หมอล่าเกียร์

EP.9 ข้ามขั้นตอน

ฟาเรนท์...


ฉันรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่เบาะหลังของรถคันหนึ่งที่จอดอยู่หน้าห้องน้ำในปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งและภาพที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ก็ทำให้ฉันแทบอยากเอาหน้าแทรกแผ่นดินหนี พอก้มลงสำรวจตัวเองก็พบว่าสวมใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว


" ก็ดี อย่างน้อยก็ไม่ได้ปล่อยให้ฉันนอนแก้ผ้าในรถ "

ฉันพรึมพรำกับตัวเองก่อนจะก้าวขาลงจากรถพลางมองไปรอบๆที่ไม่เห็นแม้แต่เงาของคนที่ขับรถมา


" นี่ฉันทำบ้าอะไรลงไปเนี่ย ถ้าไอ้พี่รู้นะ หัวแตกแน่ "

ฉันบ่นให้ตัวเองก่อนจะยีหัวตัวเองไปมาหลังจากที่ล้างหน้าล้างตาและ...บ้วนปากเรียบร้อยแล้ว


" จะไปไหน "

เสียงทุ้มทำให้ฉันสะดุ้งโหยงเมื่อก้าวขาพ้นจากห้องน้ำหญิง สร่างเมาจริงๆก็คราวนี้แหละอีฟาเอ๊ย


" อย่ามายุ่งกับฉัน "

ฉันเดินหนีไปอีกทางกะว่าจะไปโปกแท็กซี่กลับคอนโดแต่ก็ถูกมือใหญ่คว้าข้อมือเอาไว้แน่น


" ปล่อย!! ฉันเจ็บนะ!! "

ฉันโวยวายเสียงดังก่อนจะสะบัดมือออกแต่ก็ไม่หลุดจากมือใหญ่สักที


" จะไปส่ง "


" ไม่ต้อง!! "

ฉันตะโกนใส่


" พูดดีๆเพราะๆเป็นมั้ย "

เสียงทุ้มเอ่ยด้วยน้ำเสียงปกติหากแต่แววตาดุดันจนฉันต้องชะงัก แรงบีบที่ข้อมือเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนฉันต้องเบ้ปากหากแต่เจ้าของมือใหญ่ยังคงทำหน้านิ่ง


" เจ็บ อึก "

ฉันพูดเสียงสั่นเมื่อความรู้สึกเหมือนข้อมือกำลังจะแตก และปวดร้าวไล่ไปตามลำแขน


" อย่าร้อง ไม่ชอบ "

มือใหญ่คลายมือออกก่อนจะขยับมาปาดน้ำตาที่แก้มออกอย่างอ่อนโยน


" ฉันเจ็บ "

ฉันพูดก่อนจะลูบแขนตัวเองที่ปวดหนึบไปมา


" ที่หลังก็พูดดีๆสิ จะขึ้นเสียงทำไม เป็นผู้หญิงทำตัวให้เป็นผู้หญิงซะบ้างเข้าใจมั้ย "

เสียงทุ้มนุ่มหูพูดใกล้ๆใบหน้าจนฉันสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่เป่ารดใบหน้าของฉันอยู่


" ถาม...ว่าเข้าใจมั้ย "

เสียงนุ่มละมุนยังคงดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับมือใหญ่ที่เชยคางฉันขึ้นให้สบตากับเขา และเราก็มองหน้ากันเงียบๆอยู่แบบนั้น


" ว่าไง เข้าใจมั้ย "

ยังคงถามต่อ


" อื้อ "

ฉันตอบพลางสบตากับเขาก่อนจะ...


ปั่ก!!

" โอ๊ย!! ยัยตัวแสบ!! "

เรี่ยวแรงทั้งหมดที่ฉันเก็บไว้ถูกส่งต่อไปยังหัวเข่าก่อนจะพุ่งตรงไปยังหว่างขาของคนที่ยืนตรงหน้า


" ตายๆไปซะ ไอ้หมอโรคจิต!! "

ฉันตะโกนกลับหลังไปมองคนที่นอนงอตัวกับพื้นก่อนจะวิ่งเต็มเหนี่ยวราวกับเป็นตัวแทนไปแข่งขันโอลิมปิก

.

.

.

" แฮ่กๆๆ ทำไมเหนื่อยแบบนี้เนี่ย โอ๊ยไม่ไหวแล้ว "

ฉันพูดกับตัวเองก่อนจะนั่งลงตรงป้ายรถเมล์มองถนนตอนตีสองกว่าๆที่เตียนโล่งไร้รถวิ่งผ่าน


" ให้มันได้อย่างงี้สิอีฟาเอ๊ย รองเท้าก็ไม่เอามา "

ฉันบ่นกับตัวเองเมื่อก้มลงมองที่เท้าก็พบว่าฉันไม่ได้สวมรองเท้า แล้วที่เดินเข้าห้องน้ำกับวิ่งมาเมื่อกี้ก็...เฮ้อ


" แบบนี้แหละพวกขี้เมาชอบลืมรองเท้า "

เสียงทุ้มๆเอ่ยขึ้นพร้อมกับยื่นรองเท้าส้นสูงสีดำมาให้


" ขอบใจ "

ฉันรับรองเท้ามาสวมแต่ก็ไม่ได้หันไปมองเจ้าของเสียง


" เออนั่นไง กระเป๋าตังค์ก็ลืมอีก เวรล่ะสิ "

ฉันตบหน้าผากตัวเองไปทีนึงก่อนจะนั่งคอพับต่อ เมื่อไม่รู้ว่าจะทำยังไง โทรศัพท์ก็อยู่ในนั้น


" อะ "

กระเป๋าหนังสีดำยาวแบรด์นหรูยื่นมาอีกครั้ง กระเป๋าของฉันนิ


" พอดีเลย คิดว่าไปลืมไว้ไหน "

ฉันเอื้อมมือไปรับกระเป๋ามาไว้ก่อนจะตั้งสติและหันกลับไปก็พบว่าคนที่ยืนอยู่ข้างๆฉันเป็นนายธันวา หมอโรคจิต


" นาย!! "


" มานี่เลยยัยตัวแสบ "

ธันวากดเสียงต่ำก่อนจะกระชากฉันเข้าหาเขาแล้วแบกฉันไว้บนไหล่เขาก่อนจะเดินไปหารถยนต์สีดำที่จอดอยู่ไม่ไกลจากป้ายรถเมล์ที่ฉันนั่ง


" นี่ ปล่อยฉันนะไอ้บ้า ไอ้หมอโรคจิต!! ปล่อย!! "

ฉันร้องโวยวายก่อนจะทุบหลังคนที่แบกอยู่รัวๆ


" เงียบ!! "

ทันทีที่โยนฉันเข้าไปในรถแล้วล็อคประตู คนที่นั่งฝั่งคนขับก็หันมาขึ้นเสียงใส่ฉัน


" ไม่!! "

เอาสิให้มันรู้ไปว่าฉันสามารถนั่งกรี๊ดได้ทั้งวันโดยที่ไม่เจ็บคอ


" จะเงียบไม่เงียบ!! "

เราสองคนเถียงกันในรถอย่างไม่มีใครยอมใครโดยที่รถยังจอดอยู่ที่เดิม


" ฉัน - ไม่ - เงียบ กรี๊ดดดดด!! "

พูดจบฉันก็กรี๊ดลั่นรถอย่างสุดพลังราวกับว่ากินนกหวีดแทนข้าวมาตั้งแต่เกิด


" ฉันบอกให้เงียบ!! "


" มะ อื้อ อ่อย อั๊น อ๊ะ "

สิ้นเสียงดุๆใบหน้าแดงก่ำของอีหมอธันวา ก็กระชากฉันไปบดขยี้ริมฝีปากจนรู้สึกระบมไปหมด


" แฮ่กๆ "

หลังจากที่ถอนริมฝีปากร้อนๆออกฉันก็ได้แต่สูดหายใจเข้าปอดลึกๆแล้วจ้องหน้าไอ้หมอบ้าที่ตอนนี้ส่งสายตาดุๆมาให้ฉัน


" เสียงดีแบบนี้ เก็บเสียงน้องไว้ร้องที่ห้องพี่ดีกว่านะ "

รอยยิ้มมุมปากกับแววตาดุดันทำใหฉันอดขนลุกไม่ได้ เขาน่ากลัว...


" ไม่!! / ถ้าไม่งั้นฉันจะทำมากกว่าจูบเธอแน่ ตรงนี้เลย "


" .......... "





รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว