จันทร์เร้นเงา
ประพันธ์โดย ทิตภากร
ท่ามกลางสงครามและความลับที่ปกปิด จะปล่อยวางความเกลียดชังได้เช่นไร
หากหัวใจรุ่มร้อน มิอ่อนข้อ มิยอมจำนน!
********************
“อย่าหยามเยาะ หากเจ้าเป็นผู้สร้างความอัปยศให้ข้า!”
“ข้ามิได้หยามเหยียดเจ้า เพียงจะบอกว่าคนเราเกิดมาคราหนึ่ง ก็ต้องใช้ชีวิตให้คุ้มค่า วิถีบุรุษจับดาบร่ำสุราหาสตรีแนบกาย สัมผัสความอบอุ่นเหน็บหนาวใต้แสงจันทร์จวบจนรุ่งสาง เช่นนี้...จึงเรียกว่าชายชาตรีที่มิเสียชาติเกิด”
“ข้ามิใช่คนเสเพลเช่นเจ้า!”
“ดี! กล่าวได้ดี สมกับเป็นองค์ชายที่ชื่อเสียงลือเลื่องทั่วแคว้น แม้แต่เด็กน้อยยังท่องเพลงกลอนฉะฉาน ผ่านเยว่ซานพานพบสามพี่น้อง เยว่ฮวางามดั่งบุปผาหาใดเปรียบ เยว่หรูอี้นั้นไซร้ชายชาตินักรบ องอาจ โฉมหมดจดมิแพ้จันทร์พิสุทธิ์เยว่ผิงอัน...พิลาสพิไลล้ำในใต้หล้า” เฉิงอี้ชานจับปลายคางองค์ชายเยว่หรูอี้ พินิจดวงหน้าผุดผาด รู้สึกถูกชะตาบุรุษหน้าหวานที่มีสายเลือดราชวงศ์เยว่
หากมิใช่ศัตรูที่ต้องช่วงชิงดินแดน เขาคงตั้งโต๊ะร่ำสุรา ชวนสนทนาเรื่องการศึก นับถือความใจกล้าบ้าบิ่น เฉกเช่นสหายร่วมสมรภูมิรบ
“หรูอี้ เจ้ารูปงามนัก ผิวพรรณนวลนุ่มมือเช่นนี้ เยว่ผิงอัน...น้องสาวเจ้าจะงามล่มเมืองเพียงใด”
“ฮึ! คางคกอย่างเจ้าอย่าเพ้อฝัน ไม่มีวันได้กินเนื้อหงส์!” องค์ชายเยว่หรูอี้มิเพียงปรามาส แต่ยังถ่มน้ำลายรดหน้า
“เช่นนั้น...ข้าก็จะไม่กินเนื้อหงส์ แต่จะลิ้มชิมรสเนื้อห่านอย่างเจ้าแทน!” เฉิงอี้ชานแสยะยิ้ม ใช้หลังมือปาดน้ำลายที่เปรอะเปื้อนใบหน้า โทสจริตฉายชัดในดวงตากระด้าง
แต่ไรมา...มิเคยมีผู้ใดกล้าสบประมาทเขา ยามนี้โมโหโกรธา ก็โต้ตอบคนปรามาส ด้วยการเหวี่ยงร่างที่ถูกมัดมือมัดเท้าไปบนพรมผืนหนาแล้วกระโจนไปนั่งทับบั้นเอว พลางกระชากคอเสื้อด้านหลัง เปิดเปลือยแผ่นหลังขาวผ่องปรากฏต่อสายตา
“เจ้าคนถ่อย! เจ้าคิดจะทำสิ่งใด...ปล่อยข้า!” องค์ชายเยว่หรูอี้ตื่นตระหนก ก็เอี้ยวตัวมองอย่างไร้ทางป้องกัน
“ข้าอยู่กลางสมรภูมิรบมาหลายหนาว มิเคยได้เสพสุขกับผู้ใด ครานี้...จับเชลยศึกรูปงามอย่างเจ้าได้ ก็อยากลองขืนใจสักครา” เฉิงอี้ชานกล่าวราวกับเห็นเป็นเรื่องสำราญ
ทว่า...องค์ชายเยว่หรูอี้ฟังแล้วใจหาย เลือดในกายพลันเย็นเฉียบ ไม่แน่ใจ แม่ทัพปีศาจแห่งแคว้นลู่ผู้นี้เป็นพวกหลงหยางหรือไม่ ถึงกระนั้นก็ทำใจดีสู้เสือ
“เจ้าเสียสติไปแล้วหรือ ข้าเป็นบุรุษ มิใช่สตรี!”
“ข้าไม่ถือ จะบุรุษหรือสตรีก็มิต่างกัน ยามอยู่ในกายคับแน่นที่ดิ้นรนของเจ้า ข้าคงตื่นเร้าและสุขสมในความหฤหรรษ์!”
เสียงหัวเราะดังกระหึ่มในลำคอของเฉิงอี้ชาน ขณะวางมือบนแผ่นหลังขาวผ่อง ลูบไล้ช้าๆ เชิงข่มขวัญในที
**********************************
งานเขียนเรื่องนี้วางจำหน่ายในรูปแบบอีบุ๊คที่เว็บเมพเท่านั้น
สามารถโหลดอ่านได้แล้วโดยการเสิร์ชหาชื่อเรื่อง จันทร์เร้นเงา หรือเสิร์ชนามปากกา ทิตภากร ค่ะ