'ปัถยา' บัณฑิตใหม่ป้ายแดง ต้องการหนีจากความเจ้ากี้เจ้าการของผู้เป็นแม่ ที่ต้องการให้เธอลงเอยกับ 'พิรภพ' เพื่อนสมัยเรียนที่แสนจะเจ้าชู้ของเธอ จึงตัดสินใจไปทำงานในเมืองหลวงแทนการทำงานแถวบ้านตามที่ตั้งใจไว้ ที่นั่นเขาได้รู้จักกับ 'ชวกร' เพื่อนร่วมงานที่แสนจะเย็นชาและดูไร้หัวใจ เขาตั้งแง่และมีอคติกับเธอด้วยเรื่องที่เธอก็ไม่รู้ว่ามีต้นสายปลายเหตุมาจากอะไร และอคติที่ว่าก็นำพาไปสู่ปัญหาเรื่องงาน จนทำให้เธอเกือบโดนรีเจ็กต์ออกจากโครงการ แต่น่าแปลกแทนที่เขาจะยินดีกับเรื่องดังกล่าว แต่เขากลับเป็นคนยื่นมือเข้ามาช่วยให้เธอได้ทำงานที่นั่นต่อ ปัถยาไม่รู้เลยว่าจริงๆ แล้วเขาเป็นคนยังไงกันแน่ บางครั้งเขาก็ดูเป็นคนดีมีน้ำใจ แต่บางครั้งเขาก็ทำเหมือนโกรธเกลียดเธอมาแต่ชาติปางไหน ทั้งๆ ที่เขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ชอบขี้หน้าเธอ แต่ไม่รู้ทำไมใจเจ้ากรรมถึงได้เต้นเป็นจังหวะแปลกๆ ทุกครั้งที่ได้ใกล้ชิดกับเขา
-----------------------------------------------
.
ตัวอย่างบางฉากบางตอน
“อุ๊ย ขอโทษค่ะ” ปัถยากล่าวขอโทษขอโพย เพราะมัวแต่คิดโน่นคิดนี่จนไม่ได้มองทาง จึงชนเข้าอย่างจังกับชายคนหนึ่งที่เดินสวนออกมาจากฝั่งห้องน้ำชาย แต่เมื่อเห็นว่าเป็นใครก็เอ่ยทักทายเสียงใส
“อ้าวนายช่าง มากินข้าวร้านนี้เหมือนกันเหรอคะ”
สิ่งที่หญิงสาวได้กลับมามีเพียงความเงียบ ไม่มีคำทักทายใดๆ หลุดจากปากของอีกฝ่าย เขาทำเพียงปรายตามองคนตัวเล็กกว่าด้วยหางตาแล้วก็เดินหน้านิ่งกลับไปยังโต๊ะของตัวเอง ซึ่งสร้างความงุนงงให้กับคนถามเป็นอย่างมาก
ปัถยามองตามร่างสูงใหญ่ที่เดินจากไปด้วยความไม่เข้าใจ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจตอนไหน เขาถึงได้ทำเฉยเมยราวกับคนไม่รู้จักกันแบบนั้น แถมยังมองเธอราวกับโกรธแค้นกันมาแต่ชาติปางไหน
“เป็นอะไรของเขานะ พูดด้วยก็ไม่พูดด้วย แถมยังมาตีหน้ายักษ์ใส่อีกต่างหาก” คนกำลังงงพึมพำกับตัวเองพลางเกาหัวแกรกๆ อย่างไม่เข้าใจในการกระทำของอีกฝ่าย
********************************
“คุณมาที่นี่ได้ยังไง” เขาพยายามบังคับน้ำเสียงให้เป็นปกติที่สุด เพราะตอนนี้เขาต้องต่อสู้กับอารมณ์ภายในกายตนเองอย่างสุดความสามารถ
“มีคนงานโทร.ไปบอกรุ้งว่านายช่างไม่สบายมาก แต่ไม่ยอมไปหาหมอ เขาเลยให้รุ้งมาช่วยพูดกับนายช่างและให้พานายช่างไปหาหมอค่ะ”
เมื่อทราบเหตุผลของการมาปรากฏตัวของหญิงสาวเขาก็ประมวลผลได้ทันทีว่าคนที่โทร. ไปบอกเธอจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากวิภา คนที่ทำให้เขาต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้
“ผมไม่ได้เป็นอะไร คุณกลับไปเถอะ” เขาบอกพร้อมกับผลักประตูจะปิด หากเธออยู่นานกว่านี้เขาไม่มั่นใจว่าเธอจะปลอดภัยจากความต้องการที่กำลังจู่โจมเขาอย่างหนักในตอนนี้ไหม ยังไม่ทันที่ประตูจะปิดสนิท หญิงสาวก็ใช้มือยันมันไว้สุดแรงพร้อมกับแทรกตัวเข้าไปในห้องชายหนุ่ม
“ไม่เป็นที่ไหนกันคะ ดูสิหน้าแดงขนาดนี้ ตัวก็รุมๆ ด้วย” คนตัวเล็กว่าพลางเขย่งปลายเท้าขึ้น เอื้อมมือไปแตะหน้าผากและแก้มของเขาเพื่อดูว่าเขายังมีไข้อยู่ไหม
“คุณรู้ตัวรึเปล่าว่าคุณกำลังทำให้ผมทนไม่ไหว” ตัวเขาสั่นเทา ดวงตาเป็นประกายจ้องมองคนตรงหน้าด้วยแรงปรารถนาที่อัดแน่นในกาย
“ตกลงนายช่างเป็นอะไรกันแน่คะ บอกรุ้งมาสิคะ” หญิงสาวยังงงกับพฤติกรรมของเขา ไม่เข้าใจที่เขาพูด
“ถ้าไม่อยากเสียใจภายหลังก็เอามือคุณออกไปจากตัวผม” เขาบอกตะกุกตะกักอย่างพยายามสกัดกั้นอารมณ์ที่กำลังปะทุขึ้นอย่างรุนแรง
“ยิ่งนายช่างพูดรุ้งยิ่งงง” ปัถยาไม่ได้ทำตามที่ชายหนุ่มบอก มิหนำซ้ำยังขยับเข้าไปใกล้พร้อมกับวางมือที่หน้าผากและตามเนื้อตัวชายหนุ่มอีกครั้งอย่างห่วงใย
“ผมทนไม่ไหวแล้วรุ้ง คุณช่วยผมหน่อยได้ไหม” เขาก้มลงกระซิบชิดริมฝีปากมองเธอด้วยสายตาเว้าวอน พร้อมกับช้อนอุ้มคนตัวเล็กขึ้นมาอยู่ในวงแขนก่อนจะก้าวยาวๆ ไปที่เตียงนอนอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็วางร่างเล็กลงบนเตียงอย่างนุ่มนวล
“ช่วย ช่วยอะไร แล้วช่วยยังไงเหรอคะ” คนถูกขอให้ช่วยเอ่ยถามเขาเสียงสั่น ดวงตากลมโตฉายแววตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด ทั้งยังรู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งตัว ในใจก็เต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะ
ชวกรก้มลงกระซิบเสียงแหบพร่าที่ข้างหู ทำเอาคนฟังขนลุกซู่ไปทั้งตัวเมื่อเข้าใจความหมายของเขา พร้อมกับเบิกตาโพลง ทำอะไรไม่ถูก
*****************************
นิยายเรื่องนี้ผู้เขียนเขียนจบเรียบร้อยแล้ว และจะลงให้อ่านเป็นตัวอย่างประมาณ 60%
ส่วนเนื้อหาส่วนที่เหลือสามารถติดตามต่อได้ในฉบับอีบุ๊กค่ะ