- จบ - HOT FLAVORS ยั่วรักโซ่ปรารถนา-8 อดทนไว้ 2/2

โดย  อติญา / เก-ลิน / ติญญ์ / ผู้ซึ่งเข้ามาแทน

- จบ - HOT FLAVORS ยั่วรักโซ่ปรารถนา

8 อดทนไว้ 2/2

​และวันทั้งวันวานนรินทร์วิ่งวุ่นอยู่กับเรื่องการโปรโมทบริษัทเพราะบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินของมารันกำลังจะเริ่มจับตลาดของกลุ่มลูกค้ารายย่อยที่ต้องการกู้ยืมเงินทุนจำนวนไม่มากหลังจากที่จับแต่ธุรกิจขนาดใหญ่มานานหลายสิบปี ครั้งนี้เธอได้โจทย์มาว่าอนุมัติไว เต็มใจบริการ ช่วงนี้ทั้งแผนกเลยค่อนข้างจะต้องทำงานกันหนักสักนิดหนึ่งเรียกได้ว่าทำงานจนลืมใครบางคนไปเลยก็แล้วกัน

“วันนี้คุณรันออกไปทานข้าวกับนางแบบคนนั้นอีกแล้วพักนี้มาบ่อยสงสัยคนแถวนี้จะตกกระป๋องแล้วมั้ง” ทันทีที่เดินเข้ามาในห้องอาหารของพนักงานเสียงนกเสียงกาก็ลอยมาเข้าหู พักนี้ข่าวลือที่บอกว่าวานนรินทร์กำลังจะตกกระป๋องกระพือไปทั้งบริษัทเหตุก็เพราะระยะนี้คุณเจ้านายของเธอขยันควงนางแบบที่กำลังมีชื่อเสียงไปไหนต่อไหนบ่อยๆ ทั้งกินข้าวเช้า กลางวัน เย็น แต่ยังไม่เคยเห็นพากันออกงานที่ไหน ถ้าเขาพานางแบบคนนั้นไปเปิดตัวแสดงสถานะเมื่อไหร่แสดงว่าวันนั้นคงหมดหน้าที่ของเธอแล้ว

และตั้งแต่วันนั้นทั้งเธอและมารันก็ยุ่งจนไม่ได้เจอหน้ากันอันที่จริงเธอต่างหากที่เป็นคนเลี่ยงการเผชิญหน้าเพราะไม่อยากต่อปากต่อคำในเรื่องเดิมๆ ฝ้ายกับฟูเริ่มไปเรียนปรับพื้นฐานแล้วและเด็กทั้งสองคนก็ขยันกลับมาเล่าอะไรต่อมิอะไรให้เธอฟังได้ทุกวันและจากการที่ตามแม่ไปส่งเด็กฝาแฝดที่โรงเรียนเธอก็รู้ว่าที่นี่ไม่มีที่จะติได้จริงๆ

โรงเรียนเอกชนของผู้มีอันจะกินเป็นแบบนี้สินะมีความสะดวกสบายและความปลอดภัยตั้งแต่ๆ เด็กๆ ก้าวขาลงจากรถ การเรียนการสอนหลักสูตรได้มาตรฐานแถมบุคลากรก็ล้วนแล้วแต่มีประสิทธิภาพสมราคาค่าเทอมที่เสียไปปีละหลายหมื่น เธอลองมาคิดทบทวนคำนวณดูแล้วเงินเดือนของเธอถ้าเก็บเพิ่มอีกสักหน่อยพอมารวมกับเงินเก็บก็จะสามารถจ่าค่าเทอมปีต่อๆ ไปได้โดยไม่ต้องพึ่งมารัน

“น้องว่านอยู่ที่นี่เอง พี่จะมาแจ้งว่าบริษัทโฆษณาที่นัดไว้ตอนบ่ายขอเลื่อนนัดออกไปเป็นสัปดาห์หน้านะคะ” เวลาทานข้าวกลางวันหญิงสาวมักจะไม่ค่อยพกโทรศัพท์ถ้าไม่ได้ออกไปไหน เวลาหนึ่งชั่วโมงเธอขอสงวนไว้ให้อาหารกลางวันไม่อยากให้อะไรๆ มันมาขัดความสุขเล็กๆ ของตัวเอง

“เขาให้เหตุผลว่ายังไงคะพี่ขวัญ ทำไมแจ้งมากระชั้นชิดจัง” ตอนนัดกันเมื่อปลายเดือนที่แล้วก็เห็นว่าพร้อมทุกอย่างแถมยังรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ สงสัยเธอต้องดอกจันสีแดงใส่ชื่อบริษัทนี้ไว้ตัวใหญ่ๆ เผื่อคราวหน้าจะได้ไม่เรียกใช้บริการอีก

“เขาบอกว่าเจ้านายไม่อยู่ไม่มีคนตรวจงบที่จะเสนอให้บริษัทเราน่ะสิคะ” ขวัญจิราตอบเรียบๆ แต่สีหน้านั้นเซ็งพอๆ กันกับเธอ

“ระหว่างรอกับการหาที่ใหม่ ทำอย่างไหนได้ง่ายกว่าคะพี่” เธอถามความเห็นจากขวัญจิราผู้ดูแลทุกสิ่งทุกอย่างในฝ่ายประชาสัมพันธ์ส่วนเธอนั้นกินตำแหน่งที่ปรึกษาเป็นตำแหน่งพิเศษที่อุปโลกน์ขึ้นมาโดยคุณมารัน ตำแหน่งของเธอเขาบอกว่าเอาไว้กันคนครหาแต่เท่าที่ดูแล้วมันเหมือนเป็นเป้าล่อให้โดนนินทามากกว่าน่ะสิ

“พี่ก็ไม่ค่อยชอบพวกผิดนัดแบบไม่มีเหตุผลถ้าหากว่าทางเราเกิดอยากเร่งงานขึ้นมาเขาจะทำยังไงล่ะทีนี้”

“ถ้าอย่างนั้นปฏิเสธเขาไปแล้วบอกว่าเรายินดีจ่ายค่าเสียเวลาค่ะ เดี๋ยวว่านจะลองหาบริษัทใหม่ให้” วานรินทร์คลี่ยิ้มบางเบาเมื่อคุยกับหัวหน้าแผนกแล้วเข้าใจตรงกัน มีอย่างที่ไหนมารับบรีฟงานไปทำงบเกินครึ่งเดือนแล้วนี่จะถึงวันนัดประชุมเสนองบประมาณกันอยู่แล้วยังมาเลื่อนช่างไม่มีความเป็นมืออาชีพเอาเสียเลย

“เดี๋ยวพี่ช่วยเองค่ะบริษัทที่ทำงานให้เราคราวก่อนก็ดีอยู่นะคะเขารับผลิตสื่อและหาพื้นที่ลงให้ด้วยเราไม่ต้องติดต่อซื้อพื้นที่หรือว่าตีแอดเอง” ขวัญจิราให้ความเห็นแบบนี้แสดงว่าหัวหน้าแผนกย่อมไม่เห็นด้วยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่คิดตรงกันก็ดีแล้วอย่างน้อยปัญหาวุ่นๆ ก็มีแนวโน้มที่จะจบลงไปด้วยดี

แต่แล้วความสบายใจก็อยู่กับเธอไม่ได้นานมารันเรียกทั้งเธอและขวัญจิราขึ้นไปหาทันทีที่เขากลับเข้าบริษัทมาในตอนบ่ายแถมข้างกายยังหนีบนางแบบชื่อดังอยู่เลยสงสัยคนนี้เขาคงจะจริงจังอย่างที่คนอื่นว่า เธอคิดเองเออเองแล้วใจมันดันสั่นกระตุกแปลกๆ ทั้งๆ ที่ควรจะชินได้แล้ว

“ผมได้รับแจ้งมาว่าคุณขวัญจิราปฏิเสธบริษัทโฆษณาที่เรากำลังจะจ้างหรือครับ?” พอเจอหน้าวานนรินทร์และขวัญจิรา มารันก็ยิงคำถามด้วยสีหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไร แต่ที่ผู้หญิงสองคนแปลกใจคือนางแบบคนนั้นก็อยู่ในห้องทำงานด้วยทั้งๆ ที่เขาไม่เคยชอบให้คู่ควงมาก้าวก่ายเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว

“ดิฉันให้คุณขวัญปฏิเสธเองค่ะเพราะทางนั้นขอนัดเลื่อนทั้งๆ ที่เขานัดเราบ่ายวันนี้ อันที่จริงเราให้เวลาเขาไปเกือบเดือนแล้วและเหตุผลที่ว่าไม่มีเจ้านายตรวจงบให้ดิฉันว่ามันฟังไม่ขึ้นค่ะ” หน้าที่ของที่ปรึกษาแผนกคือการเอาหน้าออกมารับทุกอย่างเหมือนที่เธอทำอยู่ตอนนี้ บ่อยไปที่เขาจะดุจะว่าหญิงสาวทำใจได้นานแล้วว่าเรื่องงานมันต้องมีเรื่องขัดใจกันบ้างเป็นธรรมดา

“แล้วทางเรารีบ?” มารันเลิกคิ้วถาม สาบานเลยถ้าเธออยู่กับเขาสองคนหน้าหล่อๆ นั่นโดนตะกุยยับแน่ๆ

“พอสมควรค่ะ เรารอบริษัทนี้มานานคุณรันน่าจะทราบว่าเขาไม่เคยมาตรงนัดเลยสักครั้ง ดิฉันคิดว่าทางนั้นไม่น่าจะพร้อมที่จะทำงานร่วมกับเราค่ะ” ที่หญิงสาวพูดไปนั้นไม่มีเรื่องใดเกินจริง บริษัทที่มารันเลือกชอบผิดนัดบ่ายเบี่ยงอยู่เสมอทั้งๆ ที่จวนเวลานัดกันแล้วทำงานเหมือนกับเล่นขายของ

“รอได้ผมก็อยากให้คุณรอ บริษัทนี้เป็นกิจการของครอบครัวคุณแพทไม่ใช่คนอื่นคนไกล วานนรินทร์ผมอยากให้คุณใจเย็นๆ หรือถ้าเย็นไม่ได้โปรเจคนี้ก็ปล่อยให้ทางคุณขวัญดูแลไปไม่ต้องไปยุ่งอีก” จากรูปประโยคเหมือนโดนไล่ทางอ้อม บริษัทของครอบครัวคุณแพทก็คือนางแบบที่นั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่ในห้องนี้ด้วย งานนี้เธอคงจะไปขัดแข้งขัดขาหวานใจคนใหม่ของเขาเข้าไม่อย่างนั้นคงจะไม่หงุดหงิดถึงขนาดไล่กัน

“ทราบแล้วค่ะ ถ้าคุณรันไม่มีอะไรแล้วดิฉันขอตัวก่อนนะคะ” พูดจบเธอก็ยืนขึ้นหมุนตัวตั้งท่าจะเดินออกไปจากห้องเพราะหมดหน้าที่ของตัวเองแล้ว

“ไปเถอะแล้วอย่าลืมที่ผมบอกโปรเจคนี่คุณไม่ต้องทำก็ได้ แต่ถ้าว่างจริงๆ ไปช่วยรับโทรศัพท์หน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ก็ได้นะ” วานนรินทร์รู้สึกเหมือนโดนลากออกไปตบกลางสี่แยกไฟแดงแต่หญิงสาวก็ไม่มีเวลาตกใจนาน เธอยิ้มรับแล้วค้อมตัวก่อนจะเดินออกจากห้องไป สงสัยงานนี้วานนรินทร์ก็จะถูกนินทาว่าตกกระป๋องอีกครั้งหนึ่งแล้วสินะ

มารันมองตามร่างเล็กแต่อวบอัดของผู้หญิงที่ทำให้เขาต้องวุ่นวายใจได้ตลอดเวลาเขาอยู่กับเธอมานานกลับเดาอารมณ์ความรู้สึกของหญิงสาวไม่ค่อยถูก จากวันที่เถียงกันเรื่องโรงเรียนของเด็กๆ มันลุกลามจนกลายเป็นความหมางเมินได้อย่างไรเขาก็ไม่เข้าใจเลยจริงๆ

“ตกลงคุณรันจะให้ทางดิฉันรอใช่ไหมคะ ถ้าอย่างนั้นแผนที่เราวางไว้เรื่องการโปรโมทคงจะต้องเลื่อนไปอย่างไม่มีกำหนดเพราะเรายังไม่ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาจากทางนั้นเลย ยังไงแล้วถ้ามีความเคลื่อนไหวอะไรดิฉันจะแจ้งให้ทางคุณรันทราบโดยตรงนะคะเพราะคุณว่านคงจะไม่ว่างต้องไปช่วยรับโทรศัพท์ ดิฉันขอตัวก่อนนะคะ” ไม่บอกก็รู้ว่าขวัญจิราชูป้ายไฟเข้าข้างใครในเมื่อสองคนนี้ทำงานด้วยกันมาตั้งแต่ยัยตัวแสบยังเรียนหนังสือไม่จบเลยไม่แปลกที่จะสนิทสนมกลมเกลี่ยกันดี

“เชิญครับคุณขวัญยังไงแล้วผมฝากกำชับทางนั้นหน่อยว่าเราไม่มีเวลาพอจะรอเขาได้นานๆ จะเอายังไงก็รีบบอกมา” พอเขาพูดจบขวัญจิราก็ยิ้มกว้างเพราะประโยคนั้นเขาตั้งใจจะพูดกับแพทผู้หญิงที่ทำตัวเป็นเหาฉลามตามติดเขาตลอดเวลา นี่ถ้าไม่เห็นแก่อากงและพ่อแม่เธอว่าเป็นคู่ค้าเก่าแก่แถมยังเป็นเพื่อนกับคุณพ่อเขาคงไม่ปล่อยไว้ให้ต้องปวดหัวอีกแน่ๆ

“แพทว่าลูกน้องคุณรันมีอิสระทางความคิดดีนะคะทำอะไรไม่เห็นจะปรึกษาเจ้านาย” พอทุกคนออกไปจากห้องแล้วนางแบบสาวก็ยุรยาตรมาหาเขา มารันได้แต่สวดมนตร์อ้อนวอนขอพรพระในใจให้เธองานเข้าจะได้ไม่มีเวลาหาเกาะติดเขาแบบนี้

“คุณขวัญกับคุณว่านเขาทำตามหน้าที่และผมก็ให้สิทธิ์ขาดพวกเขาในการตัดสินใจ ถ้าทุกอย่างมัวแต่ถามผมงานการก็ไม่เดินพอดีสิครับคุณแพท แล้วผมรบกวนคุณแพทแจ้งคุณพอลทีนะครับว่าที่ทางผมรอเพราะเกรงใจผู้ใหญ่ ตลาดโฆษณาการแข่งขันมันสูงมากมีคนพร้อมที่จะเสนอตัวมาร่วมงานกับเราอีกเยอะ” มารันอธิบายสั้นๆ แต่คำพูดทุกคำเหมือนตอกหน้านางแบบสาวให้หงายหลัง พอพูดจบเขาก็ก้มหน้าก้มตาใส่ใจแฟ้มงานตรงหน้าไม่ได้มีทีท่าจะหันไปสนใจสิ่งมีชีวิตร่วมห้องอีกเลยแม้แต่น้อย

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว