“ถ้าอย่างนั้น ก็ดูนี่”ชีคริยาชยื่นแฟ้มภาพถ่าย ซึ่งมีรูปของเหล่าหญิงงามไปให้ลูกชาย
“ ..”ฟาอิดรับไป แล้วเปิดดู
เขาเปิดผ่านๆ ดูไปเรื่อยๆ ราวกับไม่สนใจ
ไม่มีใครสามารถดึงดูดเขาได้สักคน
จนกระทั่งเปิดดูผ่านๆ ไปได้ราวครึ่งแฟ้ม ก็ต้องชะงัก และหยุดนิ่งมองอยู่ที่รูปผู้หญิงคนหนึ่ง
ในหน้านั้นของแฟ้ม มีรูปของผู้หญิงที่เขากำลังมองสามใบ ในมุมต่างๆ กัน
แต่ทุกมุมของผู้หญิงคนนี้ กลับดูดี และสะกดใจเขาให้หยุดอยู่เพียงแค่เธอ
ไม่ว่าใบหน้า แววตา จมูก ริมฝีปาก ทุกอย่างประกอบกันอย่างลงตัว ยิ่งรอยยิ้ม ..ยิ่งทำให้รู้สึกอบอุ่น
เหมือนเธอจะใจดี มีเมตตา
รอยยิ้มของเธอสดใส ทำให้โลกนี้น่าอยู่
อยู่ๆ ด้านมืดของหัวใจ ก็เหมือนมีไฟได้จุดให้สว่างขึ้น
เธอเหมือนทางไปสู่ความสุข
แค่ได้เห็นหน้า อารมณ์ขุ่นมัวต่างๆ ก็เบาบาง
มีความงามแบบนี้ด้วยเหรอ
ความงามที่สะกดได้ทุกสิ่งอย่าง
โดยเฉพาะอารมณ์และความเกรี้ยวกราดของเขา
ทำไมมันยุติลง แค่เพียงได้เห็นใบหน้าเธอ
ไม่เคยเจอใครที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนต้องมนต์สะกดแบบนี้มาก่อน
-------
“ตำหนักนั้น หม่อมฉันมีความทรงจำมากมาย”ฟาอิดแสร้งพูดให้ผู้เป็นมารดาเข้าใจผิด คิดว่าเขายังคงรักใคร่ในตัวอดีตพระชายา
“ลูกจะยังรัก ยังคิดถึงเมียเก่าของลูกที่คบชู้สู่ชายคนนั้นไปอีกนานแค่ไหน ทำไมไม่ออกมาจากเงาของแม่นั่นเสียที”ชีคคาอามาลีนาโมโห เมื่อลูกชายงี่เง่า
มีผู้หญิงที่สวยและนิสัยน่ารักอย่างปริมอยู่ใกล้ๆ ยังไม่เห็นค่า แต่กลับถวิลหาผู้หญิงที่ทิ้งเขาไป
“ทำไมเราจะต้องพูดถึงเรื่องนี้ด้วย ท่านพ่อท่านแม่ให้กระหม่อมแต่งงานใหม่ ..ก็แต่งให้แล้วไง”ฟาอิดพูดโต้เถียงกับมารดา โดยหารู้ไม่ว่า ปริมได้เข้ามายินเข้าเต็มๆ
เธอได้แต่ยืนชะงักงัน แล้วนิ่งฟัง จึงได้รับรู้ถึงความในใจของเขา
“แม่ไม่อยากให้ลูกกับปริมต้องแยกกันอยู่คนละตำหนักแบบนี้”
“ท่านแม่จะบังคับลูกทุกอย่างเลยหรือไร จะไม่ให้ลูกมีพื้นที่ว่างให้ตัวเองบ้างเหรอ”
“แล้วถ้ายังแยกกันอยู่อย่างนี้ เมื่อไหร่จะมีทายาทเสียที”ชีคคาอามาลีนาร้อนใจ “อาหรับเราไม่เคยมีผู้หญิงขึ้นครองบัลลังก์ มีเพียงผู้ชายเท่านั้นที่มีสิทธิ์ แล้วท่านพ่อของลูก ก็มีลูกเป็นโอรสแค่คนเดียว ส่วนลูกเอง ก็ยังไม่มีลูกชายเลยสักคน”
“หม่อมฉันก็ไปหาปริม ไปทำหน้าที่ของตัวเองแล้ว แต่เธอก็ยังไม่ท้อง”ฟาอิดโต้เถียง
“ลูกไปคืนสองคืนแล้วก็เว้นไปสามสี่คืน ..แล้วจะท้องได้ยังไง”ชีคคาอามาลีนาตัดสินใจ “ไม่รู้ล่ะ ยังไงๆ ลูกก็ต้องรับปริมเข้าตำหนัก ห้ามแยกกันอยู่คนละตำหนักเหมือนทุกวันนี้อีก”
“ไม่พระเจ้าค่ะ”เขาเสียงแข็ง “หม่อมฉันไม่อยากใกล้เธอ ไม่อยากเผลอใจให้ ..ไม่อยากรักผู้หญิงคนไหนอีก”
ทางด้านปริมที่ได้ยินก็น้ำตาตก เมื่อได้รู้ความในใจของพระสวามี
การที่เขาไม่ลืมชายาเก่า ทำให้เธอรู้สึกน้อยใจ
ตำหนักนั้นคงสำคัญต่อเขามาก จึงไม่ยอมให้เธอย่างกรายเข้าไป
แต่งงานกันมาจะสองเดือน แต่เธอก็ยังไม่เคยได้เข้าไปในตำหนักนั้น
ถ้าได้เข้าไปเพราะคำสั่งของชีคคาอามาลีนา แต่ไม่ใช่จากความเต็มใจของชีคฟาอิด ..แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร
ต่อให้อยู่ตำหนักเดียวกัน แต่ความสัมพันธ์ของเธอกับเขา ก็คงได้แค่นี้
เขาไม่มีที่ว่างในใจให้เธอ
“ ..”ปริมหันหลัง แล้วเดินกลับออกไป
“พระชายา”เสียงของอาฟีดะห์ทำให้ฟาอิดและชีคคาอามาลีนาชะงัก แล้วหันไปมอง
“ปริมน่าจะได้ยินที่เราคุยกัน”ชีคคากล่าว
“ ..”ฟาอิดไม่คิดว่าจะเป็นเช่นนี้
เขาไม่ต้องการให้เธอได้ยินถ้อยคำเหล่านั้น เพราะมันไม่ใช่ความจริง
ปริมไม่อาจเข้าใจ ในสิ่งที่เขากำลังทำลงไป