บทนำ
สิ่งมีชีวิตทุกสิ่งบนโลกล้วนมีกรรมเป็นของตัวเอง ไม่เว้นแม้แต่เทพเซียนบนสวรรค์ แตกต่างกันเพียงกันหนักเบา ทุกคนล้วนต้องพบเจอกับความสุข ความทุกข์ปะปนกันไป ตามแต่โชคชะตา
ร่างโปร่งบางยืนมองงานศพของตัวเองที่ตั้งอยู่ในศาลา ภายในวัดอันห่างไกลแห่งหนึ่งของภาคอีสาน
เธอ...ไม่ได้ตั้งใจจะมาตายที่นี่
แต่ก็อย่างว่า มีใครเลือกที่เกิดที่ตายได้บ้าง?
เดิมทีลลิลเป็นเด็กกำพร้า เติบโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ จนอายุได้สิบเอ็ดขวบ สามีภรรยาคู่หนึ่งได้ทำเรื่องรับเธอไปอุปการะและรับเป็นบุตรบุญธรรมในเวลาต่อมา ลลิลได้รับการศึกษาอย่างดี กระทั่งเธอสามารถจบปริญญาโทด้วยวัยเพียงยี่สิบเอ็ดปีเท่านั้น
ชีวิตหลังจากเรียนจบของเธอ จึงตั้งหน้าตั้งตาทำงานและทดแทนบุญคุณของพ่อแม่บุญธรรม แต่ไม่คิดเลยว่า การเดินทางมาภาคอีสานครั้งแรกชีวิต จะทำให้เธอต้องมาจบชีวิตที่นี่ในวัยเพียงยี่สิบห้าปี
“อยู่นี่เอง ข้าหาท่านตั้งนาน”
เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง คล้ายว่ามีคนกำลังมีคนพูดกับเธอ แต่ว่าจะใช่เหรอ? ในเมื่อตอนนี้เธอกลายเป็นผีที่กำลังยืนดูงานศพตัวเองอยู่
“ข้าคุยกับท่านนั่นแหละ”
สิ้นเสียงนั้น ร่างของชายสูงวัยคนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าของลลิล
ชายร่างท้วม สวมเสื้อผ้าสีหม่น ลักษณะคล้ายกับในหนังจีนกำลังภายในที่เธอดู หนวดเครายาวสีขาวแกมดำ ในมือถือสมุดมาด้วยเล่มหนึ่ง
“คุยกันฉัน?” ลลิลยกนิ้วชี้หน้าตัวเอง “ฉันไม่รู้จักคุณสักหน่อย”
ทันใดนั้นชายร่างท้วมก็ยกมือขึ้นปัดอากาศไปมาอยู่สองสามครั้งต่อหน้าเธอ
ลลิลงุงงงอยู่ชั่วขณะ ก่อนร่างกายของเธอจะเกิดอาการเหน็บชา แขนขาไม่อาจขยับเขยื้อนได้ อีกทั้งดวงตาก็พร่าเบลอคล้ายคนง่วงงุน....
รู้สึกตัวอีกทีหญิงสาวก็เหมือนยืนอยู่กลางหน้าผาสูงชัน มองลงไปเบื้องล่างเป็นแม่น้ำสายหนึ่ง ณ จุดที่ยืนอยู่สูงเท่าใดก็สุดจะรู้....
รู้แค่ว่ามันต้องสูงมากแน่ๆ เพราะรอบๆ ตัวเธอนั้นมีแต่ก้อนเมฆขาวๆ ลอยไปมา
แต่ให้ตายเถอะ…เธอกลัวความสูง!
ยังไม่ทันจะได้ทำอะไร ชายร่างท้วมคนเดิมก็ปรากฏกายขึ้นต่อหน้าเธออีกครั้ง พร้อมกับกลุ่มก้อนเมฆ ที่กำลังฉายภาพบางอย่าง เป็นเหมือนโทรทัศน์ ซึ่งมันก็ไม่ได้สร้างความแปลกใจให้เธอเท่าไหร่ ถ้าไม่ใช่ภาพคนที่เคลื่อนไหวอยู่ในนั้นเป็นเธอ!
แล้วเหมือนความจำบางอย่างก็ถูกปลุกขึ้นจากส่วนลึกที่สุดในจิตใจ ทันใดนั้นเธอก็พลันเข้าใจเรื่องราวทุกอย่าง!
“ท่านส่งข้าไปเกิดผิดที่เช่นนั้นรึ ท่านเทพชะตา?” เสียงหวานเอ่ยขึ้นห้วนๆ ใบหน้างดงามบึ้งตึงไร้รอยยิ้ม
“ขออภัยท่านเทพ ตอนนั้นข้ากำลังจะส่งท่านไปเกิด ทว่าข้าเกิดตกใจเสียงฟ้าคำราม อันเกิดจากอิทธิฤทธิ์ของท่าเทพนภา เป็นเหตุให้จุดหมายปลายทางการจุติยังโลกมนุษย์ของท่านคลาดเคลื่อน”
“ข้ออ้างของท่านฟังดูน่าขัน ประหนึ่งไม่เคยได้ยินเสียงฟ้าร้องมาก่อน ทั้งที่อยู่มาหลายหมื่นปี”
“โธ่! ท่านหมิงซิน อย่าได้โกรธข้าผู้ต่ำต้อยเลย” เทพชะตาเอ่ยอย่างเว้าวอน
“ข้าไม่ได้โกรธ ถึงอย่างไรข้าก็ไปเกิดยังโลกมนุษย์เพื่อชดใช้ความผิดมาแล้ว เท่ากับว่าจบสิ้นกันแล้ว ไม่มีอันใดให้ต้องขุ่นเคืองกันอีก”
พูดจบ ร่างบางก็หมุนกายไปทางขวาหนึ่งรอบ อาภรณ์ที่สวมใส่จึงได้เปลี่ยนจากเสื้อยืนกางเกงยีนเป็นชุดผ้าสีฟ้า ไล่ระดับจากสีอ่อนด้านบน ไปเข้มสุดที่ชายกระโปรงด้านล่าง
“ประเดี๋ยวก่อน!” เทพสาวชะงัก รู้สึกรำคาญเทพชะตาขึ้นมานิดๆ
“มีอันใดอีก?”
“เอ่อ...” เทพชะตาอึกอัก ด้วยไม่กล้าพอที่จะเล่าเรื่องราวต่อจากนี้ไปให้สตรีเทพผู้ศักดิ์ ทว่าจะไม่เล่าก็ไม่ได้ ในเมื่อเรื่องนี้เกี่ยวพันกับนางโดยตรง
“เรื่องราวก็เป็นเช่นนั้น หากท่านเทพไม่ลงยังโลกมนุษย์อีกครั้ง เกรงว่าข้าคงไม่พ้นต้องโดดลงบ่อผลาญเซียนเป็นแน่แท้”
“สมควรแล้ว ท่าสมควรโดนแล้วท่านเทพชะตา”
“โธ่! ท่านเทพหมิงซิน ได้โปรดช่วยเทพเซียนตัวน้อยๆ อย่างข้าที่เถิด”
“เฮอะ!”
แม้จะรู้สึกโกรธเคืองเทพชะตาผู้นี้ไม่น้อย ทว่าด้วยจิตใจของเทพชั้นสูง นางก็มิอาจทนเห็นจิตวิญญาณดวงหนึ่งดับสูญไปได้ โดยที่ตนมีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้องด้วย
“ก็ได้ ข้าจะถือว่าช่วยท่านเอาบุญกุศลสักครั้ง”
“ขอบคุณท่านเทพหมิงซิน บุญคุณนี้ข้าจะไม่มีวันลืม”
“แต่ข้ามีข้อแม้”
“ไม่ว่าข้อแม้ใด หากข้าช่วยได้ ข้ายินดีช่วยท่านทุกอย่าง ไม่เพียงแต่ในโลกมนุษย์ แต่รวมถึงบนสรวงสวรรค์ด้วย ชีวิตนี้ข้าเป็นหนี้ท่านแล้ว”
เทพชะตาเอ่ยอย่างใจกล้า ถึงขนาดยอมเป็นเบี้ยล่างของหญิงสาวตรงหน้าทุกภพ
“ข้อแม้แรกคือ ข้าจะต้องรู้เหตุการณ์ทุกอย่างล่วงหน้าคนอื่นเสมอ”
เทพชะตาพยักหน้ารับ การดลบันดาลให้มนุษย์คนหนึ่งมีความพิเศษเหนือผู้อื่นไม่ใช่ยาก อีกทั้งไม่ใช่เรื่องแปลก
“ข้อสอง ข้าจะตายและจบสิ้นการมีชีวิตในชาติภพนี้ได้ทุกเมื่อ ตามแต่ข้าต้องการ”
แม้จะฟังดูแล้วยากที่จะเป็นไปได้ แต่เทพชะตาก็พยักหน้ารับ ก่อนจะส่งดวงจิตของเทพดาราหมิงซินไปเกิดยังโลกมนุษย์ ตามหลังเทพเซียนคนอื่นๆ ไป
เพราะความรักความใคร่แท้ๆ จึงได้เกิดเรื่องราววุ่นวายนี้ขึ้น เห็นทีว่าคนต้นเรื่องอย่างเซียนบุปผา คงจะไม่ได้ผุดได้เกิดบนสรวงสวรรค์อีกหลายหมื่นปีทีเดียว
เฮ้อ!......ว่าแต่ข้าจะถูกลงโทษหรือไม่นะ?
เทพชะตาเอ่ยอย่างวิตก เพราะรู้ดีแก่ใจ แม้เทพดาราหมิงซินจะช่วยเหลือโดยการไปเกิดอีกครั้งยังโลกมนุษย์ ทว่าตนนั้นก็ยังต้องถูกลงโทษตามกฎสวรรค์อยู่
โทษตายเว้น โทษเป็นยังอยู่!