“เลือกเอา ระหว่างให้ข้ารับผิดชอบด้วยการแต่งเจ้าเข้าไปเป็นอนุภรรยา หรือเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับตลอดไป แล้วรับเงินไปจากข้าหนึ่งแสนตำลึงทอง ถ้าเลือกข้อนี้มีข้อแม้อยู่อย่าง อย่าได้กลับมายุ่งวุ่นวายกับข้าอีก และอย่าได้คิดนำเรื่องสามานย์ไปแพร่งพรายให้ผู้ใดทราบ มิฉะนั้นข้าจะทำให้เจ้าอยู่ไม่สู้ตาย” เขากล่าวเสียงเหี้ยมพลางใช้นิ้วมือปาดคอของตนเอง เป็นการข่มขู่นาง
นางเห็นแล้วอดที่จะผวามิได้ แต่ก็ยังแข็งใจตอบโต้เขากลับไปเสียงสั่นเครือ
“ขะ…ข้าผิดเอง มะ ไม่ขอเลือกทางใดทั้งนั้น ตะ แต่ ข้าสัญญาว่าจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ และสัญญาว่าจะไม่ตามไปตอแยใดๆท่านอีกเจ้าค่ะ”
“เฮอะ ดีแต่ปาก สำนึกได้ตอนนี้ไม่คิดว่ามันช้าไปหรอกหรือ 3ปีมานี้มิใช่ใครตักเตือนแล้วไม่ฟัง ชอบทำงามหน้าให้ตระกูลเสียหาย”
“จริงๆนะเจ้าคะ ข้าสำนึกได้แล้วจริงๆ ข้าขอโทษ ข้าผิดไปแล้วเจ้าค่ะ”
“งั้นก็ไสหัวไป ข้าจะรอดูว่าเจ้าจะทำได้อย่างที่พูดหรือไม่”
หลังจากนั้นนางจึงรีบสวมใส่เสื้อผ้าอย่างลวกๆ อดทนต่อความเจ็บก้าวออกไปจากห้อง เจอเข้ากับสาวใช้คนสนิทที่ตกอยู่ในสภาพไม่ต่างกัน ทำให้นางรู้สึกว่าตนเองนั้นช่างต่ำช้า สร้างเรื่องเสื่อมเสียไม่พอยังทำให้ผู้อื่นพลอยรับเคราะห์ตามไปด้วย