน่ะชอบบังคับพรีม"

"ก็เพราะผมเป็นห่วง..."

เหมือนเขาจะรู้ตัวว่าเผลอหลุดปาก หรืออะไรก็แล้วแต่ การที่เขาชะงักไปหล่อนจึงลืมตามอง ก็เห็นว่าแววตาเข้มกำลังเบนความสนใจไปทางอื่นราวต้องการปิดซ่อนความรู้สึก และเขาก็ทำร้ายหัวใจที่กำลังพองโตด้วยการบีบมัน

"ผม...ผมแค่เป็นห่วงลูกของผม เพราะถ้าคุณเป็นอะไรขึ้นมาพวกเขาจะต้องได้รับผลกระทบไปด้วย ฉะนั้นรักษาเนื้อรักษาตัวให้ดี จนกว่าพวกเขาจะคลอดออกมา"

"ค่ะ"

หล่อนปิดเปลือกตาลงตามเดิม ไม่อยากมองหน้าเขาอีกต่อไปแล้ว ก่อนจะสัมผัสได้ถึงการลุกขึ้นยืนของเขา

"เอาข้าวต้มร้อน ๆ นะพรีม เดี๋ยวผมลงไปบอกแม่ครัวให้"

"ก็ได้ค่ะ แต่ไม่ต้องใส่กระเทียมเจียวมานะคะ"

"อืม..."

ที่ต้องกำชับเพราะตอนนี้หล่อนแพ้กลิ่นของมันอย่างหนัก จากที่ก่อนหน้าหล่อนชอบทานเป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้กลับเหม็นขึ้นมาเสียอย่างนั้น

เสียงเปิดและปิดประตูดังขึ้น ทั่วทั้งห้องเงียบงันหลังจากเขาออกไป เมื่อจมอยู่กับตัวเอง พริมาก็เริ่มจะคิดถึงเรื่องเดิม ๆ อีกครั้ง หล่อนทาบฝ่ามือลงบนหน้าท้องที่ยังไม่นูนเด่นชัด รอบขอบตาร้อนผ่าว ได้แต่พร่ำโทษตัวเอง...ไม่น่าเลย หล่อนไม่น่ารับงานนี้ตั้งแต่แรก ไม่น่าพาตัวเองเข้ามาในชีวิตของเขา อยากหาทางออกแต่ออกไม่ได้ เริ่มรู้สึกได้ว่ามันเป็นเรื่องใหญ่เกินจะแบกรับไหว มันไม่ง่ายอย่างที่คิดไว้ในตอนแรกเสียแล้ว


ตรงมุมที่ใช้ทานอาหาร ซึ่งทุกคนในบ้านตื่นลงมาทานมื้อเช้ากันพร้อมหน้า เหลือก็เพียงแต่อคิราห์กับพริมา และการที่อคิราห์เดินมาคนเดียว สายตาของอัทธ์ก็มองหาลูกสะใภ้ขึ้นมาทันที

"มากินข้าวด้วยกันสิตาคิน แล้วเมียแกล่ะ ไม่ลงมาเหรอ"

แววตาเข้มมองไปยังแม่เลี้ยงที่นั่งอยู่ใกล้กับบิดา ถัดไปเป็นอชิระและอณิมา น้องต่างแม่ของเขา เขาแค่นยิ้มไปให้พวกเขาอย่างเสียมิได้ ไม่อยากทำให้บิดาลำบากใจตั้งแต่เช้า

"พรีมแพ้ท้อง เวียนหัวลงมาไม่ไหวครับคุณพ่อ ป้านิ่มอยู่ไหน ผมอยากได้ข้าวต้มร้อน ๆ สักถ้วย"

ชายหนุ่มเดินไปเมียงมองมื้อเช้าแบบบุฟเฟต์ที่แม่ครัวเตรียมไว้ วันนี้เขาไม่เห็นมีข้าวต้ม และคงต้องสั่งให้แม่ครัวทำให้ใหม่

"แม่ครัวไปโรงพยาบาลแล้ว ให้หนูพรีมกินอย่างอื่นนอกจากข้าวต้มได้มั้ย"

"เธอกินอะไรไม่ได้หรอกครับคุณพ่อ"

อคิราห์เดินตรงไปยังครัว เขาคิดว่าคงจะต้องลงมือเองเมื่อแม่ครัวไม่อยู่ ในขณะเดียวกันนั้นอณิมาก็ลุกจากที่ของตน หล่อนเดินตามหลังพี่ชายคนโตที่หายเข้าไปในห้องครัว

ในห้องครัว อคิราห์กำลังมองหาหม้อใบเล็ก เขายืนงงอยู่ในครัวเพราะไม่รู้จะหยิบจับอะไรก่อน ไม่ได้ทำอาหารทานเองมานาน เขาจึงต้องทบทวนความจำ กำลังคิดว่าแค่การต้มข้าวต้มสักถ้วยมันช่างยุ่งยากสิ้นดี พริมาจะรู้ไหมว่าเขาลงทุนลงมือด้วยตัวเองเช่นนี้

ในขณะที่กำลังรองน้ำใส่หม้อนั้น เสียงหนึ่งก็ดังแทรก

"โอ้โหพี่คิน รักเมียมากถึงขนาดหาข้าวหาปลาให้กินเลยเหรอคะ"

อคิราห์หันไปมอง...น้องสาวต่างแม่วัยสิบแปดที่ชอบมายุ่งวุ่นวายกับเขา...ชายหนุ่มถอนหายใจแล้วหันกลับมาทางเก่าโดยไร้ซึ่งคำพูดใด ๆ ทำราวอณิมาเป็นอากาศธาตุที่ไร้ตัวตน

อณิมายอมไม่ได้ที่เขาทำเย็นชาใส่ หล่อนเดินเข้าไปยืนใกล้ร่างสูงเด่น แหงนหน้ามองเขา

"แผนอ้อนผัวแน่ ๆ เลยค่ะ แค่แพ้ท้องจะอะไรนักหนา ในขณะที่ทุกคนกินอาหารของแม่ครัวได้ แต่พี่สะใภ้ของแคนดี้กับกินไม่ได้ เรื่องมากจังเลยนะคะ เดือดร้อนพี่คินต้องมาคอยหาให้กิน"

"ถ้าไม่มีอะไรทำ ว่างนักก็ไปนั่งให้ปลาตอดไป จะไปไหนก็ไป รำคาญ! "

"พี่คิน! แคนดี้แค่หวังดี พี่คินกำลังถูกอำนาจเมียครอบงำจนเปลี่ยนไปรู้ตัวบ้างมั้ยคะ"

"พี่ไม่ต้องการความหวังดีจากเธอ...ยายลูกเมียน้อย! "

"พี่คิน ถอนคำพูดเดี๋ยวนี้! แม่แคนดี้มาหลังจากแม่พี่ตายไปแล้ว ตายไปแล้วก็คือตาย คุณแม่ไม่ใช่เมียน้อยใครทั้งนั้น! "

เหมือนถูกจี้จุด ชายหนุ่มปิดก๊อกน้ำแล้วหันไปถลึงตามองอีกฝ่าย

"หยุด อย่าพูดถึงมัน อย่าพูดถึงคุณแม่ของพี่แบบนี้! "

"พี่คินตราหน้าแคนดี้ว่าลูกเมียน้อย แต่ก็ยังดีกว่ายายพรีมก็แล้วกัน มาทำงานไม่ทันไร ก็อ่อยบอสจนจับเขาทำผัวได้สำเร็จ ที่ร้ายคือพี่คินก็ดันเล่นด้วย พี่คินน่ะโง่แสนโง่ เจอผู้หญิงจับด้วยการปล่อยให้ท้อง มันใช้ลูกจับพี่คินเพื่อหวังสมบัติรู้ตัวบ้างมั้ยคะ...โอ๊ะ! "

"อยากโดนตบปากแตกรึไง! "

อณิมายกมือขึ้นลูบหน้า เมื่อน้ำในหม้อถูกสาดมาใส่หน้าเข้าเต็ม ๆ หล่อนก้มลงมองตัวเองที่เปียกปอนไปหมด เปียกไปถึงหัวราวกับไปเล่นสงกรานต์มา อารมณ์โกรธทำให้หล่อนกระทืบเท้าเต้นเร่า กรีดร้องออกมาลั่นห้องครัว

"อร๊าย! ไอ้พี่คิน เปียกหมดเลย...โอ๊ย! "

หล่อนร้องออกมาเมื่ออุ้งมือแกร่งคว้าหมับลงบนปลายคางแล้วออกแรงบีบ แววตาคู่สวยกลอกไปมาเมื่อเห็นแววตาเข้มเขม่นมองราวจะกินเลือดกินเนื้อ เขาบดกรามจนเป็นสันนูน เข่นเสียงรอดไรฟัน

"ถ้าไม่รู้อะไรก็อย่าเสือกปากดี เธอเป็นแค่น้องต่างแม่อย่าสะเออะมาสอนลูกชายคนโตของบ้านหลังนี้ จำเอาไว้ ถ้าใครหน้าไหนมันพูดถึงพรีมแบบนี้อีก ฉันจะฆ่ามัน! "

"ฮึก! พะ พี่คิน! "

อณิมาสะดุ้งเฮือก หล่อนถอยร่นหนีเมื่อเขาสะบัดมือออกจากคางของหล่อนจนหน้าหันไปตามแรง เขาดูโกรธมากจนหล่อนนึกกลัว แววตาของเขาที่จับจ้องมองมาดูน่าพรั่นพรึงราวกับยักษ์มาร

หล่อนขบกรามแน่น ยิ่งเกลียดชังพริมามากขึ้น กับการที่หล่อนแตะต้องอะไรอีกฝ่ายไม่ได้เลย มันตอกย้ำความเชื่อของหล่อนว่าอคิราห์กำลังหลงเมียขนาดหนัก เขาไม่รู้ตัวว่าเปลี่ยนไปนับตั้งแต่พริมาตั้งท้องลูกแฝดให้กับเขา

"ออกไป! "

ชายหนุ่มตวาดไล่ อณิมาสะบัดหน้าหนีแล้วปาดน้ำตาวิ่งหนีออกไปนอกห้องครัว เขายืนสงบสติอารมณ์อยู่สักพักเมื่ออยู่เพียงลำพัง หลังจากนับหนึ่งถึงร้อยและนึกขึ้นมาได้ว่าพริมากำลังรอมื้อเช้าจากเขา เมื่อนั้นใจก็เย็นลง และเริ่มปรุงอาหารเช้าให้หล่อนด้วยความใส่ใจ เขาบอกตัวเอง ถ้าดูแลหล่อนดี ลูกของเขาก็จะสมบูรณ์แข็งแรงตามสุขภาพของแม่ไปด้วย



รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว