“จะไปไหน!”
เสียงแข็งที่เอ่ยถามทำให้เด็กสาวสะดุ้งสุดตัว เธอเห็นสิงห์ยืนหน้าบึ้งอยู่ที่ประตูบ้าน
“จะกลับไปทำงานค่ะ”
เธอตอบเขาเสียงเบา ก้มหน้าไม่อยากมองคนใจร้าย รีบเดินกะเผลกๆ ไปที่ประตู
“ขยันจริงนะ”
เขาแดกดัน เดินเข้าหาก่อนจะอุ้มเธอขึ้น สารภีร้องเบาๆ ก่อนที่ร่างจะถูกพาไปที่เตียงนอนกว้าง
“พ่อกับแม่เป็นหนี้เสี่ยใหญ่อยู่ค่ะ กล้วยต้องไปทำงานใช้หนี้”
เธอบอกเขาตามตรง เขาจะได้เลิกเอาแต่ใจกักเธอเอาไว้สักที เพราะเธอก็ไม่เห็นเหตุผลว่าเขาจะกักเธอเอาไว้ทำไมอีก
“ถ้ากล้าเดินออกจากห้องนี้ไปฉันจับเธอตีก้นแน่”
“ลุงสิงห์เอาแต่ใจ เคยเห็นใจคนอื่นบ้างไหม”
เธอเหวใส่ มองเขาแล้วน้ำตานองหน้า
“เด็กซื่อบื้อ”
“ซื่อบื้อก็เรื่องของกล้วย”
“คิดว่าจะทำอะไร จะเดินกลับไปให้มันพาไปขายตัวหรือไง” คนถามน้ำเสียงดุดันขึงโกรธ
“เรื่องของกล้วย”
“นี่เธอ!!!”
คนปากดีโดนกดไปบนเตียงนอนกว้าง ใบหน้าของเขาบึ้งตึงบ่งบอกว่ากำลังโมโห
“ชอบเหรอไงถึงอยากขายตัว”
“มันไม่เกี่ยวกับลุงสิงห์”
“เหอะ! แบบนี้เรียกหน้าโง่”
“กล้วยหน้าโง่ก็อย่ามายุ่งกับเด็กโง่ๆ แบบกล้วยเลย”
เธอปล่อยโฮออกมา เคยถามเขาแล้วว่าจะรับเธอเป็นเมียได้ไหม เขาปฏิเสธอย่างเลือดเย็น ชีวิตเธอถึงได้เป็นแบบนี้ไง อยากเรียนต่อก็ไม่ได้เรียน แค่อยากเรียนเย็บผ้าเปิดร้านทำมาหากินเล็กๆ น้อยๆ ยังไม่มีปัญญา
ก็จริงนั่นแหละ คนอย่างเธอจะไปทำอะไรได้นอกจากขายตัว!
สารภีคิดอย่างทดท้อใจ เธอดิ้นเขาก็กดแนบเอาไว้กับเตียงนอนกว้างไม่ยอมปล่อย
“ถ้าชอบขายตัวก็ขายให้ฉันแล้วกัน”
“กล้วยจะขายให้ทุกคนยกเว้นลุงสิงห์”
“ก็ลองดูกันไป แม่เด็กปากดี”